อ่านละคร เด็ดปีกนางฟ้า ตอนที่ 2 วันที่ 7 มี.ค.61
นางบอกว่าเดี๋ยวตนกลับเองก็ได้ พิมานรีบขอโทษบอกว่าตนก็แค่อยากลองดูว่าน้องนางเป็นผู้หญิงแบบไหน พลางยื่นนิ้วก้อยไปง้อพิมานขับรถไปส่งนางที่หน้าบ้านแล้วยื่นนิ้วก้อยไปขอโทษอีกครั้ง นางใจอ่อนยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยว ถามว่าแล้วถ้านางตอบไปโรงแรมกับพี่ล่ะ
“ไปไหมล่ะ ยังทันอยู่นะ” พิมานน้ำเสียงลิงโลด “คูปองมันหมดอายุหลังเที่ยงคืน นี่เพิ่งจะสี่ทุ่มเอง” นางผลุนผลันเปิดประตูรถลงไปเลย “อ้าว...น้องนาง...นางงงง...” พิมานเหวอ
“ไอ้หื่นเอ๊ย” นางด่าพลางจ้ำเข้าบ้านอย่างอารมณ์เสีย
ooooooo
เช้าแล้ว นางตื่นเพราะเสียงนาฬิกาปลุก งัวเงียลุกขึ้นนึกได้ว่าวันนี้ต้องไปสมัครงานก็โดดจากเตียง จัดการตัวเองแล้วจะออกไป รัศมีมาเจอถามว่าเมื่อคืนไปกินข้าวกับพิมานเป็นยังไงบ้าง
นางอารมณ์ค้างจากเมื่อคืนด่าเป็นชุด...ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้อย่างกับลิเกหลงโรง เต๊ะท่าน่าหมั่นไส้มาก
รัศมีติงว่าเขารวยก็ต้องวางมาดเป็นธรรมดา บอกเชิงบีบว่า
“ฟังแม่นะนาง เธอต้องทำเพื่อบ้านเรา เพราะเราไม่มีทางเลือกแล้ว”
นางหนักใจบอกแม่ว่าวันนี้ตนต้องไปสมัครงานพลางจะออกไป ถามว่าอำนวยเตรียมรถแล้วหรือยัง
นางจึงรู้ว่าพ่อให้คนออกไปหมดแล้ว ครั้นนางจะขับไปเองก็ไม่มีรถ เพราะพ่อเอาไปฝากเต็นท์ขายหมด เหลือแต่รถซื้อกับข้าวของป้าชุน นางจึงจำต้องขับรถซื้อกับข้าวไปสมัครงาน เมื่อไปถึงที่ตั้งสายการบิน นางอายที่ขับรถโทรมๆมาจึงหลบไปจอดที่อื่น แต่พอถือกระเป๋าเอกสารลงจากรถ ก็เจอวรินยุพาหรือไวน์คู่ปรับตั้งแต่วัยเรียนมากับชะเอมเพื่อนคู่หู
พอเจอกันก็จิกกัดกันทันที ไวน์ถามว่าเดี๋ยวนี้ยังเที่ยวแย่งแฟนชาวบ้านเหมือนเดิมหรือเปล่า ถามว่าทำศัลยกรรมหน้าที่ไหนมา ดักคอว่าอย่าบอกนะว่ามาสมัครเป็นแอร์ที่นี่ พอนางบอกว่าใช่ ไวน์ก็วี้ดว้ายอย่างมีจริตว่าเกิดอะไรขึ้น พ่อแม่ถูกตัดจากกองมรดกหรือทั้งสองทำท่าจะมีเรื่องกัน ชะเอมขอร้องไวน์ว่าอย่าไปมีเรื่องกับเขา พลางดึงไวน์ออกไป นางมองไวน์ อย่างไม่ยี่หระ แค่นี้มันจิ๊บๆ
ooooooo
ขณะนั่งรอ นางมโนไปต่างๆนานาถึงมาตรฐานการคัดเลือกแอร์ นับตั้งแต่น้ำหนัก ส่วนสูง การเดิน การไหว้ และการดูแลผู้โดยสาร ผู้สมัครมีทั้งที่ทำคล่องสง่าและเงอะงะเก้กังนั่งมโนไปถึงการสัมภาษณ์ที่ตัวเองแม้จะเก่งภาษาแต่ไม่ได้ใช้มานานก็เริ่มตื่นเต้น แต่ก็ตอบสัมภาษณ์ได้อย่างดีทั้งที่เป็นหลักการและปรุงแต่งให้ดูดี จนกรรมการปรบมือให้
“ผู้สมัครคนต่อไปคุณคะนึงนาง จิตรไพศาลค่ะ” เจ้าหน้าที่ออกมาเรียกแต่ไม่มีใครตอบรับ จนเจ้าหน้าที่เรียกซ้ำอีก นางจึงตื่นจากภวังค์รีบแสดงตัว
“อยู่นี่ค่ะ ดิฉันคะนึงนางค่ะ” นางรีบเดินเข้าห้องสัมภาษณ์
“ขอให้โง่ ขอให้มันสะดุดขาตัวเองหกล้ม” ไวน์จิกตามองตามปากก็แช่ง ชะเอมถามว่าทำไมเธอไม่ชอบเขา เขาก็ดูสวยน่ารักดี “ชะเอม! อย่ามาชมนังนั่นให้ฉันได้ยินนะ เธอไม่รู้หรอกว่ามันทำฉันเจ็บแสบขนาดไหน ...มันชอบสตรอตั้งแต่เล็กจนโตผู้ชายกี่คนๆหลงเสน่ห์มันหมดแหละ”
“เหรอ...แสดงว่าเธอรู้จักเขามานานแล้วสิ”
“ก็ตั้งแต่มัธยมจนมหาลัย แล้วยังดันมาเจอที่นี่อีก เซ็งจริงๆ” ไวน์จิกตาหน้าร้ายแต่ชะเอมก็ยังเฉยๆ
แล้วไวน์ก็สบโอกาส เมื่อนางสัมภาษณ์เสร็จ
ออกมา ไวน์แกล้งชนนางจนกระเป๋าและเอกสารหล่นกระจายแล้วทำเป็นขอโทษ แต่เหน็บว่า
“แหม...เดินหน้าบานเลยนะสงสัยจะแอบส่งซิกเขี่ยเท้ากรรมการไปแล้วล่ะสิ”
“ฉันไม่ต้องทำแบบนั้นหรอกไวน์ ถ้ามีหน้าพลาสติก อย่างเธอมาสมัครกันเยอะๆ ฉันก็คงแทบไม่ต้องออกแรงอะไรด้วยซ้ำ” นางโต้กลับทันควันแบบขิงก็รา ข่าก็แรง ไวน์สะอึกเข้าไปจะตบ นางยื่นหน้าท้าว่าถ้าไม่กลัวถูกตบจนจมูกเบี้ยวก็เข้ามา ทั้งสองต่างเงื้อง่าเข้าหากัน
ขณะนั้นเอง เกดแก้วหรือผักกาดสาวห้าวกับนักรบเกย์มาดแมนโผล่จากไหนไม่รู้วิ่งเข้ามาห้าม นักรบแทรกเข้ายืนกลางขวางไวน์กับนาง ปรามว่าทำอะไรกันเดี๋ยวก็ถูกตัดสิทธิ์กันหมดหรอก ผักกาดดึงนางไว้ และชะเอมก็ดึงไวน์ออกไป ไวน์ยังจิกตามองนางแบบ... ฝากไว้ก่อน
ooooooo
นาง นักรบ และผักกาดมานั่งที่ร้านกาแฟชั้นล่าง ของสายการบิน นางขอบคุณนักรบที่มาห้ามไม่งั้นนังไวน์หน้าแหกไปแล้ว บอกว่าที่มีเรื่องกันเพราะเคยมีคดีกันมาก่อน
ทั้งสามนั่งคุยกันอย่างถูกคอ จึงรู้ชื่อกันว่าคนหนึ่งชื่อนักรบ อีกคนชื่อผักกาด นางแนะนำว่าตัวเองชื่อนาง ผักกาดแนะนำว่าพ่อนักรบเป็นนายพลเลยตั้งชื่อให้ลูกชายว่านักรบ
“ที่ไหนได้ ได้ลูกเป็นตุ๊ดตู่ค่ะ แต่เดี๊ยนรับชื่อนักรบไม่ได้เลยเปลี่ยนเป็นนาตาลีฮ่ะ” นักรบจีบปากจีบคอ เลยหัวเราะขำกัน
“ฉันชื่อนาง ยินดีที่ได้รู้จักนะผักกาดแอนด์นาตาลี”
“แด่อนาคตนางฟ้า Angel Airlines!” นักรบชูแก้วกาแฟชนกับสองสาว
ที่ข้างๆมีชั้นวางหนังสือ ผักกาดหันไปเห็นนิตยสารจึงหยิบมาดู
“เออนี่...พวกเธอเห็นนิตยสารเล่มนี้รึยัง หน้าปกเป็นผู้ช่วยนักบินที่นี่”
“เขาเรียก โคไพลอตย่ะ” นักรบปากยื่นปากยาว แต่พอเห็นปกรูปปฐพีก็เพ้อ “โอ้ว...มายก๊อด...หล่อน่าจิกมากกกกก...”
“ไหนๆขอดูหน่อยซิ” นางชะโงกเข้าไปดู เลยกลายเป็นสามคนสุมหัวกันดูรูปปฐพี สองสาวตาค้าง
แต่นักรบดูไปก็ซี้ดซ้าดไป จนนางกับผักกาดขำ
ooooooo
สามแอร์สาวที่คลั่งไคล้ความหล่อของปฐพี นอกจากซื้อนิตยสารที่มีปฐพีขึ้นปกไปนอนกอดแล้ว วันนี้เป็นวันหยุดก็อุตส่าห์นัดกันมาดักรอเขาที่ประตูทางเข้าออฟฟิศ
พอเห็นปฐพีในชุดลำลองใส่แว่นตาดำก้าวลงจากรถหรูของเขา สามสาวก็พากันกรี๊ดสยิวแล้วกรูกันเข้าไปแย่งกันทัก
“สวัสดีค่ะ พี่โคไพลอตปฐพี”
“พวกเราเห็นพี่ในแมกกาซีนแล้วค่ะ หล่อมากกกก...”
“พี่ปฐพีเซ็นหนังสือให้หนูหน่อยได้ไหมคะ” ขอพลางยื่นหนังสือให้ อีกสองสาวเอาบ้าง ปฐพีรับไปเซ็น
“โอ้โห...มีกันคนละเล่มเลย ขอบคุณที่ช่วยกันซื้อนะครับ”
สาวหนึ่งจะชวนปฐพีไปทานข้าว บอกว่าตนจะเลี้ยงเอง ปฐพีปฏิเสธอย่างนุ่มนวลว่าตนมีนัดสัมภาษณ์กับนิตยสารอีกเล่มหนึ่ง พอดีช่วงนี้เป็นจังหวะโปรโมตสายการบินเราอยู่ แล้วขอตัวเดินเลี่ยงไปเลย
“งั้นเดี๋ยวเราจะรอพี่แถวๆนี้นะคะ” สาวหนึ่งเอ่ยอีกสาวนัดเดี๋ยวเจอกัน แล้วทั้งสามสาวก็แข่งกันยิ้มหวานให้ปฐพีที่รีบเดินไป
ooooooo
กินกาแฟผูกมิตรกันแล้ว เมื่อจะกลับนักรบถามนางว่าเอารถมาหรือเปล่า จะได้เดินไปด้วยกัน นางอึกอักเพราะอายรถเก่า แล้วทำเป็นตกใจว่าลืมเอกสารที่บริษัทแจก ผักกาดให้รีบไปเอาจะได้อ่านเตรียมตัวให้ดี
พอดีลิฟต์มา นางรีบเข้าลิฟต์โล่งใจที่สลัดตัวออกมาได้ แล้วพลิกเอกสารดูจึงเห็นรูปปฐพีอยู่ในเอกสารแนะนำ นางมองนิ่งอย่างสนใจพึมพำ “ถ้าได้เจอหล่อๆ รวยๆแบบนี้มั่งก็ดีสิ”
ปฐพีแยกจากสาวแอร์ทั้งสาม มาเจอเพื่อนพนักงานส่งกระเป๋ากีฬาที่เขาลืมไว้เมื่อวานให้ รับกระเป๋าแล้วเดินมาที่หน้าลิฟต์กดเรียกแล้วนึกได้ว่าแอร์สาวทั้งสามบอกว่าเดี๋ยวจะมารอตรงนี้ ก็เปลี่ยนเอาชุดกีฬากับหมวกแก๊ปมาสวม ใส่แว่นกันแดดแล้วจะกดลิฟต์
ประตูลิฟต์เปิดพอดีเห็นนางยืนอยู่ ปฐพีสะดุดความสวยของเธอ นึกว่าเธอจะออกเพราะตนยังไม่ได้กดลิฟต์ ส่วนนางรอว่าทำไมเขาไม่เข้ามา ต่างมองกันนิ่งไปอึดใจ ปฐพีจึงเข้าลิฟต์
นางกดลิฟต์ชั้น B ก่อนแล้ว ส่วนเขากดชั้น 1 ต่างมองหน้ากันเก้อๆ นางเลยเฉไฉก้มเก็บเอกสารใส่กระเป๋า แต่ในความคิดของทั้งสองต่างกังวล นางกลัวลงไปเจอไวน์อีกจะทำยังไงดี ส่วนปฐพีกังวลว่าสามสาวนั่นไปหรือยัง เลยเปลี่ยนใจออกทางชั้นใต้ดินดีกว่า
พอลิฟต์ลงมาถึงชั้น 1 ที่ปฐพีกด เขากลับไม่ออก นางระแวงว่าเขาจะมาไม้ไหน แต่พอถึงชั้น B เขารอให้นางออกไปก่อนแล้วจึงก้าวตาม
พอออกจากลิฟต์ นางมองไปรอบๆกลัวเจอไวน์ ฝ่ายปฐพีก็เลี่ยงจะออกไปข้างนอก พอนางไปถึงรถก็รีบผลุบเข้าไปแล้วรีบสตาร์ต แต่รถเจ้ากรรมเกิดไม่ติดอีก นางพยายามอีกทีก็ไม่ติด นางทุบพวงมาลัยอย่างหงุดหงิด พอเงยขึ้นก็ร้องกรี๊ดเมื่อเห็นหน้าปฐพีแนบหน้ากับกระจกมองเข้ามา เธอนึกว่าเป็นคนร้าย
ที่แท้ปฐพีเห็นเธอสตาร์ตรถไม่ติดจึงมาช่วยดู เขาเปิดฝากระโปรงบอกให้ลองสตาร์ตใหม่ก็ไม่ติดอีก เขาจึงเดินกลับมาเปิดประตูด้านคนขับ นางตกใจถีบเขากระเด็นแล้วสตาร์ตรถเกิดติดทันที เธอตะบึงออกไปทั้งที่กระโปรงรถยังเปิดค้างอยู่ นางตกใจมองไม่เห็นทางเลยเบรกอย่างแรง กระโปรงรถปิดโครม นางแค้นเลยถอยรถไปหาปฐพีที่ยืนกุมท้องอยู่ ดีที่เขากระโดดหลบทัน นางเลยรีบขับรถออกไป
ที่อีกฝั่งถนน ไวน์กำลังจะข้ามถนนไปที่รถตัวเอง นางขับรถออกมาอย่างเร็วเหมือนจะพุ่งชนไวน์ ไวน์ตกใจ รีบหลบเห็นนางแวบๆ แต่ก็ไม่แน่ใจเพราะรถเก่าโทรมมาก
ฝ่ายปฐพีหลบรถนางจนหมวกแก๊ปหลุด มือยังถือแว่นที่ถอดไปเคาะกระจกรถเรียกนาง เขากุมท้องบ่น
“โหย...คนเราใจทำด้วยอะไร ช่วยแล้วยังมาถีบกันอีก...อูยยยย...”
บังเอิ๊ญ...สามแอร์สาวมาเจอปฐพีก็วิ่งกรูกันเข้ามา เขาหันมาเห็นสามสาวก็เซ็งสุดขีด...
ฝ่ายนางพอหนีไวน์กับปฐพีมาได้จะเร่งเครื่องให้เร็วก็เร่งไม่ขึ้นเพราะรถเก่ามาก พอเร่งมากเข้าเครื่องก็ดับกลางแดดจ้า เรียกแท็กซี่จะกลับบ้านแท็กซี่ก็ไม่ไป นางยิ่งเซ็ง จะเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอะไรขนาดนี้!
ooooooo
แต่ในความเคราะห์ร้ายยังมีโชคดี เมื่อเช้าวันรุ่งขึ้นทางสายการบิน โทร.มาแจ้งว่าเธอสอบผ่านสัมภาษณ์แล้ว นางดีใจวิ่งลงไปบอกแม่ที่กำลังนั่งกินอาหารเช้ากับน้องได๋อยู่ ป้าชุนดีใจถามว่าจะไป
ทำงานแล้วหรือ
“ยังค่ะ นางยังต้องสอบว่ายน้ำ ตรวจสุขภาพแล้วก็ยังมีอบรมอีกหลายขั้นตอน ไม่ได้เข้าไปทำงานง่ายๆหรอก” รัศมีถามทันทีว่าแล้วกับพิมานล่ะไปถึงไหนแล้ว “ก็ไม่ถึงไหนหรอกค่ะ นางเพิ่งเจอเขาครั้งเดียวเท่านั้น”
รัศมีถอนใจบอกว่ามันก็แล้วแต่ คือถ้าคลิกหรือถ้าทำให้มันคลิก แค่ครั้งสองครั้งก็เป็นแฟนกันได้แล้ว บอกนางว่า คุณสร้อยศรีก็โทร.มาถามว่าสองคนเป็นยังไง ดูท่าทางเขาก็เชียร์อยู่
“น้องนางเป็นความหวังสุดท้ายของบ้านเราแล้วนะคะ” ป้าชุนลุ้น น้องได๋ถามว่าแล้วตนล่ะ รัศมีเร่งให้กินข้าวเดี๋ยวจะได้ไปซื้อหนังสือเรียนกัน นางได้จังหวะเลยเปลี่ยนเรื่องถามว่านี่กำลังทำอะไรกันอยู่ ป้าชุนบอกว่าตรวจเช็กค่าใช้จ่ายเดือนนี้
น้องได๋ได้ทีพูดแทรกว่าค่าช็อปปิ้งของพี่นางรูดบัตรไปเจ็ดหมื่น รัศมีสั่งต่อไปนี้ห้ามช็อปปิ้งเด็ดขาด พอป้าชุนอ่านค่าบริจาคงานกุศลต้านมะเร็งของคุณนายหนึ่งแสนห้าหมื่น นางก็โวยว่าเยอะกว่าตนตั้งสองเท่า ป้าชุนบอกว่าค่าเทอมน้องได๋หกหมื่น รัศมีก็ดึงใบค่าเทอม ไปบอกว่าอันนั้นไม่ใช่ แล้วเปลี่ยนเรื่องเร่งให้น้องได๋ไปซื้อหนังสือนอกเวลาได้แล้ว
ป้าชุนสบตารัศมีแล้วชวนน้องได๋รีบไปกัน เดี๋ยวสายรถจะติด พอจะไปขึ้นรถน้องได๋บอกป้าชุนว่าไม่ต้องซื้อหนังสือแล้วมั้ง ถามว่าเปิดเทอมตนยังจะได้ไปโรงเรียนอีกเหรอ ค่าเทอมแพงเรามีจ่ายเหรอ ป้าชุนตัดบทว่าเรื่องนั้นไว้ให้คุณพ่อกับคุณแม่คิด น้องได๋มีหน้าที่เรียนก็เรียนไป
พอป้าชุนพาน้องได๋ออกไป นางก็ถามแม่ว่าพ่อเป็นยังไงบ้างไม่ค่อยได้เจอกันเลย รัศมีบอกว่าพ่อกำลังวุ่นวายกับการต่อรองกับแบงก์ ทรัพย์สินต่างๆ ของเราอาจโดนยึดหมด
“นางจะพยายามเป็นแอร์ให้ได้ อีกหน่อยนางมีเงินเดือนคงพอจะช่วยอะไรได้บ้างนะคะแม่”
รัศมีบอกว่าช่วยได้แน่ถ้าเธอทำให้พิมานชอบเธอได้ ย้ำว่า “เขาคือความหวังของเรานะนาง” นางถามว่าแล้วถ้าตนไม่ชอบเขาล่ะ “อยู่ๆไปเดี๋ยวก็ชอบกันเองแหละ ทางนั้นเขาก็เปิดโอกาสให้แล้ว จะกลัวอะไรอีก ใช้ความสวยให้เป็นประโยชน์หน่อยสิ...โอกาสมันอยู่ตรงนี้แล้ว เราต้องคว้ามันสิ”
รัศมีพูดจบ มือถือของนางก็มีสายเข้า นางดูแล้วบอกแม่ว่า พูดถึงก็โทร.มาเลย นางไม่อยากรับสายรัศมีจึงรับแทน พอรัศมีรับสาย พิมานถามถึงนาง รัศมีบอกว่ากำลังจัดดอกไม้อยู่เดี๋ยวแม่เรียกให้ อึดใจเดียวก็บอกว่านางมาแล้ว พลางยื่นโทรศัพท์ให้ทำปากบอกให้รีบคุยเร็วๆ นางทำเสียงหวานทักทั้งที่หน้าเซ็งมาก
ฝ่ายพิมานนั่งคุยโทรศัพท์โดยมีสร้อยศรีแม่จอมบงการคอยบอกบทอยู่ข้างๆ พิมานบอกว่าคุณแม่อยากเจอนางมากเลย เดี๋ยวจะให้รถไปรับนางกับคุณแม่ตอนห้าโมงเย็น คุยเสร็จพิมานวางสายเซ็งๆ แต่สร้อยศรีดี๊ด๊าชมว่าดีมาก พิมานติงว่านี่มันมากไปแล้ว เพราะตนไม่ได้ชอบน้องเขาเลย
“อย่าเยอะ!” สร้อยศรีเสียงแข็งทันที “น้องออกจะสวย บ้านก็ร่ำรวย เธอก็รู้ว่าเราต้องทำเพื่ออะไร”
แล้วสร้อยศรีก็เรียกจิตสาวใช้ให้ไปห้างซื้อกระเช้าของขวัญให้แขก ย้ำไม่เอาแพง รังนกก็ไม่เอา พอจิตจะไปก็เรียกไว้บอกว่า
“เอางี้ดีกว่า เธอไปซื้อของที่ตลาดมาจัดเอง กระเช้าเปล่าบ้านเราก็มีใช่ไหม”
พอจิตรับคำสั่งออกไป พิมานถามว่า “แม่...แน่ใจเหรอครับว่าคนนี้จะใช่”
ooooooo
รัศมีเอาเครื่องเพชรที่เริ่มร่อยหรอให้ป้าชุนไปจัดการเหมือนเดิมเพื่อเอาเงินไปจ่ายค่าเทอมให้น้องได๋ ป้าชุนเสนอให้หาโรงเรียนแถวนี้ให้น้องได๋เรียนจะได้ประหยัด แต่รัศมีไม่อยากให้น้องได๋มีปมด้อย
ฝ่ายสร้อยศรีก็เล่าความร่ำรวยและธุรกิจที่มั่นคงของไพรัชให้พิมานฟัง ถ้าได้ดองกัน เขาก็ได้ชาติตระกูลเรา เราก็ได้สมบัติเขา คะนึงนางก็เป็นเด็กสวยกิริยามารยาทหมดจด เห็นว่าทำขนมทำอาหารเก่ง ก็น่าจะช่วยธุรกิจเราได้ แล้วหว่านล้อมลูกชายว่า
“บ้านเรากำลังลำบากนะพิมาน พ่อเสียหุ้นไปเท่าไหร่เธอก็รู้...แต่เราจะให้ใครรู้เรื่องนี้ไม่ได้ ไม่งั้นพ่อเขาจะต้องบินไปขอเงินย่าแกที่อเมริกาทำไม อัคราชจะต้องไม่เสื่อมเสีย แม่หวังว่าพิมานจะไม่ทำให้แม่ผิดหวัง”
แม้พิมานจะตกใจเมื่อรู้ความจริง แต่ก็เซ็งสุดขีดเมื่อแม่ฝากความหวังให้เขาจับคะนึงนางให้ได้
ในการไปร้านอาหารของพิมานครั้งนี้ สร้อยศรีให้จิตไปซื้อของมาจัดกระเช้าเองเพื่อความประหยัด ส่วนรัศมีก็เอาของเก่าที่มีอยู่แล้วและยังไม่ได้ใช้เอามาจัดกระเช้าไปให้สร้อยศรี ต่างก็วางท่าร่ำรวยทั้งที่ยอบแยบเต็มที จมไม่ลง...
เมื่อหนุ่มสาวมาเจอกันแล้ว แม่ทั้งสองก็เปิดโอกาสให้หนุ่มสาวได้ไปนั่งเล่นในสวนกันตามลำพัง ส่วนสองแม่ก็มาดูเครื่องเพชรกันอย่างอารมณ์ดี สร้อยศรีเอาแหวนเพชรน้ำงามให้รัศมีดูบอกว่าเป็นวงที่ตนตั้งใจจะไว้รับขวัญสะใภ้ เมื่อคุยถึงธุรกิจของสามีต่างก็คุยถึงผลสำเร็จและการขยายตัวอย่างกว้างขวาง
ฝ่ายพิมานพานางไปนั่งที่สวนแล้วขอตัวไปเอาน้ำส้มมาให้ แต่ที่แท้แอบไปนั่งจิบไวน์อยู่ที่เคาน์เตอร์ในบ้าน จนสร้อยศรีมาเจอก็ตำหนิว่าทำอะไรอยู่ที่นี่
นางนั่งรออยู่ข้างนอก เขาบอกว่ากำลังจะออกไป
“นี่ อย่าให้แม่ต้องพูดหลายครั้งได้ไหม เขาเป็นความหวังของบ้านเรานะ” แล้วไล่ให้รีบไปดูนาง
หลังอาหาร พิมานขับรถหรูไปส่งรัศมีกับนาง ต่างก็หวานกันจนรัศมีพอใจ ก่อนกลับพิมานเอ่ยเสียงโรแมนติกว่า “คืนนี้เจอกันในความฝันนะครับ” นางยิ้มหวานทอดไมตรีให้สุดฤทธิ์ แต่พอหมุนตัวเดินเข้าบ้านก็ชักสีหน้าพูดเบาๆ อย่างสะอิดสะเอียน... “สะเหล่อมากกกกก...”
ooooooo
สามอาทิตย์ต่อมาปรียา เจ้าหน้าที่ระดับบริหารของบริษัท จัดงานต้อนรับทุกคนที่สอบผ่านเข้าเป็นสมาชิกใหม่ของ Angel Airlines
ปรียาประกาศในที่ประชุมว่า การอบรมพนักงานรุ่นนี้จะพิเศษกว่าทุกครั้ง จะมีการเชิญสื่อบ้างเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะเสาร์นี้จะมีการจัดงานแฟนซีปาร์ตี้เพื่อเป็นการพบปะสังสรรค์ประจำปีในหมู่นางฟ้าของพวกเราและเพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ว่าที่ลูกเรือใหม่จึงให้พวกเธอเข้าร่วมงานครั้งนี้ด้วย ใครมีไอเดียอะไรก็ขนมาประชันกันให้เต็มที่ อย่าให้นักข่าวช่างภาพที่เราเชิญมาผิดหวัง
ทุกคนกรี๊ดกร๊าด ดีใจที่จะได้โชว์ตัวและออกสื่อ
ไวน์ก็ผ่านการคัดเลือกเช่นกัน พอเจอกับนางก็จิกกัดกันจนเกือบมีเรื่องเช่นเคย ดีที่นักรบกับผักกาดคอยห้ามไว้ พอแยกจากไวน์ ทั้งสามก็คุยกันว่างานนี้จะจัดเต็มเลย และหวังอย่างยิ่งว่างานนี้จะได้เจอโคไพลอตปฐพีสุดหล่อสมใจเสียที
อ่านละคร เด็ดปีกนางฟ้า ตอนที่ 2 วันที่ 7 มี.ค.61
ละครเรื่อง เด็ดปีกนางฟ้า บทประพันธ์โดย: ลินินละครเรื่อง เด็ดปีกนางฟ้าบทโทรทัศน์โดย: แดน ซิวิไลซ์และพราว พิสุทธิ์
ละครเรื่อง เด็ดปีกนางฟ้ากำกับการแสดงโดย: คุณสำรวย รักชาติ
ละครเรื่อง เด็ดปีกนางฟ้าผลิตโดย: บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ติดตามชมละครเรื่อง เด็ดปีกนางฟ้า ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ