อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 12 วันที่ 20 มี.ค.61
ออกญาโหราธิบดีกับจำปาสงสัยว่าลูกชายหอบอะไร ทำไมไม่ให้บ่าวเอาไปลงเรือ ท่านขุนบอกว่าจะถือเอง แล้วก้มลงกราบเท้าพ่อแม่ ทั้งสองลูบหัวอวยพรให้เดินทางปลอดภัย...เกศสุรางค์สังเกตเห็นว่าคนเมืองนี้กอดพ่อแม่ไม่เป็น...ออกญาคว้าห่อหมอนมาจะส่งให้จ้อย แต่ท่านขุนรีบขอคืนย้ำว่าเป็นของสำคัญที่ตนอยากถือไปเอง เกศสุรางค์ได้ยินแล้วยิ้มเขินท่านขุนหันไปสั่งปริกดูแลแม่ของตนให้ดี ปริกรับคำ เกศสุรางค์ยกมือไหว้ลา ท่านขุนเอื้อมมือเหมือนอยากกุมมือเธอแต่ยั้งไว้ ได้แต่กล่าว
“ข้าไปนานมาก ขอออเจ้าจงอยู่ดีมีสุข อย่ามีทุกข์ใจอันใด...อย่ามีใคร”
เกศสุรางค์สบตารับคำ...พอเดินลงจากเรือนจะไปที่ท่าน้ำ ขุนเรืองกับจันทร์วาดกำลังขึ้นจากเรือเพื่อมาส่ง ขุนศรีวิสารวาจาสังเกตเห็นความสนิทสนมของขุนเรืองกับจันทร์วาดก็ยิ้มยินดี หยั่งเชิงถามขุนเรืองจะไปส่งตนถึงขบวนไหม ขุนเรืองปฏิเสธเพราะอยากไปส่งจันทร์วาด
เรือสัมภาระและเรือขุนศรีวิสารวาจาเคลื่อนออกไป ขุนเรืองหันมาสบตาจันทร์วาด นางจึงบอกว่าจะขึ้นไปกราบออกญาโหราธิบดีกับจำปา ขุนเรืองรีบพูดความในใจ
“ข้า...ระลึกถึงแม่หญิงตลอดเวลา แต่ข้ามิอาจกล้าไปหาสู่แม่หญิง ด้วยคุณหญิง...”
จันทร์วาดส่ายหน้าแทรกว่า “คุณแม่ของข้าทำเช่นเดียวกับคุณแม่ของทุกผู้ ท่านจำเป็นต้องแน่ใจ แลท่านจะแน่ใจได้เพียงใดเป็นหน้าที่ของขุนเรือง”
ขุนเรืองชะงักงันพูดไม่ออก...พอจันทร์วาดกลับถึงเรือน คุณหญิงนิ่มก็ซักทันทีว่าพบเจอผู้ใดบ้าง จันทร์วาดตอบอย่างสัตย์จริงว่า เจอขุนเรืองที่ไปส่งเช่นกัน คุณหญิงหน้าเครียดไม่พอใจ
“ขุนเรืองอภัยภักดีรึ ข้าไม่ชอบ อย่าได้หวังว่าจะมาเป็นเขยเลย”
จันทร์วาดนั่งเงียบไม่รู้จะทำอย่างไรให้แม่เห็นใจ... ขณะเดียวกัน ขุนเรืองไม่อยากเชื่อคำของการะเกดที่ยุให้เขาเพียรไปหาจันทร์วาด แม้ว่าแม่ของนางจะรังเกียจ ให้เชื่อว่าตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก และแนะนำให้เขาไปเวลาที่คุณหญิงนิ่มไม่อยู่ ฉะนั้นจะรู้ได้ก็ต้องหมั่นไปด้อมๆ มองๆว่าเรือของคุณหญิงอยู่หรือไม่...แม้ขุนเรืองจะไม่มั่นใจ แต่ก็พรางตัวพายเรือไปด้อมมอง
พอได้ยินบ่าวที่ท่าน้ำคุยกันว่าคุณหญิงนิ่มไม่อยู่ ก็รีบเข้าไปหาจันทร์วาด บอกคิดถึงทันทีตามคำของเกศสุรางค์ที่แนะนำไว้ว่า “ณ เวลานี้ ความรักมีอุปสรรคยิ่งใหญ่ จะพบกันแสนยากเพราะแม่ฝ่ายหญิงไม่เป็นใจ ขุนเรืองอย่ารีรอนะเจ้าคะ รีบบอกความในใจให้แม่หญิงจันทร์วาดหวั่นไหวเสียก่อน เข้าใจไหมคะ...กระหน่ำเลยนะคะ” ขุนเรืองคิดแล้วอดขำคำว่ากระหน่ำไม่ได้
จันทร์วาดได้ยินขุนเรืองบอกคิดถึงก็แกล้งตอบกลับอย่างนิ่มนวลว่า “แม่การะเกดมีคู่หมายแล้ว ขุนเรืองต้องหักห้ามความเสียใจนะคะ หมายปองคนที่มีคู่แล้วไม่ควรทำ”
“ถ้าเช่นนั้น...ข้าควรหมายปองใคร แม่หญิงรู้ใช่ฤาไม่ ว่ามิใช่แม่หญิงการะเกด แต่เป็นแม่หญิงจันทร์วาด”
“ท่านพูดอ้อมค้อม ข้าจึงมิอาจพูดว่าข้ารู้” จันทร์วาดสบตาอย่างเปิดเผย
กลายเป็นขุนเรืองที่ใจเต้นรัว “แม่หญิงช่างน่ารักเหลือเกิน มิน่า ข้าถึงดึงหัวใจออกจากแม่หญิงหาได้ไม่ ทั้งวันและทั้งคืนที่ข้าเฝ้าคิดถึงแม่หญิง”
จันทร์วาดขอบคุณ ขุนเรืองข้องใจทำไมนางถึงรู้ใจ นางตอบอย่างนุ่มนวล
“ขุนเรืองเจ้าคะ เป็นผู้หญิงมิใช่โง่นะเจ้าคะ ขุนเรือง ไม่ได้บอกข้าด้วยกิริยาตลอดมาหรือเจ้าคะ” ขุนเรืองปลื้มปริ่มคว้ามือนางมากุมและถามนางรักตนบ้างไหม จันทร์วาดเขินอายเล็กๆ “โธ่เอ๋ย...ขุนเรือง ถ้าแม่การะเกดรู้ว่าขุนเรืองถามข้าอย่างนี้ ต้องโดนนางเอ็ดเอาแน่ๆ”
ขุนเรืองเงิบไป เกาหัวแก้เขินทำอะไรไม่ถูก จันทร์วาดหัวเราะเสียงใส
ooooooo
เกศสุรางค์นั่งจดบันทึกการเดินทางของคณะทูตไปฝรั่งเศส วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2228 โดยเรือสำเภาใหญ่ชื่อมาลีนและลัวโซ มีนักเรียนช่างตามไปอีก 20 คนไปเรียนวิชาแบบฝรั่ง
“ตรงตามประวัติศาสตร์ทุกอย่าง” เกศสุรางค์พึมพำ
ผินกับแย้มนั่งพับผ้าอยู่ข้างๆได้ยิน อดถามไม่ได้ว่า ประวัติศาสตร์เล่าเรื่องท่านขุนไปเมืองฝรั่งหรือไม่ เกศสุรางค์ทึ่งที่สองบ่าวพูดได้ชัดเจน ทั้งสองบอกยิ้มๆว่าได้ยินแม่นายพูดบ่อย
“โอเค...ประวัติศาสตร์บอกว่าอย่างนี้นะ กลางทางเรือไปเจอคลื่นน้ำวนด้วยลมมรสุม เรือก็เลยลอยขึ้นลงสูงเหมือนตึกหลายชั้น เรือก็หมุนรอบตัวเอง แล้วตกไปอยู่ในวังน้ำวน ถ้าไม่มีอาจารย์ชีปะขาวไปช่วยดึงเรือขึ้นมาจากน้ำวนนั่นน่ะ ก็...เรือล่มจมหายไปในทะเลชัวร์”
ผินรีบถามว่าเป็นจริงอย่างประวัติศาสตร์หรือ แย้มบอกให้รอฟังท่านขุนกลับมาเล่า เกศสุรางค์บอกว่าอีกปีกว่าท่านขุนถึงกลับ สองบ่าวตบอกใจหายบ่นว่าคนทางนี้คิดถึงแย่ เกศสุรางค์ชะงัก เป็นจริงอย่างที่สองบ่าว พูด น้ำตาเอ่อล้นออกมาในทันที สองบ่าวเข้าปลอบประโลม
ค่ำคืนนั้น เกศสุรางค์กำลังจะล้มตัวลงนอนได้ยินเสียงแม่เรียกจึงชะงักหันมอง เห็นสิปางยืนอยู่หน้าเตียงก็ส่งเสียงเรียกดังว่าแม่จ๋า...ผินกับแย้มสะดุ้งลุกขึ้นมองเห็นแม่นายนอนเงียบ จึงลงนอนต่อ สิปางเข้าประคองหน้าเกศสุรางค์ยิ้มให้กำลังใจ เธอรีบถาม
“แม่มากับใคร...คุณยายล่ะคะ”
สิปางหันไปทางประตู ยายนวลยืนยิ้มกว้างอยู่ เกศสุรางค์โผเข้าไปกอดยายร่ำไห้ สิปางเข้ามาร่วมกอด ถามลูกเสียใจหรือที่แม่กับยายมาหา เธอส่ายหน้าบอกดีใจที่สุด สามคนแม่ลูกและยายพร่ำบอกความคิดถึงต่อกัน แม่กับยายยิ้มไม่มีน้ำตาสักหยด
“แม่รู้ว่าเกศคิดถึงแม่ คิดถึงคุณยาย แล้วก็คิดถึงใครอีกบางคนที่เขาอยู่แสนไกลแต่เขามาหาเกศไม่ได้ แม่ถึงมาหาเกศไง”
เกศสุรางค์หันมากอดแม่แนบแน่นขอให้อยู่ด้วยนานๆ สิปางบอกเดี๋ยวแม่กับยายก็ต้องกลับไปใส่บาตร หญิงสาวอ้อนยายนวลขอให้หยุดใส่หนึ่งวัน แต่ยายนวลบอกว่า
“ไม่ได้หรอกลูก พ่อเรืองฤทธิ์เขาคอย...” ขาดคำทุกอย่างก็มลายหายไป
เกศสุรางค์สะอื้นร้องเรียกแม่กับยายอย่าเพิ่งไป ผินกับแย้มเข้ามาแตะร่าง เธอผวาตื่น สองบ่าวถามอย่างห่วงใยว่าฝันร้ายหรือ...เกศสุรางค์หน้าเศร้าเมื่อพบว่าทุกอย่างเป็นแค่ความฝัน
รุ่งเช้า เกศสุรางค์ตื่นขึ้นมาด้วยสีหน้าหมองเศร้า จะต้องไปเรียนการเรือนกับจำปา...เกศสุรางค์เห็นมีอุปกรณ์คือตะคันกับทวน และดินสอพองที่ซื้อมาจากละโว้ ตากแห้งแล้ว
“ข้าจักสอนออเจ้าอบร่ำแป้งดินสอพอง อบร่ำนี้ ต้องทำซ้ำๆสามวัน ตัวแป้งจักดูดเอากลิ่นหอมเข้าไปทำให้หอมทน แลต้องอบด้วยดอกไม้สดอีกสามวันจักได้หอมยิ่งขึ้นไป”
จากนั้นจำปาก็ให้เอากำยาน อบเชย กานพลู เปลือกชะลูด ลูกจันทร์ น้ำตาลทรายแดง ไม้จันทน์หอม และไม้กฤษณา ใส่ครกตำให้แหลกละเอียด แล้วเปิดโถเคลือบที่ใส่ชะมดเช็ด ลักษณะคล้ายขี้ผึ้งสีเหลืองๆ โดยสอนว่า ต้องฆ่าชะมดเช็ดด้วยน้ำมะกรูดหรือผิวมะกรูดสับละเอียดลนไฟใส่ลงไปให้สะตุฆ่าพิษ ชะมดจะละลายตัวแล้วจึงเอาไปผสมกับเครื่องร่ำที่ตำได้ในอ่างเคลือบ
“เอาทั้งหมดที่ตำได้มาผสมกับชะมดเช็ดหอมๆ มันจะหอมมาก เอาตะคันกับทวนมา...ตะคันวางข้างบน ทวนนี่วางตั้ง ผ้าขาวบางปิดอ่าง เราเรียกว่า แป้งร่ำกระแจะจันทร์”
เกศสุรางค์สูดกลิ่นหอมอย่างชื่นใจ จำปาย้ำว่าเป็นแม่หญิงจะออกเรือนต้องทำให้เป็นทุกอย่าง เพลาสั่ง บ่าวไพร่จักได้ไม่อายใคร อาหารต้องรู้จักปรุงแต่งทั้งคาวหวาน จักผูกมัดใจชาย ทุกอย่างล้วนเป็นเสน่ห์ของแม่หญิง...เกศสุรางค์ยิ้มรับคำ จำปาใจอ่อนเอื้อมมือไปลูบหัวอย่างเอ็นดู แต่พอเกศสุรางค์เอ่ยปากขอไปเยี่ยมจันทร์วาด ก็หดมือกลับทันที
ปริกกระแนะกระแหน “เห็นแม่นายใจดีไงเจ้าคะ เลยกำเริบใจ”
จำปามองปริกอย่างอ่อนใจกับปากของนาง ก่อนจะหันมาบอกการะเกดว่า ไปแล้วอย่าเถลไถลหรือก่อเรื่องที่ไหนอีก กำชับผินกับแย้มให้ดูแลนายให้ดี ทั้งสองก้มหัวรับคำ
ooooooo
อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 12 วันที่ 20 มี.ค.61
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทประพันธ์โดย รอมแพงละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทโทรทัศน์โดย ศัลยา
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส กำกับการแสดงโดย ภวัต พนังคศิริ
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ออกอากาศเร็ว ๆ นี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ