อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 8 วันที่ 5 มี.ค.61

อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 8 วันที่ 5 มี.ค.61

“พูดอีกก็ถูกอีก แต่อย่าพูดอีกดีกว่า อารมณ์เสีย!” เกศสุรางค์เคืองลุกพรวดเดินไปเร็วราวพายุ กระแทกท่านขุนล้มนั่งแปะลงไปอย่างเดิม...

กลับมาถึงห้องฟ้ามืดครึ้ม เกศสุรางค์หงุดหงิดผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า จึงรู้ว่าสังวาลหายก็ตกใจ ผินกับแย้มจะไปค้นหา แต่เธอเห็นว่ามืดแล้วหาไปก็ไม่เจอ...ก็พอดีขุนศรีวิสารวาจาเก็บพลอยกลับมาวางใส่จานบนเรือน จำปาเห็นแปลกใจ ท่านขุนจึงบอกว่าการะเกดทำสังวาลขาด คงร้อยไม่แน่นหนาจึงขาดง่าย แต่จำปาอดบ่นไม่ได้ว่านางคงเดินกะผลุบกะผลับเสียมากกว่า ทันใดเห็นเกศสุรางค์เดินฉับๆออกมาจากห้อง ตรงไปหาออกญาโหราธิบดี ทุกคนมองว่านางจะทำอะไร

“คุณลุงเจ้าขา ข้ามีเรื่องคุยกับคุณลุงเจ้าค่ะ”



ขุนศรีวิสารวาจาทำท่าปวดหัว จำปาเหล่ว่าต้องมีเรื่องอะไรแน่ จึงตำหนิการะเกดก่อนว่าทำอย่างไรสังวาลถึงขาด นางตอบทันควันว่าท่านขุนดึงขาด ทุกคนตกใจกับคำตอบของนาง ท่านขุนเลี่ยงไม่ตอบบอกว่าเก็บพลอยมาหมดแล้วให้เอาไป แต่เกศสุรางค์ไม่ยอม ให้เขาร้อยคืน จำปาเอ็ดหาว่าทำตัวน่ารำคาญ ออกญาตัดปัญหาใช้ปริกไปร้อยแทน ปริกหน้าเสีย

“ของผู้ใดให้ผู้นั้นร้อยสิเจ้าคะ ข้าเจ้าไม่ร้อยเจ้าค่ะ”

ออกญาหน่าย “พ่อเดช ในเรือนเรามีหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนไป ออเจ้าเห็นฤาไม่ลูก”

“เห็นชัดเจนขอรับคุณพ่อ” ขุนศรีวิสารวาจาโคลงหัวแบบไม่รู้จะว่าอย่างไรเช่นกัน

ออกญาหัวเราะเห็นการะเกดมองตาแป๋ว จึงถามว่าอยากจะคุยอะไรกับตน นางโพล่งคำถามทันทีว่า อยากรู้เรื่องของคอนสแตนติน ฟอลคอน...ทั้งออกญาและท่านขุนมองอย่างฉงน

“นั่นไง...ข้าสงสัยอยู่แล้ว นางมีกิริยาแปลกประหลาดยิ่งนักขอรับคุณพ่อ เมื่อสังฆราชปัลลูเอ่ยชื่อตัวของออกหลวงสุรสาครว่า คอนสแตนติน ฟอลคอน นางลุกยืนพูดชื่อคอนสแตนตินซ้ำ พร้อมกับอีกชื่อหนึ่งว่า...วิชาเยนทร์ ข้าได้ยินออเจ้าอุทาน”

เกศสุรางค์ก้มหน้าบ่น “ฟ้อง...ยาวเชียว”

ออกญาไม่เคยได้ยินชื่อนี้ เกศสุรางค์บอกว่าเป็นอีกชื่อของหลวงสุรสาคร จำปาแทรกว่าไม่มีใครมีชื่อสองชื่อสาม เธอรีบบอกว่าเป็นชื่อเล่น จำปาไม่เข้าใจ

“อ้าว หลวงสรศักดิ์ไงคะ ชื่อเล่นชื่อเดื่อไม่ใช่หรือคะ” เกศสุรางค์อ้างอิง

จำปาเอ็ดว่าพูดไม่รู้ความ หลวงสรศักดิ์มีชื่อเดื่อชื่อเดียวอยู่แล้ว ขุนศรีวิสารวาจาปรามว่าเถียงคำไม่ตกฟาก เกศสุรางค์หน้าคว่ำ ออกญาเห็นลูกกับหลานเถียงกันไม่เลิก จึงแทรกถามยังอยากรู้เรื่องคอนสแตนตินหรือไม่ เกศสุรางค์รีบตอบว่าอยาก แล้วนึกถึงสมัยที่อาจารย์สอน

“เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ ชื่อเดิมคอนสแตนติน ฟอลคอน เป็นคนเชื้อชาติกรีก เมื่อหนุ่มๆทำงานเป็นคนรับใช้ในเรือสินค้าที่มาค้าขายกับอยุธยา ฟอลคอนเห็นอยุธยามีช่องทางทำมาหากิน จึงปักหลักอยู่อยุธยาอย่างถาวร รู้จักขุนนางบางคนจึงพาเข้าไปทำงานกับเจ้าพระยาโกษาธิบดีเหล็ก ขณะนั้นรั้งตำแหน่งเสนาบดีกรมคลัง...”

ออกญาโหราธิบดีเล่าต่อความพอดีว่า เมื่อคอนสแตนตินมาทำงานกับออกญาโกษาธิบดี ด้วยเป็นคนฉลาดมีไหวพริบ พูดภาษาชาวเราได้รวดเร็ว จึงเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ ออกญาโกษาธิบดีพาถวายตัวเป็นข้าราชการในขุนหลวงนารายณ์ ได้ยินว่าออกญาเอ็นดูเขามากเพราะสามารถทำบาญชีได้เก่ง และทำให้พ่อค้าชาวมุสลิมที่มาทวงหนี้กรมพระคลังสินค้า พอตรวจบาญชีคิดกำไรขาดทุนหักกลบลบหนี้ กลับตาลปัตรว่าพ่อค้าเป็นหนี้กรมพระคลังมากมายแทน

เกศสุรางค์พึมพำว่าประวัติศาสตร์ไม่ผิดเพี้ยนจริง พลันเห็นสายตาขุนศรีวิสารวาจาจับจ้องก็เมินหน้าไม่สนใจ หันไปซักถามออกญาอีกว่า

“คุณลุงเจ้าขา ขุนหลวงโปรดคนต่างชาติขนาดนี้ พวกขุนนางไทยไม่เหล่เอาหรือเจ้าคะ” ออกญาทวนคำว่า... เหล่ อย่างงงๆ จึงแก้คำใหม่ว่า “ไม่หมั่นไส้หรือเจ้าคะ”

“ขุนหลวงนารายณ์ท่านโปรดคนฉลาด ฉลาดด้วย รู้รอบด้วยท่านยิ่งโปรด นายก็องสตังซ์หรือฟอลคอน เขารู้รอบเรื่องการค้า เรื่องเดินเรือเขาก็รู้ การช่างเรื่องอาวุธยุทธภัณฑ์เขาก็รู้ ท่านโปรดฟังเรื่องของกษัตริย์เมืองต่างๆ นายคนนี้ก็เล่าถวาย จริงบ้างไม่จริงบ้างใครจะไปรู้...จริงไหม ท่านโปรดเขาให้เฝ้าใกล้ชิด ทูลแนะนำเรื่องอะไรท่านก็ทรงเชื่อไปเสียหมด พวกขุนนางชั้นผู้ใหญ่ แน่นอนก็มี เหล่บ้าง...ลุงพูดถูกไหมเจ้า”

เกศสุรางค์หัวเราะปากกว้าง ออกญาพลอยหัวเราะไปด้วย ท่านขุนมองด้วยสายตาเอ็นดู

ooooooo

บ้านของฟอลคอนใหญ่โตพอควร มีผู้คนพลุกพล่าน ส่วนใหญ่เป็นบ่าวและเมียบ่าว ฟอลคอนมีลูกสาวอายุสองขวบชื่อแซลลี่ ที่เกิดกับข้าหลวงของพระธิดาขุนหลวงนารายณ์

ฟอลคอนพามารีเข้ามาในบ้าน มีเพื่อนทางการค้าชาวอังกฤษชื่อริชาร์ด เบอร์นาบี กับจอร์จ ไวท์ ตามมาแสดงความยินดี...ฟอลคอนแนะนำให้บ่าวไพร่รู้จักมารี

“คุณหญิงของพวกเจ้า คุณหญิงตองกีมาร์ พวกเจ้าจะเรียกสั้นๆว่ามาดามก็ได้...มาดามเป็นใหญ่ที่สุด ทุกคนต้องเชื่อฟังมาดาม สั่งให้ทำอะไรต้องทำ เข้าใจฤา”

บางคนรับคำ พวกบ่าวที่เป็นเมียหน้าบึ้งมอง

มารีอย่างไม่ค่อยชอบใจ ฟอลคอนย้ำไม่ให้ทุกคนพูดมาก ให้จำไว้ก็จำ มารีจะแย้งแทน เขาโอบไหล่เธอ ตัดบท

“ไม่มีแต่ ไปพบกับเพื่อนที่ดีที่สุดของข้า เขาชื่อไวท์กับเบอร์นาบี...ไวท์คนผอมนะ”

แล้วฟอลคอนก็แนะนำให้เพื่อนทั้งสองรู้จักมารี ไวท์แนะนำตัวว่าตนเคยมียศหลวงวิชิตราชสาคร ตำแหน่งนำร่อง เวลานี้ออกมาทำงานกับบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษ

“และนี่ สหายสนิทของข้า มิสเตอร์ริชาร์ด เบอร์นาบี เป็นตัวแทนของบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษเหมือนกัน” ฟอลคอนผายมือไปที่เบอร์นาบีแล้วหลุดปาก “สองคนนี้เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของข้า เราทำการค้าด้วยกัน”

“เอ๊ะ การค้าอะไรหรือเจ้าคะ ก็ท่านทำงานกับพวกฝรั่งเศสไม่ใช่หรือคะ ทำไมร่วมมือกับบริษัทอังกฤษล่ะคะ” มารีสงสัยทันที

เพื่อนทั้งสองหน้าเสียแต่พยายามเก็บอาการ

ฟอลคอนรีบแก้ตัวว่า แค่ติดต่อแลกเปลี่ยนหลักฐานแล้วหันไปตะโกนเรียกบ่าวให้จัดอาหารที่ห้องโถงรับรองเพื่อนๆตน...พอมารีแยกไป เบอร์นาบีกับไวท์ก็เตือนฟอลคอนว่า มารีฉลาด จะพูดอะไรต้องระวัง ฟอลคอนรับรองว่านางไม่รู้อะไรเลย เบอร์นาบีว่านางเริ่มจะสงสัยฟังจากคำถามแล้วฉลาดมาก

ค่ำคืนนั้น ฟอลคอนนอนแช่น้ำในอ่าง มีบ่าวสาวสองคนคอยถูหลังถูแขนให้ เมื่อขึ้นจากอ่างก็เช็ดเนื้อตัวให้อีก จากนั้นเขาก็นุ่งผ้าโสร่งผืนเดียวเข้ามากอดมารีถามว่าคิดอะไร มารียังไม่คุ้นกับวิถีชีวิตของฟอลคอน เปรยว่ามีผู้หญิงหลายคนมองตนอย่างไม่ชอบ นางพวกนั้นเป็นใคร ฟอลคอนฮึดฮัดถามว่าใครบ้าง พรุ่งนี้จะจัดการให้ มารีรีบปรามแค่อยากรู้เพื่อทำตัวให้ถูก

“ข้าเป็นผู้ชาย ดอกไม้รายทางขึ้นอยู่ที่ใดก็เก็บได้... เก็บได้ทั้งๆที่มันก็ไม่สวยไม่หอมหรอก แต่เวลานี้ข้ามีดอกไม้ทั้งสวยทั้งหอม ที่ข้าตั้งใจเด็ดมาไว้สูงที่สุดในเรือนข้า ให้ใหญ่เหนือใครๆหมด ดอกไม้อื่นจะขยี้ทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้ สงสัยอะไรอีกฤา”

มารีฟังด้วยสีหน้าไม่ชอบใจเท่าไหร่ เปรยว่าเขาพูดเก่ง ไม่น่าเชื่อว่าไม่ใช่คนไทย ฟอลคอนเล่าว่าตนพยายามหนักมากถึงทำให้ขุนหลวงนารายณ์มั่นใจในตัวตนก็เพราะตนพูดไทยได้ ฟอลคอนโอบกอดมารี

เอนลงนอน หอมแก้มเธอแล้วกล่าวว่า ขอลูกชายให้ตน...

ooooooo

เกศสุรางค์เห็นผินกับแย้มกำลังพับผ้ากองโต จึงให้ทั้งสองไปกินข้าวเดี๋ยวจะเอาผ้าใส่หีบเอง สองบ่าวไม่รู้จักหีบ บอกมีแต่เตียบ เกศสุรางค์รีบแก้ตัวว่าลืมแล้วเรียกใหม่ว่าเตียบ

พอสองบ่าวออกไป เธอก็หันมาเขียนบันทึก “ตอนเรามา 1044 เอา 1181 บวกเข้าไปเป็น พ.ศ.2225... เจ้าพระยาโกษาเหล็กต้องโทษโดนโบยจนตาย” แล้วคิดถึงที่อาจารย์เล่าถึงวิธีโบยอย่างโหดมาก เพราะที่หวายจะมีเชือกแข็งพันอยู่ เมื่อผู้ถูกเฆี่ยนไม่ได้สวมเสื้อ หวายจะถลกเนื้อติดออกมาด้วย ท่านได้รับความอับอายมาก เนื่องด้วยท่านเป็นลูกชายแม่นมของพระนารายณ์ และยังเป็นเพื่อนเล่นกันมาแต่เด็ก เป็นขุนศึกคู่พระทัย เป็นเสนาบดีกรมคลังหนึ่งในจตุสดมภ์

เกศสุรางค์จดบันทึกลงสมุด พยายามทบทวนความจำว่า ออกญาโกษาธิบดีโดนโบยด้วยความผิดคอร์รัปชัน ท่านเสียใจถึงกับล้มเจ็บ จะเป็นความจริง

แค่ไหนไม่รู้ได้ แต่ท่านตายในปี 2226

“คอร์รัปชัน...ขี้โกงหรือ คนอย่างออกญาโกษาเหล็กจะขี้โกงจริงเหรออาจ๊าน...อาจารย์ มันเป็นประวัติศาสตร์ อาจจะถูกเขียนสมัยหลังก็ได้ ความจริงคืออะไร...” เกศสุรางค์บ่นแล้วนึกต่อที่อาจารย์เล่าว่า สาเหตุที่ท่านต้องอาญาโบยจนตาย คือมีผู้ไปทูลพระนารายณ์ว่าท่านรับสินบนพวกไพร่ที่ไม่อยากสร้างป้อมปราการตามรับสั่งให้สร้าง แต่ใครเป็นคนไปทูลไม่ปรากฏข้อมูลในประวัติศาสตร์ ...คิดแล้วให้อยากรู้ยิ่งนัก

อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 8 วันที่ 5 มี.ค.61

ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทประพันธ์โดย รอมแพง
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทโทรทัศน์โดย ศัลยา
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส กำกับการแสดงโดย ภวัต พนังคศิริ
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ออกอากาศเร็ว ๆ นี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ