อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 13 วันที่ 24 มี.ค.61

อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 13 วันที่ 24 มี.ค.61

เสียงสวดมนต์กฤษณะกาลีดังกังวานทั่วเรือน ร่างการะเกดนอนนิ่ง ผินกับแย้มร้องไห้อยู่ข้างๆ วิญญาณเกศสุรางค์ลุกออกจากร่าง เห็นตัวเองนอนนิ่งก็ตกใจ เรียกผินกับแย้มก็ไม่ได้ยิน...ไม่ทันจะกล่าวอะไรอีก เหมือนมีใครดึงไปอย่างแรง

ปริกเดินเข้ามาพอดี รู้สึกเหมือนมีบางอย่างปะทะร่างจนเซล้มนั่งแปะ แต่ด้วยความห่วงการะเกดจึงไม่ติดใจ ถามผินกับแย้มถึงอาการแม่นาย ทั้งสองส่ายหน้าน้ำตานอง ปริกพร่ำบอก

“แม่หญิง...แม่หญิงอย่าเพิ่งตายนะเจ้าคะ ออกขุนท่านสวดมนต์ช่วยแม่หญิงแล้ว...”



ในขณะที่วิญญาณเกศสุรางค์ลอยคว้างแหวกม่านอากาศที่เต็มไปด้วยหมอกควัน จนมาพบอาจารย์ชีปะขาว ท่านมองอย่างเมตตา หญิงสาวรีบขอร้องให้ช่วยพากลับบ้าน

“บ้านไหนเล่า นังหนู”

“บ้านไหน หรือเจ้าคะ...จริงสิข้าไม่มีบ้านจะกลับ”

“เอ็งดูนี่ก่อน เกศสุรางค์” หญิงสาวตกใจที่ท่านรู้ชื่อ อาจารย์หัวเราะเบาๆ “มันยากนักรึ...เอาล่ะ ตั้งจิตให้ดี”

ทันใดเกศสุรางค์ก็เห็นภาพเหตุการณ์ตอนรถชน มาจนเห็นเรืองฤทธิ์บาดเจ็บนั่งรถเข็นมากราบสิปางกับยายนวลที่บ้าน น้ำตาคลอเบ้าด้วยความเสียใจอย่างที่สุด ...วิญญาณเกศสุรางค์เห็นแล้วพอจะเดาเรื่องทั้งหมดได้ จนกระทั่งเห็นเรืองฤทธิ์นั่งมองรูปถ่ายตน น้ำตาไหลเป็นทาง

วิญญาณเกศสุรางค์ลอยมาคุกเข่าตรงหน้ายายนวลที่กำลังปลอบสิปางทั้งที่ตัวเองก็น้ำตาไหลพรากว่าเขาทำบุญกับเรามาแค่นี้ หักอกหักใจเสียบ้าง สิปางร่ำไห้

“คุณแม่...เขาอุตส่าห์รอดตายทั้งๆที่น้องสาวฝาแฝดไม่รอด แล้วเขาก็อยู่มาจนโตจนผูกพันกับเรา ทำไมต้องมาเอาเขาไปล่ะคะ เอาไปเลยตั้งแต่เล็กจะได้ เสียใจครั้งเดียว”

เกศสุรางค์ตกใจเพิ่งรู้ว่าตัวเองมีน้องสาวฝาแฝด เสียงสิปางรำพันว่าลูกอยู่ให้ชื่นใจแค่ยี่สิบกว่าปี ไม่นานเลย ยายนวลให้คิดเสียใหม่ว่า ตั้งยี่สิบกว่าปี สิปางสะอื้น

“สงสารเรืองฤทธิ์ คงจะบวชตลอดชีวิตค่ะคุณแม่”

เกศสุรางค์หันขวับไปทางห้องที่เรืองฤทธิ์นั่งอยู่ วิญญาณลอยมาต่อว่าทำไมต้องบวชตลอดชีวิตแล้วใครจะดูแลพ่อแม่ แต่เขาไม่ได้ยิน ทันใดต้องหยุดฟังสิ่งที่เขารำพัน

“ทำไมแกต้องตาย ฉันยังไม่ได้บอกแกเลยว่าฉันรักแก...ฉันกำลังจะบอกว่าฉันรักแกตลอดเวลา รักมานานตั้งแต่...” เกศสุรางค์เห็นร่างขุนศรีวิสารวาจาซ้อนบนร่างเรืองฤทธิ์ก็ตกใจ

“คุณพี่! ตั้งแต่สามร้อยกว่าปีมาแล้วหรือคะคุณพี่ เรืองฤทธิ์คือคุณพี่หรือคะ!...ข้าจะได้กลับไปหาคุณพี่หรือไม่” หญิงสาวน้ำตาไหลพรากเมื่อได้รับรู้สิ่งที่อาจารย์ชีปะขาวให้เห็น

เรืองฤทธิ์ไหว้ลายายนวลกับสิปาง ทั้งสองถามย้ำว่าจะบวชจริงหรือ เขาตอบอย่างมุ่งมั่นว่า เกศสุรางค์พ้นทุกข์ไปแล้ว...วิญญาณเกศสุรางค์เข้ามากราบลาแม่กับยายเช่นกัน สิปางกระซิบราวมองเห็นว่า ชาติหน้ากลับมาเป็นลูกแม่อีก ทำเอาวิญญาณหญิงสาวสั่นไหวน้ำตาพรั่งพรู

ในขณะที่ขุนศรีวิสารวาจาในชุดขาวสวดมนต์กฤษณะกาลีเสร็จ ก็มานั่งกุมมือการะเกดที่ข้างเตียง ก้มกระซิบ “กลับมาเถิดหนาแม่การะเกดของพี่ อย่านอนนิ่งอย่างนี้เลย ใจพี่ราญรอนนักหนา คืนกลับมาเถิดหนาออเจ้า อย่าไปอื่นไกลเลย”

ooooooo

ท่านขุนกลับมานั่งสวดมนต์กับออกญาโหราธิบดีอย่างมุ่งมั่นต่อ...วิญญาณเกศสุรางค์กลับมาที่เรือน เดินผ่านทุกคนที่ก้มหน้าเศร้าหมองไม่มีใครเห็น พลันมีมือมาดึงไว้ พอหันมามองเป็นวิญญาณการะเกด เกศสุรางค์หน้าเสียถามว่าเธอมาทวงร่างคืนใช่ไหม การะเกดตอบว่า

“ข้าหมดบุญแล้วหนา จักมาทวงร่างได้อย่างไร”

“แปลว่าอะไร แปลว่าตอนนี้ร่างของเจ้าก็ตายแล้วอย่างนั้นเหรอ”

“ถูก ข้าได้ตายลงไปแล้ว ตายไปตั้งแต่เมื่อสี่ปีที่แล้วที่เราได้พบกัน ขอบใจพี่เกศสุรางค์มากที่ช่วยทำบุญให้ข้ามาโดยตลอด ทั้งดูแลพี่ผินพี่แย้มให้ข้าด้วย”

“แล้วตอนนี้เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”

“จักว่าสบายก็มิถูกนัก แต่ก็มิลำบากเฉกเช่นแต่ก่อน ข้าทำบาปหนักฆ่าคนแม้จักไม่ตั้งใจ แต่ก็เป็นเหตุให้มีคนตาย”

“เจ้าเรียกข้าว่าพี่ เจ้าเป็นน้องสาวฝาแฝดของข้าจริงๆหรือ”

“ถูกแล้ว หลายภพหลายชาตินักที่เราสองเป็นพี่น้องกัน แม้แต่ในภพที่ข้าเป็นการะเกด...ภพนี้พี่ก็เป็นพี่ข้า หากแต่ตายก่อนตั้งแต่ยังแบเบาะ ภพของท่าน ข้ากลับเป็นฝ่ายที่ตายก่อนเพราะแรงกรรม จึงมิสามารถมีชีวิตอยู่เพื่อสร้างบุญได้”

“โอ้โฮ! แม่เจ้า อะไรมันจะซับซ้อนซ่อนเงื่อนขนาดนั้น แล้วเราไปทำกรรมอะไรกันมา ทำไมต้องมาเป็นฝาแฝดแล้วคนหนึ่งอายุสั้นสลับกันอย่างนี้ล่ะ”

“เรื่องนั้นพี่ท่านมิต้องรู้ รู้มากไปจักปวดหัวเปล่า เพราะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เคยผ่านมาหาได้ไม่” เกศสุรางค์ถามจะไปเกิดใหม่หรือ “ยังเจ้าค่ะ อีกนานนัก ข้ายังมีกรรมใหม่ที่ต้องชดใช้ต่อไป ข้าต้องไปแล้วหนาพี่เกศสุรางค์” การะเกดได้ยินเสียงคนมา

“เจ้าจะไปไหน ข้ายังอยากรู้อะไรอีกตั้งเยอะ หลังจากนี้ข้าต้องไปที่ไหน เกิดใหม่อย่างนั้นเหรอ แล้วคุณพี่ล่ะจะเป็นยังไง เรืองฤทธิ์เพื่อนของข้าคือคุณพี่จริงๆหรือ”

“พี่เกศสุรางค์เกิดใหม่ตั้งแต่สี่ปีที่แล้ว จักไปเกิดใหม่ที่ใดอีกเล่า ส่วนคุณพี่กับพี่ท่านนั้นเคียงคู่กันมาทุกภพทุกชาติเป็นบุพเพสันนิวาสต่อเนื่องวนเวียน แม้มีกรรมมาแทรกบ้าง แต่สุดท้ายก็คือคู่กัน ข้าไปแล้วนะเจ้าคะ รักษาตัวด้วย” การะเกดกระพุ่มมือไหว้ “พี่ทำให้แม่หญิงการะเกดกลายเป็นคนดีมีเมตตา มิฉะนั้นจักมีแต่คนสาปแช่งก่นด่าข้า เป็นแรงกรรมที่ทำให้ข้าตกนรกหมกไหม้ยิ่งไปกว่านี้ ข้าขอบใจพี่ยิ่งนัก”

“ข้าจะคอยชาติภพที่เราสองคนจะเกิดด้วยกันโตด้วยกัน ไม่มีใครตายจากกัน” เกศสุรางค์สวมกอดการะเกดแนบแน่น จนร่างการะเกดค่อยๆเลือนหาย แล้วหันมองบ่าวไพร่ที่นั่งเศร้า เห็นปริกร้องไห้ซับน้ำตาป้อยๆ คุณหญิงจำปาก็นั่งกุมขมับเศร้าหมอง

เสียงสวดมนต์กฤษณะกาลีดังแว่วมา เกศสุรางค์นึกได้รีบวิ่งไปที่หอนอนตัวเอง เข้าสวมร่างที่นอนนิ่ง พอลืมตาขึ้นมาสบตากับผินและแย้ม ทั้งสองตาโตดีใจร้องลั่นว่าแม่นายฟื้นแล้ว

แย้มวิ่งออกมาตามขุนศรีวิสารวาจา คนอื่นๆเห็นท่าทางแย้มก็รับรู้ได้ว่าการะเกดฟื้น แต่คุณหญิงจำปาถามขึ้นว่าเกิดเหตุอันใด ปริกตอบทันควันก่อนจะวิ่งไปที่หอนอนของการะเกด

“แม่หญิงฟื้นแล้วน่ะสิเจ้าคะ...ไม่เห็นต้องถามเลย”

คุณหญิงจำปาถามจริงหรือ แย้มตอบรับด้วยน้ำเสียงดีใจ...ท่านขุนวิ่งพรวดมาที่ห้อง มองการะเกดอย่างพิจารณา เกศสุรางค์เอ่ย

“คุณพี่ ทำไมดูโทรมจังเจ้าคะ”

ท่านขุนดีใจดึงเธอมากอดแนบอก “วาจานี้มิผิด เจ้ากลับมาแล้วแม่การะเกดของพี่ ถ้าเจ้ายังมิกลับมาในวันนี้ใจพี่จะขาดแน่ๆ”

ผินกับแย้มปลื้มปริ่มถอยออกจากห้องอย่างรู้งาน เกศสุรางค์บอกท่านขุนว่า

“ข้าต้องกลับสิเจ้าคะ...เพราะข้าหิวมาก ชนิดที่ว่ากินไก่ได้เป็นตัวๆเลยหนาเจ้าคะ”

ท่านขุนหัวเราะเสียงดัง ปริกจะเข้าไปหาการะเกด ผินกับแย้มช่วยกันดันไว้ คุณหญิงจำปาเดินตามมาถามทำไมเข้าไปไม่ได้ ผินท่าทางเอียงอายทำมือเอานิ้วชี้มาชิดกัน บอกออกขุนท่านกำลัง...

“อะไรของมึง” คุณหญิงจำปาไม่เข้าใจ แต่ปริกเข้าใจถอยออกไป “มึงพูดให้ชัดเจน...เป็นยังไร”

“กำลังกอดกันเจ้าค่ะ แล้วก็...หอมกัน นิดหน่อยเจ้าค่ะ” ผินบิดแขนไปพูดไปอย่างขวยเขิน

คุณหญิงจำปานิ่งอึ้งอึดใจก่อนจะเปลี่ยนเป็นขำ แล้วหันหลังเดินกลับ...

ooooooo

ขุนศรีวิสารวาจายังคงกอดการะเกดอย่างนุ่มนวล จูบเบาๆที่แก้ม พร่ำบอกว่าใจตนราญรอนเหมือนร่างกายไม่มีชีวิตจิตใจ อย่าจากตนไปไหนอีก

“ไม่ได้อยากไปเสียหน่อยเจ้าค่ะ แค่แตะสมุดข่อยเล่มนั้น จี๊ดขึ้นสมองเลยเจ้าค่ะ โลกมืดทันทีไม่รู้ตัว”

ท่านขุนฉุกคิดบางอย่าง ลุกพรวดออกไปอย่างรวดเร็ว...หยิบคัมภีร์กฤษณะกาลีจากหอสมุด หันกลับมาเจอออกญาผู้พ่อก็ลู่ตัวลงกล่าว

อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 13 วันที่ 24 มี.ค.61

ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทประพันธ์โดย รอมแพง
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทโทรทัศน์โดย ศัลยา
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส กำกับการแสดงโดย ภวัต พนังคศิริ
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ออกอากาศเร็ว ๆ นี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ