อ่านละครเรื่อง สายธารหัวใจ ตอนที่ 8 วันที่ 12 พ.ย.60
อ๋องลูบมือสิริกันยาเพื่อปลอบโยน เธอน้ำตาร่วง เขาดึงเธอมากอดลูบหลังอย่างเห็นใจ ณรังค์มองภาพนั้นอย่างปวดใจ แอบลงจากรถเอาโทรศัพท์มือถือไปวางไว้ที่โต๊ะข้างประตูบ้านแล้วกลับออกมาสักพักสิริกันยาทำใจได้ บอกอ๋องว่าตนพร้อมกลับไปทำงานแล้ว
“ได้ข่าวว่าที่ออฟฟิศบรรยากาศไม่ค่อยดี”
“ค่ะ แต่คุณณรังค์บอกว่าให้ทำแต่งาน”
“เรื่องที่ออฟฟิศน่ะผมว่าปล่อยให้พวกปากหอย ปากปูพูดไปเถอะ เดี๋ยวก็เลิกพูดไปเอง ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย”
สิริกันยาขอบคุณอ๋องแล้วหันมาจะปิดประตูบ้าน เห็นโทรศัพท์มือถือตัวเองวางอยู่ที่โต๊ะก็แปลกใจ
ooooooo
สิริกันยามาถึงโรงแรมก็ได้รู้จากวิเชียรว่าณรังค์ เป็นคนเอาโทรศัพท์มือถือไปคืนให้ แต่แปลกใจที่ไม่เจอกัน...ด้านณรังค์นั่งซึมอยู่ริมน้ำ คิดถึงภาพสิริกันยาใกล้ชิดกับอ๋องที่หน้าบ้านด้วยความปวดใจ ไม่ทันไรสวัสดิ์โทร.มาขอพบ
ณรังค์มาพบสวัสดิ์ที่โรงเรียน ฟังเขาพูดด้วยความหนักใจ
“ผมว่าคุณควรจะรีบพูดความจริงกับคุณละมุลดีกว่า วิธีที่คุณใช้ผมคิดว่ามันไม่ใช่วิธีที่ดี มันกำลังทำให้ทุกคนเจ็บปวด...ผมเริ่มจะเข้าใจมันไม่ได้ ไม่มีเหตุผลที่ต้องโกหกว่ารักและยอมแต่งงาน ปัญหาบางอย่าง ควรยอมหักดีกว่ายอมงอ จะทำอะไรก็รีบทำ ก่อนที่ผมจะรู้สึกว่าคุณเป็นคนขี้ขลาด”
ณรังค์พูดไม่ออก เครียดจัดจะหาทางออกอย่างไร... ในขณะที่ละมุลกลับมาบ้าน ตรงไปที่ตึกใหญ่เจอชื่นบอกว่าประคองเตรียมอาหารอยู่ในครัว แต่เธอกลับถามหาปฐวี เมื่อรู้ว่าเพิ่งกลับ ละมุลเดินลิ่วขึ้นไปข้างบนทันที ชื่นตกใจรีบไปรายงานประคอง
ปฐวีกำลังถอดเครื่องประดับ ละมุลเปิดประตูเข้ามาโดยไม่เคาะสักนิด คุณหญิงไม่พอใจเดินเข้าหาพร้อมกับต่อว่ามีสิทธิ์อะไรขึ้นมาบนตึกและถือวิสาสะเข้ามาโดยพลการ
“ไม่ต้องไล่ ฉันไม่อยู่นานหรอก แค่จะขึ้นมาบอกว่า กะอีแค่รูปรูปนั้นไม่ทำให้ฉันเจ็บและมีปัญหากับพี่ณะ ได้หรอก ฉันจะมีความสุขให้คุณหญิงดู ฉันจะไม่ไปไหน ฉันจะแต่งงานอยู่กินกับพี่ณะที่นี่ จนกว่าจะแก่ตายไปจากกัน”
ประคองเข้ามาพร้อมชื่น ได้ยินคำประกาศกร้าวของละมุลก็ตกใจ ปฐวีโกรธมากตรงเข้าตบหน้าละมุลฉาดใหญ่ฐานหยามกันเกินไป ประคองกับชื่นรีบเข้ามาแยก ณรังค์กลับมาพอดีวิ่งเข้ามาช่วยห้าม แต่ทั้งคู่แรงพอกัน เขาตัดสินใจอุ้มละมุลออกไป ปฐวีกรี๊ดลั่น
“หยุดนะ! ณะจะพามันไปไหน ฉันจะเอามันให้ตาย”
“จะฆ่าละมุลก็ข้ามศพดิฉันไปก่อน” ประคองเข้าขวางสีหน้าเอาเรื่อง
ชื่นหน้าเสียที่เห็นประคองแรงกลับ ปฐวีเองก็ชะงักยืนมองอย่างแค้นเคือง
ประคองกลับมาที่เรือนเล็ก ทั้งประคองและณรังค์มองละมุลอย่างไม่พอใจ ณรังค์ถามน้ำเสียงดุ
“คิดอะไรอยู่ถึงได้ทำแบบนั้น ดีนะที่ท่านชายไม่อยู่ ไม่อย่างนั้นอาจถูกลงโทษหนัก”
ละมุลหยิบมือถือเปิดภาพในไลน์ให้ดู ณรังค์เห็นรูปตัวเองใกล้ชิดกับสิริกันยาก็พูดไม่ออก ประคองชะเง้อมองแล้วอ่อนใจ รู้ว่าเป็นฝีมือปฐวี ละมุลจับมือณรังค์พูดอย่างมีความหวัง
“คุณหญิงจะไม่มีทางปั่นหัวละมุลได้ เราจะมีความสุขให้คุณหญิงเห็นนะพี่ณะ”
ณรังค์ยืนนิ่งพยายามไม่แสดงพิรุธใดๆ ประคองจับตามองอย่างรู้ทันเพราะเลี้ยงมาแต่เล็ก พอมีโอกาสอยู่กันลำพังก็ซักถามให้บอกความจริงว่ารักเลขาคนนั้นใช่ไหม เห็นเขานิ่งก็ยิ่งมั่นใจ
“บอกความจริงกับแม่มา แม่สัญญาว่าจะไม่บอกให้น้องรู้ เพราะแม่เองก็ไม่อยากเห็นน้องเสียใจเหมือนกัน ...ขอให้เชื่อแม่ อย่าคิดว่าการแต่งงานกับละมุลเป็นการทำเพื่อใคร ให้คิดว่าณะทำเพื่อให้ตัวเองมีความสุข แม่ทูลท่านชายว่า เสร็จงานแต่งงานของคุณหญิงแล้ว ก็จะเป็นงานของณะกับละมุล”
ณรังค์นิ่งอยู่นาน ต้องตกใจเมื่อรู้ว่าใกล้ถึงวันแต่งงาน ประคองอ้างว่าท่านชายเร่ง เขายิ่งเครียดจัด... จากนั้นประคองเข้ามาหาละมุลในห้องนอน ละมุลกราบขอโทษที่พูดจาก้าวร้าว แม่ลูบหัวลูกและขอโทษเช่นกันที่พูดไม่ดีกับเพื่อนลูก เพราะกลัวลูกเปลี่ยนใจจากณรังค์ ละมุลยืนยันด้วยสายตาอยากเอาชนะเต็มที่ ว่าไม่เปลี่ยนใจเด็ดขาด ตนจะไม่ยอมแพ้ปฐวี
ในคืนนั้นสิริกันยาโทร.หาณรังค์ เขาเห็นชื่อเธอหน้าจอแล้วเกิดความน้อยใจกดปิดเครื่องไปดื้อๆ สิริกันยางงลองโทร.ใหม่แต่ไม่ติด จึงล้มตัวลงนอน ไม่ทันไรณรังค์โทร.กลับมา เธอดีใจมากรีบถามว่าเขาเอาโทรศัพท์มือถือมาวางคืนตอนไหน
“เห็นคุณคุยกับอ๋องอยู่ ผมไม่อยากขัดจังหวะก็เลยเอาวางไว้ที่หน้าประตู มีอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีอะไรแล้ว แค่นี้นะผมกำลังจะนอน” ณรังค์วางสายคิดถึงเธอด้วยความปวดใจ
ooooooo
ถึงวันงานแต่งงาน แม้นเทพยืนอย่างภาคภูมิใจที่ห้องโถงของวังจงสวัสดิ์ ประคองเข้ามารายงานว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวพร้อมแล้ว ท่านชายสั่งทันที
“รีบจัดการก่อนที่แขกจะมา เรียกณรังค์เข้าไปด้วย แกก็ด้วย จะได้ไม่ต้องไปถามกับไอ้ณรังค์มันทีหลัง เพราะฉันรู้ว่าแกอยากรู้และต้องถามมันแน่ ถึงตอนนี้ไม่จำเป็นต้องปกปิดกับใคร”
ประคองรับคำเดินตามแม้นเทพไปยังห้องทำงาน ...ก่อนหน้านี้แม้นเทพสั่งทนายให้ทำพินัยกรรมโอนวังจงสวัสดิ์เป็นของปฐวี และทำสัญญาขึ้นมาอีกฉบับให้เกียรติศักดิ์ลงชื่อยินยอมก่อนแต่งงานว่าจะไม่มีสิทธิ์ใดๆในทรัพย์สินของปฐวีที่ได้จากจงสวัสดิ์ทั้งสิ้น แถมให้ระบุลงไปด้วยว่าถ้าคุณหญิงมีอันเป็นไปก่อนตน ก็ให้วังจงสวัสดิ์กลับคืนมาเป็นของตนเหมือนเดิม ทนายสงสัยถามว่าไม่ให้แก่ทายาทหรือ
“ถึงจะเป็นหลาน มีเลือดจงสวัสดิ์ครึ่งนึง แต่ฉันก็ถือว่าเป็นเลือดที่ไม่บริสุทธิ์ ฉันไม่ยอมรับ แค่ได้ชื่อว่าเป็นเขยจงสวัสดิ์ ก็ถือว่ามากเกินพอสำหรับมัน ฉันจะไม่ยอมให้มันได้อะไรไป”
เมื่อปฐวีกับเกียรติศักดิ์ควงคู่กันเข้ามาเห็นณรังค์และทนายความนั่งอยู่กับแม้นเทพก็แปลกใจ ทนายยื่นกระดาษให้เกียรติศักดิ์อ่าน บอกเป็นสัญญาก่อนแต่งงาน แล้วแจงรายละเอียดให้ฟัง พร้อมให้ลงลายมือ ท่านชายจะลงชื่อเป็นพยาน เกียรติศักดิ์กำหมัดแน่น ปฐวีเองก็ไม่พอใจ ด้านประคองพอได้ฟังรายละเอียดยิ่งเจ็บแค้นมากกว่า แม้นเทพกำชับ
“ถ้าจะไม่ยอมรับก็ได้ ฉันไม่ว่า จากผลประกอบการที่ผ่านมา ฉันสามารถใช้หนี้แกได้ แต่คนอย่างฉันพูดแล้วไม่คืนคำ อยากจะแต่งก็ให้แต่ง แต่ถ้าแต่ง ก็ต้องยอมรับเงื่อนไขของฉัน”
เกียรติศักดิ์รู้สึกว่าโดนดูถูก ครุ่นคิดจะเซ็นหรือไม่เซ็น ปฐวีมองท่านพ่อด้วยความน้อยใจ
“รีบๆเข้า ฉันมีเวลาไม่มากต้องรีบไปที่งาน จะได้ทำตัวถูกว่าควรจะไปต้อนรับหรือไปเชิญแขกกลับ”
ปฐวีหยิบสัญญาเขวี้ยงลงพื้นกระจาย แม้นเทพตกใจ ตวาดใส่ลูกสาวว่าทำแบบนี้ทำไม
“จะไม่ยอมเสียอะไรเลยใช่ไหมเพคะ ทั้งๆที่หญิงยอมแต่งงานเพื่อใช้หนี้ที่หญิงไม่ได้ก่อให้แล้ว แต่ท่านพ่อกลับคิดถึงแต่ตัวเอง เห็นแก่ตัว!”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
“ไม่หยุดเพคะ หญิงจะไม่แต่งงาน แล้วท่านพ่อก็ต้องแสดงความรับผิดชอบเอาเอง...หญิงจะคอยดูว่าคราวนี้ท่านพ่อจะทรงหาทางออกยังไง จะเดินเอาปี๊บคลุมหัวหรือว่าจะแทรกแผ่นดินหนี”
“นังลูกเลว!”
“เพราะท่านพ่อทำให้หญิงต้องเลว”
แม้นเทพโกรธเงื้อมือจะตบ ณรังค์เข้าจับมือท่านไว้ ท่านชายสะบัดออก ตวาดไม่ต้องยุ่ง แล้วชี้หน้าปฐวีบอกคนที่จะต้องเอาปี๊บคลุมหัวหรือแทรกแผ่นดินหนีคือพวกเธอไม่ใช่ตน คนทั้งบ้านทั้งเมืองจะนินทาใคร คนที่เสียหายจะเป็นใครถ้าไม่ใช่พวกเธอ ปฐวีโต้กลับดุเดือด
“หญิงเสียหายก็อย่าคิดว่าท่านพ่อจะรอด งานนี้ถ้าจะพังก็พังกันทั้งหมดนั่นแหละ”
เกียรติศักดิ์ตกใจ แม้นเทพทรุดนั่งเมื่อเห็นลูกสาวเดินเชิดออกไป ประคองเข้ามาดูแลปลอบไม่ให้เครียด แต่โดนตวาดกลับ จึงนิ่งอึ้ง แม้นเทพถามเกียรติศักดิ์จะทำอย่างไรก็รีบทำ เขาตัดสินใจหยิบสัญญาขึ้นมาเซ็นชื่อแล้วย้ำว่างานแต่งงานต้องเกิดขึ้น ตนจะเปลี่ยนใจปฐวีให้ได้
แม้นเทพยิ้มเหยียดมองตามหลังเกียรติศักดิ์ที่รีบตามปฐวีออกไป “หึ...ไอ้พวกเห็บ ยังไงก็เกาะไม่ปล่อย”
ประคองฉุกคิดมีความหวังว่าท่านชายทำแบบนี้เพื่อเก็บวังนี้ไว้ให้ตนกับลูก...เกียรติศักดิ์คิดถึงที่กำธรย้ำหนักหนาว่า งานแต่งงานต้องเกิดขึ้น เพราะเราต้องใช้ความเป็นจงสวัสดิ์เอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจของเรา... เกียรติศักดิ์จึงต้องพยายามหาเหตุผลหว่านล้อมปฐวีให้แต่งงาน
“คุณหญิงจะยอมแพ้ให้กับทุกคนที่ทำเหมือนคุณหญิงเป็นของไม่มีค่า ไม่มีความหมาย นึกจะจับโยนให้ไปทำอะไรก็ได้ตามใจ เพื่อสนองกิเลสตัณหาของตัวเองงั้นเหรอ...ตอนนี้มีใครรักและยืนเคียงข้างคุณหญิงบ้าง นอกจากผม ไม่อยากแก้แค้นพวกนั้นเหรอ ซึ่งตอนนี้มีผมเพียงคนเดียวที่จะช่วยคุณหญิงได้”
พอเห็นปฐวีเริ่มอ่อนลงก็ยิ่งรุกโน้มน้าวต่อไปว่าตนทำแบบนี้ไม่ได้ต้องการความรักที่ไม่มีวันได้จากเธอ ขอแค่ได้แต่งงานและสัญญาจะทำให้เธอมีความสุข แม้แต่วังแบบนี้ตนก็สามารถสร้างให้เธอได้เป็นสิบหลัง หญิงสาวครุ่นคิด
แม้นเทพเข้ามาดูความเรียบร้อยของตัวเองในห้อง ประคองเข้ามากราบแทบเท้าที่ทรงรักษาสัญญา ท่านชายแปลกใจสัญญาอะไร พอเธอบอกว่า
“เรื่องวังจงสวัสดิ์เพคะ ฝ่าบาทไม่ได้ทรงยกให้เป็นสิทธิ์ขาดของคุณหญิง เพราะจะทรงยกให้เป็นของละมุลใช่ไหมเพคะ”
“นี่แกยังคิดถึงเรื่องนี้อยู่อีกเหรอ”
“แล้ว...ไม่ใช่เหรอเพคะ”
“ฉันไม่เคยคิดจะยกให้พวกแกมาตั้งแต่แรก”
“แล้ว ตอนแรกฝ่าบาททรงพูดยกให้หม่อมฉันทำไม”
“ฉันก็พูดไปอย่างนั้น เลิกคิดเลิกหวังได้แล้ว... แล้วไม่ต้องพูดเรื่องนี้อีก ไม่อย่างนั้นฉันจะคิดว่าแกมันทะเยอทะยาน แม้แต่เรือนหลังเล็กก็อย่าหวังว่าจะได้ซุกหัวนอน”
ประคองผิดหวังมากและตัดสินใจได้ รับคำหนัก แน่นจะไม่พูดถึงอีก แต่สายตาแข็งกร้าวขึ้นราวแค้นจน เกินแค้น...
แม้นเทพออกมาถามณรังค์เป็นอย่างไรบ้าง เขายังไม่ทราบว่าเกียรติศักดิ์กับปฐวีตกลงกันได้หรือไม่ ท่านชายให้
เตรียมตัวประกาศยกเลิกงาน ไม่ทันไรทั้งสองเดินมา ปฐวีสีหน้ายังบึ้งแต่เกียรติศักดิ์บอกให้ออกเดินทางกันได้ ไม่วายแม้นเทพยิ้มหยันนึกว่าจะแน่
“กลัวเรื่องจะจบง่ายแล้วก็เร็วเกินไปเหรอเพคะ... ไปกันเถอะค่ะคุณเกียรติศักดิ์ อย่าให้เสียฤกษ์วันมงคลของเรา” ปฐวียิ้มเย้ยกลับแล้วเดินควงแขนเกียรติศักดิ์นำไป
แม้นเทพไม่ไว้ใจสั่งณรังค์ “หลังจากนี้ให้แกคอยจับตาดูไอ้เกียรติศักดิ์ให้ดี มันเปลี่ยนใจหญิงวีได้ แสดงว่าเหตุผลของมันทำให้หญิงวีพอใจ แล้วอะไรที่หญิงวีพอใจถ้าไม่ใช่ต้องการเอาคืนฉัน...นังเนรคุณ!”
ด้านละมุลไปทำงานตามปกติ ไม่คิดจะไปร่วมงานเพราะเจียมตัวว่าไม่ใช่ลูกใช่หลาน สวัสดิ์เป็นห่วงความรู้สึกแต่เธอกลับบอกว่าเธอดีใจ เพราะคุณหญิงแต่งงานไปเร็วๆจะได้ถึงวันของตนกับณรังค์เสียที สวัสดิ์เศร้าใจที่ป่านนี้เธอยังหวังอยู่อีก ทำให้ไม่ค่อยพอใจณรังค์ขึ้นมา
ooooooo
ห้องจัดเลี้ยงในโรงแรมเดอะแกรนด์รอยัล จัดพิธีรดน้ำสังข์ช่วงเช้า แขกที่มาส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจพวกของกำธร มีไฮโซบ้างประปราย แขกที่เป็นเชื้อพระวงศ์ก็มีเพียงท่านหญิงแต้ว
สุนันทาเดินเข้างานมากับอ๋องและยิ่งยศ เธอเหน็บสามีไม่คิดว่าจะมาด้วย แล้วถามคืนนี้จะนอนบ้านไหน เขาสวนกลับว่าบ้านไหนก็ได้สักหลัง แล้วถามว่าอิจฉาหรือ สุนันทาหน้าตึงทันที
“อย่าทำให้บรรยากาศเสียเลยเกรงใจลูก คุยเรื่องอื่นที่พอคุยกันได้เถอะ” ยิ่งยศตัดบท
อ๋องขอบคุณพ่อที่ยังเห็นตนอยู่ด้วย สุนันทายอมสงบศึกเพราะเห็นแก่ลูก ในงานเต็มไปด้วยนักข่าวที่คอยเก็บภาพกำธรหน้าบานคุยกับกลุ่มนักธุรกิจ สุนันทาเห็นสีหน้าท่านหญิงแต้วแล้วกระซิบกับยิ่งยศว่าท่านเต็มใจมางานหลานสาวหรือนั่น ยิ่งยศตอบกลับเสียงแผ่วเบา
“นี่ไม่ใช่งานแต่ง มันเป็นงานเปิดตัวกลุ่มธุรกิจกลุ่มใหม่ มีแต่แขกของเสี่ยกำธรทั้งนั้น ฝ่ายจงสวัสดิ์มากันไม่เท่าไหร่”
“นักข่าวก็มาแทบทุกสำนัก ฝีมือของเสี่ยกำธรสินะ คงอยากประกาศให้คนทั้งโลกรู้ว่า ตัวเองแบ็กอัพดี”
อ๋องเห็นณรังค์มาพร้อมแม้นเทพ กำธรตรงเข้าไปประกบเพื่อให้นักข่าวถ่ายภาพ ท่านชายฝืนยิ้ม ณรังค์ปลีกตัวออกมายืนห่างๆ ยิ่งยศหมั่นไส้ที่กำธรหน้าบานเป็นจานดาวเทียม ต่อไปธุรกิจหลายอย่างของเขาที่ชะลออยู่ ก็จะใช้จงสวัสดิ์เป็นใบเบิกทางได้ง่ายๆ
“เราเองก็ไม่ได้ต่างจากพวกนั้นหรอก” สุนันทาเปรย
“แต่เราไม่ได้โลภจนต้องลงทุนใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวพ่วงกับการหาผลประโยชน์ทางธุรกิจแบบนั้น”
อ๋องฟังยิ่งยศพูดแล้วรู้สึกหดหู่ใจ สุนันทาแจกแจงให้ลูกฟัง
“เราหาเงินเพื่อใช้มัน ไม่ได้ให้มันมาเป็นนายเรา จนทำให้ยอมทำได้ทุกอย่าง แม้กระทั่ง...ขายตัวเอง”
ทั้งยิ่งยศและอ๋องเห็นด้วย ณรังค์เห็นทั้งสามจึงเดินเข้าไปสมทบ ปล่อยแม้นเทพสนทนากับเสี่ยกำธรตามลำพัง แต่ดูเหมือนจะเหน็บแนมกันไปมามากกว่าการสนทนา
“ฝ่าบาททรงมาช้า กระหม่อมแอบหวั่นใจกลัวจะประชวรในวันแต่งงาน แล้วมาไม่ได้”
“ต่อให้เจ็บเจียนตาย ก็ต้องมา” แม้นเทพไม่พอใจเหมือนถูกแช่ง
“ทรงรักคุณหญิงมากนะกระหม่อม”
“รักก็รักนะ แต่อยากมาดูแลความเรียบร้อยด้วย กลัวจะเกิดความวุ่นวาย”
กำธรสงสัยจะวุ่นวายได้อย่างไร ตนจ้างมืออาชีพจัดงาน แขกในงานก็คนสำคัญในแวดวงธุรกิจและชนชั้นสูงของท่านชาย แม้นเทพสวนว่าฝ่ายของตนไม่เท่าไหร่ แต่คนอื่นตนไม่มั่นใจเพราะมีแต่พวกเห็บหมัด อีแร้งปะปนเข้ามา จนงานแต่งกลายเป็นการแสดงละครสัตว์
“ฝ่าบาททรงมีอารมณ์ขันนะกระหม่อม”
“ฉันหมายความอย่างนั้นจริงๆ”
พอดีท่านหญิงแต้วเข้ามาดึงแม้นเทพออกไปพบพระญาติ โดยไม่ทักทายกำธรสักนิด เขากัดฟันกรอดราวโดนดูถูก
ณรังค์เข้ามาสวัสดีสุนันทากับยิ่งยศ อ๋องถามถึงเรื่องอุบัติเหตุเป็นอย่างไรบ้าง ณรังค์ถอนใจเพราะรถสวมทะเบียนปลอมหายเข้ากลีบเมฆ ยิ่งยศแปลกใจมันยากที่จะชนกับรถแบบนั้นได้ สุนันทาให้ณรังค์คอยรายงานทุกระยะ...ยิ่งยศเห็นกำธรเดินหน้าเครียดจึงขอตัวไปสืบข่าว
ยิ่งยศเข้ามาทักทาย กำธรแปลกใจว่ามาได้อย่างไร แล้วนึกได้ว่าเขาเป็นหุ้นส่วนท่านชายต้องได้รับเชิญ ยิ่งยศแอบไม่พอใจแต่ก็เลียบเคียงถามถึงธุรกิจที่กำลังจะเปิดตัว กำธรยอมรับว่าติดขัดอยู่นาน จากนี้คงถึงเวลาของมัน ก่อนจะแยกกันยิ่งยศชักชวนว่าว่างๆไปออกรอบด้วยกัน
“เฮ้ย แน่ใจเหรอ คุณก็มีก๊วนของคุณนี่นา อยากจะล้วงความลับอะไรผมรึเปล่า”
“มันคงเป็นการปฏิเสธกลายๆสินะ” ยิ่งยศตัดพ้อ
“เฮ้ย ผมล้อเล่น อะไรที่คุยๆกันในก๊วน ผมรู้อยู่แล้วว่ามันไม่เคยเป็นความลับหรอก เพราะความลับไม่มีในโลก คุณมาด้วยก็ดี เป็นมิตรดีกว่าเป็นศัตรู ถูกไหม”
ยิ่งยศรับคำ กำธรคิดว่าอนาคตอาจต้องพึ่งพากัน ยิ่งยศยิ้มสมใจเดินกลับมาหากลุ่มสุนันทา เธอแย็บว่าเขาไม่ชอบขี้หน้ากำธรไม่ใช่หรือ เขาบอกว่ายิ่งเกลียดยิ่งต้องเข้าใกล้เผื่อจะรู้อะไรดีๆ
พลันเสียงฮือฮากระหึ่มขึ้น ทุกคนมองไปยังบ่าวสาวที่เดินจับมือกันเข้ามาราวกับมองการแสดงชุดหนึ่ง
คู่บ่าวสาวเข้านั่งที่ตั่ง แม้นเทพรดน้ำสังข์เป็นคนแรก นักข่าวถ่ายรูปกันพรึ่บพรั่บ ท่านชายอวยพรปฐวีแต่ไม่สบตา...ขอให้อยู่กันจนถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร แล้วหันไปรดน้ำให้เกียรติศักดิ์โดยไม่พูดอะไร เจ้าบ่าวจึงพูดเองว่าจะรักและดูแลคุณหญิงอย่างดีไม่ต้องห่วง ท่านชายสวน ขอให้จริงเพราะไม่รับคืน ปฐวีหน้าตึงเจ็บปวดกับคำพูดของพ่อ
“กว่าจะได้มาครอบครองแสนยากเย็น ไม่มีทางคืนแน่กระหม่อม”
“ขอบคุณนะคะ หญิงเองก็จะรักและสนับสนุนคุณทุกอย่าง ให้สมกับตำแหน่งภรรยาที่ดี”
แม้นเทพรู้ว่าลูกสาวประชด จึงประชดกลับ “ดีแล้ว ฉันจะได้หมดห่วงเรื่องที่ฉันเคยห่วง”
ปฐวีมองพ่อตาขุ่น กำธรเดินเข้ามารดน้ำ ไม่อวยพรใดๆนอกจากขอให้มีหลานคนแรกเป็นผู้ชาย ยิ่งทำให้เธอขุ่นเคือง แล้วกำธรหันมารดน้ำลูกชายพร้อมกล่าวว่าเขาเป็นลูกที่ตนภูมิใจ คงไม่ต้องพูดว่าเรื่องอะไร เกียรติศักดิ์รับคำ สบตาอย่างรู้กัน
ooooooo
อ่านละครเรื่อง สายธารหัวใจ ตอนที่ 8 วันที่ 12 พ.ย.60
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ บทประพันธ์โดย วาสนาละครเรื่อง สายธารหัวใจ บทโทรทัศน์โดย คนเขียนเงา
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ กำกับการแสดงโดย ชนะ คราประยูร
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ควบคุมการผลิตโดย ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิเวช
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางช่อง 33 HD
ที่มา ไทยรัฐ