อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 1 วันที่ 26 พ.ย.60
“ทำไมฉันถึงบอกคุณงั้นเหรอคะ ข่าวฉาวๆแบบนี้ปิดไม่มิดหรอกค่ะ เป็นความผิดของฉันเอง ถ้าฉันไม่มัวห่วงงาน ฉันคงกลับมาห้ามน้องสาวทัน ยัยเขมรับปากฉันแล้วว่าจะรอ แต่ปุ๊บปั๊บก็จัดงานแต่งงาน ฉันหาตั๋วบินกลับแทบไม่ทัน นายนั่นคิดทำอะไร...ทำตัวลึกลับซับซ้อน เล่นสนุกกับชีวิตคนอื่น”เมื่อได้ระบายอารมณ์ญาดาก็เบรกแตก ระเบิดทุกอย่างใส่ชายหนุ่มแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันแบบไม่รู้ตัว
“นายชาคริตต้องเป็นโรคจิต!”
ชาคริตกลั้นยิ้มแทบแย่ แกล้งถามเสียงซื่อ
“ผมก็ว่างั้น แล้วถ้าเจอเขา...คุณจะทำยังไง”
“ฉันจะจับเขามาคุกเข่าต่อหน้าน้องสาวฉัน ต่อหน้าครอบครัวฉัน แล้วให้กราบขอโทษ!”
“ผมขอเอาใจช่วยนะครับ ขอให้ตามตัวนายชาคริตเจอ”
จบคำก็ขอตัว ทิ้งญาดาให้มองตามยิ้มๆ แอบประทับใจที่เขาเป็นเพื่อนคุยที่ดี
ชาคริตสะใจมากที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน และย่ามใจพอจะแอบเข้าไปหาดิลกในห้องไอซียู สายออกซิเจนและสายระโยงระยางรอบตัวไม่ได้ทำให้เขานึกสงสาร รอคอยอย่างใจเย็นจนอีกฝ่ายรู้สึกตัว
ดิลกเพ่งมองชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนจะตัวสั่นด้วยความโกรธ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคือใคร
“ทำไม...แก...ทำกับเขมแบบนี้”
“รู้แล้วใช่ไหมว่าความรู้สึกที่ตายทั้งเป็น...มันทรมานยังไง”
ชาคริตสบตาคนบนเตียงอย่างไม่กลัว ท่าทางเหมือนจะประกาศศึกและเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง ดิลกเริ่มหอบแรง หายใจติดขัด ความดันสูงขึ้นเรื่อยๆและชีพจรเต้นผิดจังหวะ เสียงสัญญาณเตือนดังลั่น เรียกหมอและพยาบาลให้วิ่งมาดู ชาคริตเลยฉวยจังหวะนี้แอบออกจากห้องไอซียู
ooooooo
ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรในห้องไอซียู ดิลกก็ไม่แน่ใจและคิดว่าตัวเองฝันร้ายเลยเห็นภาพหลอน ญาดาไม่อยากให้พ่อสะเทือนใจจึงขอร้องพยาบาลไม่ให้พ่อดูข่าวทีวีหรืออ่านหนังสือพิมพ์
ญาดามัวคิดมากเรื่องพ่อ ไม่ทันสังเกตมือถือตัวเองว่ามีสายเรียกเข้า สายจากทัศนะนั่นเอง แต่เป็นเพ็ญขวัญที่บังคับและกดดันให้เขาโทร.บอกญาดาเรื่องเขมิกามาพักที่บ้าน
เพ็ญขวัญกลัวเขมิกาจะคิดสั้น อยากให้คนในครอบครัวดูแล เลยจะโทร.ตามญาดามารับตัว แต่เมื่อได้สบตาเศร้าๆของเขมิกาเวลาต่อมา เพ็ญขวัญก็ต้องใจอ่อนยอมให้อยู่ด้วย
ทัศนะถอนใจยาวเมื่อน้องสาวยอมให้เขมิกาพักด้วย ก่อนจะหน้าเครียดใหม่เมื่อญาดาโทร.กลับมา เขาจำต้องรับสายและแก้ตัวแบบขอไปทีว่าโทร.ไปย้ำว่าหากได้ข่าวเขมิกา จะโทร.บอกเธอเป็นคนแรก
ญาดายังไม่วางใจเรื่องทัศนะกับชญานี เชื่อว่าทั้งสองต้องรู้เรื่องชาคริตแต่พยายามปิดบังไว้ หญิงสาวตัดสินใจจะจ้างนักสืบเอกชน แต่ไม่ทันหาข้อมูลชายหนุ่มแปลกหน้าคนเดิมก็โผล่มาเสียก่อน
ชาคริตเดินเกมรุกเต็มที่ ตีหน้าเหมือนเป็นเรื่องบังเอิญอีกรอบที่เจอเธอในห้องอาหารของโรงพยาบาล แถมถือวิสาสะสั่งชุดอาหารเช้าเผื่อเธอ
“คุณมัวแต่ห่วงคนอื่นจนลืมห่วงตัวเอง เป็นพี่สาวคนโตก็ต้องแบกภาระหน้าที่หนักๆแบบนี้”
“คุณรู้ได้ไง...คุณอ่านจากข่าวน้องสาวฉันล่ะสิ”
“ผมไม่ชอบอ่านข่าวซุบซิบ ผมดูคนเป็น...รองจากคุณพ่อคุณก็มีคุณนี่แหละเป็นเสาหลักของครอบครัว”
ญาดาทึ่งมากที่เขาพูดเหมือนรู้จักเธอ และนึกสนุกลองทายเรื่องของเขาบ้าง
“คุณต้องเป็นลูกชายคนเล็ก ท่าทางคุณชอบเอาชนะคน”
“ผมเป็นลูกชายคนเดียว...ผมเป็นความหวังเดียวของพ่อ”
“เออ...จริงสิ ทำไมคุณพ่อคุณไม่มาเยี่ยมเพื่อนเองล่ะคะ”
“พ่อผมมาไม่ได้ครับ ผมก็เลยต้องมาสะสางทุกอย่างแทนท่าน พวกท่านไม่ได้พบกันหลายปีแล้วครับ ถ้าเจอกันคงเซอร์ไพรส์น่าดู คุณชอบเรื่องเซอร์ไพรส์ไหมครับคุณญาดา”
ญาดาอึ้งไปอึดใจที่เขารู้จักชื่อเธอ แต่ไม่ทันถาม ไตรทศก็ส่งเสียงทักมาเสียก่อน ชาคริตที่นั่งหันหลังให้เกร็งตัวเล็กน้อย สีหน้ายังนิ่งสงบ แต่ในหัวกำลังคิดหาทาง ไม่ให้ไตรทศเห็นหน้า...เพราะเขายังเซอร์ไพรส์ครอบครัวนี้ไม่จบ!
ooooooo
ชาคริตหาทางปลีกตัวจนได้ คลาดกับไตรทศแบบหวุดหวิด ญาดามองตามหลังชายแปลกหน้าที่เธอถูกชะตาด้วยสีหน้างุนงง แต่ไม่ทันรั้งไว้ ไตรทศก็ถลาตามเขาไปแล้ว
ไตรทศมั่นใจแม้เห็นแค่ด้านหลังว่าชายหนุ่มที่นั่งคุยกับญาดาต้องเป็นชาคริต แต่ก็ตามไม่ทัน ต้องกลับไปยืนหัวฟัดหัวเหวี่ยง โวยวายกับพี่สาวถึงความปลิ้นปล้อนของชาคริต...อดีตว่าที่พี่เขย
“มันไม่ใช่แค่ทำร้ายพี่เขม แต่มันทำร้ายพวกเราทุกคน ผมคิดว่ามันตั้งใจ...มันตั้งใจทำให้พวกเราร้อนรนทุรนทุราย อยู่ไม่เป็นสุขแม้แต่นาทีเดียว”
ญาดายังไม่เชื่อว่าชายหนุ่มแปลกหน้าคนนั้นจะเป็นชาคริต แต่ไม่มีหลักฐาน ได้แต่ปล่อยให้ไตรทศระบายความอัดอั้น โดยไม่รู้เลยว่าชาคริตแอบมองตามสองพี่น้องจากมุมไกลๆ...นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น!
กมลพรรณกับปาริฉัตรรับหน้าที่เฝ้าดิลกที่ยังพักฟื้นในห้องไอซียู สองแม่ลูกไม่ได้สนใจไยดีอะไรรอบตัวนัก นอกจากก้มหน้าก้มตาค้นหาข่าวฉาวงานแต่งของเขมิกาล่มบนโลกโซเชียล แต่อิทธิพลของเมธาสิทธิ์ก็ทำให้ข่าวดังถูกปิด ทำให้สองแม่ลูกเซ็งจัดเพราะไม่มีเรื่องเม้าท์
จบเรื่องเขมิกาที่ไม่มีอะไรให้ขุดและแฉ ปาริฉัตรจึงหันไปสนใจเรื่องดิลกแทน
“แม่ว่าเป็นสารพัดโรคอย่างคุณอานี่จะอยู่ได้อีกกี่ปี”
“ถ้ากินยาคุมความดัน คุมเบาหวานไว้ก็อยู่ได้อีกนาน”
“อยู่ได้อีกนานเลยเหรอ ไหนหมอบอกแม่ว่าหัวใจคุณอาเริ่มมีปัญหาแล้ว”
“ก็เป็นเรื่องปกติ โรคพวกนี้มาเป็นแพ็กเกจ ความดัน เบาหวาน หัวใจ แกแช่งให้ท่านตายไวก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก ฉันกับท่านไม่ได้จดทะเบียนกัน”
“แล้วเราจะไม่ได้อะไรเลยเหรอแม่ แม่ดูแลคุณอามาเป็นสิบปี”
สองแม่ลูกมัวถกเรื่องผลประโยชน์ ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย ว่าญาดากับไตรทศเดินมาถึงตัวและได้ยินทุกอย่าง
“อยากได้เท่าไหร่ล่ะฉัตร”
ญาดาถามเสียงเรียบ ปาริฉัตรหน้าเจื่อน รีบขอตัวกลับออฟฟิศ ทิ้งกมลพรรณให้เผชิญหน้าสองพี่น้องตามลำพัง โชคดีที่ญาดากับไตรทศเป็นห่วงดิลก ไม่มีใคร อยากใส่ใจเรื่องไม่เป็นเรื่อง กมลพรรณเลยรอดตัว
ooooooo
อาการของดิลกไม่ดีขึ้น ความเสียใจที่เขมิกาหายตัวไปทำให้หัวอกคนเป็นพ่อแทบสลาย ญาดากับไตรทศเป็นห่วงมาก แต่ก็ทำได้แค่ปลอบและกำชับพยาบาลไม่ให้พ่อมีเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจ
เขมิกาจมปลักกับความทุกข์ตัวเอง ไม่สนและไม่แคร์ ว่าใครต้องเป็นห่วง และบ้านทัศนะก็เป็นหลุมหลบภัยชั้นดี อย่างน้อยเธอก็ไม่เหงาเพราะมีเพ็ญขวัญเป็นเพื่อนคุย
เพ็ญขวัญชวนเขมิกาไปช็อปปิ้งข้างนอก แต่คุณหนูคนสวยปฏิเสธเพราะไม่อยากอับอาย
“คุณเขมไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ต้องตัวหลบๆซ่อนๆ คนที่ต้องอาย เจอผู้คนไม่ได้อีกต่อไปมันควรจะเป็น...”
ชื่อชาคริตไม่ทันหลุดจากปากเพ็ญขวัญ เขมิกาก็โพล่งออกมาทั้งน้ำตา
“แต่เขมอาย...เขมไม่กล้ามองหน้าใครอีกแล้วเขมถูกตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงที่ถูกผู้ชายทิ้งกลางงานแต่งงาน”
“อย่าร้องไห้อีกเลยค่ะ คุณเขมร้องไห้มาพอแล้ว เดี๋ยวขวัญจะทำให้คุณเขมยิ้มให้ได้”
วิธีของเพ็ญขวัญคือเปลี่ยนจากออกข้างนอกเป็นช็อปปิ้งออนไลน์ ทัศนะผู้ดูแลกิจการเว็บไซต์ทีมาร์ทถึงกับถลึงตาใส่เมื่อน้องสาวตัวแสบให้เขมิกาใช้เครดิตวงเงินของเธอ เขมิกาเห็นสองพี่น้องเถียงกันไปมาก็อดยิ้มไม่ได้ แต่เพียงไม่นานก็น้ำตาคลอเบ้าใหม่ เมื่อเห็นภาพแหวนแต่งงานที่เหมือนของเธอบนเว็บไซต์ทีมาร์ท...
บาดแผลในใจเขมิกาลึกและสร้างรอยร้าวมากกว่าที่คิด ญาดากับไตรทศรู้ดี และเพื่อรับมือคนเจ้าแผนการอย่างชาคริต สองพี่น้องจึงต้องหาข้อมูลแวดล้อมของอีกฝ่ายให้มากที่สุด
ไตรทศแค้นใจมาก เขาบอกพี่สาวถึงข้อสันนิษฐานของตนว่าชาคริตตั้งใจล้มงานแต่งงานตั้งแต่แรก
“งานแต่งงานใช้เวลาเตรียมงานแค่สองอาทิตย์ แต่ทุกอย่างลงตัวราวกับเตรียมงานมาเป็นปี ทั้งชุดเจ้าสาว ห้องจัดเลี้ยง ทุกอย่างเหมือนงานแต่งงานในฝันของพี่เขม ยกเว้น...ไม่มีรูปพรีเวดดิ้งหรือวีดิโออะไรทั้งนั้น”
“แล้วมีอะไรที่ผิดปกติอีก”
“มันบอกว่ามันไม่มีญาติที่ไหน นอกจากพ่อบุญธรรมที่อยู่ฮ่องกง เราก็เลยจองห้องพักไว้ให้ แต่นอกจากคุณทัศนะแล้ว ไม่มีญาติ ไม่มีเพื่อนของมันมาแม้แต่คนเดียว”
“พ่อบุญธรรมนายนั่นชื่ออะไร ทำธุรกิจอะไร”
“ไม่รู้ครับ...เรารู้แต่ว่านายชาคริตเป็นหุ้นใหญ่ในบริษัททีมาร์ท”
“แล้วทำไมทุกคนถึงได้ยอมตามใจเขม”
“พี่เขมขู่ว่าถ้าไม่จัดงานแต่งงานจะหนีไปจดทะเบียนกันเงียบๆ ก็คงเป็นความคิดของไอ้ชาคริตนั่นแหละ”
“ถ้าเขมรักนายนั่นจนหัวปักหัวปําอย่างนี้ เขมคงไม่ได้หนีไปไหนไกล นอกจากไปตามหาไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้น เราเจอนายชาคริตที่ไหนก็ต้องเจอเขมที่นั่น!”
ญาดากับไตรทศเดินหน้าตามหาข้อมูลของชาคริตอย่างเต็มที่ แต่เจ้าตัวคนถูกสืบข้อมูลกลับไม่เดือดร้อน แถมทำตัวปกติเดินเข้าออฟฟิศเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ชญานีแอบหลงรักชาคริตพี่ชายบุญธรรมของตัวเอง มานาน เธอแอบโล่งใจและสะใจที่งานแต่งล่ม แต่กระนั้นก็เป็นกังวลเพราะดูท่าแผนของเขาจะทำให้หลายคนเคียดแค้น โดยเฉพาะไตรทศที่จ้องจับผิดเธอตั้งแต่เมื่อคืน
ชาคริตยักไหล่ไม่แยแส ก่อนถามถึงทัศนะ เพื่อนสนิทและผู้บริหารที่เขาแต่งตั้งให้ดูแลทีมาร์ทแทน ส่วนเขาต้องดูแลกิจการของพ่อบุญธรรมชาวฮ่องกงที่ต่างประเทศ ชญานีบอกว่าทัศนะไม่เข้าออฟฟิศ คงไปช่วยพวกญาดาตามหาตัวเขมิกาที่หายตัวจากโรงแรม
“ยัยเขมหายตัวไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วค่า คุณดิลกถึงกับช็อกต้องถูกตัวหามส่งโรงพยาบาลไงคะ บ้านโน้นคงส่งรูปพี่คริตติดประกาศจับตายทุกโรงพักแล้วมั้ง”
ชญานีเป็นห่วง อยากให้ระวังตัว แต่ชาคริตยิ่งสนุก เปลี่ยนใจจากเข้าออฟฟิศไปป่วนญาดาที่โรงพยาบาล
ไตรทศแวะมาออฟฟิศทีมาร์ทเพื่อดักรอชาคริต แล้วก็ไม่ผิดหวัง เขาเห็นหลังไวๆของอีกฝ่ายตรงทางออกลานจอดรถชั้นผู้บริหาร ชญานีช่วยพี่ชายเต็มที่ ทั้งกวนทั้งป่วนจนเขาตามไม่ทัน
ooooooo
คำบอกเล่าของชญานีเรื่องเขมิกาหายตัวไปทำให้ชาคริตคิดแผนป่วนพวกเมธาสิทธิ์ได้อีกเรื่อง และครั้งนี้เขาก็เลือกจะปั่นหัวญาดาให้ประสาทเสียเรื่องเขมิกา
ญาดาแปลกใจระคนดีใจได้เห็นชายแปลกหน้าที่เจอกันบ่อยอีกครั้ง ชาคริตแกล้งออกจากห้องพักพิเศษข้างๆห้องพักของดิลก และปั้นหน้าเศร้าเล่าเรื่องน้องสาวบุญธรรมว่าอกหักและคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย
“ผมเห็นแต่เลือด...เลือดเต็มไปหมด หัวใจผมแทบหยุดเต้น ผมเสียใครไปไม่ได้อีกแล้ว”
ชาคริตไม่ได้โกหกทุกอย่าง ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นเรื่องจริงของชญานีที่เขารับเป็นน้องบุญธรรมด้วยความสงสารและความผูกพันที่มีมานานตั้งแต่ตอนเจอกันที่บ้านเด็กกำพร้า
สีหน้าและแววตาสะเทือนใจเหมือนคนตีบทแตกของเขาทำให้ญาดาเชื่อสนิท สงสารและเห็นใจเขามาก
“แต่แกปลอดภัยดีแล้วใช่ไหมคะ”
“ครับ...ผู้หญิงเวลาอ่อนแอ รู้สึกตัวเองไร้ค่า ทำอะไรก็ได้ทุกอย่าง...แม้แต่ทำร้ายตัวเอง ผมล่ะกลัวใจผู้หญิงจริงๆ ผมขอโทษนะครับที่เอาเรื่องแบบนี้มาเล่าให้คุณฟัง”
อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 1 วันที่ 26 พ.ย.60
ละครเรื่อง ระเริงไฟ บทประพันธ์โดย โสภี พรรณรายละครเรื่อง ระเริงไฟ บทโทรทัศน์โดย พิมพ์ธนา และ เอกชยา
ละครเรื่อง ระเริงไฟ กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง ระเริงไฟ ผลิตโดย บริษัท ชิติเช่น เคน จำกัด
ละครเรื่อง ระเริงไฟ ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง ระเริงไฟ เริ่มออกอากาศตอนแรกวันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2560
ที่มา ไทยรัฐ