อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 7 วันที่ 2 มี.ค.61

อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 7 วันที่ 2 มี.ค.61

แย้มแปลกใจที่ทำไมถึงลืมหมด เกศสุรางค์อ้างว่าลืมจริง แล้วบ่นว่าตอนนี้ไม่อยากไปเที่ยวไหนอีกเข็ดขยาด ไม่ทันไรผินเข้ามาบอกว่าหลานของแย้มมาจากสองแคว แย้มดีใจ

“ไอ้ยิ้ม มันมากับขบวนแข่งเรือยาว ไอ้ยิ้มหลานข้ามันใฝ่ฝันเหลือเกินจะแข่งเรือ...”

เกศสุรางค์ได้ยินว่าจะมีการแข่งเรือก็ตื่นเต้นอยากดู ผินบอกว่ามีแข่งทุกปีตอนน้ำหลาก กลางคืนก็มีงานก่อพระเจดีย์ทรายที่วัดพระรามวันปะรืน แย้มจะไปขออนุญาตจำปาไปดู เกศสุรางค์โพล่งขึ้นว่าขอไปด้วย แย้มท้วงว่า...เข็ดมิใช่หรือ



“อีกงานเดียว แล้วเข็ดชัวร์” เกศสุรางค์ชูนิ้วชี้ยืนยัน

แต่พอมาขออนุญาต จำปาไม่ให้การะเกดไปและไม่ให้เหตุผล เกศสุรางค์หน้าคว่ำ พอเห็นขุนศรีวิสารวาจาขึ้นเรือนมาก็สบตาทำนองผิดหวังเหลือเกิน...จำปาชิงฟ้องท่านขุนก่อนว่า

“พ่อเดช ดูทีรึ มีคู่หมายแล้วยังจะออกไปตะลอนดูแข่งเรือพวกผู้ชาย”

เกศสุรางค์ผิดหวังเดินกลับเข้าห้อง บ่นกับผินและแย้มที่ไม่ได้ไปดูแข่งเรือ ทั้งที่สัญญาแล้วว่าจะไม่สร้างปัญหา ผินและแย้มหน้าจ๋อยไปด้วย

“คุณป้านะไม่เชื่อถือพัฒนาการของคนเลยว่า คนเราเคยทำไม่ดีไว้แต่พัฒนาได้ คนเรามีการปรับตัวอยู่แล้ว...ใช่ไหมพี่” สองบ่าวรับว่าใช่ “เห็นไหมพี่สองคนก็ปรับตัวเข้ากับข้าได้แล้ว ข้าพูดอะไรที่พี่เคยไม่เข้าใจ พี่ก็พยายาม...คอยดูนะข้าจะหนีไป...” พูดไม่ทันจบประตูเปิดผาง ขุนศรีวิสารวาจายืนหน้าตึงอยู่ เกศสุรางค์ตกใจ “คุณพี่! ได้ยินรึเปล่าคะ”

“ได้ยินชัดเจน ออเจ้าไม่ต้องหนีหรอก เพราะคุณแม่ท่านอนุญาตให้ไปแล้ว”

“จริงดิ! คุณพี่พูดให้ข้า ขอบพระคุณนะเจ้าคะ” เกศสุรางค์ยกมือไหว้งามๆ แต่อดถามไม่ได้ว่าเขาพูดอย่างไรกับจำปา

“อ๋อ มิมีอะไรมาก ข้าพูดแต่เพียงว่า ถ้ามิยอมให้ออเจ้าไปแล้วไซร้...ออเจ้าจะหนีไป...ข้ามิได้พูดผิด ใช่หรือไม่”

เกศสุรางค์อ้าปากค้างที่เขารู้จริง สักครู่ก็เปลี่ยนเป็นอารมณ์ดีใจถามว่าขุนเรืองไปด้วยหรือไม่ ท่านขุนหันขวับมามองหน้าอย่างไม่สบอารมณ์

ooooooo

บรรยากาศสถานที่แข่งเรือยาว ชาวบ้านมากมายมาดูการแข่งเรือ รวมทั้งชาวต่างชาติ ลูกเด็กเล็กแดงนั่งเรียงรายบนตลิ่ง พวกร่ำรวยมีฐานะและขุนนางต่างๆจะจัดที่นั่งอย่างดี กลุ่มบ้านขุนศรีวิสาร-วาจา มีเกศสุรางค์ ปริก ผิน แย้มและบ่าวไพร่อีกหลายคนตามมาดู

จันทร์วาดมาพร้อมบ่าวไพร่ที่เรือน ขุนศรีวิสารวาจาเข้าไปรับจากเรือมานั่งร่วมด้วย เกศสุรางค์มองยิ้มๆทำนองช่างเหมาะสมกันดี แล้วกระเถิบที่ให้นั่งพร้อมกับบอกให้ท่านขุนนั่งกลาง จันทร์วาดเมินหน้าไม่ทักทายเธอ เกศสุรางค์ หน้าเหวอ ท่านขุนเห็นแล้วอาทรจึงกล่าวขึ้นว่า

“เขาจะปล่อยเรือแล้ว แม่การะเกด...โน่น เห็นหรือไม่”

ผู้คนเฮลั่น เกศสุรางค์ถามว่าไหนเรือขุนนาง ท่านขุนชี้แล้วถามว่าเห็นใครอยู่ในเรือไหม

“ลำที่ผูกผ้าสีแดงหัวเรือใช่ไหมคะ อ๋อ เห็นแล้วเจ้าค่ะ ขุนเรือง!” ว่าแล้วก็ร้องเรียกโบกมือไหวๆ “มีใครอีกคะที่แข่ง เอ๊ะ...นั่น” เกศสุรางค์รู้สึกคุ้นหน้า

“มีหลวงสรศักดิ์เป็นคนคุมเรือ กับหลวงศรียศ”

“อ๋อ หลวงศรียศนั่นเอง เดี๋ยว คุณพี่บอกหลวงสรศักดิ์หรือคะ ที่ชื่อเดื่อใช่ไหมคะ”

ขุนศรีวิสารวาจาแปลกใจทำไมรู้จัก เกศสุรางค์ปัดว่าไม่รู้จัก ท่านขุนขุ่นเคืองใจที่นั่งตั้งไกลเธอยังจำขุนเรืองได้ เธอไม่ทันคิดพูดว่าไกลแค่ไหนก็จำได้...จันทร์วาดหาเรื่องสนทนาบ้าง พอรู้ว่าเรือขุนนางมีลำเดียวก็พูดให้ดูสนุกสนานว่าจะส่งเสียงให้กำลังใจให้ดัง

ท่านขุนยิ้มอย่างเอ็นดู เกศสุรางค์เห็นแล้วจี๊ดในใจเมินหน้าลุกไปหาพวกบ่าว ถามเราจะเชียร์กันแบบไหน สีหน้าบ่าวทุกคนงงกับคำว่า...เชียร์ เธอนึกได้

“อ๋อ...เออใช่แล้ว โอเคเอางี้ ตอนเรือมานะ เราจะบอกเขายังไงให้พายเร็วๆจะได้ชนะไง”

ผินให้ร้องว่าเร็ว...เร็ว...บ่าวคนอื่นส่งเสียงตาม เกศสุรางค์เกิดความคิด ใช้นิ้วเคาะที่ขมับ

“เจ๋งมาก แต่ข้ามีความคิดนะว่าแค่นั้นไม่พอ ต้อง...อย่างนี้ มาข้าจะสอนให้”

จันทร์วาดชวนท่านขุนคุย แต่เขากลับมองเกศสุรางค์ทำท่าสอนบ่าวเชียร์ เธอน้อยใจน้ำตาปริ่ม...พวกบ่าว ผินและแย้มร้องตาม มีเพียงปริกแย้งว่าไม่มีใครในพระนครทำประหลาดแบบนี้

“แม่ปริก ร้องเถอะ ข้ารับรองชนะชัวร์ๆ”

“ชนะชั่วๆก็ขี้โกงสิเจ้าคะ ชอบขี้โกงไม่หายเลยนะเจ้าคะ”

“ไม่ใช่ชั่ว! ชัวร์...ชัวร์” ผินแก้แทนนาย

“ได้ยินอยู่กับหูเดี๋ยวนี้ว่าชนะชั่วๆ เอ๊ะนังผิน เอ็งจะว่าข้าหูตึงงั้นฤาวะ”

เกศสุรางค์อ่อนใจเดินกลับมานั่งข้างขุนศรีวิสารวาจา แล้วกล่าวยิ้มๆกับจันทร์วาดว่าให้ช่วยกันเชียร์ จันทร์วาดทำหน้าไม่เข้าใจ จึงอธิบายใหม่ คือการให้กำลังใจ แล้วหันไปถามท่านขุนว่าทำไมไม่ลงแข่งด้วย เขาตอบเคลิ้มไปด้วยว่า

“คนละกรมกัน พวกแข่งเรือเป็นขุนนางกรมเมือง ข้าสังกัดกรมคลัง ทำได้แค่เชียร์อยู่นี่”

เกศสุรางค์หัวเราะ “อ๋อ...เก็ตแล้วค่ะ ว่าเชียร์อย่างเดียว”

จันทร์วาดมองด้วยความรู้สึกสมเพชตัวเอง เกศสุรางค์นึกได้ถามถึงป้อมท่าคั่น ท่านขุนชี้ไปที่ปะรำพิธี หญิงสาวชะเง้ออย่างตื่นเต้นเพราะเป็นที่นั่งของขุนหลวงนารายณ์ ท่านขุนบอก

“ขุนหลวงไม่เสด็จ มีแต่สมุหนายกกับสมุหพระ กลาโหม กับขุนนางจตุสดมภ์”

 เกศสุรางค์ตาโตอยากเห็น ท่านขุนทำตาดุปราม เธอร้องว่า “เอ้า...ได้ยินมาตั้งนานแล้วว่ามีเวียง วัง คลัง นา เป็นจตุสดมภ์ไงคะ”

 ขุนศรีวิสารวาจาอธิบายเสียเอง “มีขุนเมืองตำแหน่งพระนครบาลเมือง ขุนวังตำแหน่งพระธรรมา–ธิกรณ์ ขุนนาตำแหน่งเกษตร ขุนคลังตำแหน่งโกษาธิบดี สี่คนเป็นจตุสดมภ์ นอกจากนั้นมีเจ้าจอมหม่อมห้ามจากในวังมาดูแข่งเรือด้วย”

 พอพิธีกรประกาศให้เรือทุกลำเตรียมตัว ในมือถือผ้าแดงผืนย่อม คนพายเรือที่แข่งต่างเตรียม พร้อม เกศสุรางค์ชะเง้อมองอย่างตื่นเต้น...พิธีกรลดผ้าในมือลง เรือทุกลำพุ่งออกทันที เสียงโห่ร้องของชาวบ้านดังขึ้น เด็กๆกระโดดโลดเต้น เกศสุรางค์นำทีมบ่าวร้องเชียร์ดังลั่น

“ขุนเรืองสู้ๆ หลวงศรียศสู้ตาย หลวงสรศักดิ์ไว้ลาย เรือขุนนางสู้ๆ”

ขุนศรีวิสารวาจาชำเลืองมองขำๆ บ่าวร้องเชียร์เสียงดังขึ้นๆ ปริกทำหน้าเหยียดๆ ไม่นานก็เริ่มสนุกคล้อยตาม ร้องไปด้วย...สุดท้ายเรือขุนนางเป็นฝ่ายชนะ เกศสุรางค์ทำท่ากำมือกระตุกเข้าหาตัวด้วยความดีใจ พลันก้าวพลาดเซจะล้ม ท่านขุนปราดเข้าคว้าเอว เธอสบตาอึ้ง

“หากรู้ว่าออเจ้าตื่นเต้นอย่างนี้ ข้าคงลงไปแข่งด้วยแล้วหนา” ท่านขุนกระซิบข้างหู

เกศสุรางค์ใจสั่นวาบหวิวทำหน้าไม่ถูก จันทร์วาดเห็นท่าทีเต็มตาสะเทือนใจอย่างมาก

ค่ำนั้นพระจันทร์เต็มดวง มีการก่อกองทรายที่วัดพระราม เกศสุรางค์ยังวาบหวิวใจไม่หายจากที่โดนขุนศรีวิสารวาจาโอบเอวกระซิบข้างหู...พอเงยหน้าเห็นสายตาจันทร์วาดจึงส่งยิ้มให้แต่นางเมินหน้าหนีก็แปลกใจว่าเป็นอะไร

ปริกนั่งจ้องมองอยากรู้ว่าการะเกดจะปั้นอะไรดีกว่าปีก่อน ที่เหมือนเด็กห้าขวบปั้นหรือไม่ เกศสุรางค์ เคืองจะแสดงฝีมือให้เห็น...ขุนศรีวิสารวาจาเข้ามาถามว่าจะปั้นเป็นรูปอะไร ไม่ทันตอบ ขุนเรืองเดินมากับหลวงศรียศ พอออกหลวงเห็นหน้าการะเกดก็บอกกับขุนเรืองว่าใช่คนที่ตนเจอที่ตลาดบ้านจีนจริงๆ ขุนเรืองพูดยิ้มๆ

“เรื่องที่ท่านเล่าถึงนางมิได้ทำให้ข้าแปลกใจเลย ถ้าเป็นนางผู้นี้”

“เหตุใดฤา”

“ข้ามิพักต้องบอกท่านหรอก ต่อไปท่านจะรู้เอง” ว่าแล้วขุนเรืองเข้ามาขอร่วมปั้น

เกศสุรางค์ดีใจพลั้งปากเรียกไอ้เรืองแต่ขุนเรืองไม่ทันได้ยิน กลับบอกว่าได้ยินนางเรียกตอนแข่งเรือ จึงชนะ หญิงสาวให้ความดีความชอบแก่พวกบ่าวด้วย ขุนศรีวิสารวาจามองอย่างเคืองๆ จงใจส่งเสียงดังว่าปั้นเสร็จแล้วพร้อมเอาธงปักบนยอดเจดีย์ที่ปั้น

อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 7 วันที่ 2 มี.ค.61

ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทประพันธ์โดย รอมแพง
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทโทรทัศน์โดย ศัลยา
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส กำกับการแสดงโดย ภวัต พนังคศิริ
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ออกอากาศเร็ว ๆ นี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ