อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 13 วันที่ 23 มี.ค.61

อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 13 วันที่ 23 มี.ค.61

“คุณป้าเจ้าขา แม่ปริกไม่ได้เอาไปหรอกเจ้าค่ะ เพราะแม่ปริกไม่มีนิสัยขโมยหรอกเจ้าค่ะ”

“ก็ยังไรเล่า ข้าถามอยู่นี่” คุณหญิงจำปาร้อนใจจนกลายเป็นดุดัน ในขณะที่ปริกตาโพลงไม่เชื่อหู

“ข้าก็จะตอบอยู่นี่ไงเจ้าคะ คนขโมยคือคนทำผิด เขาจะกลบความผิดเจ้าค่ะ คือเขาจะทำดีกับทุกคน เขาจะไม่ว่าใคร ไม่ทะเลาะกับใคร เขาจะดีกับทุกคน พอของหายก็จะไม่มีใครสงสัยเขาเจ้าค่ะ พอคนไว้ใจเขาแล้วเขาก็ขโมยเจ้าค่ะ”

“แล้วนังปริกมันเป็นไง”



“เป็นคนปากร้ายไงคะ ไม่ดีกับใครซักคน” มีเสียงแย้งว่าดีกับบุ้ง “เพราะบุ้งเป็นลูกไล่ของแม่ปริกตลอดมา”

ปริกไม่รู้จะทำหน้าดีใจหรือเสียใจดี แต่คุณหญิงจำปายังสงสัยปริก เกศสุรางค์บอกบ่าวทุกคนไปเดินค้นหาให้ทั่ว ตั้งแต่ท่าน้ำยันเรือน เน้นทุกหย่อมหญ้า

บ่ายวันนั้น เกศสุรางค์กลับมานั่งอ่านสมุดบันทึกของท่านขุนต่อ ถึงพิธีถวายสาส์น ท่านขุนบรรยายความสง่างามของพระวิสุทธสุนทรจนเห็นภาพ...แล้วต่อด้วยว่าวันนี้ว่างทั้งวันไม่มีงานการใด เหงาจนคิดถึงออเจ้าเหลือเกินแม่การะเกดของพี่...เกศสุรางค์ยิ้มหน้าบาน ไม่ทันไรผินวิ่งเข้ามารายงานว่าเจอสร้อยของคุณหญิงจำปาแล้ว ตกอยู่ที่ศาลาท่าน้ำ แล้วชวนให้ไปดูหน้าปริก

ปริกนั่งร้องไห้กระซิก คุณหญิงจำปาบ่นว่าจะอะไรนักหนา มันก็ต้องสงสัยไว้ก่อน พอเกศสุรางค์เดินมา ปริกเข้าไปกราบ เกศสุรางค์ตกใจรีบห้าม ปริกรำพันว่าตนมองคนผิดไปถึงสองคน แล้วค้อนคุณหญิงจำปาขวับ...

ooooooo

เกศสุรางค์เข้ามาในหอสมุดเรือนออกญาโหราธิบดี หยิบจับหนังสือมาอ่านอย่างสบายใจจนจบ พอนำกลับไปวาง เห็นบนตู้หนังสือมีพานสีทองวางอยู่ บนพานมีสมุดข่อยพับหนึ่ง

“หลงหูหลงตาได้ไงเนี่ย อยู่เสียสูงเชียว” พูดจบก็เอื้อมสุดแขนไปแตะส่วนฐานของพาน แล้วเลื่อนมือขึ้นแตะสมุดข่อย ทันใดก็รู้สึกสะท้านไปทั้งตัว พลันความรู้สึกดับวูบลงทันที

ในขณะที่ขุนศรีวิสารวาจาอ่านสิ่งที่พระวิสุทธสุนทรบันทึกให้ขุนหลวงนารายณ์ซึ่งทรงนอนเอกเขนกฟังอย่างสำราญพระทัย ว่าด้วยเรื่องความหนาวเหน็บที่ฝรั่งเศส พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 พระราชทานเสื้อขนสัตว์แลหมวกให้ใส่กันหนาว ขุนหลวงอยากรู้ว่าหนาวแค่ไหน พระวิสุทธสุนทรเล่าว่าหนาวจนมือแข็งขยับนิ้วไม่ได้ แต่ถ้าวันใดมีเกล็ดขาวๆตกจากฟ้าจะไม่หนาวเท่าไหร่

“พวกเอ็งอาบน้ำกันมั่งฤาไม่ ถ้ามันหนาวจนมือไม้ แข็ง” ขุนหลวงทรงถามหลวงกัลยาณไมตรีกับพระวิสุทธสุนทรช่วยกันตอบว่าอาบ เพราะมีน้ำต้มให้อาบ สามสี่วันจะอาบสักครั้ง ขนาดนี้คนฝรั่งยังว่าพวกเราอาบบ่อย ขุนหลวงทรงสรวลแล้วทรงถามอีกว่า

“พวกเอ็งจากเรือนไปนานเป็นปี ไม่มีเมียเป็นนางฝรั่งฤา คิดถึงเมียทางนี้เต็มทีล่ะสิ อ้อ ไอ้ขุนศรี เอ็งไม่มีเมีย...ว่ายังไร”

“คิดถึงพุทธเจ้าค่ะ”

“คิดถึงใครวะ”

“คิดถึงคนที่ข้าพุทธเจ้ากำลังจักได้เป็นเมียพุทธเจ้าค่ะ”

ทุกคนหัวเราะเพราะรู้แก่ใจว่าท่านขุนมีคู่หมาย... ขณะนั่งเรือกลับ ขุนศรีวิสารวาจาคิดถึงการะเกดเพราะตั้งแต่กลับมายังไม่ได้คุยกันเท่าไหร่ นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จ้อยลอบมองยิ้มย่อง

ในขณะที่เกศสุรางค์ยังนอนนิ่งอยู่ในหอสมุด วิญญาณการะเกดพยายามจะช่วยเหลือแต่จับต้องร่างไม่ได้ ก็ลุกลี้ลุกลนแวบผ่านประตูออกไปหาคนช่วย...

ผินกับแย้มกวาดถูห้องอยู่ คุยกันหัวเราะขบขัน วิญญาณการะเกดพยายามปรากฏตัวให้เห็น ส่งเสียงขุ่นเคือง

“หัวเราะกันเข้าไปเถิด กูกำลังจะตายนะมึง” พูดจบร่างหายแว้บไปทางประตู

ทั้งสองตกใจวิ่งตามออกไป เห็นจิก จวงและปริกทำงานอยู่ ละล่ำละลักถามหาออกญาโหราธิบดี พอจวงตอบว่าไม่อยู่ก็ถามหาคุณหญิงจำปา จิกบอกว่าสวดมนต์อยู่ ผินโพล่งออกมาว่า


“แม่นายของกูกำลังจะตาย!”

“ฮะ! มึงว่ายังไรนะอีผิน” ปริกนั่งอยู่ทะลึ่งพรวดขึ้นถาม พอผินพูดซ้ำก็เอ็ดว่าปากเสีย

แย้มยืนยันว่าพูดจริงแม่นายมาบอกเอง ปริกไม่รอช้าลุกพรวดวิ่งไปทางหอสมุด บ่าวคนอื่นวิ่งตาม ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาเห็นร่างการะเกดนอนหมดสติ ที่ข้างกายมีพานทองและสมุดข่อยตกอยู่ ทุกคนกรีดร้องจนคุณหญิงจำปาได้ยินสะดุ้งตกใจ

เรือขุนศรีวิสารวาจาเทียบท่า ได้ยินเสียงร้อง เสียงปริกดังกว่าใครก็ตกใจกระโจนขึ้นจากเรือด้วยคิดว่าแม่จะเป็นอะไร

คุณหญิงจำปาตามเข้ามาในหอสมุด ถามว่า “ผู้ใดเป็นอะไร เสียงดังกรี๊ดกร๊าดไปทั้งเรือน นั่นแม่การะเกดเหตุใดมานอนอยู่ที่นี่”

“แม่นายเจ้าขา แม่หญิงตายแล้วเจ้าค่ะ” ปริกรายงานเสียงสั่น

“นังปริก พูดจาอัปมงคลอย่างนี้อยากโดนหวายลงหลังรึ”

“ข้าเจ้ารักแม่หญิง ข้าเจ้ามิพูดจาแช่งชักแม่หญิงหรอกเจ้าค่ะ”

“อ้อ...เอ็งเปลี่ยนใจแล้วข้าไม่รู้ เอ้า...ถอยออกไปอย่ามุง นางจะหายใจมิออก” คุณหญิงจำปาหันไปสั่งจิกกับจวง เอาน้ำร้อนใส่กะละมังและให้ชงยาหอมมาด้วย พลันเห็นลูกชายมาถึง “พ่อเดช...นางเป็นลม แม่จะชงยาหอมให้กิน เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เย็นลง”

ท่านขุนไม่รอช้าปราดเข้าช้อนร่างการะเกด เอานิ้วอังที่จมูกแล้วใจหาย รีบอุ้มร่างปวกเปียกของเธอไปที่หอนอน และสั่งบ่าวตามออกหลวงเวชภักดีมาเดี๋ยวนี้ คุณหญิงจำปาปรามเบาๆ

ท่านขุนเสียงห้วนเข้ม “แม่การะเกดกำลังจะตาย คุณแม่ไม่เห็นฤา!”

คุณหญิงจำปายืนใจหาย ปริกจ้องหน้าคุณหญิงและติงว่า แม่หญิงกำลังจะตายกลับให้กินยาหอม

“ตาย...ใครว่านางตาย ข้าไม่เห็นนางเป็นอะไร”

“แม่หญิงไม่หายใจน่ะสิ ไม่หายใจตายฤาไม่” ปริกตวัดเสียงใส่แล้วผลุนผลันออกไป

“เออ...นังปริก เอาเสียหน้ามือเป็นหลังมือเลยนะเอ็ง” คุณหญิงจำปางงงวยกับท่าทีของบ่าวคู่ใจ

ในหอนอน ขุนศรีวิสารวาจานั่งคุกเข่ากุมมือการะเกดอยู่ข้างเตียง พร่ำรำพันให้เธอตื่นขึ้นมาอย่ากลับไปไหน จนกระทั่งหลวงเวชภักดีมาถึง ตรวจดูอาการแล้วถึงกับแปลกใจ

“ข้ามิเคยพบเห็นอาการป่วยไข้เช่นนี้มาก่อน ลมหายใจเต้นอ่อนนัก แต่เป็นจังหวะอันเสมอกันคล้ายการจำศีลภาวนา เนื้อตัวก็อุ่นมิร้อนมิเย็นน่าประหลาดนัก ก่อนหน้านี้นางได้กินหรือจับต้องสิ่งใดฤาไม่”

“ข้าเจ้าพบแม่นายท่านในหอสมุดเจ้าค่ะ มีสมุดข่อยกับพานทองอยู่เคียงกัน ไม่แจ้งว่าแม่นายจับต้องฤาไม่” ผินรายงาน

ท่านขุนลุกเดินไปยังหอสมุดทันที ปริกพุ่งเข้าถามไถ่น้ำตาปริ่ม จิกกับจวงเหน็บแนมคงสมใจปริก ปริกตวาดกลับว่าอย่ามารื้อฟื้น ตนกลับใจแล้ว

ท่านขุนเดินรี่ไปหาออกญาโหราธิบดี ผู้เป็นพ่อถามทันทีว่าคิดสิ่งเดียวกับพ่อใช่หรือไม่ ท่านขุนรับคำหน้าเครียด ออกญาหวั่นใจ

“หากเราร่ายมนต์กฤษณะกาลีนี้ แล้วแม่การะเกดกลับมาเป็นคนเดิมเมื่อสี่ปีก่อน ออเจ้าจักทำอย่างไร”

“คุณพ่อ...รู้ฤาขอรับว่า นางมิใช่...”

“เหตุใดพ่อจักมิรู้ แม่การะเกดผู้นี้กลับมีนิสัยใจคอที่แตกต่างจากหลานสาวคนเดิมของพ่อ แม่หญิงผู้นี้น่าเอ็นดูยิ่งนัก ความผูกพันนี้กลับมากยิ่งกว่าที่ระลึกถึงหลานสาวคนเดิมเสียอีก”

“ลูกทนให้นางนอนแน่นิ่งอย่างนี้มิได้ขอรับ หากต้องเสี่ยงลูกก็พร้อมยอมรับ ลูกจะสวดมนต์ ถ้าแม่การะเกดของลูกมิกลับมาหรือนางฟื้นคืนแต่มิใช่แม่การะเกดของลูก แต่เป็นแม่การะเกดคนเก่า ลูกก็จักบวชตลอดชีวิตมิขอมีคู่ครองตลอดไป” ขุนศรีวิสารวาจากล่าวหนักแน่น

ooooooo

เสียงสวดมนต์กฤษณะกาลีดังกังวานทั่วเรือน ร่างการะเกดนอนนิ่ง ผินกับแย้มร้องไห้อยู่ข้างๆ วิญญาณเกศสุรางค์ลุกออกจากร่าง เห็นตัวเองนอนนิ่งก็ตกใจ เรียกผินกับแย้มก็ไม่ได้ยิน...ไม่ทันจะกล่าวอะไรอีก เหมือนมีใครดึงไปอย่างแรง

อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 13 วันที่ 23 มี.ค.61

ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทประพันธ์โดย รอมแพง
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทโทรทัศน์โดย ศัลยา
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส กำกับการแสดงโดย ภวัต พนังคศิริ
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ออกอากาศเร็ว ๆ นี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ