อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 2 วันที่ 29 พ.ย.60
“แกโกหกฉัน แกบอกว่าแกจะลืมอดีตให้หมด แกตกลงใจแต่งงานกับคุณเขมก็เพื่อยืนยันว่าแกจะเริ่มต้นชีวิตใหม่...ฉันถึงยอมช่วยแกทุกอย่าง...แกมันเลือดเย็น”บุญคุณทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงานทำให้ทัศนะยอมช่วยชาคริตเข้าหาพวกเมธาสิทธิ์ แต่เขาไม่คิดว่าเพื่อนรักจะมีแผนร้ายกว่านั้น ชาคริตไม่ยี่หระท่าทางโกรธจัดของเพื่อน แถมด้วยมาดยียวน
“ฉันจะล้างไพ่ใหม่ต่างหาก แล้วเริ่มเกมใหม่หมด ที่เคยคิดว่าจะเล่นงานนายดิลกคนเดียว มัน...สนุกยังไม่พอ เล่นงานรุ่นลูกด้วยดีกว่า ไม่มีอะไรเจ็บเท่าเห็นคนที่รักทรมานใจหรอก”
“คนอย่างแก...หนังสือธรรมะพันเล่มหมื่นเล่มก็ช่วยอะไรไม่ได้”
“ก็พอช่วยได้นะ อย่างเช่น...จิตมีไว้ตรอง สมองมีไว้คิด ชีวิตมีไว้ต่อสู้ ศัตรูมีไว้เพิ่มพลัง”
“แกอย่าทำให้ศาสนาต้องมัวหมองเลยว่ะ อย่าอ้างคำสอนมั่วซั่วเพื่อประโยชน์ตัวเอง”
“ฉันชอบอีกประโยค...ความอดทนคือบททดสอบของคนดี...อันนี้เจ๋ง ฉันอดทนยี่สิบปีนี่เรียกว่าดีขั้นเทพได้เลย”
“ฉันขอร้อง...แกอย่าทำเรื่องอะไรเลวๆอีก ไม่งั้นฉันจะบอกความจริงให้ทุกคนรู้!”
ทัศนะขู่เสียงเข้ม แต่ชาคริตรู้จักนิสัยเพื่อนดี แกล้งท้าให้บอกความจริงกับชญานีเป็นคนแรก ทัศนะขัดใจมากที่ทำอะไรชาคริตไม่ได้ ได้แต่ปึงปังเข้าห้องประชุมด้วยท่าทางหัวเสียสุดๆ
ooooooo
ชญานีสงสัยท่าทางแปลกๆของทัศนะ แม้เขาจะไม่หยุดงานเหมือนช่วงแรกๆที่เขมิกาหายตัวไป แต่รีบมารีบกลับเหมือนคนมีความลับ ชาคริตพอเดาได้ แต่เพื่อให้แน่ใจเลยส่งชญานีไปสืบเบอร์มือถือเครื่องใหม่ที่ทัศนะเพิ่งซื้อ
ชาคริตคิดว่ารู้แล้วว่าเขมิกาซ่อนตัวที่ไหน ต่างจากไตรทศที่ปักใจว่าชญานีซ่อนตัวชาคริตไว้และอาจช่วยพี่ชายกักขังตัวเขมิกา และวันนี้เขาก็เดินเกมรุกบุกค้นถึงบ้านเธอ
ท่าทางเกรี้ยวกราดเหมือนคนบ้าของไตรทศทำให้ชญานีเริ่มกลัว แต่ทำใจดีสู้เสือยืนกรานว่าไม่รู้เรื่อง
“ถ้ายังไม่บอก ผมจะคุกคามคุณอย่างนี้ เหมือนอย่างที่ไอ้ชาคริตทำกับครอบครัวผม!”
“ออกไป! ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจ”
“นาทีนี้คงมีใครมาช่วยคุณทันหรอก”
พูดจบก็คว้าตัวเธอหมับ ชญานีกลัวมาก เอื้อมไปหยิบของหัวเตียงแต่ไม่กล้าขว้าง...มันคือตุ๊กตาจีนตัวเก่าที่ชาคริตเคยให้เมื่อหลายปีก่อน สมัยเธอเป็นแค่เด็กกำพร้าที่ฮ่องกง ความทรงจำดีๆที่เขาดูแลและช่วยเหลือเธอทุกอย่างก่อเกิดเป็นความรักลึกซึ้งเกินคำว่าพี่น้อง และเธอก็ทำใจไม่ได้ถ้าต้องทำลายมัน
ไตรทศเห็นท่าทางลังเลของเธอก็พอเดาได้ ดักคออย่างรู้ทัน
“ใครให้เหรอ...พี่ชายคุณให้ล่ะสิ เขารับคุณมาอุปการะตั้งแต่คุณอายุสิบขวบ เขาดีต่อคุณ คุณคิดแค่นี้ใช่ไหม คุณถึงไม่แยแสกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลย”
“ใช่! ไม่ว่าพี่คริตทำอะไร ฉันจะอยู่ข้างพี่คริต ฉันตายแทนพี่คริตได้ คุณไปทำการบ้านมาใหม่ไป คนที่คุณกำลังเล่นงานน่ะ คุณรู้จักเขาดีพอแล้วเหรอ เพราะฉัน... ฉันยังไม่รู้จักพี่ชายตัวเองเลย!”
ชญานีทรุดตัวกับพื้น ร่ำไห้อย่างหมดอายเมื่อคิดถึงเรื่องราวของชาคริตพี่ชายบุญธรรมที่เธอไม่เคยเข้าใกล้หัวใจ ไตรทศตกใจไม่น้อยที่เห็นท่าทีของเธอ สงสารและแปลกใจ...สุดท้ายก็เป็นฝ่ายล่าถอย ทิ้งชญานีให้นั่งจมกองน้ำตากอดตุ๊กตาจีนด้วยหัวใจร้าวราน...
ญาดาไม่พอใจมากที่ไตรทศไปค้นบ้านชญานีโดยพลการ แม้น้องชายจะทำเพราะหวังดีและเป็นห่วงเขมิกา แต่เธอไม่เคยเห็นด้วยที่ผู้ชายจะใช้ความรุนแรงกับผู้หญิง ไตรทศหน้าเจื่อนที่โดนดุ แต่เพียงไม่นานก็เปลี่ยนเป็นหน้าเคร่ง เมื่อพี่สาวคนโตประกาศกร้าวจะฉีกสัญญาที่ทำกับทีมาร์ท
“เขมเจ็บแค่ไหน พี่จะทำให้นายชาคริตเจ็บกว่าเขมร้อยเท่าพันเท่า!”
ooooooo
เขมิกาแอบไปเยี่ยมพ่ออีกจนได้ แต่ไม่ทันได้เจอ ชาคริตก็ทำให้เธอต้องผลุนผลันออกจากโรงพยาบาล เมื่อเขาแกล้งบอกให้เธอมาเจอที่เดอะคลับ หากอยากรู้เหตุผลและความจริงจากเขา
ความเจ็บปวดและอับอายทำให้เขมิกาเสียศูนย์ แต่เมื่อเห็นสภาพของพ่อและความวุ่นวายของพี่สาวและน้องชาย คุณหนูคนสวยก็ต้องตั้งสติและตัดสินใจไปเจอชาคริต
ชาคริตย่ามใจมากเมื่อเขมิการับนัด รีบสั่งผู้จัดการเดอะคลับที่เขามีหุ้นเป็นเจ้าของ ดูแลและต้อนรับอดีตคู่หมั้นอย่างดี เขมิกาหัวใจเต้นแรงเมื่อได้เจอชาคริตอีกครั้ง แต่ความร้ายกาจของเขาก็ทำให้เธอต้องตัดใจ
“ฉันต้องการรู้ความจริงว่าทำไมคุณถึง...ทิ้งฉัน”
“รอก่อน...ผมต้องการให้คุณพบใครบางคน แล้วผมจะบอกความจริงทั้งหมดให้คุณฟัง...รึคุณไม่กล้า”
คำท้าทายของชาคริตทำให้เขมิกาสังหรณ์ใจ ก่อนจะหน้าซีดเมื่อคิดได้ว่าเขาอาจเรียกญาดามาที่นี่ แต่เพราะทิฐิและความอยากรู้ทำให้เธอยอมรับคำท้า ชาคริตชอบใจมากและเริ่มต้นแผนการปั่นประสาทของเขาอีกครั้ง
ชาคริตจัดการล่อลวงเขมิกาให้ดื่มจนเมาหนัก ก่อนโทร.ตามญาดาให้มาเจอ
“ผมอยากชวนคุณมาฟังเพลงด้วยกัน คืนนี้ว่างไหมครับ”
ญาดาที่พยายามโทร.หาเขาหลายชั่วโมงแต่เขาปิดเครื่อง แทบคลั่ง
“ฉันไม่ว่างจะคุยเรื่องไร้สาระกับคุณ!”
“คุณชอบดนตรีอะคูสติกไหมครับ”
“ฉันไม่สน...เข้าใจไหม”
“เสียดาย...งานอะคูสติกเฟสคืนนี้คืนสุดท้ายเสียด้วย เขมก็ชอบอะคูสติกนะครับ นึกว่าคุณอยากเจอเขมเสียอีก”
เพราะชื่อเขมิกาแท้ๆ ทำให้ญาดาตกหลุมพรางยอมไปเจอชาคริตที่เดอะคลับ ไตรทศตามไปด้วยความเป็นห่วงพี่สาวทั้งสอง แต่ทั้งสองก็คลาดกับเขมิกาที่เมามายไม่ได้สติและถูกชาคริตจับส่งขึ้นแท็กซี่แล่นผ่านไปต่อหน้าต่อตา
ไตรทศรีบขับรถตามแท็กซี่ ทิ้งญาดาให้บุกไปเอาเรื่องชาคริตตามลำพัง สภาพเมาแอ๋ของเขมิกา...
น้องสาวที่เธอประคบประหงมอย่างดีตั้งแต่เด็กทำให้เธอโกรธเจียนคลั่ง แต่สติก็ทำให้เธอยั้งตัวเองไว้ได้ ไม่ให้ลงไม้ลงมือกับเขา
“ฉันจะไม่ลดตัวไปทำเรื่องแย่ๆกับคนต่ำๆอย่างคุณ!”
ชาคริตเห็นญาดาเก็บอาการก็พยายามยั่วประสาท
“แต่ที่ผมเห็นนี่ ไม่ใช่ผมนะที่ทำเรื่อง...ไม่ค่อยน่าดูน่ะ”
“ที่เขมเป็นแบบนี้ก็เพราะคุณ!”
“ปัญหาอาจเกิดจากครอบครัวคุณเองก็ได้ เขมถูกตีกรอบชีวิตมากไป พอได้โอกาสก็เลยลองแหกคอกสักหน่อย ผมแค่เป็นคนถอดสลักปัญหาให้คุณเห็น”
“คุณเก่งแต่โยนความผิดให้คนอื่น”
“พ่อคุณเก่งยิ่งกว่า!”
พูดจบก็จะผละไป ญาดาไม่ยอมถลาไปดักหน้า
“คุณชาคริต! คุณเอาเขมไปไว้ที่ไหน คุณปั่นหัวฉันทำไม”
“ก็คุณโดดลงมาเล่นเกมกับผมเองไม่ใช่เหรอ แล้วสุดท้าย...ผมมั่นใจต้อง...ได้...จากคุณ”
สายตาโลมเลียของเขาทำให้ญาดาหน้าร้อนผ่าวด้วยความอับอาย
“เลว! คนอย่างฉันไม่มีวันยอม...เสีย แต่คุณต้องได้แน่”
ชาคริตยักไหล่ไม่แยแส ญาดาต้องข่มสติอย่างมากไม่ให้บ้าตาม ขยับไปสบตานิ่ง
“ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วไง...อีกไม่นานเกินรอ!”
ooooooo
ชาคริตไม่ได้ตั้งใจจะทำมิดีมิร้ายเขมิกาอยู่แล้ว แค่ดึงมาเป็นตัวล่อให้ญาดาประสาทเสีย คุณหนูคนสวยอดีตคู่หมั้นของเขาเลยถึงบ้านทัศนะอย่างปลอดภัยแต่ในสภาพที่เจ้าของบ้านทั้งสองคนพูดไม่ออก
เพ็ญขวัญกับทัศนะช่วยกันพาเขมิกาเข้าบ้าน ก่อนที่ฝ่ายหลังจะสังหรณ์บางอย่าง คว้ามือถือเครื่องใหม่เอี่ยมของเขมิกามาดูแล้วก็พบว่าเบอร์โทร.ออกล่าสุดคือเบอร์ของชาคริต!
ญาดากลับถึงบ้านด้วยหัวใจแตกสลาย สภาพเขมิกา ที่เมามายไม่ได้สติทำให้เธอสงสารจับใจ ไตรทศที่คลาดกับรถแท็กซี่ของเขมิกา กลับบ้านในสภาพเซ็งจัดไม่ต่างกัน สองพี่น้องมองตากันเงียบๆ ไม่ได้ซ้ำเติมหรือโวยวายใส่กัน และกัน แต่ถอนใจยาวและตั้งสติ...พรุ่งนี้เราจะสู้กันใหม่
ไตรทศขึ้นไปพักผ่อนแล้ว ทิ้งญาดาให้นั่งทบทวนถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ภาพของเขมิกาเมื่อหลายเดือนก่อน ...ตอนยังเป็นแค่น้องสาวขี้อ้อนร้องขอตามไปดูงานที่ต่างประเทศกับเธอ
ญาดาหลับตาช้าๆ น้ำตาพานไหลอย่างช่วยไม่ได้ เธอผูกพันกับเขมิกามากกว่าใคร เลี้ยงดูอุ้มชูกันมาตั้งแต่เด็ก ทุกอย่างในชีวิตน้องสาว เธอเป็นคนดูแลและคอยกำหนด เขมิกาบริสุทธิ์และใสซื่อเกินกว่าจะตามเล่ห์เหลี่ยมคนเจ้าแผนการอย่างชาคริต และเธอก็อดโทษตัวเองไม่ได้ที่เลี้ยงน้องมาแบบทะนุถนอมเกินไป
ภาพถ่ายครอบครัวในโถงบ้านทำให้ญาดายิ่งสะอื้น บรรยากาศอบอุ่นและเสียงหัวเราะของทุกคนในบ้านถูกทำลายเพียงเพราะผู้ชายคนเดียว...ชาคริต!
ชาคริตลำพองใจมากที่ทำให้พวกเมธาสิทธิ์โดยเฉพาะญาดาเสียศูนย์ เขาเดินหน้าเกมรุกด้วยการจ้างวินิจ มือขวาและผู้ดูแลเอกสารด้านกฎหมายของดิลก เปลี่ยนแปลงข้อความในสัญญาฉบับเดิมทั้งหมด
วินิจเป็นผู้ช่วยที่ดิลกไว้ใจมากกว่าใคร การใช้เงิน กว้านซื้อทุกอย่างที่ดิลกรักทำให้ชาคริตสะใจมาก วินิจไม่เต็มใจทำนัก แม้จะยอมรับข้อเสนอเพราะเห็นแก่เงินค่าจ้างก้อนโต แต่ก็แอบกลัวติดคุก ชาคริตจึงแกล้งรับปากส่งๆจะไม่ยอมให้วินิจต้องเดือดร้อนเพราะแผนการของเขา
ชาคริตนัดหมายให้วินิจส่งสัญญาฉบับใหม่วันต่อมา เพราะรู้ดีว่าญาดาต้องไม่อยู่เฉย เปิดเกมโต้กลับเขาด้วยการสั่งคนทำเรื่องยกเลิกสัญญาระหว่างบีสตาร์กับทีมาร์ท
วินิจตั้งใจจะหนีหลังส่งสัญญาให้ชาคริต แต่ก็ถูกสั่งอุ้มแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ชาคริตไม่ได้สำนึกกับความโหดร้ายของตัวเอง บุกถึงห้องประชุมใหญ่ของบีสตาร์เพื่อประกาศเรื่องสัญญาฉบับใหม่
สัญญาฉบับใหม่มีใจความสำคัญคือปรับเปลี่ยนการแบ่งหุ้นใหม่ให้ชาคริตได้ส่วนแบ่งถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งวินิจให้ดิลกเซ็นเมื่อวันก่อน โดยหลอกว่าเป็นแค่การแก้ไขเงื่อนไขการจัดจำหน่าย และการแก้ไขนี้ทำให้ชาคริตกลายเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของบีสตาร์ทันที
ญาดามีสติมากกว่าใคร เธอนั่งอ่านสัญญาใหม่อย่างใจเย็น ต่างจากไตรทศที่โวยลั่น
“นี่มันสัญญาปลอม คุณพ่อไม่มีวันยกบริษัทให้แกหรอก ฉันไม่ยอมให้แกโกงบริษัทเราหน้าด้านๆอย่างนี้ ฉันจะให้ฝ่ายกฎหมายของเราเล่นงานแก!”
“เชิญตามสบาย แต่ระหว่างรอกระบวนการทางกฎหมาย บีสตาร์ต้องหยุดผลิต หยุดจำหน่าย...หยุดทุกอย่าง”
“ไม่ต้องรอถึงตอนนั้นหรอก ฉันจะเอาแกเข้าคุกตอนนี้เลย ฐานปลอมแปลงเอกสาร”
ไตรทศจะเอาเรื่องต่อ แต่ถูกญาดาซึ่งสุขุมกว่าสั่งให้เงียบ เพราะรู้แน่แล้วว่าวินิจถูกซื้อตัว ชาคริตประทับใจความฉลาดของญาดาไม่น้อย แต่กระนั้นก็ไม่มากพอให้เขาเปลี่ยนใจเรื่องล้างแค้น
“ผมขอสรุปสั้นๆ ตอนนี้เราสองบริษัทได้ควบรวมกิจการเป็นหนึ่งเดียว นับตั้งแต่วันนี้ผมเป็นคนเดียวที่มีอำนาจสูงสุดของบริษัท”
“หมายความว่า...คุณชาคริตจะขึ้นเป็นประธานบริษัทแทนคุณดิลกใช่ไหมครับ”
เสียงพนักงานหลายฝ่ายถามกันอื้ออึง ชาคริตเลยสรุปง่ายๆ
“ผมไม่ชอบมีตำแหน่งรุงรัง เอาเป็นว่า...ตอนนี้ผมเป็นเจ้าของบีสตาร์แต่เพียงผู้เดียว!”
ooooooo
การปรากฏตัวและการประกาศความเป็นเจ้าของ บีสตาร์ของชาคริตทำให้พนักงานระส่ำระสาย คงมีแค่ปาริฉัตรที่สะใจและแอบหาทางไปดักเจอชาคริต แต่ไม่ทันขยับก็ต้องเบรกตัวโก่ง เมื่อเห็นญาดาตามมาเอาเรื่องเขา
ญาดาสติแตกไม่แพ้ไตรทศ แต่ในฐานะลูกสาวคนโตที่ดิลกรักและไว้ใจทำให้เธอต้องตั้งสติ ชาคริตชอบใจมากที่ปั่นหัวเธอได้แต่แกล้งทำเป็นขรึม
“ถ้ามีปัญหาเรื่องสัญญา ก็ลองปรึกษาฝ่ายกฎหมายของคุณดู แต่ป่านนี้คุณวินิจคงนอนอาบแดดที่ฮาวายแล้ว”
“นี่คุณทำธุรกิจด้วยวิธีสกปรกแบบนี้เองเหรอต่ำทรามจริงๆ โกงกันซึ่งๆหน้า ฮุบบริษัทของคนอื่น บริษัทที่คุณไม่เคยเสียเหงื่อแม้แต่หยดเดียวให้ แต่บริษัทนี้เป็นทั้งชีวิตของเรา...คุณทำเพื่ออะไร”
“เพื่อความสะใจ”
อาการโกรธจนตัวสั่นของญาดาทำให้ชาคริตต้องกลั้นยิ้ม เขากวาดตามองรอบตัวเห็นพนักงานหลายคนมุงดูด้วยความสนใจ เลยอดไม่ได้จะเย้า
“ใครจะรู้ว่าคุณญาดาจะมีวันนี้!”
ญาดาเห็นสายตาสอดรู้สอดเห็นของเหล่าพนักงานจึงพยายามรวบรวมสติ แต่ชาคริตก็ไม่หยุดยั่ว
“ดีนะที่ตึกเราอยู่ใกล้กัน ผมจะได้มาตรวจงานที่นี่สะดวก”
“ถึงขนาดนี้แล้ว คุณยังต้องการอะไรอีก”
“วันนี้พอก่อน พรุ่งนี้ขอให้หัวหน้าทุกฝ่ายมารายงานตัวกับผมที่ทีมาร์ท เชิญคุณดิลกด้วยนะครับ ผมยังไม่รู้ว่าจะเอาแกไปยัดไว้ไหนดี ตำแหน่งไหนจะเหมาะ ...ขอคิดสักคืน!”
ทัศนะรับรู้เรื่องสัญญาฉบับใหม่ด้วยความหนักใจ อยากช่วยพวกญาดาแต่ข้อความและเงื่อนไขในสัญญาก็รัดกุมจนเขาขยับแทบไม่ได้ ได้แต่ปรามแกมขอร้องให้ชาคริตยกเลิกแผนการฮุบบีสตาร์
ชาคริตยักไหล่ไม่แคร์ ก่อนจะตาวาวเมื่อเห็นญาดาหิ้วรองเท้าคู่ใหม่ที่เขาเพิ่งให้เธอเมื่อวันก่อนมาตามทางเดินของออฟฟิศทีมาร์ท
“พรุ่งนี้ฉันไม่ว่าง ฉันเลยมารายงานตัวล่วงหน้า”
“ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ”
“ขอแสดงความยินดีท่านประธานบีสตาร์คนใหม่ แต่โจร...ถึงใส่สูทยังไงก็เป็นโจรอยู่ดี”
ท่าทางของญาดาเหมือนระเบิดเวลา ตัวสั่นสะท้านด้วยความโกรธจัดแต่พยายามระงับไว้ ชาคริตเหยียดยิ้มเย็น ไม่สะทกสะท้านกับท่าทีเอาเรื่องของเธอ ยั่วประสาทกลับ
“ผมคิดว่ารองเท้าคงไม่ใช่ของขวัญสำหรับการแสดงความยินดีมั้งครับ...ไม่กล้าเหรอ”
“โชคดีแล้วที่เขมไม่ได้แต่งงานกับผู้ชายอย่างคุณ ไม่งั้นน้องสาวฉันคงต้องตกนรกทั้งเป็น”
“คุณรู้ได้ไงว่าเขมพ้นมือผมแล้ว อ้อ...รวมถึงตัวคุณด้วย แล้วบอกข่าวดีพ่อคุณหรือยังว่าบริษัทคุณกำลังล่มสลาย...หาทางบอกดีๆล่ะ พ่อคุณวูบบ่อย จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้”
ญาดาปรี๊ดแตก เขวี้ยงรองเท้าในมือใส่เขา
“อย่าแตะต้องครอบครัวฉัน!”
ชาคริตหลบทัน สบตาเธออย่างท้าทาย
“เห็นหรือยังว่าคุณทำอะไรผมไม่ได้”
“วันนี้วันของคุณ อย่าให้เป็นวันของฉันบ้าง!”
พูดจบก็ฮึดฮัดจากไป ทิ้งชาคริตให้มองตามยิ้มๆ ชอบและสะใจมากที่ทำให้ญาดาเต้นตามได้ขนาดนี้ ทัศนะกับชญานีที่เห็นเหตุการณ์ตลอดมองหน้ากันอึ้งๆ แต่ไม่ทันพูดอะไร ชาคริตก็โพล่งเสียก่อน
“ไอ้นะ...ดูแลเขมิกาให้ดีล่ะ ฉันยกให้ สำหรับฉัน ...ผู้หญิงคนนี้สิใช่!”
ooooooo
ญาดาเครียดจัดเรื่องบีสตาร์ ไม่รู้จะบอกดิลกที่อาการไม่ค่อยดีอย่างไร ยิ่งเห็นพ่อกระตือรือร้นอยากให้เธอเล่าสถานการณ์ที่ออฟฟิศ ยิ่งร้อนรนกลัวพ่อรู้ความจริงแล้วจะอาการทรุด
จนแล้วจนรอด ญาดาก็ทำใจบอกความจริงเรื่องบีสตาร์ถูกชาคริตฮุบไม่ได้ เช่นเดียวกับเขมิกาที่ยังทำใจไม่ได้ ต้องบุกเดอะคลับไปถามความจริงทุกอย่างจากชาคริต
ชาคริตไม่ยอมออกมาพบเขมิกา แต่สั่งผู้จัดการเดอะคลับไปรับหน้า โดยไม่รู้เลยว่านอกจากคุณหนูคนสวย เดอะคลับยังได้ต้อนรับไตรทศที่บุกมาเอาเรื่องเขาด้วย
แต่เพราะไตรทศไม่ใช่สมาชิกเดอะคลับ พนักงานเลยไม่ให้เข้า ไตรทศหัวเสียมาก ประกาศจะจ่ายค่าสมาชิกเท่าที่ต้องการ ชญานีผ่านมาได้ยินโดยบังเอิญ หมั่นไส้จนอดแขวะไม่ได้
“เดอะคลับไม่ได้รับสมาชิกที่มีแต่เงิน แต่ต้องมีเกียรติด้วย”
“มีเกียรติอย่างพี่ชายคุณงั้นเหรอ”
“ใช่...มีเกียรติ มีหน้าที่การงานดี แล้วต้องมีสมาชิกเก่าเซ็นรับรอง ถึงจะเข้าเป็นสมาชิกที่นี่ได้ ฉันเป็นสมาชิกอยู่ สามารถพาแขกเข้าได้คนนึง แต่คุณห้ามไปตื๊อแขกคนอื่นให้ซื้อหุ้นหรือลงทุนอะไรนะ”
อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 2 วันที่ 29 พ.ย.60
ละครเรื่อง ระเริงไฟ บทประพันธ์โดย โสภี พรรณรายละครเรื่อง ระเริงไฟ บทโทรทัศน์โดย พิมพ์ธนา และ เอกชยา
ละครเรื่อง ระเริงไฟ กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง ระเริงไฟ ผลิตโดย บริษัท ชิติเช่น เคน จำกัด
ละครเรื่อง ระเริงไฟ ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง ระเริงไฟ เริ่มออกอากาศตอนแรกวันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2560
ที่มา ไทยรัฐ