อ่านละคร คมแฝก ตอนที่ 1 วันที่ 18 มี.ค.61
คำขู่ของแสนทำให้ทุกคนในครอบครัวปานมองหน้ากันเครียดๆ โดยปานกับแจ้ ผัวเมียเจ้าของร้านกาแฟเก่าแก่ประจำตลาด จำได้ดีถึงวันที่แสนโค่นเฮียเล้งเจ้าพ่อเมืองพลคนก่อนเฮียเล้งถูกแสนใช้คมแฝกสังหารอย่างเลือดเย็น สีหน้าของแสนนิ่งสงบจนทุกคนที่เห็นเหตุการณ์กลัวจับจิต เชื่อโดยไม่ต้องถามว่าเขาจะฆ่าแบบไม่ลังเลหากใครกล้าประกาศตัวเป็นศัตรู
เหล่าลูกน้องของแสนไม่พบแม้แต่เงาของกัลป์ในร้านกาแฟของปานกับแจ้ แสนมั่นใจว่าอดีตเพื่อนรักต้องอยู่ที่นี่จนกว่าจะเจอแม่กับน้องสาว และที่ที่เขาคิดว่าอีกฝ่ายอาจไปกบดานคือวัดเก่าเมืองพล!
ooooooo
แสน ราชสีห์ พาลูกน้องไปค้นวัดเก่าเมืองพล พลันความทรงจำเก่าๆสมัยฝึกวิชาคมแฝกกับอาจารย์อัคนีก็ผุดในหัว เขาจำบทเรียนอันหนักหน่วงได้ดี รวมทั้งเสียงอันทรงพลังของอัคนีที่พร่ำบอกจุดแข็งจุดอ่อนของเขากับกัลป์
“แสน ราชสีห์...ลีลาการต่อสู้โจมตีดุดัน แข็งกร้าว รุกฆาต!”
อีกด้านเวลาเดียวกัน กัลป์ฝึกท่วงท่าลีลาแม่ไม้คมแฝกด้วยท่าทางสง่างาม
“กัลป์ เกรียงไกร...พลิ้วไหว นุ่มนวลแต่เข้มแข็งและห้าวหาญในลีลา!”
อัคนีเฝ้ามองพัฒนาการของสองศิษย์เอกด้วยความภาคภูมิใจ
“เอ็งทั้งสองมีจุดเด่นที่ต่างกัน ถ้าประสานความต่างให้เป็นหนึ่ง ต่อไปก็ยากจะมีใครต่อกร”
แสนดึงตัวเองจากอดีต สีหน้าขมขื่นเมื่อคิดถึงความแค้นที่มีกับอดีตเพื่อนรัก เหล่าสมุนเดินมาบอกว่าไม่พบตัวกัลป์ในวัด แสนหัวเสียมากก่อนเบิกตาโพลงเมื่อคิดได้ว่ายังมีอีกที่!
โกดังผีของตะโพนเป็นเป้าหมายถัดมาของแสน เจ้าของเรือนยังไม่รู้เรื่อง นั่งคุยกับกัลป์ที่เขาพามาซ่อนตัวด้วยถึงสาเหตุที่อีกฝ่ายกลับมาเมืองพลทั้งที่รู้ว่าต้องมีเรื่อง กัลป์ไม่ตอบก้มหน้าก้มตาช่วยยกโลงเหมือนจะบ่ายเบี่ยง สัปเหร่อประจำเมืองอยากซักให้มากกว่านี้ แต่มีเสียงปึงปังหน้าประตูเสียก่อน
เสียงตะโกนของแสนทำให้ตะโพนสะดุ้ง ก่อนตั้งสติได้สั่งกัลป์ไปซ่อนตัวในโลงศพและตอกตะปูผนึกฝาโลงไว้ เมื่อพวกแสนเข้ามาด้านในจึงเห็นเขาอยู่ตามลำพังกับโลงศพ
“มีอะไรนายแสน...ที่บ้านมีคนตายเหรอ...อนิจจัง วัตตะ สังขารา...เฮ้อ...ดีจังเลย...นี่ฉันกำลังขาดเงินพอดี เมื่อกี้ยังไหว้เจ้าที่อยู่เลยนะว่าขอให้พวกชั่วๆตายกันสักสองสามคน”
เข้มขัดหูแหวแทนเจ้านาย “เฮ้ย...พูดอะไรระวังปากหน่อย”
“ข้าด่าคนชั่ว...ใครคิดว่าตัวเองดีก็อย่าร้อนตัวสิวะ”
แสนรำคาญเสียงค่อนแคะกวนประสาท หวดคมแฝกใส่ตะโพนจนจุกแทบร้องไม่ออก
“อย่าลีลา...ไอ้กัลป์อยู่ที่นี่ใช่ไหม”
“ก็ค้นแล้วเจอไหมล่ะ...อุตส่าห์หนีมาอยู่กับผีแล้วยังมาวุ่นวายกับข้าอีก”
ตะโพนพยายามไม่มองทางโลงศพ แสนเห็นพิรุธสั่งลูกน้องงัดฝาโลง เหล่าสมุนพากันเบ้หน้าเพราะได้กลิ่นเหม็นเน่า กระนั้นก็พยายามทำตามคำสั่ง แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหววิ่งไปอ้วก
แสนเจ็บใจมากแต่ไม่รั้นค้นหา ผลุนผลันออกจากเรือนตะโพน กัลป์เลยรอดมาได้อีกครั้ง...
ooooooo
เพลิง กัมปนาท ตำรวจหนุ่มขาบู๊แอบปลอมตัวมาในคราบหนุ่มพเนจร เร่ร่อนรอนแรมจากต่างเมืองหวังหางานทำในเมืองพลโดยมีจุดประสงค์แฝงจะสืบเรื่อง แสน ราชสีห์
การมาถึงของเพลิง ชายหนุ่มแปลกถิ่นมาดกวนเป็นที่จับตาของพวกชาวบ้าน ไม่เว้นแม้แต่รองเพชร ไพบูลย์ ตำรวจหนุ่มตงฉินประจำเมืองพลที่ตัดสินใจเฝ้าดูห่างๆไม่อยากแสดงตัวเพราะอีกฝ่ายอาจเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา
เพลิงไปหาข่าวในตลาดแบบไม่สนสายตาใคร และร้านกาแฟเก่าแก่ของปานกับแจ้ก็เป็นที่ที่เขาเลือก เหล่าสมุนของแสนขาประจำของร้านเห็นชายหนุ่มแปลกหน้าก็จะหาเรื่องเหมือนเคย เพลิงรู้ตัวแต่ไม่อยากตอบโต้ให้เป็นจุดเด่น แสร้งหันไปแหย่ตะเภาสาวหน้าหมวยเจ้าของร้านกาแฟ
เหล่าสมุนของแสนเหม็นขี้หน้าชายหนุ่มแปลกหน้า พยายามท้าทายให้มีเรื่องแต่ต้องสลบเหมือดไม่เป็นท่าเมื่อถูกเพลิงในมาดหนุ่มมาดกวนเล่นงานคืนด้วยท่าทางสุดยียวน
กัลป์ เกรียงไกร ไม่ได้สนใจการมาถึงของใคร มุ่งหน้าไปกราบหลุมศพก้าน พ่อแท้ๆที่ถูกแสนยิงตาย
“พ่อ...ผมกลับมาแล้ว ผมจะเอาทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนมาให้ได้!”
สถานการณ์อึมครึมในเมืองพลทำให้ตะเภาอึดอัดแอบไปหากัลป์ถึงเรือนของตะโพน
กัลป์แปลกใจที่เห็นหน้าตะเภา “รู้ได้ยังไงว่าพี่อยู่ที่นี่”
“โถพี่...อย่างกับพี่มีที่ไปเยอะนักนี่”
“พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าเราไม่ควรจะพบกัน”
“แต่ฉันมีข่าวสำคัญมาบอก”
เรื่องสำคัญของตะเภาคือความเป็นไปและอนาคตของเมืองพล เกือบสิบปีที่ผ่านมาอิทธิพลของแสน ราชสีห์ ทำให้ชาวเมืองหวาดกลัว ยำเกรงจนไม่มีใครกล้าหือ แถมข้าราชการที่พึ่งพิงได้อย่างนายอำเภอและสารวัตรตำรวจก็ถูกย้าย เหลือแค่รองเพชร ไพบูลย์ นายตำรวจตงฉินที่รักษาการเมืองพลชั่วคราว
กัลป์นิ่งฟังก่อนถอนใจยาว “โชคดีของเมืองพลที่ยังมีข้าราชการดีๆไม่ยอมก้มหัวให้ไอ้แสน”
ตะโพนพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนโวยวายเมื่อหันมองนาฬิกาบนฝาเรือน “เฮ้ย...กลับได้แล้วนังตะเภา เดี๋ยวพวกไอ้แสนมันรู้เข้าจะซวยกันยกก๊วน ส่วนเอ็งไอ้กัลป์...วันนี้ก็อย่าออกไปเพ่นพ่านเชียวนะ”
“มีอะไรเหรอลุง”
“วันนี้วันพระใหญ่...คุณอัญชันน้องสาวไอ้แสนจะมาเลี้ยงพระเพล ป่านนี้คนของไอ้แสนคงพล่านกันเต็มวัด”
ชื่อของอัญชันอดีตแฟนสาวที่ต้องแยกจากกันหลายปีทำให้กัลป์อึ้งไปอึดใจ ตลอดเวลาที่ติดคุก เขาไม่รู้ความเป็นไปของเธอจนกระทั่งวันนี้ที่ภาพความทรงจำเก่าระหว่างเขากับเธอผุดในหัวอีกครั้ง...
ooooooo
อัญชัน อดีตแฟนสาวของกัลป์เพิ่งกลับจากเมืองนอก น้องสาวคนเดียวของแสนอกหักจากกัลป์จึงหนีไปพักใจเมืองนอกหลายปี เธอไม่รู้เรื่องความร้ายกาจของพี่ชาย รวมทั้งความเป็นไปของอดีตชายคนรักอย่างกัลป์
สถานะน้องสาวคนเดียวของแสน ราชสีห์ ทำให้ไม่มีใครกล้ายุ่งกับอัญชัน แต่เธอกลับอึดอัดเพราะถูกสมุนพี่ชายล้อมหน้าล้อมหลังตลอด อย่างเช่นวันนี้ที่เธอมาทำบุญพระเพลพร้อมลำดวนสาวใช้คนสนิท แสนก็ส่งสิงโตกับสมุนจำนวนหนึ่งมาอารักขาเธอ
“นายแสนกลัวคุณอัญชันไม่ปลอดภัยครับ”
“ฉันไม่เคยคิดร้ายกับใคร ไม่มีใครคิดทำร้ายฉันหรอก”
“ผมทำตามหน้าที่...ช่วยคุณอัญชันขนของสิ”
สิงโตสั่งลูกน้องแต่อัญชันยกมือห้าม “ไม่จำเป็น ...ชาวบ้านเขาจะมาทำบุญกัน พวกแกกลับไปซะ อย่ามาทำตัวเป็นนักเลงแถวนี้ ที่นี่เป็นวัด เป็นเขตอภัยทาน... ไม่ใช่โรงปอของพวกแก!”
อัญชันไล่สมุนพี่ชายกลับหมด สิงโตไม่กล้าขัดเพราะรู้ดีว่าแสนรักน้องสาวคนเดียวแค่ไหน อัญชันไปอยู่เมืองนอกหลายปีจึงไม่เคยรู้เรื่องเลวร้ายของพี่ชาย แค่คิดว่าเป็นผู้มีอิทธิพลในเมืองพลเท่านั้น สำหรับเธอ... เขาเป็นพี่แสนที่ดีกับเธอเสมอ โดยเฉพาะวันที่ไม่มีกัลป์ เขาก็เป็นคนเดียวที่เคียงข้างเธอ...
ตะเภาขี่จักรยานกลับจากเรือนของตะโพน แต่คงรีบร้อนเลยเกือบชนชายหนุ่มแปลกหน้า เพลิงนั่นเองที่เพิ่งออกจากร้านกาแฟจะไปสำรวจส่วนอื่นของเมืองพลให้สมบทบาทหนุ่มเร่ร่อนที่มองหางานทำ
เพลิงชอบใจท่าทางไม่ยอมคนของตะเภาจึงอยากผูกมิตรไว้ อาหมวยประจำร้านกาแฟถูกชมก็หน้าบาน ก่อนจะหุบฉับเมื่อได้ยินว่าเขาจะไปสมัครงานที่ไร่ราชสีห์
“ไร่ไอ้แสนน่ะเหรอ เฮอะ...ไม่ต้องถ่อไปหรอก... โน่น...ยัยคุณอัญชันน้องสาวนายแสนเขาทำบุญไถ่บาปอยู่ที่วัดทางโน้น...ลองไปขอส่วนบุญดูสิ”
หลังแยกจากตะเภา เพลิงแอบเข้าไปในวัด แกล้งปล่อยลมยางรถของอัญชันและหาทางเข้าไปช่วยเหลือหวังของานทำในไร่ราชสีห์ อัญชันอยากตอบแทนบุญคุณที่เขาช่วยเปลี่ยนยางจึงรับเขาเป็นคนขับรถประจำตัว แต่บ้านพักคนงานฝั่งเธอเต็มหมดเลยต้องส่งเขาไปบ้านพักคนงานของพี่ชาย
ชื่อของแสนทำให้เพลิงหูผึ่ง เหยียดยิ้มร้ายเมื่อได้ยินคำเตือนของอัญชัน
“ไม่รู้นายจะอยู่ได้ไหม พวกคนงานของพี่ฉันส่วนใหญ่เป็นนักเลงหัวไม้ทั้งนั้น...ไม่ใช่ธรรมดา”
“อ๋อ...ไม่มีปัญหาครับ ผมไม่ใช่นักเลงหัวไม้...แต่ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน”
ooooooo
เพลิง กัมปนาท นายตำรวจหนุ่มขาบู๊ในคราบคนขับรถคนใหม่ของอัญชันพยายามผูกมิตรกับคนงานในไร่ของแสน แต่นอกจากจะไม่ได้รับการต้อนรับยังเกือบโดนรับน้องแบบโหดๆ
เหล่าคนงานไม่แยแสว่าใครจะมาจะไป ทำเมินจนเพลิงเหลืออดเปิดฉากเล่นงานพวกคนงาน
“พวกมึงฟังให้ดี คนอย่างกูถือคติ ที่ไหนใหญ่...กูต้องใหญ่กว่า ที่ไหนร้าย...กูต้องร้ายกว่า และที่ไหนมีคนเลวระยำ กูต้องเลวระยำกว่ามัน...ห้องไหนว่าง!”
แสนไม่ยี่หระเรื่องคนงานเข้าออกในไร่ มัวจับผิดครอบครัวของกัลป์ที่ลักพาตัวมาขังโดยเฉพาะกระรอกน้องสาวคนเดียวของอดีตเพื่อนรักที่ท่าทางน่าสงสัยเหมือนจะแอบออกจากไร่ไปหาพี่ชาย
ดอกไม้กลัวกระรอกถูกแสนทำร้าย แอบกระซิบให้ไปสืบข่าวเรื่องกัลป์จากปานกับแจ้เจ้าของร้านกาแฟในตลาด และช่วยอ้างกับแสนว่าเป็นคนใช้กระรอกไปข้างนอกเพราะอยากฝากซื้อของ
แสนแสยะยิ้มหยิบเงินในกระเป๋าให้กระรอกก่อนกระซิบขู่ “จำข้อตกลงของเราได้ไหมกระรอก...ถ้าเธอไม่กลับมา แม่เธอโดนแน่ ไม่ใช่แค่นั้นนะ...ถ้าฉันจับเธอได้เมื่อไหร่ เธอจะตกอยู่ในสภาพเดียวกับดอกไม้”
กระรอกไม่อยากตกเป็นนางบำเรอของแสนแต่ข่าวคราวเกี่ยวกับพี่ชายทำให้เธอยอมเสี่ยงแอบไปหาตะเภาที่ร้านกาแฟแต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมบอกว่ากัลป์อยู่ที่ไหน...
นอกจากการกลับมาของกัลป์ อดีตนายตำรวจศัตรูคนสำคัญของแสน การปรากฏตัวของเพลิง ชายหนุ่ม พเนจรที่กลายมาเป็นคนขับรถคนใหม่ของอัญชันน้องสาวของแสน วันต่อมาเมืองพลก็ได้ต้อนรับองอาจ ชาตินักรบ ชายหนุ่มมาดกวนที่มาถึงเมืองพลในฐานะพ่อค้าเร่ขายหนังขายยา
องอาจเปิดตัวกลางเมืองอย่างอลังการ โฆษณาหนังใหม่ล่าสุดที่จะเปิดฉาย รวมถึงบรรยายสรรพคุณยาหลายขนานที่เขานำมาเร่ขายให้พวกชาวบ้าน เสียงปืนกล เสียงระเบิดที่เปิดจากเครื่องเสียงขนาดใหญ่ในรถ พร้อมท่าทางเต็มไปด้วยอารมณ์ขันของเขาทำให้สาวชาวบ้านตามกรี๊ด ไม่เว้นแม้แต่กระรอกที่มองตามด้วยความประทับใจ
ปานกับแจ้ได้ยินเสียงเพลงดังสนั่นเมืองก็รำคาญหู พยายามตะโกนไล่พวกพ่อค้าเร่ไปขายของที่อื่น แต่องอาจไม่สะทกสะท้านบุกไปคุยด้วยถึงในร้านกาแฟ สร้างความบันเทิงให้แก่ผู้คนในตลาดเป็นอย่างมาก
องอาจส่งสายตาเจ้าชู้ให้สาวๆรวมทั้งกระรอก พลางสำรวจผู้คนในตลาดไปในตัว สายตาคมเหลือบเห็นสมุนของแสนลูกค้าประจำร้านกาแฟทำท่าจะมีเรื่องด้วยเลยแกล้งเดินไปหาและยัดยาถ่ายเข้าปาก!
ooooooo
องอาจ พ่อค้าเร่ขายหนังขายยา ยั่วประสาทสมุนของแสนจนเลือดขึ้นหน้า หวิดถูกกระทืบตายคาร้านกาแฟแต่เอาตัวรอดได้อย่างมีชั้นเชิง ปาน แจ้ จงอางและตะเภาได้แต่มองสภาพร้านถูกพังเละเทะด้วยสายตาเซ็งสุดขีด โชคยังดีที่ไม่มีใครตายในร้านเพราะพวกตำรวจมาห้ามทัพทันเวลา
สมุนของแสนถูกตำรวจไล่ออกจากร้านกาแฟไปแล้ว ส่วนองอาจยังอยู่ในร้านให้กระรอกทำแผล พ่อค้าเร่แกล้งสำออยร้องโอดโอยจนกระรอกตกใจ เขารีบกุมมือเธอและอ้อนเสียงอ่อน
“เกิดมาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนมือนุ่มแล้วก็น่ารักเหมือนลูกพี่มาก่อน แบบนี้โดนชกให้ตายก็ไม่เสียดายชีวิต”
“เพ้ออะไรของนาย เรียกใครลูกพี่”
“ลูกพี่ ลูกพี่ ลูกพี่คนสวย...ว่าแต่ลูกพี่คนสวยมีตังค์ให้ยืมสักยี่สิบไหม ตั้งแต่เช้าฉันยังไม่ได้กินข้าวเลย”
กระรอกตามความกะล่อนขององอาจไม่ทันควักเงินให้ ตะเภาเห็นแล้วหมั่นไส้ไล่ให้กลับบ้าน
“กระรอกรีบกลับเถอะเย็นแล้ว เดี๋ยวนายแสนจะสงสัยเอาว่าเธอมาสืบข่าวเรื่องพี่กัลป์”
ชื่อของแสนกับกัลป์ทำให้องอาจหูผึ่ง แอบตามกระรอกจนถึงทางเข้าไร่ราชสีห์ น้องสาวคนเดียวของกัลป์เห็นเขาตามมาก็ตกใจพยายามไล่เขากลับแต่องอาจยังทู่ซี้หลอกถามเรื่องแสนกับกัลป์
กระรอกไม่เล่ากลัวคนรอบตัวเป็นอันตรายหากมีใครรู้เรื่องเธอกับแม่ถูกแสนจับมาขัง ไหนจะเรื่องกัลป์พี่ชายคนเดียวที่ไม่ว่าใครเข้าใกล้ก็ต้องเดือดร้อนไม่จบไม่สิ้น...
คำสัญญาที่ให้กับพ่อทำให้กัลป์ต้องเตรียมพร้อม หมั่นฝึกปรือแม่ไม้คมแฝกเพื่อรับมือแสนอดีตเพื่อนรัก ท่วงท่านุ่มนวลแต่เต็มไปด้วยพลังของเขาทำให้ตะโพนอดชื่นชมจากใจจริงไม่ได้
“ฝีมือยังคมเหมือนเดิม ไม่เสียแรงที่เป็นลูกศิษย์ของปรมาจารย์คมแฝก”
“อย่าพูดถึงอาจารย์เลยลุง ยิ่งพูด ฉันยิ่งรู้สึกผิดที่ต้องแพ้ให้กับไอ้แสน”
“เอ็งเป็นคนดีไอ้กัลป์ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะความเลวของไอ้แสน ไม่ใช่ความผิดของเอ็ง”
“คนดี...คนดีที่ไร้ค่า พาชีวิตตัวเองกับคนรอบข้างให้วิบัติกันไปหมด”
“ชีวิตยังอีกไกล เอ็งอย่าเพิ่งด่วนสรุปสิวะ...ทำความดีไม่มีคำว่าสูญเปล่า...ข้าเชื่ออย่างนั้น”
กัลป์พยักหน้าเห็นด้วย มองคมแฝกในมืออย่างหมายมาด ตะโพนเห็นดังนั้นก็อดถามไม่ได้
“เออ...แล้วจู่ๆเอ็งงัดคมแฝกมาฝึกทำไมวะ หรือว่าจะเตรียมรับมือพวกไอ้แสน”
“ไม่ได้รับมือ...แต่ฉันจะไปหามัน!”
ooooooo
การกลับมาของกัลป์ทำให้แสนหวั่นใจไม่น้อย เพิ่มเวรยามในไร่ราชสีห์และบริเวณบ้านของอัญชันไม่ให้กัลป์บุกเข้ามา เขารู้ถึงฝีมือของอดีตเพื่อนรักเพราะฝึกคมแฝกจากสำนักเดียวกัน
แสน ราชสีห์ จมตัวเองกับอดีตอีกครั้ง เขาจำได้ถึงบทเรียนและคำสอนของอาจารย์อัคนี
“ทำไมข้าถึงให้พวกเอ็งฝึกคมแฝกทั้งที่พวกเอ็งจะใช้ปืนก็ได้...เพราะคมแฝกคืออาวุธของคนเต็มคน คนจริงไม่จำเป็นต้องมีปืน...ปืนมีวันหมดกระสุน แต่คมแฝก...หากใช้เป็น อานุภาพมันรุนแรงและรวดเร็วกว่ากระสุนหลายเท่า”
ทั้งกัลป์และแสนได้รับการถ่ายทอดวิชาแม่ไม้คมแฝกจนครบถ้วนกระบวนความ ความผูกพันฉันเพื่อนทวีคูณตามวันเวลาที่ฝึกด้วยกัน อัคนีภูมิใจในศิษย์ทั้งสองมากแต่ไม่วายเตือนสติเป็นคำสอนสุดท้าย
“สัญญากับข้านะว่าเอ็งทั้งสองจะซื่อสัตย์ต่อ คุณงามความดีจนชั่วชีวิต...ซื่อสัตย์ต่อสหาย ซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินเกิด จงใช้วิชาที่ข้าถ่ายทอดให้พวกเอ็งพิทักษ์สิ่งที่ถูกต้อง ตราบใดที่พวกเอ็งสามัคคีกัน จะไม่มีศัตรูหน้าไหนมาหักหาญได้”
แสนดึงตัวเองจากอดีต คำสอนสุดท้ายนั่นเขาจำได้แต่ชะตาชีวิตหลังจากนั้นทำให้เขาเปลี่ยนความคิด โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่กัลป์อดีตเพื่อนรักจับตายสนพ่อแท้ๆของเขา...
หลังจบจากสำนักอาจารย์อัคนี กัลป์บรรจุเป็นตำรวจและมีโอกาสล้อมจับสนพ่อของแสนในข้อหาค้ายาเสพติดและของเถื่อน สนเป็นโจรพันธุ์แท้สู้สุดตัวไม่ยอมถูกจับ กัลป์รู้ดีแต่พยายามหว่านล้อม
“ยอมมอบตัวซะเถอะลุงสน โทษหนักจะได้เป็นเบา ถึงยังไงก็ไม่มีทางหนีรอดไปได้หรอก ยังไงๆลุงก็เป็นพ่อของไอ้แสน...อย่าให้ฉันต้องทำอะไรรุนแรงเลยนะ”
คำตอบของสนมาในรูปแบบลูกปืนห่าใหญ่กราดยิงพวกตำรวจ กัลป์ไม่มีทางเลือกต้องวิสามัญพ่อของเพื่อนรัก แสนมาถึงทันเห็นฉากเด็ดพอดี แหวลั่น
“ไอ้กัลป์...มึงฆ่าพ่อกู ไอ้เพื่อนทรยศ...ไอ้ระยำ...มึงฆ่าพ่อกูทำไม มึงฆ่าพ่อกูทำไม!”
กัลป์เสียใจและรู้สึกผิดมากพยายามจะอธิบายเพื่อนรักแต่สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายเมื่อแสนถูกจับไปสอบสวนเพราะก้านพ่อของเขาให้การว่าลูกชายคนเดียวของสนอาจรู้เห็นกับธุรกิจดำมืดของพ่อ
อ่านละคร คมแฝก ตอนที่ 1 วันที่ 18 มี.ค.61
ละครเรื่อง คมแฝก ประพันธ์โดย เสนีย์ บุษปะเกศละครเรื่อง คมแฝก บทโทรทัศน์ คฑาหัสต์ บุษปะเกศ/ ณพุทธ สุศรีฯ
ละครเรื่อง คมแฝก ผู้สร้าง เมตตาและมหานิยม จำกัด
ละครเรื่อง คมแฝก ผู้จัด นก ฉัตรชัย เปล่งพานิช
ละครเรื่อง คมแฝก กำกับการแสดง ปิยะพันธ์ ชูเพ็ชร
ละครเรื่อง คมแฝก ออกอากาศทาง สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ