อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 14 วันที่ 28 มี.ค.61
“โอเคๆ ข้าจะไปเกลี้ยกล่อมให้แม่มารีกลับไปหาผัวเอง”“ดีแล้วเจ้าค่ะ บอกนางว่าคนเป็นขุนนางเขามีเมียคนเดียวที่ไหนล่ะ ออกญาขุนปานยังมีตั้ง 22 คน ขุนนางที่มีเมียคนเดียวเห็นทีจะเป็นออกพระของนังปริกนี่แหละเจ้าค่ะ” เกศสุรางค์ตื่นเต้นถามจริงหรือ “เจ้าค่ะ บอกนางฝรั่งนะเจ้าคะว่าเราเป็นเมียเอกหาต้องกลัวไม่”
หลังจากนั้นไม่กี่วัน เกศสุรางค์ก็พามารีกลับมาที่บ้านเจ้าพระยาวิไชยเยนทร์ที่ละโว้ เขาดีใจโผเข้ากอดมารีต่อหน้าเกศสุรางค์ มารียืนนิ่งให้กอดและบอกว่า
“แม่หญิงการะเกดบอกให้ข้ากลับมา แลนางมาเพราะเป็นห่วงข้า”
เจ้าพระยาวิไชยเยนทร์หันมาขอบใจ เกศสุรางค์รู้ว่าเขารักมารีมาก เขายอมรับว่าเสียใจมากเมื่อนางจากไป เกศสุรางค์จึงย้ำ ถ้ารักนางมากอย่าทำให้นางมีทุกข์อีก เขาก้มหัวรับแล้วเดินมาส่งนางที่หน้าบ้าน ทันใดเสียงนายพลเดส์ฟาร์จตะโกนเป็นภาษาฝรั่งเศสซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า
“เรื่องที่ท่านวางแผนกับเรา จงมาสรุปกันเถิด”
เกศสุรางค์ชะงักกึก เจ้าพระยาวิไชยเยนทร์รีบเข้าไปบอกนายพลเดส์ฟาร์จว่า “หญิงผู้นั้นรู้ภาษาเรา อย่าเพิ่งกล่าวอันใดไป”
เกศสุรางค์หันมาไหว้ลาแล้วเดินไป แต่พอมาถึงต้นไม้ใหญ่ที่ผินกับแย้มรออยู่ ก็บอกทั้งสองว่าให้รออยู่ตรงนี้ ตนจะเข้าไปสืบความ ว่าแล้วก็จับด้ายแปดฟั่นของอาจารย์ชีปะขาวที่ข้อมือหลับตาพึมพำคาถาจนร่างจางลง ผินกับแย้มตกใจ เกศสุรางค์วิ่งกลับเข้าไปในบ้านเพื่อแอบฟังสองคนคุยกัน
“เพลานี้ทหารที่หายดีจากการป่วยไข้ และทหารที่มีอยู่ก่อนรวมแล้วถึงแปดร้อยกว่านาย คงเพียงพอสำหรับการใหญ่ที่ท่านวางไว้”
“แปดร้อยกว่านายคงพอต่อกรกับพวกเจ้าฟ้าอภัยทศและพวกของออกพระเพทราชาได้ ตอนนี้พระเจ้ากรุงสยามเจ็บไข้ได้ป่วยแทบมิได้ออกว่าราชการ การที่ข้าคิดไว้คงได้กระทำเร็วๆนี้ หากมิใช่พวกมันก็เป็นข้าที่ต้องถูกทำลาย ท่านก็เห็นถึงความเกลียดชังที่ขุนนางสยามมีต่อข้า”
“ถ้าเช่นนั้นข้าจักทิ้งทหารไว้ที่นี่สักห้าสิบนาย เพื่อคุ้มครองท่าน และถ้ามีสิ่งใดเร่งด่วนก็จงสั่งทหารม้าส่งข่าวไปยังข้าเถิดหนา ท่านทำเพื่อพระเจ้าหลุยส์ของเรา เรื่องแค่นี้มิเป็นอันใด”
เกศสุรางค์พยายามจะเข้าไปฟังใกล้ๆ เจ้าพระยาวิไชยเยนทร์ได้กลิ่นน้ำอบน้ำหอมก็แปลกใจเหลียวมองหา หญิงสาวตกใจถอยหนี ชนของบางอย่างหล่น นายพลเดส์ฟาร์จชักปืนยิงใส่ทั้งที่ไม่เห็นตัว เกศสุรางค์กระตุกเล็กน้อยแล้ววิ่งหนีออกมาได้
ระหว่างนั้น ผินกับแย้มกลับมาบอกพระศรีวิสาร-สุนทรซึ่งรออยู่ที่เรือนพักละโว้ เขาตกใจรีบตามไปที่บ้านเจ้าพระยาวิไชยเยนทร์ มาถึงต้นไม้ใหญ่ เหมือนถูกมือหนึ่งดึงเข้าไปหลังต้นไม้พร้อมเสียงหอบถี่ๆ ร่างเกศสุรางค์ปรากฏขึ้น ถามเขามาได้อย่างไร พระศรีวิสารสุนทรเสียงกร้าว
“ทำกระไรลงไป รู้ตัวฤาไม่” พระศรีวิสารสุนทรชักกริชออกมาจ่อคอตัวเอง เกศสุรางค์ตกใจคิดว่าเขาจะทำร้าย รีบโอดโอยว่าผิดไปแล้ว แต่พอเห็นเขาจ่อคอตัวเองก็ละล่ำละลักถามจะทำอะไร สีหน้าเขาเจ็บปวดดวงตาแดงก่ำ ให้นางสัญญาว่าจะไม่ทำอย่างนี้อีก ว่าแล้วก็กดกริชลงที่คอตัวเองจนเลือดซึม เกศสุรางค์ตกใจร้องลั่น
“สัญญา! ข้าสัญญา ข้าไม่มีวันทำอีกเด็ดขาด ข้าจะไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงอีก วางกริชเถิดเจ้าค่ะ เลือดออกแล้วหนา”
“เจ้ารู้ฤาไม่ว่าแรกที่ได้ยินว่าออเจ้าแฝงกายตามทหารฝรั่งไป ข้าแทบขาดใจตายลงเดี๋ยวนั้น รู้ฤาไม่ว่าหากพลาดพลั้งย่อมถึงแก่ชีวิต”
เกศสุรางค์ดึงกริชจากมือเขาโยนทิ้งแล้วเอาผ้าที่ชายพกมาซับเลือดให้ พระศรีวิสารสุนทรกล่าวอย่างร้าวรานใจ
“ออเจ้ากล้าหาญชาญชัยยิ่งกว่าชาย กระทำในสิ่งที่แม่หญิงอื่นมิมีวันกระทำ ผู้ใดห้ามปรามก็มิเคยฟัง เสงี่ยมหงิมได้เพียงชั่วครู่ก็สร้างเรื่องราว ลืมแล้วฤาว่าในอยุธยานี้ออเจ้าเป็นคนที่มีเพียงชีวิตเดียว แลบัดนี้ชีวิตของออเจ้าก็พ่วงชีวิตของผู้อื่นไว้ หากออเจ้าเป็นกระไรไปข้าก็มิขออยู่เป็นผู้เป็นคน ให้ข้าตายก่อนเสียยังดีกว่า”
เกศสุรางคร้องไห้น้ำตาไหลพราก ขออภัยจะไม่ทำอีก พระศรีวิสารสุนทรดึงนางเข้ามากอดแนบอก หญิงสาวดูแผลที่คอเขาแล้วถามว่ายังเจ็บอยู่ไหม เขากระซิบตอบว่าไกลหัวใจ เธอสัมผัสบาดแผลของเขาด้วยริมฝีปากอย่างแผ่วเบา แค่นั้นพระศรีวิสารสุนทรก็สะท้านไปทั้งตัว พรมจูบขมับเรื่อยลงมาถึงแก้มขาวนวล เกศสุรางค์จูบที่ปลายคางก่อนจะใช้นิ้วแตะริมฝีปากเขาเบาๆ
“ออเจ้า...รู้จักวิธีจูบแบบฝรั่งเศส...”
หญิงสาวพยักหน้าแล้วหลับตารอการจุมพิต พระศรีวิสารสุนทรบรรจงจูบปากเธออย่างอ่อนโยนนุ่มนวล มือโอบกอดกระชับร่างด้วยความรัก เธอสะดุ้งสุดตัวเพราะมีรอยช้ำที่สะบักหลัง เขาเลื่อนสไบเห็นรอยช้ำคล้ายโดนกระสุนก็ตกใจ แต่เธอกลับบ่นพึมพำไปคนละเรื่อง
“เกือบมีฉากไคลแมกซ์กลางป่าแล้วไหมล่ะ ไม่รู้ว่าจะโล่งอกหรือเสียดายดี”
“ข้าถามยังทำหน้าทะเล้น ตอบข้ามาถูกยิงฤา รอยช้ำนี่”
“เจ้าค่ะ นายพลเดส์ฟาร์จแม่นชะมัด แรงลูกปืนทำเอาข้าเซไม่เป็นท่า ดีที่ข้ากัดปากไว้ไม่ร้อง ไม่งั้นพวกนั้นคงเห็นไปแล้ว แต่ก็แปลกที่ลูกปืนไม่ยักจักเข้าเนื้อข้า”
พระศรีวิสารสุนทรสำรวจว่าเธอบาดเจ็บที่ไหนอีก แล้วพบว่าด้ายแปดฟั่นที่ข้อมือหายไป จึงดุเสียงเข้ม
“เห็นหรือยังว่าทำอะไรลงไป ถ้าไม่ได้ด้ายของอาจารย์คงตายไปแล้ว วิชาอำพรางตนใช้เอาตัวรอด มิใช่เอาไปเสี่ยงอย่างนั้น หากออเจ้ามิออกมาก่อนที่ข้าจักมาถึงผลที่เกิดคงเลวร้ายกว่านี้เป็นแม่นมั่น เพราะข้าคงมิอยู่เฉยเพียงนอกกำแพง ต้องบุกไปตายกับเจ้าเป็นแน่”
“ข้าสัญญาจะไม่ทำอีก ไม่ยอมเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงอีกแล้วเจ้าค่ะ เชื่อข้านะเจ้าคะ”
พระศรีวิสารสุนทรยังไม่วางใจ เกศสุรางค์โอดโอยว่าเมื่อครู่ยังยิ้มอยู่เลย เขาเก็บกริชเข้าฝักแล้วเดินนำออกไปโดยไม่จับไม่จูงมือ เกศสุรางค์วิ่งตามมาทัน เอานิ้วสอดประสานนิ้วเขาจับมือกันเดินไป พระศรี-วิสารสุนทรใจอ่อนไม่คิดขัดขืน...
เกศสุรางค์กลับถึงเรือน ทำแผลเสร็จก็จดบันทึกเรื่องราวและไตร่ตรอง “เจ้าพระยาวิไชยเยนทร์นัดหมายให้นายพลเดส์ฟาร์จพาทหารมาละโว้ ประวัติศาสตร์ไม่ได้ระบุว่ามีการสู้รบ เพราะในที่สุดทหารเหล่านั้นก็ไม่ได้มา ดังนั้น...เราไม่ควรบอกว่าได้ยินอะไร ไม่บอกดีกว่า เพราะถ้าบอก การสู้รบที่ไม่เคยมีอาจเกิดขึ้นก็ได้”
ooooooo
หลวงเรืองณรงค์เดชากับจันทร์วาดคุยกันถึงงานแต่งของพระศรีวิสารสุนทรกับการะเกด จันทร์-วาดอยากคลอดลูกก่อนถึงวันงาน เพราะไม่อยากเดินท้องโตให้คนมอง หลวงเรืองณรงค์เดชาเย้าว่าที่มองเพราะเธองาม
ทันใดนั้นนางรู้สึกเจ็บท้องร้องโอดโอยจะคลอดในบัดดล...
หลายวันผ่านไป คุณหญิงจำปากังวลเรื่องที่การะเกดไม่ดูแลขัดผิวทั้งที่ใกล้งานแต่งเข้ามาทุกวัน
ปริกออกตัวแทนว่า เนื้อตัวของนางจะไปยุ่งทำไม ไม่ได้แต่งเอง คุณหญิงเอ็ดว่าใครเป็นนายเป็นบ่าวกันแน่ ปริกวางมือจากงานโต้ว่าตนเป็นบ่าว ถ้าเป็นนายไม่พูดแค่นี้ ว่าแล้วก็ลุกจะไปห้องการะเกด คุณหญิงจำปาพูดไล่หลังอย่างระอา
“เอากะมัน...นังนี่”
ปริกเถียงคุณหญิงจำปาฉอดๆ แต่ก็มารบเร้าการะเกดให้ไปขัดตัว เธอขอเวลาจดบันทึกให้เสร็จ เกรงจะลืม ปริกบอกว่าลืมก็ดีไม่ปวดหัว เกศสุรางค์ชะงัก...จริงอย่างที่ปริกว่า
“งานแต่งสำคัญกว่านะเจ้าคะ ออกญาท่านหาฤกษ์หายามไว้แล้ว ทำแชเชือนอย่างนี้ไม่เคารพท่านนะเจ้าคะ คุณหญิงกลุ้มใจจะตายอยู่แล้ว ทำกับผู้ใหญ่บาปนะเจ้าคะ...โอเคนะเจ้าคะ”
เกศสุรางค์หัวเราะขำ รับคำพร้อมทำมือโอเค...
เมื่อวันมงคลมาถึง เริ่มด้วยพิธีสู่ขอ พระยาโกษาธิบดีเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง ออกญาโหราธิบดีกับคุณหญิงจำปากล่าวสู่ขอและมอบสินสอดทองหมั้นให้นับ บ่าวไพร่ชะเง้อมอง ต่างปลาบปลื้มยินดี ข้าราชการใหญ่น้อยมาร่วมงาน มีนาฏศิลป์รำอวยพร
จันทร์วาดอยู่เป็นเพื่อนและช่วยแต่งตัวให้เกศสุรางค์ในห้อง พอถึงพิธีตักบาตร เกศสุรางค์นึกถึงยุคสมัยตน ชิงจับทัพพีเหนือมือพระศรีวิสารสุนทร พระสงฆ์เก้ารูปนั่งสวดมนต์ให้ศีลให้พร และมีการกั้นประตูเงินประตูทองตามประเพณี
อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 14 วันที่ 28 มี.ค.61
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทประพันธ์โดย รอมแพงละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทโทรทัศน์โดย ศัลยา
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส กำกับการแสดงโดย ภวัต พนังคศิริ
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ออกอากาศเร็ว ๆ นี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ