อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 11 วันที่ 16 มี.ค.61
ทางบ้านออกญาโหราธิบดี จำปาให้การะเกดหัดทำครัวโดยให้ปริกสอน ปริกแกล้งเสนออาหารที่ยาก อ้างเป็นของโปรดท่านขุนคือหมูโสร่ง เกศสุรางค์ซักถามทำไมต้องเรียกว่าโสร่งจนปริกตอบไม่ได้ จำปาเห็นไม่ได้การจึงนั่งเฝ้า เกรงจะทะเลาะกัน สุดท้ายจำปาต้องลงมาช่วยจับมือการะเกดจับสากโขลกให้เป็นจังหวะเบาๆ พร้อมใส่เครื่องปรุงแต่ละอย่าง เกศสุรางค์ซาบซึ้ง“ขอบพระคุณเจ้าค่ะ คุณป้าใจดีที่สุด งามที่สุดด้วยเจ้าค่ะ...ไม่เหมือนบางคน” แกล้งปรายตามองปริก เธอเชิดหน้ารับ “สวยจริงสวยจัง ถึงแก่ก็ยังสวย...แต่ไม่เหมือนตรงจิตใจไม่ดี”
ปริกหน้าง้ำค้อนขวับ จำปาแอบขำ บ่าวคนอื่นๆ
หัวเราะชอบใจ...เมื่อทุกคนกลับมา เกศสุรางค์วางจานหมูโสร่งบนโต๊ะให้รู้ว่าตนเป็นคนทำ พอเห็นขุนศรีวิสาร-วาจานิ่งก็หาว่าเขาไม่เชื่อ
“ไม่พูดไม่หมายความว่าไม่เชื่อ”
“กลัวดอกพิกุลร่วงหรือเจ้าคะ”
ท่านขุนงง เกศสุรางค์ถามไม่รู้จักเรื่องพิกุลทองหรือ ท่านขุนส่ายหน้า เธอพึมพำสงสัยเขียนทีหลัง ขุนเรืองเย้าว่าเธอมีเรื่องให้พิศวงร่ำไป แล้วติงขุนศรีวิสารวาจา
ที่ว่าการะเกดไม่ได้เรื่องได้ราวสักอย่าง ท่านขุนศรีว่า
“ได้เรื่องเหมือนกัน...เรื่องที่มิเป็นเรื่อง อย่างเรื่องพิกุลทองนี่ไง”
เกศสุรางค์จะโต้แต่นิ่งไว้นั่งมองท่านขุนกินหมูโสร่งเพื่อรอฟังคำชม แต่เขานิ่งเฉย เธอแย็บถ้าอร่อยก็ให้พูดออกมา คนอื่นๆต่างชมว่าอร่อย ยกเว้นคู่หมายที่แกล้งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“ขอบคุณค่ะ วันนี้ขุนหลวงประชุมเรื่องอะไรหรือเจ้าคะ”
ปริกรีบฟ้องจำปาว่าการะเกดทะลุกลางปล้อง จำปากระซิบกลับว่าได้ยินแล้วแต่เป็นเรื่องที่ตนอยากรู้เหมือนกัน ปริกจ๋อย...เกศสุรางค์เห็นทุกคนทานกันนิ่งไม่ตอบ จึงโพล่งออกมาว่า
“เรื่องส่งทูตไปฝรั่งเศสหรือไม่เจ้าคะ”
ทุกคนหันขวับมามองอย่างสงสัย ขุนศรีวิสาร-วาจาแก้แทนว่าเธอเดา หญิงสาวสวนว่าเรื่องนี้ไม่เดาเพราะได้ยินตอนที่ทุกคนคุยกัน ท่านขุนว่าเธอแอบฟัง เธอรีบแก้ตัว
“ถึงไม่แอบก็ได้ยินเจ้าค่ะ มีคนพูดว่าคุณอาขุนปานจะปลงใจเป็นทูตไปเมืองฝรั่งเศสหรือไม่ขอรับ”
ทุกคนอึ้งกับความช่างรู้ของนาง
ooooooo
เกศสุรางค์นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด ครุ่นคิดรื้อฟื้นความจำเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ พอได้ยินพระวิสุทธสุนทรพูดเรื่องพระปีย์ว่าคงเข้ารีตไปแล้ว ก็โพล่งขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจว่า
“พระปีย์...รู้ตัวไหมคะว่าตัวเองเป็นโอรสของขุนหลวง”
“เรื่องนี้มิใช่ความลับ แต่มิมีผู้ใดพูดให้กระจ่างแจ้ง คงเป็นเรื่องที่พูดกันแบบกระซิบๆ” ออกญาโหราธิบดีตอบแทนเพราะคนอื่นไม่กล้าพูด
“ทำไมขุนหลวงไม่ยอมรับล่ะคะ เพราะรูป
ไม่งามเหรอคะ”
ขุนศรีวิสารวาจาปราม คนอื่นแปลกใจเธอเคยเห็นเมื่อไหร่ ออกญาข้องใจจนต้องถาม
“นางมาอยู่เรือนนี้เกือบขวบปีไม่เคยอยากออกไปที่ใด เพิ่งจะมาชอบเที่ยวเตร่ก็...หลังจากข้ากับพ่อเดชสวดมนต์กฤษณะกาลีนี่แหละ เมื่อเป็นเช่นนี้ออเจ้า
รู้ยังไรว่า พระปีย์รูปไม่งาม”
เกศสุรางค์หัวเราะแหะๆไปไม่ถูก อ้างว่าได้ยินคนพูดกัน ออกญาว่าเธอโกหกเพราะไม่มีใครเคยเห็นพระปีย์ ขุนศรีวิสารวาจาซักอีกคน หญิงสาวจนปัญญาสารภาพว่ารู้จากประวัติศาสตร์
“บอกว่าพระปีย์ตัวเตี้ย หลังก็ค่อม เดินตัวเอียงๆ
แต่พูดเพราะ กิริยาดี ขุนหลวงนารายณ์เลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมแล้วก็รักมากด้วย...ไหนๆก็ไหนๆแล้วพูดให้หมดเลยวะ” พึมพำกับตัวเอง
พระวิสุทธสุนทรจะซัก ออกญาขอไว้อย่าเพิ่งสงสัย เมื่อถึงเวลาเราจะรู้เอง ให้เธอเล่าต่อ
“ขุนหลวงนารายณ์มีน้องชายสององค์ที่มีแม่เดียวกัน เจ้าฟ้าน้อยกับเจ้าฟ้าอภัยทศเจ้าค่ะ แต่เจ้าฟ้าน้อยไม่สบายป่วยหนักใช่ไหมเจ้าคะ ก็เหลือเจ้าฟ้าอภัยทศ
องค์เดียวที่...น่าจะมีสิทธิ์ในราชบัลลังก์” เกศสุรางค์
ปรายตามองหลวงสรศักดิ์ แต่เขาเมินหน้าหนีดูเครียดไปจากเดิม
พระวิสุทธสุนทรหวั่นใจเพราะฟอลคอนเข้าทางเจ้าฟ้าอภัยทศ พยายามจะให้เข้ารีต หลวงสรศักดิ์เสียงเข้มอย่างไม่พอใจ
“มันไม่น่าไว้ใจเลยไอ้ฝรั่งไพร่คนนี้ ชะ จับปลาสองมือ เหยียบเรือสองแคม ทั้งน้องชายทั้งลูกชายของขุนหลวง เฮ้ย...กูจะบอกให้ ลูกชายขุนหลวงไม่ได้มีคนเดียวเว้ย...”
ทุกคนเงียบกริบราวรู้เรื่องนี้กันดี หลวงสรศักดิ์ตัดบทขอตัวกลับ แต่ก่อนกลับอดถามพระวิสุทธสุนทรไม่ได้ว่าจะรับเป็นทูตไหม ท่านย้อนถามว่าสามารถขัดพระบรมราชโองการได้หรือ
หลวงสรศักดิ์กลับมาเล่าให้พระเพทราชาฟังอย่างไม่สบอารมณ์ว่าพระวิสุทธสุนทรยังไม่ได้รับคำสั่ง แต่ดูเหมือนท่านจะยอม พระเพทราชาแก้ตัวแทนว่า
“ถึงขุนหลวงไม่มีพระบัณฑูรสั่ง แลถึงเขาไม่ตอบรับคำไอ้ก็องสตังซ์เรื่องเป็นทูตฤาไม่ แต่อาขุนปาน
ของเอ็งเขานกรู้ ว่าไอ้ฝรั่งสัญชาติไพร่มันต้องเพ็ดทูลจนมีรับสั่งลงมาอย่างแน่นอน ถึงยังไร ออกพระวิสุทธก็ต้องเป็นทูตไปเฝ้ากษัตริย์เมืองฝรั่งเศส เลี่ยงมิได้หรอกพ่อเดื่อ”
“เกลียดมันเสียจริง เหตุใดข้าราชการทั้งกรุงศรีจึงยอมให้มันกุมอำนาจข้ามหน้าข้ามตา ในเมืองของมันมันเป็นไอ้ไพร่สถุล แล้วที่กรุงศรีนี่มันเป็นออกพระ
มีอำนาจล้นเหลือ เข้านอกออกในพระเจ้าแผ่นดินสบายใจ อยากให้มันเป็นยังไรก็เพ็ดทูลเข้าไป”
“การสิ่งใดที่จะเกิดขึ้นหาใช่อยู่ที่คนพูดเท่านั้น หากแต่อยู่ที่คนฟังด้วย”
“เหตุใดจึงทรงพระกรรณเบาเชื่อฟังฝรั่งไพร่ขนาดนี้” หลวงสรศักดิ์โกรธทุบที่นั่งแรงๆ พระเพทราชาตกใจถามลูกเป็นอะไร หลวงสรศักดิ์ระเบิดความคับอกคับใจ “ท่านพ่อ...ข้า ผู้เป็นลูกชายท่านพ่อ
คนนี้ แม้จริงเป็นลูกของขุนหลวงเกิดจากสนมลับใช่หรือไม่ ถ้าเป็นจริง ทรงมี...”
“พ่อเดื่อลูกพ่อ กาลเวลาผ่านมาเนิ่นนานจนเจ้าเติบใหญ่ เจ้าก็เป็นลูกข้ามาถึงบัดนี้ ถ้าต่อไปภายหน้าเจ้าจะพึงได้สิ่งใดโดยสิทธิ์ของเจ้า เจ้าก็จะได้เพราะเป็นลูกของออกพระเพทราชา หาใช่โอรสของพระนารายณ์เป็นเจ้าไม่”
หลวงสรศักดิ์มองจ้องตาผู้เป็นพ่อโดยนัย
ที่เข้าใจกันด้วยดี แล้วกลับมาคุยกันด้วยข้อสงสัยที่ว่า ฟอลคอนยกย่องกษัตริย์ฝรั่งเศสมาก ทำไมไม่ไปเป็นทูตเสียเอง
ooooooo
เกศสุรางค์นั่งจดบันทึกอยู่ในห้องว่าทุกอย่างเป็นไปตามประวัติศาสตร์ ออกพระวิสุทธสุนทรเป็นราชทูต ออกหลวงกัลยาณไมตรีเป็นอุปทูต
ขุนศรีวิสารวาจาเป็นตรีทูต...เธออดซาบซึ้งปลื้มใจไปกับความก้าวหน้าของท่านขุนไม่ได้
จากนั้น ทั้งสามที่จะรับหน้าที่ทูตต้องมาเรียนภาษาฝรั่งเศสกับมิชชันนารีปิแอร์ลองกรัวส์ที่โบสถ์เซนต์เปาโล โดยมีเกศสุรางค์เป็นล่าม...ด้วยการเดินทางไปฝรั่งเศสใช้เวลาแรมเดือน จำปาจึงคุมบ่าวไพร่เตรียมเสบียงอาหารแห้งพร้อมสรรพ เกศสุรางค์อยากทำของให้ขุนศรีวิสารวาจานำไปใช้ จึงคิด
เย็บหมอนยัดนุ่นปริกเห็นแล้วอดเหน็บแนมไม่ได้
“ไม่เคยเห็นหมอนอาไร้ใหญ่โต จะเอาหัวที่ไหนหนุน ไม่เคยพบไม่เคยเห็น”
บ่ายวันนั้นขุนศรีวิสารวาจากลับมา แปลกใจที่ไม่เห็นการะเกดเตรียมน้ำกับของว่างรอเหมือนเคย รู้สึกขัดเคืองที่เธอไม่สนใจ พอรู้จากบ่าวว่านางเย็บหมอนอยู่ก็ตามไปที่ชานเรือน ทำทีบ่นว่าคอแห้ง เกศสุรางค์ได้ยินกลับบอกว่าหิวน้ำก็ไปกินน้ำ มาตรงนี้จะกินนุ่นหรือ แล้วกำชับจิกกับจวงให้ยัดนุ่นดีๆโดยเรียกทั้งสองว่าพี่ สร้างความตื้นตันให้ทั้งสอง...ท่านขุนงอนเดินไป
ขณะที่ท่านขุนนั่งเครียดอยู่ที่โต๊ะทำงาน จ้อยยกถาดน้ำชาและของว่างเข้ามา ท่านขุนไล่ เกศสุรางค์เดินยิ้มหวานตามเข้ามาบอกให้ดื่มน้ำชาแก้คอแห้ง จ้อยฉากออกไป แต่ท่านขุนยังงอนไม่เลิก จวบจนมื้อเย็น เกศสุรางค์เห็นสีหน้าท่านขุนยังมึนตึงก็เผลอหัวเราะเสียงดังออกมา
“นึกจะหัวเราะหัวใคร่ไม่มีปี่มีขลุ่ย จะมีเหย้ามีเรือนอยู่แล้ว กิริยาหามีไม่” จำปาเอ็ดเบาๆ
เกศสุรางค์ยกมือไหว้ขอโทษต่ำลงๆจนฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ออกญาโหราธิบดียิ้มอย่างเอ็นดู ปริก
อยากหัวเราะแต่วางฟอร์ม ท่านขุนเผลอยิ้มออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 11 วันที่ 16 มี.ค.61
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทประพันธ์โดย รอมแพงละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทโทรทัศน์โดย ศัลยา
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส กำกับการแสดงโดย ภวัต พนังคศิริ
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ออกอากาศเร็ว ๆ นี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ