อ่านละครเรื่อง สายธารหัวใจ ตอนที่ 6 วันที่ 4 พ.ย.60
“ตอนนี้สติเป็นสิ่งที่ฉันต้องการมากที่สุด เพราะทุกคนรอบตัวฉันมีแต่คนขาดสติ”“แล้วสั่งมาทำไม”
“สีสวยดี...”
อ๋องเปลี่ยนมาถาม คิดว่าใครเป็นคนปล่อยคลิป ณรังค์บอกเดาไม่ยาก อ๋องไม่เข้าใจว่าทำเพื่ออะไร
“เพื่อให้ฉันมานั่งอยู่แบบนี้ไง...ไม่มีความสุขเพราะต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักเหมือนที่เขาต้องเจอ”
“โคตรเจ้าคิดเจ้าแค้น...แล้วเอาไงต่อ”
ณรังค์ยังคิดไม่ออก อ๋องเอาใจช่วยและแนะนำให้หาแฟนชิงแต่งงานไปเลย ทุกคนจะได้เลิกยุ่งด้วย ณรังค์คิดถึงสิริกันยาขึ้นมาทันที
ooooooo
กลางดึก สิริกันยาฟุบหลับคาโต๊ะคอมพ์ ศรีนวลเข้ามาปลุกสีหน้าตระหนกตกใจ บ่นว่าหลานทำไมขี้เซา หญิงสาวงัวเงียถามว่ามีอะไร ผู้เป็นย่าไม่บอกแต่ดึงเธอออกไปดูเอง
สิริกันยาเห็นณรังค์ยืนอยู่หน้าบ้านก็ตกใจ มีอะไรเอาไว้คุยกันที่ทำงานพรุ่งนี้ เขาสวนว่าเรื่องส่วนตัว ไม่คุยที่ออฟฟิศ เธอจึงชวนเขาเข้าบ้าน แต่เขาปฏิเสธเกรงไม่เหมาะสม ศรีนวลชอบใจกับความเป็นสุภาพบุรุษของณรังค์ รีบเข้าบ้านคุยไลน์เล่าให้เจ๊หวานฟัง
ส่วนสิริกันยาบอกณรังค์ทั้งที่ยืนกันอยู่หน้าบ้าน “ว่ามาเลยค่ะ”
“ผมไม่เคยคิดวางคุณไว้เป็นหนึ่งในแค็ตตาล็อก”
สิริกันยาคาดไม่ถึง ณรังค์ขยายความต่อไปอีกว่า
“และมันไม่เคยมี จะด้วยอะไรก็ตามที่ทำให้คุณมองผมแบบนั้น ผมอยากให้คุณเข้าใจว่าคุณกำลังเข้าใจผมผิด ผมกับละมุลคือพี่น้อง ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น”
“จริงๆมันก็เรื่องส่วนตัวของคุณ ไม่จำเป็นต้องมาอธิบายอะไรให้ฉันฟังก็ได้”
“ก็ใช่...แต่ไม่รู้สิ อยากบอก”
“แล้วถ้าฉันไม่เชื่อล่ะคะ”
“ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยผมก็ได้เคลียร์ตัวเองกับคนที่ผมแคร์”
สิริกันยาอึ้ง หัวใจเต้นแรงไม่ต่างจากณรังค์ที่งงไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าพูดออกไป
สองหนุ่มสาวเริ่มรู้ใจตัวเอง ศรีนวลพยายามเงี่ยหูฟังด้วยความอยากรู้ ขยับเข้าไปหาที่นั่งฟังให้ถนัด พอเงยหน้ามาเจอสายตาคมกริบของสิริกันยาก็ผงะ หลุดปากอุทานออกมา
“ตาเถร!! กล้วยบวชชีกูอร่อยมาก!”
ณรังค์อดขำไม่ได้กับคำอุทานแปลกๆนั้น ศรีนวลยิ้มแหยๆ ตกกระไดพลอยโจนต้องเข้าครัวตักกล้วยบวชชีใส่ถุงให้ณรังค์เอากลับบ้าน พร้อมอวดว่าของตนอร่อยจริงไม่ได้โม้ ที่ออกมาเพื่อจะบอกเรื่องกล้วยบวชชี ไม่ได้มาแอบฟังอะไร...สิริกันยาดักคอทำไมต้องเสียงสูง และไม่ได้ถามสักคำ
“ก็ตอบไปก่อน เกิดอยากจะถามจะได้ไม่ต้องถาม”
“ขอบคุณนะครับย่า ผมลาเลยนะ กวนนานแล้ว”
“จ้า ขับรถดีๆนะ ทีหลังก็มาตอนกลางวัน เสาร์อาทิตย์อะไรอย่างนี้ ไม่ได้ไปไหนหรอก”
สิริกันยาปราม ศรีนวลรีบออกตัวว่าชวนไว้ก่อน เผื่อเขาอยากมา จะทำอาหารให้กิน ณรังค์รู้สึกมีความสุขกับสองย่าหลานคู่นี้ สิริกันยาพยายามเก็บอาการขวยเขิน ศรีนวลแซว
“เอ๊า เป็นอะไรทำไมหน้าแดง ชวนกินข้าว ไม่ได้ชวนมาเป็นแฟนหลานฉัน หรืออยากเป็น”
ณรังค์เขินรีบลากลับ สิริกันยาเดินมาส่งที่รถ บอกให้เขาขับรถดีๆ ณรังค์ส่งยิ้มอบอุ่น ศรีนวลเห็นแล้วยิ่งมั่นใจว่าทั้งสองมีใจให้กัน รีบเข้าบ้านพิมพ์ไลน์ไปเล่าให้เจ๊หวานฟัง
สิริกันยากลับเข้าห้อง มองจอคอมพ์ที่เปิดหางานใหม่ค้างไว้ คิดถึงคำพูดของณรังค์ที่เขาบอกว่าอยากเคลียร์ตัวเองกับคนที่เขาแคร์ ตัดสินใจกดปิดเพจหน้าสมัครงาน แล้วโดดขึ้นเตียงนอนยิ้มเขิน ใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก หยิบมือถือมาพิมพ์ข้อความถามณรังค์ ถึงบ้านหรือยัง...แต่อายไม่กล้าส่ง ลังเลอยู่นาน พลันต้องสะดุ้ง เมื่อณรังค์ส่งข้อความมาบอกว่าถึงบ้านแล้ว ใจเธอยิ่งเต้นแรง ที่ใจเราตรงกัน เขินไปเขินมาไม่กล้าตอบกลับอีก
ด้านณรังค์กลับถึงบ้านก็นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว ส่งข้อความไปหาสิริกันยาแล้วรอเธอตอบกลับ เมื่อเห็นว่าเธอไม่ตอบจึงส่งไปอีกว่า...แค่อยากบอก ไม่ต้องตอบก็ได้ ราตรีสวัสดิ์...ประคองแอบมอง นึกถึงคำพูดของละมุลที่ว่า ณรังค์กำลังรักคนอื่น เลขาของเขา...ก็ให้ตัดสินใจว่าจะต้องทำบางอย่างเพื่อให้ลูกสาวสมหวัง
ทางสิริกันยาเห็นข้อความของณรังค์อีกก็ใจอ่อนยวบ พิมพ์กลับไปยาว อ้างไปเรื่อยว่าชงกาแฟอยู่ ถ้าเขานอนไม่หลับให้นั่งสมาธิช่วยได้...แล้วนึกได้ว่ายาวไป ลบทิ้งเปลี่ยนเป็นข้อความว่า...ราตรีสวัสดิ์...เช่นกัน ณรังค์อ่านข้อความแม้จะห้วน แต่ก็ยังดีที่ทลายกำแพงเธอลงได้
ณรังค์วางมือถือไว้บนโต๊ะแล้วเดินเข้าไปในครัว ประคองแอบเข้ามาหยิบมือถือเขาไปกดอ่านข้อความไลน์ แล้วมั่นใจว่าณรังค์กำลังมีความรักกับเลขาตัวเอง รู้สึกไม่พอใจมาก...พอเข้ามาในห้องนอน ครุ่นคิดอย่างยุ่งยากใจมาก พอดีปฐวีโทร.เข้ามายั่วอารมณ์
“จะแต่งกันเมื่อไหร่ล่ะ”
“คุณหญิงรู้ได้ยังไงคะ” ประคองแปลกใจ
“ไม่น่าจะเดายาก ท่านพ่อเป็นคนแบบไหน ทำไมฉันจะไม่รู้”
“ให้ฉันเดา เรื่องข่าว...คงเป็นฝีมือคุณหญิง”
“ฉลาดดีนี่ ควรจะขอบคุณฉันนะ ที่ช่วยสงเคราะห์ความอยากของลูกสาวแก จะได้ไม่ต้องรอนาน”
“ทำแบบนี้เพื่ออะไร”
“อยู่กับคนที่ไม่ได้รัก มันทรมานดีนะ” ปฐวีเยาะแล้ววางสายไป
ประคองแค้นใจแทบอยากทำลายล้างปฐวีให้แดดิ้นไปตรงหน้า
ooooooo
ภาพละมุลที่สวัสดิ์วาดจนเสร็จตั้งตระหง่านในห้องนอน พอเขาตื่นขึ้นมาก็เห็นใบหน้ายิ้มอ่อนละมุนของเธอทุกเช้า
ในขณะที่ละมุลตื่นเช้ามามีสีหน้าอมทุกข์ ประคองติงทำหน้าแบบนี้ ณรังค์เห็นจะรักได้อย่างไร หญิงสาวส่ายหน้าว่าเขาไม่มีวันรักตน ประคองเอ็ดเสียงเข้มให้หยุดคิดแบบนี้ หมดเวลาอ่อนแอ ต้องสู้ ยิ่งเขาไม่รักยิ่งต้องสู้ ละมุลเสียงเศร้า
“สู้ยังไง พี่ณะก็พูดชัดเจนแบบนั้น ว่าไม่มีทางแต่งงานกับหนูเด็ดขาด”
“ก็ทำให้ตาณะรักให้ได้”
“หนูทำไม่ได้หรอก”
“อยากแพ้คุณหญิงปฐวีไปตลอดชีวิตหรือไง!...มันเป็นเกมที่คุณหญิงปฐวีสร้างขึ้นมา เพราะอยากเห็นลูกและตาณะเป็นทุกข์และทรมาน”
ละมุลตกใจน้ำตาคลอ “เมื่อไหร่เขาจะเลิกยุ่งกับหนูสักที”
“จนกว่าเราจะลุกขึ้นมาสู้ ให้คุณหญิงปฐวีเห็นว่า เราไม่ใช่เหยื่อให้เขาทำร้ายจิตใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้อีกต่อไป เพราะฉะนั้นวิธีเดียวที่ลูกจะชนะก็คือ...ต้องทำให้ตาณะรักลูกให้ได้”
ละมุลไม่อยากแพ้แต่ไม่มีความมั่นใจเอาเสียเลย ...ด้านปฐวียังคงอยู่ในชุดเมื่อวาน นั่งนิ่งในห้อง หน้าตาเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเครื่องสำอางจากน้ำตา จากสีหน้าสิ้นหวังเจ็บปวดกลายเป็นสายตาแข็งกร้าว ลุกขึ้นพร้อมชนทุกอย่างไม่ยอมสิ้นหวัง
ณรังค์ขับรถมาส่งละมุลที่โรงเรียน เห็นเธอเงียบมาตลอดทางก็ถามนัดสวัสดิ์มาคุยเรื่องภาพเขียนให้หรือยัง ละมุลอึกอัก พอดีสวัสดิ์เดินเข้ามาทักทาย หญิงสาวหน้าเจื่อน ยังไม่ทันได้คุยแต่สวัสดิ์กลับคุยกับณรังค์อย่างยิ้มแย้ม ยินดีรับงานนี้ ณรังค์ดีใจบอกให้เข้าไปดูสถานที่ ว่างวันไหนให้ละมุลพาไป ละมุลยังเหวอๆ พอณรังค์กลับไป จะถามสวัสดิ์ว่าทำไมเปลี่ยนใจ แต่เขากลับเดินหนีไปดื้อๆ เธอต้องวิ่งตามถาม เขาหยุดเดินหันกลับมาตอบว่า
“คิดไปคิดมาแล้ว รับดีกว่าครับ ได้เงินแล้วยังได้ผลงานเป็นพอร์ตไว้ใช้ตอนไปสมัครงานใหม่ได้”
ละมุลใจหาย ถามเขาจะลาออกหรือ “ยังเป็นแค่ความคิดอยู่ครับ”
“ที่จะลาออก เพราะฉันมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือเปล่า” ละมุลไม่สบายใจเลย
สวัสดิ์ตอบว่าไม่เกี่ยว ไม่ต้องคิดมาก หญิงสาวสบายใจขึ้น แล้วบอกว่าจะไปหาณรังค์เมื่อไหร่ ตนจะเขียนแผนที่ให้ สวัสดิ์ลอบถอนใจที่จริงแล้วเธอมีส่วนในการอยากลาออก...พอสวัสดิ์จะเดินไปสอน เจอครูต้อยถามเรื่องที่จะลาออก สวัสดิ์จึงบอกว่าเปลี่ยนใจไม่ลาออกแล้ว
“เพราะครูละมุลหรือ ยังไงเนี่ย ช่วยอธิบายที พี่งง ไม่เข้าใจ คือถ้าเป็นพี่ อกหักแบบนี้ พี่เปิดแล้ว ไม่อยู่ให้ช้ำใจหรอก”
“ตอนแรกก็คิดอย่างนั้น แต่...ผมขอเลือกที่จะได้อยู่ใกล้ๆและยังเห็นหน้าทุกวันแบบนี้ดีกว่า มันเจ็บน้อยกว่าที่ต้องตัดขาดไปเลย”
“โอ๊ย! พ่อคุณ โถๆ แสนดีมีความจงรักภักดี ประเสริฐ ยังมีผู้ชายแบบนี้อยู่ในโลกด้วยเหรอเนี่ย เฮ้อ...แต่ถ้าวันไหนทนไม่ไหว แล้วครูจะหายตัวไป พี่เข้าใจนะ”
สวัสดิ์ขอบคุณที่เข้าใจแล้วเดินไป ครูต้อยมองตามครูรุ่นน้องด้วยความสงสารระคนเอ็นดู
ooooooo
หน้าห้องทำงานณรังค์ สิริกันยาถือถ้วยกาแฟเดินมาจะนั่งที่โต๊ะทำงาน รีบวางถ้วยด้วยร้อนมือ แต่แล้วต้องตกใจเมื่อเห็นณรังค์เดินมา รีบก้มหน้าก้มตาทำงานเพราะเขินไม่กล้ามอง ณรังค์ทักทาย เธอยกมือไหว้โดยไม่มองหน้า แล้วไม่รู้จะเอามือไว้ไหน จึงหยิบถ้วยกาแฟมาซด
ทันใดเธอก็ร้องอ๊าย...เพราะกาแฟลวกปาก ณรังค์รีบดึงกระดาษทิชชูส่งให้พร้อมกับพูด
“กำลังจะถามว่าไม่ร้อนเหรอ...”
“ร้อนมากค่ะ” สิริกันยาตอบอย่างลืมตัว แล้วชะงัก รับกระดาษมาก้มหน้าเช็ดปาก พอณรังค์ถามว่าเขินหรือก็เงยหน้าทันที “เปล่าค่ะ ไม่มีเหตุผลอะไรต้องเขิน”
“นั่นสินะ มีเหตุผลอะไรให้เลขาต้องมาเขินเจ้านาย...อีกสิบนาทีเจอกันในห้องนะ มีงานจะอัพเดต” ณรังค์แอบขำเดินเข้าห้องทำงาน
อ่านละครเรื่อง สายธารหัวใจ ตอนที่ 6 วันที่ 4 พ.ย.60
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ บทประพันธ์โดย วาสนาละครเรื่อง สายธารหัวใจ บทโทรทัศน์โดย คนเขียนเงา
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ กำกับการแสดงโดย ชนะ คราประยูร
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ควบคุมการผลิตโดย ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิเวช
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางช่อง 33 HD
ที่มา ไทยรัฐ