อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 10 วันที่ 15 มี.ค.61

อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 10 วันที่ 15 มี.ค.61

“ออเจ้ามิต้องพูดจาเฉไฉเป็นสิ่งใดที่ข้าฟังมิรู้ความและคร้านที่จะฟังด้วย...มิต้องต่อคำ บอกมาเลยดีกว่าว่าออเจ้าคิดถึงใครอยู่ถึงมิได้ยินว่าข้าเดินมา ถ้าไม่บอกข้าจะคิดเอาเอง”

“บอกค่ะ...” เกศสุรางค์แกล้งนิ่ง ท่านขุนย้ำจักคิดเอง เธอจึงมองสบตาเขาด้วยสายตาลึกซึ้ง “อยากรู้เหรอเจ้าคะ” ท่านขุนพยักหน้า “ส่องคันฉ่องสิเจ้าคะ...” ว่าแล้วก็ยักคิ้วยั่วก่อนเดินไป
ท่านขุนหน้าแดงก่ำ หัวใจพองโตทำอะไรไม่ถูก...

เกศสุรางค์กลับเข้าห้องพบว่าผินกับแย้มตื่นมาแอบดูทั้งสองทำมือโอเคยิ้มสมใจ



รุ่งเช้า ผินกับแย้มแต่งตัวให้เกศสุรางค์อย่างสวยงาม เธอบ่นจะแต่งไปทำไม...ในเมื่อสวยอยู่แล้ว ทั้งสามหัวเราะชอบใจเสียงดัง จนด้านนอก ออกญาโหราธิบดี จำปา ขุนศรีวิสารวาจา ปริกและบ่าวอื่นๆได้ยินหันมองไปทางห้องการะเกด จำปาบ่นพึม

“อุ๊ย แม่การะเกดหัวเราะดังปานเสียงม้า”

“อีบ่าวสองคนด้วยเจ้าค่ะ” ปริกเสริมทันที

ออกญาปรามปริก ตำหนิว่าเมื่อไหร่จะรักกันทั้งที่อยู่เรือนเดียวกัน ปริกหงอก้มหน้าไม่พูดอะไร คลานกระดุ๊บๆออกไป ออกญาขุ่นเคือง

“ดูมัน แม่จำปาคนของออเจ้านี่เหลือเกินจริงๆ รังคัดรังแคไม่รับรู้ว่าแม่การะเกดเป็นใคร ออเจ้าปกครองยังไรฤา”

“ตัวข้าก็ยังไม่พึงใจนาง จักให้บ่าวของข้าพึงใจได้ยังไรเจ้าคะ”

ออกญาส่ายหน้าระอาใจ หันมาถามลูกชายว่าบอกเรื่องตบแต่งกับการะเกดหรือยัง พอเห็นสีหน้าลูกก็รู้ว่านางยังไม่ให้คำตอบ...ขณะเดียวกันในห้อง ผินกับแย้มกำลังซักถามการะเกดว่าทำไมไม่ยอมแต่งกับท่านขุน ทั้งที่รักท่านออกปานนั้น เกศสุรางค์ถอนใจที่สองบ่าวรู้เรื่อง

เมื่อเกศสุรางค์ออกมานั่งร่วมวง จำปาก็เอ็ดเรื่องหัวเราะเสียงดังไปถึงคุ้งน้ำข้างโน้น หญิงสาวทำหน้าตกใจหันไปโทษผินกับแย้มเป็นคนทำ ขุนศรีวิสารวาจามองอย่างเอ็นดู เธอสบตาเขาเขินๆ จำปาก้มหน้าหยิบหมากพลูไม่ทันเห็น ปากก็เอ็ดไปด้วย

“ดูทีรึซัดทอดนังบ่าว มันจะกล้าฤาถ้านายไม่นำก่อน...คุณลุงท่านจะถามไถ่ออเจ้าเรื่องตบเรื่องแต่ง ออเจ้าอย่าตอบให้มันมากเรื่องไป ผู้ใหญ่กะเกณฑ์ไว้แล้วอย่าให้ต้องถอนหงอกกันเลย”

ออกญาเห็นลูกหลานสบตากันก็บอกแก่ภรรยาว่า “เห็นจะไม่ต้องแล้วหนาแม่จำปา”

จำปาเห็นสามีเดินไปก็แปลกใจที่ไม่ถามไถ่ ขุนศรีวิสารวาจาตอบรับแทน จำปายังกล่อม

“แม่การะเกดคงแคลงใจว่าพ่อเดชตกลงปลงใจตบแต่งกับนางด้วยเหตุตกกะไดพลอยกระโจน พ่อเดชพูดกับน้องสิว่า ถึงจะไม่เต็มใจตบแต่ง แต่จะเป็นสามีที่ดีมิทิ้งขว้างห่างหาย” เกศสุรางค์ก้มหน้ายิ้มขำ เหลือบสบตากับท่านขุนที่อมยิ้มจ้องมองไม่วางตา จำปายังร่ายต่อ “เรื่องที่พี่เขามิได้รักมิได้ใคร่ออเจ้านั้น ออเจ้าอย่าแคลงแหนงใจเลย อยู่ๆกันไปก็อาจจะมีใจต่อกันอยู่หรอกหนา” เกศสุรางค์รับคำ จำปาถามอย่างห่วงใย “ออเจ้ามิสงกาแล้วฤามิใช่”

“มิคิดสงกาเล้ยเจ้าค่ะ”

จำปาโล่งใจหันไปบอกลูกชายให้รีบตามออกญาไป ท่านจะรอนาน ท่านขุนสบตาเกศสุรางค์อีกครั้ง ทำให้เธอต้องหลบตาด้วยเขินจนใจเต้นรัว

พอขุนศรีวิสารวาจาเดินตามมาถึง ออกญาโหราธิบดีเปรยขึ้นว่า “แม่นางผู้นี้ นางจะเป็นใครมาจากไหนก็ตาม นางจะเป็นเมียคู่กายคู่ใจของออเจ้า”

“นางเป็นใครหรือขอรับคุณพ่อ คุณพ่อจับยามดู ...เห็นไหมขอรับ”

“เห็นแล้วจะมีประโยชน์อันใด อย่าพะวงไปเลยพ่อเดช นางมาเพราะนางต้องมา ทุกอย่างถูกลิขิตไว้แล้ว” ออกญาเปลี่ยนเรื่องบอกว่าขุนหลวงเรียกเข้าเฝ้า คงสืบเนื่องจากเรื่องทูตฝรั่งเศส

ooooooo

เหตุที่ขุนหลวงเรียกเข้าเฝ้า ด้วยแจ้งว่าอีกสองเดือนทูตฝรั่งจะกลับ ท่านทรงปรึกษากับฟอลคอนแล้วว่าจะส่งทูตชุดใหญ่ไปพร้อมกัน เป็นการทำให้พวกวิลันดาเกรงใจไม่กล้าวางโต

ฟอลคอนเสริมว่าพวกวิลันดาวางอำนาจเหนือกว่าอยุธยา เมื่อยี่สิบปีก่อนเอาเรือรบมาคอยจับเรือสินค้าของอยุธยาที่ส่งไปจีนและญี่ปุ่น อีกทั้งยังประกาศสงครามกับเราผู้เป็นเจ้าของบ้าน พระวิสุทธสุนทรแย้งว่าฝ่ายเราแย่งตลาดญี่ปุ่นเขา ขนสินค้าเต็มเรือไปขายญี่ปุ่น ฟอลคอนเถียงว่าเราเป็นเจ้าบ้านจะส่งเรือไปที่ไหนก็ได้ พระวิสุทธสุนทรสวน

“เขาคงไม่ว่าถ้าสินค้าที่เราขายญี่ปุ่นส่วนใหญ่มิใช่หนังสัตว์”

“เพราะเขาได้สิทธิพิเศษสำหรับหนังสัตว์ว่าเขาขายได้เจ้าเดียวตั้งแต่รัชกาลขุนหลวงปราสาททอง” ขุนศรีวิสารวาจาเสริม

 “สัญญาเสียเปรียบมาตั้งเป็นสิบๆปี ฉีกสัญญาก็ไม่ผิดอันใด” ฟอลคอนยังเถียง

ขุนศรีวิสารวาจาสวนคำค่อนข้างดังว่า “เขาจึงคิดว่าเอาเรือรบมาจอดแถวปากน้ำก็ไม่ผิดอันใดเหมือนกัน”

ฟอลคอนหันไปถามพระวิสุทธสุนทรว่าพวกวิลันดาทำถูกหรือ ท่านตอบว่าไม่ได้พูดเรื่องถูกผิด แต่พูดถึงเหตุผลที่พวกวิลันดาเอาเรือรบมารุกรานอยุธยา พระเพทราชาตัดบทอย่าเอาเรื่องเก่านานนับสิบปีมาทำให้เสียเวลา ขุนหลวงเห็นด้วย

“นั่นน่ะสิ พวกเอ็งจะทุ่มเถียงกันไปไย ในเมื่อ ณ บัดนี้เราก็ยังต้องยอมมันเพราะยังไงเราก็แต่งเรือไปขายเองไม่ได้ เพราะไม่ชำนาญการเดินเรือ สัญญาฉบับสุดท้ายกับพวกวิลันดา อยุธยาเสียเปรียบแค่ไหน พวกเอ็งต่างก็รู้ดี”

พระเพทราชาว่าฟอลคอนเป็นคนเริ่มเรื่องถกเถียง หลวงสรศักดิ์เสริมเสียเวลาทำงานอื่นที่มีประโยชน์ ขุนหลวงได้ยินเย้ากลับ

“ชะไอ้เดื่อ อย่างเอ็งรึก็เร่ไปเปรียบมวยตามที่ต่างๆน่ะสิโว้ย เป็นประโยชน์มากเหลือเกิน”

“ยังดีกว่านิ่งฟังเรื่องเก่าแก่ไม่มีประโยชน์พุทธเจ้าค่ะ” หลวงสรศักดิ์รู้ว่าขุนหลวงเอ็นดู ขุนหลวงหัวเราะบอกออกญาโหราธิบดีดูฤกษ์ยามว่าควรเดินทางเมื่อใด แล้วสั่งออกญาพระเสด็จ “ออเจ้าเป็นเสนาบดีกรมวัง คิดกำหนดกับออกพระฤทธิกำแหง จัดหาราชทูตสัก 3 คน ขุนนางมีบรรดาศักดิ์อีก 7-8 คน เป็นขบวนเกียรติยศ ควรมีใครอีกไอ้ฤทธิกำแหง”

“พวกทำงานพุทธเจ้าค่ะ เป็นนายเวร ล่าม เสมียน อาลักษณ์ หมอยา พนักงานวิเสทคนครัวกับพวกบ่าวรับใช้”

ขณะที่ฟอลคอนทูล พระเพทราชากับหลวงสรศักดิ์เมินหน้าไม่พอใจ...ขุนหลวงตรัสขึ้นว่าจะคิดอีกทีว่าให้ใครเป็นตัวราชทูต ฟอลคอนเสนอพระวิสุทธสุนทร ทุกคนตกตะลึง

ขุนหลวงถามพระวิสุทธสุนทรจะรับหรือไม่ หรือต้องฟังพรรคพวกก่อน ทรงตำหนิว่าควรแยกเรื่องในเรือนกับเรื่องราชการ อย่ามัวแต่ฟังคนอื่น พระเพทราชาได้ทีเหน็บแนมฟอลคอน ขุนหลวงกลับเข้าข้างทำให้เขากร่างมากขึ้น...ออกญาโหราธิบดีทูลว่าฤกษ์งามยามดีเห็นทีคลื่นลมเป็นตัวกำหนด แต่ขุนหลวงไม่ยอม ต้องการให้ดูฤกษ์ยามในการเดินทางครั้งนี้

พอดีพระปีย์เดินเข้ามา ด้วยมีรูปร่างเตี้ยหลังค่อมนิดๆ ขุนหลวงจึงเรียกว่าไอ้เตี้ย ถือลูกประคบเข้ามา ขุนหลวงถือโอกาสไล่ทุกคนกลับให้พระปีย์นวด พระเพทราชาเห็นพระปีย์สบตากับฟอลคอนก็ตามดักถามว่ามีแผนการอะไรกับพระปีย์ ฟอลคอนเลี่ยงมาหาพระวิสุทธสุนทร

“โปรดฟังข้าท่านออกพระ ข้ามิเห็นผู้ใดเหมาะสมกับตำแหน่งราชทูตมากไปกว่าตัวท่าน” พระวิสุทธสุนทรไม่ตอบ ฟอลคอนจึงเดินไป ออกญาโหราธิบดีชวนทุกคนไปทานข้าวที่บ้าน พระเพทราชาหงุดหงิดไม่ไป แต่หันมากระซิบให้หลวงสรศักดิ์ไปเพื่อฟังการเจรจา

ทางบ้านออกญาโหราธิบดี จำปาให้การะเกดหัดทำครัวโดยให้ปริกสอน ปริกแกล้งเสนออาหารที่ยาก อ้างเป็นของโปรดท่านขุนคือหมูโสร่ง เกศสุรางค์ซักถามทำไมต้องเรียกว่าโสร่งจนปริกตอบไม่ได้ จำปาเห็นไม่ได้การจึงนั่งเฝ้า เกรงจะทะเลาะกัน สุดท้ายจำปาต้องลงมาช่วยจับมือการะเกดจับสากโขลกให้เป็นจังหวะเบาๆ พร้อมใส่เครื่องปรุงแต่ละอย่าง เกศสุรางค์ซาบซึ้ง

“ขอบพระคุณเจ้าค่ะ คุณป้าใจดีที่สุด งามที่สุดด้วยเจ้าค่ะ...ไม่เหมือนบางคน” แกล้งปรายตามองปริก เธอเชิดหน้ารับ “สวยจริงสวยจัง ถึงแก่ก็ยังสวย...แต่ไม่เหมือนตรงจิตใจไม่ดี”

อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 10 วันที่ 15 มี.ค.61

ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทประพันธ์โดย รอมแพง
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทโทรทัศน์โดย ศัลยา
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส กำกับการแสดงโดย ภวัต พนังคศิริ
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ออกอากาศเร็ว ๆ นี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ