อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 13 วันที่ 25 มี.ค.61

อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 13 วันที่ 25 มี.ค.61

ท่านขุนฉุกคิดบางอย่าง ลุกพรวดออกไปอย่างรวดเร็ว...หยิบคัมภีร์กฤษณะกาลีจากหอสมุด หันกลับมาเจอออกญาผู้พ่อก็ลู่ตัวลงกล่าว

“จักเอาคัมภีร์ไปทำลายเสียให้สิ้นขอรับ หากแม่การะเกดแตะต้องเข้าอีกอาจจักมิมีโชคขอรับคุณพ่อ”

“คิดให้ดี จักทำลายเยี่ยงไร อาจมีผลต่อแม่การะเกดได้หนาลูก”

ท่านขุนชะงักไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง “ลูกรู้แล้วว่าต้องทำเยี่ยงไร ลูกขอหนาขอรับคุณพ่อ”



ออกญาโหราธิบดีพยักหน้า ท่านขุนเดินออกไป

เกศสุรางค์เข้ามาถามว่าท่านขุนไปที่ใด พอออกญาบอกว่าไปจัดการกับคัมภีร์กฤษณะกาลีที่ทำให้เธอเป็นอย่างนี้ หญิงสาวตกใจ ออกญาย้ำ “พ่อเดชเกรงว่าหากเป็นคราวหน้าออเจ้าอาจจักมิได้กลับมาร่างนี้อีก เพราะหากเป็นแม่การะเกดตัวจริงกลับเข้าร่าง พ่อเดชคงมิยินยอม”

เกศสุรางค์ตกใจมากขึ้นที่ท่านออกญาโหราธิบดีรู้ว่าตนไม่ใช่การะเกดตัวจริง...ไม่เพียงเท่านั้น ทุกคนในเรือนเริ่มเผยความรู้สึกให้ฟัง ผินบอกว่ารู้ตอนที่แม่นายเรียกพี่ผินพี่แย้ม แย้มพูดยิ้มๆว่ารู้ตอนแม่นายแจกเงิน และมีอารมณ์ดีตลอดเวลา ผินเสริมอีกว่าแม่นายไม่มองพวกตนเป็นบ่าว จวงก็รู้สึกตั้งแต่แม่นายเรียกตนว่าพี่ จิกเห็นด้วยเพราะปกติจะจิกเรียกพวกตน...แต่ปริกรู้สึกไม่เหมือนใคร

“แต่ข้าเจ้าน่ะนึกว่าแม่หญิงแกล้งทำมารยาสาไถย เจ้าอุบายกลบความร้ายกาจของตัวเอง ข้าเจ้าชังแม่หญิงเหลือที่จะกล่าว”

“มิน่า สะบัดสะบิ้งใส่ข้าตาล้อด...ตาหลอด”

“เกลียดนี่เจ้าคะ”

“แล้วตอนนี้ล่ะ...”

“รักเจ้าค่ะ ถ้าแม่นายท่านว่าอะไรแม่หญิงนะเจ้าคะ ข้าเจ้าไม่ยอมเป็นอันขาด”

“มันจะมากไปแล้วนังปริก” คุณหญิงจำปาหมั่นไส้ ปริกสวนทันที

“ว่าข้าเจ้าเป็นขโมยไม่มากกว่าหรือเจ้าคะ”

“เออ...เอากะมัน จะพูดจนตายฤา”

จ้อยแทรกตัดบทว่า ตนรู้ตั้งแต่ท่านขุนรู้ ขุนศรีวิสารวาจาว่าเกี่ยวอะไรด้วย จ้อยรีบบอกว่า

“พอข้าเห็นออกขุนท่านเลิกเกลียด แต่เปลี่ยนมาเป็นรักแม่หญิง ข้าก็เปลี่ยนใจเหมือนกันขอรับ” คำพูดของจ้อยทำให้ท่านขุนหน้าแดงพูดไม่ออก เกศสุรางค์เห็นแกล้งย้ำ

“จ้อยก็...ออกขุนท่านเขินหน้าแดงแล้วเห็นไหมล่ะ”

“แม่การะเกด...อย่าให้มันเกินงาม เป็นหญิงพูดจามีหูรูดบ้าง...ก็เป็นอันว่าออเจ้าชนะใจคนทุกผู้ในเรือนนี้” คุณหญิงจำปาเอ็ดเชิงเอ็นดู เพราะความจริงตัวเองก็รักและเมตตาแม่การะเกดคนนี้เหมือนกัน

ขณะที่ทุกคนยิ้มแย้ม ออกญาโหราธิบดีถามขึ้นทำให้ทุกคนนิ่งมองเป็นตาเดียว “แม่การะเกด ครานี้จะบอกได้หรือยังว่าออเจ้าเป็นใคร มาจากไหน”

“เอ้อ...ถ้าข้าเป็นใครอื่นมาสิงในตัวแม่การะเกด ข้าจะโดนไล่ไปไม่ให้อยู่ที่นี่ไหมเจ้าคะ”

“ถามลุงฤา”

“เจ้าค่ะ ข้า...ไม่ได้เป็นใครที่ไหน และไม่ได้มาจากที่ใด ข้าคือการะเกด ส่วนหนึ่งของแม่หญิงการะเกดคือข้า เพียงแต่ส่วนที่เป็นข้าเพิ่งปรากฏตัวขึ้นเท่านั้นต่อจากนี้แม่หญิงการะเกดจะเป็นเหมือนที่ข้าเป็น แม่หญิงการะเกดคนเดิมจะไม่มีอีกต่อไป...โอเคไหมพี่ผินพี่แย้ม” เห็นทุกคนทำหน้างงๆ เกศสุรางค์จึงทำมือโอเคกับผินและแย้ม ทั้งสองทำมือตามอย่างเดียวกัน แล้วหันไปถามคนอื่นๆ

“พี่จวง จิก บุ้ง จ้อย แม่ปริก”

ทุกคนยกมือโอเคตอบอย่างเก้กัง แล้วพากันหัวเราะ

ไม่ทันไรเกศสุรางค์ก็หันมาขออนุญาตคุณหญิงจำปาพาขุนศรีวิสารวาจาไปเยี่ยมจันทร์วาด คุณหญิงนึกได้จะบอกลูกชายแต่เกศสุรางค์เอานิ้วแตะปากไม่ให้พูดโดยที่ท่านขุนไม่ทันเห็น

ooooooo

เมื่อขุนศรีวิสารวาจามาถึงเรือนเห็นจันทร์วาดตั้งครรภ์ก็ประหลาดใจ เกศสุรางค์หัวเราะเพราะทีแรกท่านขุนคิดว่านางอวบอ้วนขึ้น

“แหม คุณพี่เจ้าขา มีแม่หญิงคนไหนอ้วนที่พุงเจ้าคะ พอลงพุงเขาก็ไปฟิตเนสกันทั้งนั้น”

“นางเป็นคนพูดจาเพ้อเจ้อ แม่จันทร์วาดอย่าฟังเลย”

“มีคนทำให้อ้วนที่พุงเจ้าค่ะ” เกศสุรางค์หัวเราะชอบใจ ท่านขุนทำหน้างง

จันทร์วาดจึงเฉลยว่า “ข้ามีครรภ์เจ้าค่ะพี่ขุน”

“มีครรภ์...กับ...เอ่อ...ใคร”

ขุนเรืองเดินยิ้มร่าออกมา เกศสุรางค์ยกมือไหว้ ขุนศรีวิสารวาจาชี้ไปที่ขุนเรืองเชิงถาม ขุนเรืองเย้าว่า แปลกใจมากหรือ สหายรักยอมรับและแสดงความยินดีด้วย ขุนเรืองขอบใจและว่าตั้งใจจะพาจันทร์วาดไปเยี่ยมเมื่อรู้ว่ากลับมาจากฝรั่งเศส ขุนศรีวิสารวาจาเย้ากลับว่ารู้จึงชิงมาก่อน แล้วถามถึงคุณหญิงนิ่ม จันทร์วาดตอบว่า

“คุณแม่ท่านย้ายไปอยู่กับคุณย่าเจ้าค่ะ”

“คุณย่าแม่จันทร์วาด เจ้าแม่วัดดุสิตใช่ไหมคะ”

เกศสุรางค์ถาม จันทร์วาดรับว่าใช่ “ที่เป็นแม่นมของขุนหลวง...” ขุนศรีวิสารวาจาให้เรียกพระนม “ค่ะ เป็นพระนม ใช่ไหมคะ”

“ค่ะ ท่านรักษาอุโบสถศีลและปฏิบัติธรรมที่วัดดุสิตารามนอกเกาะเมือง คุณแม่ท่านจึงไปอยู่ด้วย”

“ข้าไม่เข้าใจเลย ขุนหลวงกับคุณลุงขุนเหล็กเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กๆ ทำไมใจร้ายรับสั่งลงโทษโบยจน...” ขุนศรีวิสารวาจาแตะแขนปราม เกศสุรางค์จึงนึกได้ “ข้าขอโทษนะเจ้าคะแม่จันทร์วาด”

จันทร์วาดหน้าเศร้าลง “ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นแรงกรรมที่ทุกคนเคยทำมา ข้าไม่โทษใครทั้งสิ้น บัดนี้คุณแม่ท่านเป็นสุขแล้ว”

หลังจากนั้นเกศสุรางค์มาช่วยจันทร์วาดทำอาหาร ท่านขุนทั้งสองนั่งสนทนากัน ขุนศรีวิสารวาจาชมขุนเรืองว่าเก่งจริงที่ทำให้คุณหญิงนิ่มยอมรับเป็นลูกเขยได้ ขุนเรืองกลับบอกว่า

“หันไปชมคู่หมั้นของออเจ้าเถิด”

ขุนศรีวิสารวาจาพยักหน้า “มิได้ดูแคลนออเจ้าหนา แต่ข้าก็เชื่อว่าเป็นฝีมือแม่การะเกด”

สองสหายขบขัน แล้วขุนเรืองก็กล่าวขึ้นว่า ตนได้อวยยศเป็นหลวงเรืองณรงค์เดชาแล้ว ให้เขาเตรียมรับยศใหม่เช่นกัน ขุนศรีวิสารวาจายิ้มรับ คิดว่าพระวิสุทธสุนทรคงกินตำแหน่งถึงเสนาบดี

ooooooo

ในวันที่ขุนนางไทยเข้ารับอวยยศกับขุนหลวง ปริกชวนการะเกดทำอาหารไว้รอ แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นทำให้นางไม่มีแก่ใจจะทำ ปริกบ่นแบบนี้ท่านขุนหิวตาย เกศสุรางค์ขำที่ปริกพูดคำสมัยใหม่มากขึ้น ปริกว่าจะไปยุ่งอะไรกับเรื่องเข้าเฝ้าตามธรรมเนียม

“อยากรู้ว่าเป็นไงมั่งน่ะสิ แหม...แปลงเป็นแมลงวันไปกะคุณพี่ได้นะ จะไปเลย”

เย็นวันนั้นบนเรือนออกญาโหราธิบดี ขุนศรีวิสารวาจาได้อวยยศเป็นพระศรีวิสารสุนทร พระวิสุทธสุนทรได้อวยยศเป็นพระยาโกษาธิบดี ทั้งสองนั่งอยู่กับหลวงเรืองณรงค์เดชา เล่าเรื่องในวันนี้ให้การะเกดฟังทั้งหมด แต่ดูท่านางยังมีข้อสงสัย พระศรีวิสารสุนทรรีบดักคอ

“แม่การะเกด ออเจ้าจ้องเอาความใดเพิ่มเติม เราทุกคนเล่าให้ออเจ้าฟังหมดแล้ว”

“เมอร์ซิเออร์ลาลูแบร์หน้าตาเป็นยังไงเจ้าคะ”

“ก็เป็นฝรั่งเศส ออเจ้าถามพิกล” หลวงเรืองณรงค์เดชาเอ่ยยิ้มๆ

เกศสุรางค์อยากรู้ว่าเขาชอบจดบันทึกใช่ไหม ทุกคนมองอย่างสงสัย ออกญาโหราธิบดีบอกว่าเห็นจดตลอดเวลา พระยาโกษาธิบดีแปลกใจว่าการะเกดรู้ได้อย่างไร หญิงสาวอ้ำอึ้งแก้ตัวว่าเห็นคนเป็นทูตชอบจดบันทึก

จวงคลานเข้ามาเรียนว่าสำรับพร้อมแล้ว ทุกคนย้ายไปนั่งล้อมวง คุณหญิงจำปาทักทายทุกคนและเพิ่งรู้ว่าใครได้อวยยศเป็นอะไรบ้าง โดยเฉพาะ

พระวิสุทธสุนทรได้ยศเดียวกับพี่ชายและรั้งตำแหน่งพระคลังด้วย เกศสุรางค์มองพระศรีวิสารสุนทรอย่างปลาบปลื้มยินดี เขาสบตาเคลิ้มๆ หลวงเรืองณรงค์เดชาแกล้งกระแอม ทั้งสองชะงักหลบตากัน พระยาโกษาธิบดีบอกคุณหญิงจำปาด้วยว่า

“พระยาวิไชยเยนทร์ได้อวยยศเป็นเจ้าพระยาวิไชยเยนทร์ รั้งตำแหน่งออกญาอัครมหาเสนาบดี ที่สมุหนายกอีกด้วย”

ออกญาโหราธิบดีได้ยินอย่างนั้นรู้สึกไม่ชอบใจนัก “ทรงอวยให้มีอำนาจสูงยิ่ง เป็นถึงจักรี หนึ่งในขุนนางจตุสดมภ์ ตำแหน่งนี้ว่างมานานแล้ว...เขาจักวางอำนาจมากกว่านี้อีกสักเท่าใด ชาวเมืองจะเพิ่มความเกลียดชังเขามากขึ้นอีกเท่าใด พอจะคาดคะเนได้ฤๅไม่”

“เสียงลือว่าเขาสึกพระมากมายไปสร้างป้อมสร้างกำแพง ท่านลุงคิดขุนหลวงจักพิโรธฤๅไม่”

ทุกคนนิ่งอึ้งนึกถึงการกระทำอันเลวร้ายของฟอลคอนหรือเจ้าพระยาวิไชยเยนทร์

ooooooo

อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 13 วันที่ 25 มี.ค.61

ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทประพันธ์โดย รอมแพง
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทโทรทัศน์โดย ศัลยา
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส กำกับการแสดงโดย ภวัต พนังคศิริ
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ออกอากาศเร็ว ๆ นี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ