อ่านละครเรื่อง สายธารหัวใจ ตอนที่ 7 วันที่ 9 พ.ย.60

อ่านละครเรื่อง สายธารหัวใจ ตอนที่ 7 วันที่ 9 พ.ย.60

วันนี้สิริกันยามาทำงาน เธอไล่เช็กงานที่ผ่านมา พอเห็นณรังค์เดินมาก็ชะงักใจเต้นโครมคราม มือไม้ทำอะไรไม่ถูก ณรังค์ก็ไม่ต่างกัน พอเห็นเธอก็ชะงักเดินกลับไป ยุพินเห็นถามเจ้านายเป็นอะไรคิดว่าจะเป็นลม ณรังค์ตั้งสติอ้างว่าอากาศมันร้อน แล้วเดินไปใหม่

สิริกันยาตั้งสติได้ทักทายณรังค์ตามปกติ เขาทักทายสั้นๆเดินดุ่มๆเข้าห้องทำงาน จากนั้นก็กดโทรศัพท์บอกเธอว่าช่วงบ่ายอ๋องจะเข้ามาประชุมงาน อาจจะเลิกงานช้าหน่อย ณรังค์อยากคุยกับเธอแต่ไม่รู้จะคุยอะไรอีก ตัดบทวางสาย สิริกันยาถอนใจกับสภาพที่น่าอึดอัดนี้

ในขณะที่ปฐวีนั่งดื่มอยู่ที่เลานจ์ของโรงแรม สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ คิดถึงเหตุการณ์เมื่อเช้า ตั้งแต่ทะเลาะกับท่านพ่อ แล้วมาเห็นณรังค์เดินคุยใกล้ชิดกับละมุลและยังขับรถไปส่ง ยิ่งขัดใจ พอเดินมาชนกับชื่นจึงระเบิดอารมณ์ใส่ ประคองมาช่วยชื่น ปฐวีตวาดใส่เงื้อมือจะตบ



“เป็นขี้ข้า หน้าที่คือทำงาน ไม่ใช่ต่อปากต่อคำ ไม่ต้องมาสาระแน...”

ประคองจับมือเธอไว้ผลักเซออกไป ให้ชื่นเก็บของที่หล่นออกไป ก่อนจะหันมาตอบโต้ “ขอประทานโทษค่ะที่ต้องทำแบบนี้กับคุณหญิง แต่ถ้าคุณหญิงยังไม่มีสติอาจต้องทำมากกว่านี้”

“ก็ลองดูสิ!” ปฐวีกราดเกรี้ยว แต่พอได้ยินเสียงแม้นเทพดังมาว่าใครเอะอะหนวกหู ก็ชะงักเปลี่ยนกลยุทธ์หยุดอาละวาด “ฝากไว้ก่อนนะ อีประคอง” แล้วเดินหัวเราะออกไป...

คิดแล้วทำให้ปฐวีหงุดหงิดยกแก้วดื่มจนหมด เกียรติศักดิ์โทร.เข้ามาถามว่าอยู่ที่ไหน เธอตอบด้วยความเซ็งว่าอยู่ที่วัง ทั้งที่จริงอยู่โรงแรม เขาบอกว่าพรุ่งนี้จะส่งคนงานเข้ามาที่วัง อยากทำอะไรก็สั่ง คุณหญิงรับคำแล้ววางสาย เกียรติศักดิ์ฉุกคิดไม่ไว้ใจ โทร.ไปที่วังจงสวัสดิ์

ประคองรับสายบอกไม่อยู่ ได้ทีใส่ไฟว่าช่วงนี้ปฐวีมีท่าทางน่าเป็นห่วง ดื่มจนเมาตลอดเวลา ทำตัวเหมือนหมดอาลัยตายอยาก ไม่รักชีวิต และเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ได้ยินชื่อเขา... เกียรติศักดิ์ตัดสายทิ้ง ไม่พอใจที่ปฐวีโกหกว่าอยู่ที่วัง สั่งลูกน้องตามดูพฤติกรรมเธอแล้วคอยรายงาน

บ่ายวันนั้น ประคองเข้ามาปลุกแม้นเทพว่าทนายความมา ท่านชายฝืนสังขารลุกขึ้นแล้วถามประคองว่าเมื่อเช้าปฐวีอาละวาดใส่ใคร เธอเล่าว่าไม่ทราบโมโหอะไรมาลงกับชื่น แล้วถามว่าต้องตามณรังค์ด้วยไหม

“เรื่องนี้มันไม่จำเป็นต้องรู้ จะไม่มีใครรู้ จนกว่าจะถึงวันแต่งงานของหญิงวี”

ประคองรับคำ พยุงท่านชายไปที่ห้องทำงาน แล้วจำต้องถอยออกมา แต่ด้วยความอยากรู้จึงยืนอยู่หน้าประตู

ขณะเดียวกัน อ๋องมาคุยงานกับณรังค์เร็วกว่าเวลานัดหมาย เพราะมีนัดกับสุนันทาต่อ จึงให้ชวนสิริกันยามาทานข้าวด้วยกันและคุยงานไปด้วย ณรังค์แกล้งเหน็บคราวหลังชวนเธอเองไม่ต้องเอางานมาอ้าง อ๋องโอดครวญ

“กลัวเขาปฏิเสธ เคยโดนมาแล้ว เฮ้ย...เนียนๆนะอย่าให้เขารู้สึกผิดปกติ”

ณรังค์รับคำขำๆ แต่ในใจเจ็บลึกๆ...พอออกมาเห็นสิริกันยากำลังจะไปทานกลางวันกับเพื่อน จึงทำขึงขังบอกต้องไปคุยงานกับอ๋องเดี๋ยวนี้ หญิงสาวอึดอัดใจ จำต้องหยิบสมุดปากกาเดินตาม ยุพินกับไพโรจน์มองตามตาละห้อย

ระหว่างเดินมาที่ห้องอาหาร ณรังค์เหน็บสิริกันยาว่าช่างเสน่ห์แรง เธอตาขุ่นอธิบายว่าไพโรจน์ไม่มีอะไรแกล้งเย้าตนเล่น ณรังค์หาว่าไม่ยอมรับ เธอไม่ยอมรับ เพราะไม่จริงและไม่ใช่เรื่องสำคัญที่ต้องเอามาคุย ณรังค์ ชะงักแก้ตัวว่า

“แค่อยากจะชวนคุย ไม่อยากให้บรรยากาศไม่ดี อยากให้เหมือนเดิม”

“มันจะไปเหมือนเดิมได้ยังไง ในเมื่อ...” สิริกันยาจะโวย แต่ระงับอารมณ์ได้ทัน

“ผมพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า ถ้าใช่ก็ขอโทษ”

“ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ ทางที่ดี ระหว่างเราเป็นแบบนี้ดีแล้วค่ะ ฉันไม่อยากมีเรื่องกับคุณหญิงปฐวี”

ณรังค์จำนนกับข้อนี้ เดินเครียดต่อไป...ปฐวีเห็นสิริกันยาเดินมากับณรังค์ก็ตาวาวโรจน์ ลุกเดินมาถามวิเชียรที่ดูแลแขกอยู่แถวนั้น ว่าเดี๋ยวนี้เจ้านายกับเลขากินกลางวันกันหรูแบบนี้หรือ วิเชียรรีบรายงานว่า วันนี้ทั้งสองมีประชุมกับอ๋อง ปฐวีเกิดความคิดทันที จะทำให้สิริกันยาได้อาย...ลูกน้องเกียรติศักดิ์สองคนลอบมอง ทำตัวราวเป็นนักท่องเที่ยว

อ๋องดีใจมากที่ได้ทานข้าวกับสิริกันยา ถึงขนาดโทร.ไปถามศรีนวลว่าเธอชอบทานอะไรแล้วสั่งอาหารนั้นไว้รอ แถมยังบอกเธอว่า ศรีนวลสั่งให้เธอทานอาหารเยอะๆ สิริกันยาหน้าเจื่อนแต่ด้วยความอยากประชดณรังค์ จึงทำเป็นคุยอี๋อ๋อกับอ๋อง ณรังค์แขวะ

“ท่าทางคุณย่าคุณจะถูกชะตาเพื่อนผมนะ ฝากฝังน่าดู”

“น่าจะเป็นอย่างนั้นค่ะ ตอนที่คุณอ๋องไปเยี่ยมและกลับไปแล้ว ย่าแอบชมว่าคุณอ๋องเป็นคนดีมีน้ำใจ ซึ่งหายากในคนสมัยนี้ค่ะ ที่ใจร้าย ใจยักษ์ ใจมาร”

ณรังค์แทบสำลัก สิริกันยาแอบขำ อ๋องเขินที่โดนชมซึ่งหน้า หญิงสาวบอกอีกว่าบ้านตนจริงใจ คิดอะไรก็พูดไปอย่างนั้นไม่ซับซ้อน ณรังค์สะอึกรู้ว่าพูดกระทบตน

“ดีจังครับ ขอใช้คำพูดย่าของคุณบ้าง ว่าหายากในคนสมัยนี้ ส่วนใหญ่ที่ผมเจอ ปากอย่างใจอย่าง ไม่รู้เลยว่าข้างในคิดอะไรอยู่กันแน่ ต้องระวังตัว” อ๋องชื่นชม ส่วนณรังค์แทบกินไม่ลง

ooooooo

พอคุยงานกันจบ ทั้งสามเดินออกจากห้องอาหาร อ๋องฝากสิริกันยาประสานงานให้ตนรู้ตลอด ทันใดปฐวีในสภาพมึนเมาส่งเสียงดังเข้ามา วิเชียรเดินตามคอยระวัง ทั้งสามมองตะลึง

“แหม เห็นฉัน ทำหน้าเหมือนเห็นผี น่ากลัวมากหรือไง”

ณรังค์สั่งวิเชียรให้พาเธอไปพักที่ห้อง แต่ปฐวี ตะโกนลั่นว่าไม่ไป คนแถวนั้นหันมองรวมทั้งยุพินกับไพโรจน์...ปฐวีตั้งใจพูดเสียงดัง ชี้หน้าสิริกันยา

“ขอถามแม่นี่ก่อน ให้หายคาใจ...หน้าหนาดีจัง นึกว่าจะเสียใจ ทนไม่ไหวจนต้องลาออก เพราะผู้ชายที่ตัวเองคิดจะจับไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น แสดงว่า... กำลังคิดแผนใหม่ ยอมกินน้ำใต้ศอก อย่างน้อยก็ได้อะไรติดไม้ติดมือไปบ้าง ดีกว่าขาดทุน หว่านไว้เยอะนี่”

ยุพินกับไพโรจน์ตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน สิริกันยามองคนรอบตัวด้วยความรู้สึกอับอาย ณรังค์ทนไม่ไหวจะพา

ปฐวีออกไป แต่เธอโวยวาย อ๋องขู่ว่า ถ้าเธอไม่หยุดตนจะไม่เกรงใจ

“โอ๊ะ! ตายจริง! มีผู้ชายคนใหม่โผล่มาปกป้อง ไม้สองเหรอ คงจะสำรองไว้เป็นเบาะนุ่มๆไว้คอยรับเวลาถูกอีกคนเขี่ยทิ้ง”

“เฮ้ย ณะ! ฉันทนฟังไม่ไหวแล้วว่ะ”

“โอ๊ย...เก่งจริงแม่คุณ หว่านเสน่ห์ใส่ผู้ชายไปทั่วเลย ถึงได้ออกมาโชว์แมนปกป้องกันใหญ่...ตบมือกันสิ รออะไร” ปฐวีปรบมือนำ

สิริกันยาเริ่มทนไม่ไหว พูดเสียงเข้มใส่ปฐวี “อย่าดูถูกฉัน!”

“แล้วมีดีตรงไหน ที่จะไม่ให้ฉันดูถูก” ปฐวีสวน

“บอกไป คนใจบอดอย่างคุณก็ไม่มีทางมองเห็น จะบอกอะไรให้นะ คุณมันพวกมีปมด้อย ที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองดีพอถึงได้เที่ยวดูถูกคนอื่นแบบนี้...น่าสมเพช”

ปฐวีโกรธจัดเงื้อมือจะตบ สิริกันยาจับไว้ทัน

ณรังค์กลัวมีเรื่องอีก ดึงตัวปฐวีออกไป ลูกน้องเกียรติศักดิ์เดินตามห่างๆและโทร.รายงานเจ้านาย...อ๋องมองสิริกันยาอย่างเห็นใจ แต่ยุพินกับไพโรจน์เชื่อคำพูดของคุณหญิงไปแล้ว

สิริกันยานั่งสงบสติอารมณ์สักพักบอกอ๋องไม่ต้องห่วง ตนไม่เก็บเรื่องไม่จริงมาคิด อ๋องดีใจที่เธอเข้มแข็ง...

สิริกันยาเดินกลับห้องทำงาน เห็นสายตาคนมองแล้วซุบซิบก็ไม่อยากใส่ใจ

ด้านณรังค์ดึงปฐวีออกมามุมหนึ่ง เธอสงบลงได้บอกเขาว่าตนโอเคแล้ว แต่ณรังค์สวนว่าเขาไม่โอเคแล้วต่อว่าที่เธอตั้งใจมาทำให้สิริกันยาอาย เธอยักไหล่

“ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย อารมณ์มันพาไปเองช่วยไม่ได้ที่หญิงเห็นมันขวางหูขวางตา ทำไมเหรอ เดือดร้อนแทน?”

“ใช่ ผมเดือดร้อนแทน”

“เพราะณรังค์รักมัน”

วิเชียรเดินตามมาได้ยินเจ้านายใส่อารมณ์กัน

ณรังค์แก้ตัวว่า เพราะตนเป็นเจ้านายต้องปกป้องลูกน้อง ปฐวียิ่งโกรธ จะคอยดูว่าจะปกป้องกันได้แค่ไหน ณรังค์ถามเมื่อไหร่จะหยุด ปฐวียืนกรานไม่หยุด! แล้วสะบัดหน้าเดินกลับไปที่เลานจ์ ณรังค์หนักใจสั่งวิเชียรให้เฝ้าดู ถ้าเธอรบกวนแขกอื่นให้รีบบอก วิเชียรรับคำและบ่นพึมพำว่าจีเอ็มอย่างตนไม่ต้องทำงานอะไรกันแล้ว

ยุพินกับไพโรจน์เอาเรื่องสิริกันยามาเม้าท์ให้คนอื่นๆฟังสนุกปาก หาว่าเป็นผู้หญิงเห็นแก่เงิน ใช้ทางลัดจับปลาหลายมือ พอสิริกันยาเดินผ่าน ไพโรจน์ก็ปรี่เข้ามาดักหน้าส่งสายตาแทะโลม

“มื้อกลางวันอร่อยไหมครับ ความจริงมองระดับเดียวกันบ้างก็ได้นะครับ ไม่เหนื่อยและไม่ผิดศีล”

“หมายความว่ายังไง” สิริกันยาชักฉุน

“ก็หมายความอย่างที่พูดแหละครับ ผมจะสแตนด์บายรอนะ”

ยุพินกับคนอื่นๆหัวเราะคิกคัก สิริกันยาพยายามสะกดอารมณ์ไว้แล้วเดินหนี ไพโรจน์หันมาถามยุพินว่าสิริกันยาโกรธตนหรือ ยุพินคาดว่าคงแค่เล่นตัว อาจจะชอบก็ได้ แบบนี้เขายังชอบอีกหรือ ไพโรจน์บอกว่าแค่ขำๆ อย่างไรเสียก็ได้กำไร

สิริกันยาหยุดฟังอยู่มุมกำแพง เจ็บปวดกับคำพูดเหล่านั้น ณรังค์เดินเข้ามาถามว่าเป็นอะไร เธอสะดุ้งก่อนปฏิเสธว่าไม่มีอะไร

เข้ามาในห้องทำงาน ณรังค์สั่งสิริกันยาให้เช็กงานกับสวัสดิ์ ว่าวางแผนส่งงานอย่างไร เธอต้องหัดทำงานเป็นมืออาชีพ เลือกเก็บแต่สิ่งดีๆในสมอง ส่วนขยะไม่ต้องเก็บ

“ค่ะ...และหวังว่าคุณคงไม่คิดอย่างที่คุณหญิงพูด”

“ผมรู้จักคุณดี สบายใจได้...กับคุณอ๋องล่ะ เข้าใจกันดีใช่ไหม” ณรังค์อดพาดพิงไม่ได้

“ไม่ได้มีปัญหาอะไรค่ะ เราเข้าใจกันดีว่าความจริงเป็นยังไง”

ณรังค์พยักหน้ายินดีที่เข้าใจกัน สิริกันยาอยากรู้หมายความว่าอย่างไร แต่เขาตัดบทให้กลับไปทำงาน เธอจึงต้องเดินออกมาเงียบๆด้วยความงุนงง

ตกเย็น สิริกันยาเก็บของจะกลับ ไพโรจน์เข้ามาขอไปส่งแถมโชว์กุญแจรถว่ารถของตนก็มีระดับ เธอไม่พอใจบอกเขากำลังเข้าใจผิด ผู้หญิงอย่างตน ใครจะมาขำๆไม่ได้ เพราะตนเป็นฝ่ายขาดทุน ใครที่คิดจะเอาแต่กำไรเชิญไปข้างหน้า

ไพโรจน์หน้าชาที่โดนย้อนรอยคำพูดตัวเอง แต่คิดจะลองหยั่งเชิงอีกที แต่พอสิริกันยาท้าทายและเดินหน้าเข้มเข้าใส่ เขาถอยกรูดชนเข้ากับณรังค์ที่ยืนฟังอยู่ หน้าเสียเงอะงะทำอะไรไม่ถูก ขอตัวเลี่ยงไปทันที

“จะกลับแล้วใช่ไหม เดินไปด้วยกันสิ” ณรังค์ชวนสิริกันยา

“อย่าดีกว่าค่ะ เดี๋ยวจะเข้าทางพวกปากหอยปากปู”

“ยิ่งทำตัวไม่ปกติยิ่งเข้าทาง ทำทุกอย่างให้เหมือนเดิมมันคือการยืนยันความบริสุทธิ์ใจ”

สิริกันยาเริ่มเห็นด้วย แต่ไม่ทันจะเดินกันไป วิเชียรโทร.เข้ามา ณรังค์รีบไปที่เลานจ์ สิริกันยาตามมาด้วย เห็นปฐวีดื่มจนเมาฟุบ ลูกน้องเกียรติศักดิ์ยังเฝ้าดูห่างๆ พอดีสวัสดิ์โทร.เข้ามาบอกณรังค์ว่าละมุลขอมาดูตนทำงาน ณรังค์รู้มาก่อนแล้ว ฝากเขาดูแลเธอด้วย

ณรังค์เข้ามาดึงแก้วเหล้าจากมือปฐวี พอเธอเห็นสิริกันยามาด้วยก็ตวาดลั่นว่าใครใช้ให้มายืนเสนอหน้า สิริกันยาปากไวสวนกลับทันควัน

“ไม่ได้อยากมาค่ะ แต่จะมาช่วยคุณณรังค์เก็บกวาด...”

พูดไม่ทันขาดคำโดนณรังค์ปราม สิริกันยาจึงขอโทษ แต่ปฐวีไม่ยอม จะเอาเรื่องให้ได้ ณรังค์ต้องขวางและเอ็ดเสียงเข้มให้หยุด แล้วดึงตัวให้กลับ สิริกันยาช่วยหยิบกระเป๋าไปให้ ลูกน้องเกียรติศักดิ์ติดตามพร้อมโทร.รายงาน

ณรังค์เอาตัวปฐวีขึ้นรถ หันมายิ้มเชิงขอบคุณกับสิริกันยาและวิเชียร ทั้งสองมองตามก่อนจะถอนใจ

ริมแม่น้ำใกล้สะพานภูมิพล ละมุลมองสวัสดิ์วาดภาพอย่างตั้งใจ แต่ตัวเองจิตใจห่อเหี่ยว ช่วงพักกินข้าว สวัสดิ์บอกไม่คิดว่าเธอจะมาดูเขาทำงานจริงๆ ละมุลยิ้มให้ ถามว่าทำไมเลือกที่นี่

“สะพานภูมิพลเป็นแลนด์มาร์คแรกที่ผมอยากวาด เพื่อความเป็นสิริมงคล สะพานนี้ตอนกลางคืนจะสวยมากนะ เป็นแสงสว่างในความมืดที่สวยที่สุด...รออีกหน่อยคุณก็จะได้เห็น”

ละมุลบอกว่าตั้งใจมาดูสิ่งที่ไม่เคยเห็นนอกบ้านบ้าง สวัสดิ์แนะนำว่ายังมีอีกหลายที่ที่อยากให้เธอไปสัมผัส เธอหน้าเศร้าลง ขอแค่วันนี้ก่อนดีกว่า สวัสดิ์พอเข้าใจสถานการณ์ของเธอ

ขณะที่ณรังค์ขับรถพาปฐวีกลับวัง แต่เข้ามากลางซอยใกล้จะถึง เธอกลับลุกขึ้นมาอาละวาดดึงพวงมาลัยรถให้เขาจอด ไม่ยอมกลับวัง พอรถจอดก็ลงเดินด้วยอาการมึนเมา ณรังค์ต้องตามมาคว้าตัวแล้วขอร้องให้เลิกทำร้ายตัวเองเพื่อประชดใครๆ ให้รักตัวเองบ้าง

ปฐวีตวาดกลับ “ในเมื่อมีแต่คนไม่รัก จะรักทำไม!”

“ถ้าคุณหญิงอยากได้ก็ต้องรู้จักให้ก่อน แต่คุณหญิงจะรักใครได้ยังไงในเมื่อคุณหญิงยังรักตัวเองไม่เป็น”

ณรังค์จับตัวเธอหันมาเขย่า เธอดิ้นรนต่อต้าน

“ไม่จริง! หญิงรักคนอื่นเป็น รักมากและรักมาตลอด ไม่เคยลืม ได้ยินไหม ไม่เคยลืม...แต่เขาไม่ได้รักหญิงแล้ว เขาลืมสัญญา ทั้งๆที่หญิงยังจำสัญญาของเขาได้ทุกคำว่าเขาจะรักหญิงไม่ลืมหญิง แล้วจะให้หญิงรักตัวเองไปทำไม ในเมื่อมันไม่มีค่าพอให้ใครจดจำ”

ณรังค์ยืนอึ้งเพิ่งรู้ความในใจของเธอ ปฐวีโผกอดเขาร้องไห้อย่างหนัก เขาเผลอกอดตอบด้วยความสงสาร

โทรศัพท์มือถือณรังค์วางอยู่ในรถ เจ้าตัวจึงไม่ได้ยิน ประคองโทร.มา แปลกใจที่เขาไม่รับสาย เลยเปลี่ยนไปโทร.หาละมุลแทน หญิงสาวเห็นชื่อแม่โทร.เข้ามา กดปิดเครื่องเพราะยังไม่พร้อมคุย ทำให้ประคองหงุดหงิดที่ติดต่อทั้งสองคนไม่ได้

สวัสดิ์เห็นท่าทางละมุลก็เปรยว่า เธอไม่ได้อยากมาดูตนวาดภาพจริงๆ แค่ไม่อยากอยู่บ้านเพราะมีเรื่องไม่สบายใจ ละมุลยอมรับแต่ยืนยันไม่ใช่เรื่องณรังค์ สวัสดิ์นึกขำในใจที่เธอยังหวังในตัวณรังค์ ละมุลค่อยๆระบายความในใจออกมา

“ครูก็น่าจะพอรู้อยู่แล้วว่าฉันมีฐานะอะไรกับท่านชาย แต่ฉันก็ไม่ได้ถูกปฏิบัติเหมือนเป็นลูก มันทำให้ฉันอยากหนีออกมาจากที่นั่น แต่พี่ณะและแม่ไม่เห็นด้วย”

“ผมเห็นด้วยนะกับคุณณรังค์และก็แม่ของคุณ... อดทนเถอะครับ วันไหนที่ปัญหาถูกแก้ คุณจะมีความสุขได้จริงๆ ไม่ใช่สุขแค่ชั่วคราวเหมือนกับการหนี”

“ฉันอาจจะบ้าตายก่อนก็ได้นะครู”

“แค่หลบมาตั้งหลักกับผม แล้วกลับไปสู้ต่อ” สวัสดิ์ยิ้มให้กำลังใจ ทำให้ละมุลสบายใจขึ้น

ooooooo

ณรังค์กอดปลอบปฐวีสักพักก็ผละออก บอกกับเธออย่างตรงไปตรงมาว่า

“เราสองคนไม่มีทางกลับไปเหมือนเดิมได้อีก ไม่ใช่เพราะใคร แต่เพราะคุณหญิงเป็นคนทำให้มันเป็นอย่างนี้เอง ผมกำลังจะแต่งงาน และคุณหญิงก็เหมือนกัน”

“หญิงไม่แต่งก็ได้ ขอแค่ณะกลับมารักหญิง หญิงจะยกเลิกทุกอย่าง เราจะหนีไปด้วยกัน ไปให้พ้นท่านพ่อ” ณรังค์ส่ายหน้า “ณะกลัวเหรอ หญิงยังไม่กลัวเลย”

“ไม่ใช่เพราะผมกลัว แต่เพราะผมไม่ได้รักคุณหญิงแล้ว”

ปฐวีช็อก กรีดร้องอาละวาดตบตีณรังค์ เขาพยายามจับมือเธอให้หยุด จนเธอหมดแรงฟุบลงในอ้อมกอดเขา ทันใดมีแสงไฟหน้ารถคันหนึ่งส่องมา ทั้งสองตาพร่าสักพักไฟหรี่ลง เกียรติศักดิ์เดินเข้ามาด้วยความโกรธพร้อมลูกน้องสองคน ปฐวีตกใจเข้ามาขวางปกป้องณรังค์ไว้

เกียรติศักดิ์โกรธเสียงกร้าว “โกหกว่าอยู่ที่วัง แต่จริงๆมัวแต่ไปนั่งเฝ้าไอ้นี่ที่โรงแรม แถมยังมายืนกอดกันตรงนี้ แล้วอย่างนี้จะให้ผมเชื่อจริงๆเหรอ...ว่าไม่เหลือเยื่อใยอะไรให้มันแล้ว”

ณรังค์รีบบอกว่าเขากำลังเข้าใจผิด เกียรติศักดิ์ไม่ฟังซัดหมัดเข้าที่หน้าณรังค์ ปฐวีโกรธเข้าประจันหน้าถามว่าจะเอาอย่างไร เกียรติศักดิ์เจ็บปวดใจที่คนรักปกป้องเด็กในบ้าน

“ฉันเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ถ้าอยากจะได้ฉัน ก็ต้องยอมรับให้ได้ ไม่ว่าฉันจะทำอะไร”

“ผมต้องยอมรับความสำส่อนของคุณหญิงเหรอ”

“อย่าใช้คำพูดต่ำๆกับฉัน!”

“แล้วที่ตัวเองทำมันต่ำน้อยกว่าคำพูดผมเหรอ”

ปฐวีโกรธจัดตบเขาอย่างแรง เกียรติศักดิ์ตอบโต้อย่างเจ็บปวด

“ผมไม่สนหรอกว่าในใจคุณหญิงคิดอะไร แต่คุณหญิงกำลังจะเป็นเมียผม อย่างน้อยก็ควรให้เกียรติไว้หน้ากันบ้าง”

“มันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด ผมกำลังจะพาคุณหญิงกลับวัง...ด้วยเกียรติของลูกผู้ชาย”

“มึงไม่ได้มีเกียรติในสายตากู จำเอาไว้ทั้งคู่เลยนะ แล้วถ้ายังไม่ให้เกียรติกันอีก ฉิบหายกันหมดแน่!”

เกียรติศักดิ์ไม่ฟังคำณรังค์ เจ็บแค้นใจหันกลับไปขึ้นรถ ปฐวีทรุดฮวบลง ณรังค์เองก็หนักใจ

ooooooo

ด้านสิริกันยากลับมาถึงบ้านก็ขอกอดย่าเพื่อให้กำลังใจตัวเอง ศรีนวลรับรู้ได้ว่าหลานสาวมีเรื่องในใจแต่ยังไม่อยากเล่า ก็ได้แต่เป็นห่วง...พอเห็นว่าอาบน้ำคลายเครียดบ้างแล้วจึงเข้าถามเป็นชุด

“มีปัญหาอะไร...มีแต่ไม่เล่า...กับเจ้านายเอ็งเป็นไงบ้าง ทั้งไอ้บ้าณะกับคุณอ๋อง ปกติทั้งคู่รึ...”

สิริกันยาติงย่าที่เรียกณรังค์แบบนั้น แต่ย่าไม่สนใจ เถียงว่า

“ก็มันจริงนี่หว่า...ยังไง”

สิริกันยาตอบว่าปกติ ศรีนวลรู้ทันทีว่าไม่ปกติ หญิงสาวตัดบทบ่นง่วง ผู้เป็นย่าจึงบอกว่าอาทิตย์นี้จะชวนอ๋องมากินข้าวที่บ้าน แล้วเดินหนีไปโดยไม่ฟังเสียงโอดครวญของหลานสาว...

อ่านละครเรื่อง สายธารหัวใจ ตอนที่ 7 วันที่ 9 พ.ย.60

ละครเรื่อง สายธารหัวใจ บทประพันธ์โดย วาสนา
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ บทโทรทัศน์โดย คนเขียนเงา
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ กำกับการแสดงโดย ชนะ คราประยูร
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ควบคุมการผลิตโดย ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิเวช
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางช่อง 33 HD
ที่มา ไทยรัฐ