อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 2 วันที่ 29 พ.ย.60

อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 2 วันที่ 29 พ.ย.60

“จริงๆโฮปรู้ใจน้องกว่าแม่อีก อะไรที่หนูทำ น้องกินหมดเกลี้ยงทุกที”

“หนูเนี่ยนะ เฮอะ รายนั้นเอาแต่แว้ดใส่จนขี้หูหนูออกมาเต้นทุกวัน” โฮปบ่นแต่ก็ทำแทนมัมจนเสร็จ แล้วเลียบเคียงถาม “ตอนมัมไปรับหนูมาจากสถานเลี้ยงเด็ก หนูมีแฝดหรือเปล่าคะ”

มัมสะดุ้งเล็กน้อย ลูบหัวโฮปอย่างอ่อนโยน “มีแค่หนูคนเดียวนั่นแหละ ตั้งแต่เห็นหนูครั้งแรก ได้ยินหนูเข้ามากอด มาเรียกว่าแม่ แม่ก็อยากดูแลหนู อยากให้หนูเป็นลูกสาวแม่”

โฮปคิดจะโทร.ไปถามสถานเลี้ยงเด็ก มัมดึงเธอกอด ถามจะสนใจทำไม ตอนนี้มีมัมมีแด๊ดและซาร่าแล้ว แววตา โฮปยังสงสัยใคร่รู้ จะมีคนที่หน้าเหมือนกันแต่ไม่ใช่แฝดด้วยหรือ...คืนนั้นโฮปนอนกอดจิงเจอร์ ตุ๊กตาวูดูตัวโปรด ฝันถึงเอ็ดเวิร์ดพระเอกแวมไพร์ที่เธอชื่นชอบ



ooooooo

เช้าวันใหม่ รถของแพงเสีย เจ๊ทวิตตี้พาแม่ไปโรงพยาบาล จึงให้กันลองไปส่งที่กองถ่าย เขาแปลกใจเห็นเธออารมณ์ดีเป็นพิเศษ แพงเล่าว่าเมื่อคืนฝันถึงหนุ่มในฝัน เอ็ดเวิร์ดพระเอกแวมไพร์ กันลองจึงเย้าว่าตนก็ชอบกินเลือดเหมือนกัน ทั้งสองหัวเราะมีความสุข

ทางเพิร์ธ โฮปกับเฟยหลันช่วยกันหาเฟซบุ๊กส่วนตัวของแพง มีชื่อแพงมากมาย เฟยหลันฟันธงว่าของจริงน่าจะใช้ชื่อพะแพงเพราะเป็นเพื่อนกับวรัชช์พระเอกของตน...โฮปส่งข้อความหา User พะแพงเป็นภาษาไทย พิมพ์ผิดๆถูกๆอยู่นานจึงเปลี่ยนเป็นพิมพ์ภาษาอังกฤษแทน

“ไอชื่อโฮป ไอดูตัวอย่างละครของแพงในยูทูบแล้วอึ้งไปเลย ไม่รู้แพงจะเชื่อไอหรือเปล่า แต่เราสองคน หน้าโคตรเหมือนกันเลย...จริงๆไอเป็นลูกเลี้ยง แล้วไอก็ไม่อยากเพ้อเจ้อว่าเรื่องของเราสองคนมันจะเหมือนในหนัง ที่พ่อแม่แยกทางกันแล้วจับเราแยกอะไรแบบนั้น ...เอาเป็นว่าแพงลองดูรูปที่ไอแนบมา หรือจะดูไอในเฟซบุ๊กเพิ่มก็ได้ หวังว่าจะไม่ช็อกเหมือนไอ”

พิมพ์เสร็จโฮปลังเลสักพักก่อนจะตัดสินใจกดส่ง ...ระหว่างนั้นแพงกำลังถ่ายละครอยู่ เธอเห็นข้อความจากโฮป คิดว่าเป็นแฟนคลับคนหนึ่ง มองผ่านๆแล้วรีบไปเข้าฉาก

โฮปร้อนใจเฝ้ารอคำตอบจากแพง เฟยหลันปลอบว่าดาราที่ไหนจะตอบแฟนคลับทันที โฮปถามเฟยหลันว่าเคยถามตัวเองบ้างไหมว่าเป็นใครมาจากไหน ตนถามตัวเองทุกวัน

“เฮ้ย! นี่สรุปคือแกคิดว่าแกเป็นฝาแฝดกับแพงอาภรณ์จริงๆเหรอ มัมทิ้งแพงไว้ที่ไทยแล้วพาแกหนีมาอยู่นี่งั้นสิ” น้ำเสียงเฟยหลันเย้ากึ่งประชด

โฮปพึมพำว่าใครสักคนทิ้งตนไว้ที่ไทย แล้วมัมก็พาตนมาที่นี่ต่างหาก ว่าแล้วก็เก็บของผลุนผลันกลับ เฟยหลันงุนงงนี่เพื่อนตนเป็นเด็กถูกเก็บมาเลี้ยงจริงหรือ

โฮปปั่นจักรยานมาสภากาชาดออสเตรเลีย เธอมักมาบริจาคโลหิตที่นี่บ่อยๆ เพราะแค่อยากเกี่ยวข้องกับใครสักคน เจ้าหน้าที่ขอบคุณอย่างมากเพราะเธอมีเลือดกรุ๊ปพิเศษคือ AB Negative

กลับถึงบ้าน โฮปนั่งร่วมโต๊ะอาหารเย็นกับครอบครัว พอตักอาหารถูกซาร่าชิงตักก่อน จึงเปลี่ยนมาตักไส้กรอกแทน ซาร่าก็แย่งอีก มัมตักไส้กรอกจากจานซาร่ามาให้โฮป ซาร่าทำหน้าจะร้องไห้ แด๊ดเอาไส้กรอกจานของตนให้แทน

โฮปรู้สึกผิดตักของตัวคืนให้แด๊ด แต่เขาโบกมืออ้างว่าอิ่มแล้ว ซาร่าจิ้มไส้กรอกมากินเอง มัมจึงเอ็ดซาร่า แด๊ดสงสารเข้าปลอบ โฮปรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน ที่มัมกับแด๊ดไม่เคยดุว่า ทนไม่ไหวรวบช้อนลุกออกจากโต๊ะไปทันที

พอตอนมัมล้างจาน โฮปเข้ามาช่วย มัมหาเรื่องคุยถามว่าจะไปฉลองเรียนจบเมื่อไหร่ที่ขอไว้นานแล้ว โฮปได้ทีบอกว่าเร็วๆนี้ อ้างเฟยหลันอยากไปเมืองไทย มัมชะงักหันมาพูดจริงจัง

“หนูคงไม่ตามใจเฟยหลันใช่ไหม ลูกก็รู้ดีนี่ ตั้งแต่แม่ตัดสินใจมาอยู่ที่นี่กับแด๊ด ก็ไม่มีใครที่ไทยเขาอยากเห็นหน้าครอบครัวเราแล้ว ตัดเป็นตัดตายด้วยซ้ำ แม่ไม่เห็นเหตุผลที่หนูควรกลับไปที่นั่นอีก...กลับไปก็มีแต่จะไม่ลืม...” มัมเสียงเบาลงในประโยคสุดท้าย

ไม่ทันที่โฮปจะตอบ เสียงซาร่าร้องกรี๊ดๆวิ่งลงมาฟ้องว่า โฮปเอาหมากฝรั่งมาใส่ไว้ในหมวกอาบน้ำตน โวยวายให้ดึงหมากฝรั่งออกจากผม โฮปเอากรรไกรตัดกระจุกผมที่ติดหมากฝรั่ง มัมตะลึงแต่ไม่เอ็ด ซาร่าร้องไห้โฮทุบตีพี่สาวยกใหญ่ มัมกลับดึงน้องออกและไล่ให้ขึ้นห้อง

“มัม! ความผิดโฮปชัดๆ ทำไมเอาแต่ว่าหนูอยู่คนเดียว ทำไม!” ซาร่าโวยทั้งน้ำตา

“นั่นสิคะ ทำไม...ดุด่าหนูบ้างสิคะ หรือในสายตามัม หนูเป็นแค่เด็กกำพร้าน่าสมเพชที่ไม่ควรสั่งสอนกันแน่!”

มัมใจหายพยายามจะอธิบาย แต่โฮปถอยห่างและประชดว่า ตนรู้แล้วว่าตนจะไปฉลองเรียนจบที่ไหน มัมหน้าเสียน้ำตาคลอ ซาร่าเขย่าแขนมัมถามว่าเด็กกำพร้าน่าสมเพชแปลว่าอะไร

โฮปเดินออกมาจากบ้าน จะโทร.หาเฟยหลันแต่มือถือแบตหมด จึงใช้ตู้สาธารณะโทร.ไปเรียกเพื่อนออกมาพบ...เฟยหลันวิ่งกระหืดกระหอบมาเห็นเพื่อนร้องไห้อยู่ก็ถามเกิดอะไรขึ้น โฮปบอกแกมบังคับว่าทริปเรียนจบเปลี่ยนจากปารีสเป็นประเทศไทย หว่านล้อมว่าเพื่อนจะได้ไปตามดูพระเอกสุดหล่อ พรุ่งนี้ไปเปลี่ยนตั๋วกัน เฟยหลันรับคำแม้จะงงเล็กน้อย

ด้านแพง หลังเลิกกอง ทีมงานและช่างแต่งหน้าชวนกันไปเที่ยวต่อ เห็นแพงเดินมาจึงเอ่ยชวน จ๋อมแทรกขึ้นว่า ชวนไม่ดูตาม้าตาเรือ อย่างแพงจะเข้าร้านแบบนั้นได้อย่างไร แพงอึกอักพูดไม่ออก พอดีมองไปเห็นเจ๊ทวิตตี้กำลังเล้าโลมกันลอง ชวนเข้าสังกัด

“คือ...ผมแค่มารับน้องน่ะครับ” เห็นแพงเดินมา “นี่ไงครับน้องผม”

เจ๊ทวิตตี้เหวอไม่เคยรู้มาก่อนว่าแพงมีพี่ชาย แพงยิ้มเรี่ยๆบอกเป็นพี่ข้างบ้าน เจ๊ทำหน้ารู้ทัน แล้วเตือนให้ระวังเป็นข่าว กำชับกลับถึงบ้านโทร.บอกตนทันที แพงรับคำ จังหวะที่กันลองช่วยแพงถือกระเป๋าและเปิดประตูรถให้ วรัชช์เดินมามองอย่างสงสัย สบตากับกันลองแวบหนึ่ง

ooooooo

วันต่อมา โฮปมาที่ออฟฟิศการบินไทยกับเฟยหลันเพื่อเปลี่ยนตั๋ว เฟยหลันต้องตกใจเมื่อได้ยินเพื่อนบอกพนักงานว่า ขอเปลี่ยนตั๋วไปกรุงเทพฯเร็วที่สุด ออกตั๋วเที่ยวเดียว...

การเข้ามาทำงานของกันลอง เขาอยากปรับปรุงแผนการโฆษณาใหม่ เห็นที่ผ่านมาใช้วิธีโปรโมตผ่านนางงามประจำจังหวัดทุกภาค ถือขวดยาสตรีไก่ฟ้าพญาลอ เขาอยากสร้างแบรนด์แอมบาสเดอร์ขึ้นมาให้เข้ากับยุคสมัย เพื่อการขยายตลาด แต่ชลลดาไม่เห็นด้วย แถมสั่งภูดิศนัดป้าอุทัยเอาเด็กใหม่ที่จะส่งประกวดมาให้ดูตัวสัปดาห์หน้า

กันลองถอนใจที่แม่ยังติดอยู่กับรูปแบบเดิมๆ จึงให้ภูดิศรวบรวมผลประกอบการและรายงานการดำเนินการย้อนหลัง 20 ปีมาให้

กันลองคร่ำเคร่งแก้แบบสอบถามหากลยุทธ์การตลาดใหม่ๆ และเสิร์ชดูนักแสดงหน้าใหม่ที่กำลังดังในช่วงนี้ เห็นแต่ภาพแพงเรียงรายเต็มไปหมด ลองเรียกปิติผู้ช่วยมาสอบถามก็ได้ความว่า ช่วงสองสามปีมานี้ แพงดังที่สุด

พอกลับมาบ้าน เห็นว่ารื่นจิตยังไม่กลับและชลลดาไปงานเลี้ยงกลับดึก กันลองจึงชวนแพงมานั่งเล่นที่ศาลาสนามหน้าบ้าน โรยบุญยกของว่างมาให้ทานและปรนนิบัติแพงจนกันลองอดแซวไม่ได้ว่า พะแพงสมกับเป็นลูกเจ้าเมือง หยิบจับอะไรไม่ถนัด มีแต่พี่เลี้ยงทำให้

กันลองพูดถึงเจ๊ทวิตตี้ที่ดูแลแพงอย่างดี แพงยอมรับว่าเธอเหมือนแม่คนที่สองก็ไม่ปาน กันลองแย็บถามว่าแพงเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าอะไรบ้าง เธอสาธยายและเน้นว่าเจ๊ทวิตตี้จะเลือกสินค้าที่ไม่ขัดกับภาพลักษณ์ตน กันลองเครียดเพราะสินค้าตัวเองคงไม่เหมาะกับแพงเป็นแน่

พอดีวรัชช์โทร.เข้ามาขัดจังหวะ แพงคุยด้วยอย่างเสียไม่ได้แล้วพยายามจะตัดบทวางสาย เขายื้อให้เธอบอกให้เขาฝันดีก่อน ไม่อย่างนั้นไม่วาง แพงกลั้นใจกล่าวฝันดีเพื่อให้เขาวางสาย

“วรัชช์โทร.มาเหรอ หมอนั่นตัวจริงก็ดูดีนะ ขนาดเพื่อนๆพี่ที่ไปเรียนยูเดียวกันยังกรี๊ดเขาเลย” กันลองวางฟอร์มทำเป็นไม่หึง

“แต่แพงว่าเขาออกจะน่ารำคาญ นี่พะลองไม่รู้สึกอะไรจริงๆเหรอที่เขามายุ่งกับแพง”

“พี่รู้ว่าเขาไม่ใช่สเปกแพงหรอก”

แพงย้อนถามแล้วสเปกตนเป็นแบบไหน กันลองกุมคางยิ้มกริ่มแทนคำตอบในที แพงเขินขอตัวกลับ

กันลองถามจะปีนกลับหรือให้ส่งหน้าบ้าน หญิงสาวขำทำไมต้องปีนเข้าบ้านตัวเองในเมื่อวันนี้แม่กลับดึก...

ขณะที่แพงจะไขประตูบ้าน ทำกุญแจหล่นก็ก้มลงเก็บ

จังหวะเดียวกัน โฮปกำลังก้มเก็บกุญแจที่เผลอทำหล่นข้างกระเป๋าเดินทาง ซาร่าเดินตามมายื่นถุงให้แบบไม่มองหน้าเพราะยังเคือง โฮปไม่รับ เธอต่อว่างอนไม่เลิกอีก โฮปเอ็ด

“เงียบไปเลยนะ...อยู่บ้านดีๆล่ะ อีกชั่วโมง มัมกับแด๊ดน่าจะกลับจากงานศพแล้วล่ะ”

“รู้แล้วน่า...” ซาร่าสะบัดเสียง แล้วยื่นกล่องหมากฝรั่งให้อีก “เอาไว้เคี้ยวตอนขึ้นเครื่อง”

โฮปรับทั้งกล่องหมากฝรั่งและถุงขนมที่แม่ฝากให้ ใจจริงแล้วเธอรักน้องจึงเย้าว่าจะซื้อหมวกอาบน้ำลายช้างมาฝาก ซาร่าหน้างอขึ้นทันทียังโกรธเรื่องหมากฝรั่งในหมวกอาบน้ำอยู่

“ไปเลยไป! เดี๋ยวแท็กซี่ที่มัมโทร.จองให้ไม่รอหรอก ...กลับมาไวๆล่ะ”

โฮปดึงแขนน้องไว้ กำชับให้บอกมัมว่าตนไปปารีส ไม่ใช่กรุงเทพฯ ซาร่าจึงสั่งให้ซื้อมาการองมาฝากด้วย โฮปปัดฝันไปเถอะ...สองพี่น้องแม้จะทะเลาะกันบ่อยแต่ก็ผูกพันกัน

ooooooo

เช้านี้ แพงอยากทำตัวให้เข้ากับคนอื่นในกอง จึงไม่เอาอาหารกล่องจากบ้านไปทานเอง ด้านโฮปมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิกับเฟยหลัน ทั้งสองงกเงิ่นราวกะเหรี่ยงเข้ากรุง ผู้คนมองโฮปกันใหญ่เพราะคิดว่าเป็นแพงอาภรณ์ บ้างเข้ามาชมว่าแพงเปลี่ยนทรงผมแต่ก็น่ารัก

โฮปได้ยินคนพูดว่าน่าร็อกจุงเบย ก็ไม่เข้าใจความหมาย เฟยหลันโบ้ยว่าผมเธอคงสีเหมือนสายจูงสุนัขของเขา โฮปหันไปถามดื้อๆว่าสุนัขของแฟนคลับเป็นพันธุ์อะไร แฟนคลับตื่นเต้นดีใจที่ดาราคนโปรดคุยด้วย...เฟยหลันสนุกสนานกับการถ่ายเซลฟี่ ในขณะที่โฮปอยากติดต่อหาแพงแต่ไม่มีไวไฟ เฟยหลันบอกว่าเดี๋ยวเข้าโรงแรมก็มีให้เพื่อนใจเย็นก่อน

แท็กซี่มาส่งสองสาวที่โรงแรม ซึ่งเฟยหลันจองไว้เพราะเป็นโรงแรมของวรัชช์ เฟยหลันค้นความหมายของคำว่าจุงเบยจากอินเตอร์เน็ต แล้วนำมาพูดว่ามันเริ่ดจุงเบย โฮปเคืองที่เมื่อครู่ให้ตนใช้ผิดความหมาย...

พอเข้ามาในห้องพัก เฟยหลันรีบเปิดม่านมองวิวกรุงเทพฯอย่างตื่นเต้น

“นี่สินะ บ้านเกิดของพี่วรัชช์...พี่ติ๊ก...พี่เคน...”

โฮปบ่นให้เลิกเพ้อเจ้อแล้วมาช่วยกันเช็กคิวแพงว่าอยู่ที่ไหน เฟยหลันเอาไอแพดออกมาเปิดเน็ตค้นหา ได้ความว่าพรุ่งนี้แพงมีเข้าฉากกับวรัชช์ที่สตูดิโอไม่ห่างจากโรงแรมเท่าไหร่ โฮปอยากได้ของวันนี้ เฟยหลันโอดโอยไว้พรุ่งนี้ค่อยไปตามหา วันนี้จะตะลุยกรุงก่อน โฮปไม่อยากขัดใจเพื่อน สองสาวจึงพากันเดินเที่ยวตลาดนัด ต่างสนุกสนานและตื่นตาตื่นใจกับของแปลกๆ

ด้านแพง พอทีมงานรู้ว่าเธอไม่ได้เอาข้าวกล่องมาจากบ้าน ก็จัดแจงอาหารกองให้ แพงทำหน้าปูเลี่ยนแล้วขอแบบไม่มีเนื้อสัตว์ ทีมงานจึงเอาข้าวกล่องของจ๋อมมาให้ เป็นผัดผักล้วนๆ ไม่ทันที่แพงจะทาน เสียงจ๋อมเรียกหาข้าวกล่องของตัวเอง แพงได้ยินรีบเลื่อนกล่องข้าวให้จ๋อม อ้างตัวเองจะไปท่องบทต่อ วรัชช์ถือจานข้าวตามมานั่งกินข้างแพง หวังยั่วให้หิว

พอดีมีแฟนคลับฝากอาหารมาให้วรัชช์ เขาเปิดดูเป็นสลัดจึงยกให้แพง เธอไม่รับหยิบมือถือมาโทร.หากันลอง วรัชช์ไม่พอใจลุกหนีไปนั่งกินข้าวตรงอื่น ทิ้งกล่องสลัดไว้ให้เธอ

ระหว่างนั้นกันลองกำลังช่วยพริตตี้แจกแบบ สอบถามผู้คนแถวออฟฟิศ ทิ้งโทรศัพท์ไว้ในรถ พริตตี้สาวสองสามคนพยายามตีสนิทกันลองแต่เขานิ่งเฉย เผอิญรื่นจิตผ่านมา พริตตี้เห็นเป็นผู้สูงอายุไม่แจกแบบ สอบถาม รื่นจิตมองเหยียดกันลองที่มีสาวๆล้อมรอบ เขายกมือไหว้แต่เธอไม่สนใจเดินหนีไป กันลองหันมาตำหนิพริตตี้อย่าสองมาตรฐาน ทุกคนมีสิทธิ์เป็นลูกค้าเรา

พอเสร็จงาน กันลองเห็นข้อความที่แพงส่งมาชวนกินส้มตำร้านประจำ เขารีบตอบตกลงและจะไปรับ แต่เธอบอกว่าขับรถมาเอง เจอกันที่ร้านหลังหกโมงเย็น

เย็นวันนั้น โฮปกับเฟยหลันนั่งกินส้มตำถาดในร้านอย่างเอร็ดอร่อยแม้จะเผ็ดแสนเผ็ด หม่าม้าเฟยหลันโทร.มา เธอรีบแยกไปหาที่เงียบคุย สร้างบรรยากาศให้เหมือนว่าอยู่ปารีส คนในร้านลอบมองโฮปเพราะเข้าใจว่าเป็นแพง โฮปชักประหม่าเดินออกมาตามหาเฟยหลัน จู่ๆมีคนดึงแขนเธอเข้าไปกอด พอเงยหน้ามองต้องตะลึงในความหล่อของเขา

“ทำท่าเลิ่กลั่กเชียว แอบหลบนักข่าวมาหาพะลองเหรอคะ เอ...หุ่นไอดรอยด์เขาทำทรงผมแบบนี้นี่เอง” กันลองพินิจทรงผมแล้วลูบอย่างแผ่วเบา “วิกสมัยนี้นุ่มมือจังนะคะ”

โฮปเคลิ้มสักพัก พอตั้งสติได้รีบผละออกขอตัวไปเข้าห้องน้ำเพราะรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วน กันลองจึงถามอยากทานอะไรจะสั่งไว้รอ เธอบอกว่าทานแล้ว เขาโวยทำไมไม่รอแล้วถามนั่งโต๊ะไหน โฮปชี้ไปที่โต๊ะติดกำแพงแล้วรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำ กันลองส่ายหน้าขำๆเดินไปนั่งที่โต๊ะให้พนักงานเก็บโต๊ะเพื่อสั่งใหม่

เฟยหลันกลับมาต่อว่าเขาแย่งโต๊ะ กันลองบอกว่านี่โต๊ะน้องสาว จังหวะนั้นแพงมาถึง เฟยหลันตาโตรีบถอยกรูดออกมา กันลองแปลกใจที่แพงเปลี่ยนชุดแล้ว แพงไม่ได้สนใจที่กันลองพูด กลับนั่งสั่งอาหารเพียบเพราะหิวมาก กันลองเย้าว่าเป็นนางเอกไม่กลัวอ้วน เธอตีแขนเขาป้าบ

“จะว่าไปพี่ว่าวิกอันที่แพงใส่เข้าฉาก มันดูเข้ากับหน้าแพงดีเหมือนกันเนอะ”

“วิก? วิกของรูทเก้าน่ะเหรอคะ”

กันลองพยักหน้า แพงไม่ได้สงสัยอะไร...ส่วนเฟยหลันเจอโฮปออกจากห้องน้ำ ต่างเล่าถึงคนที่พบเจอ เฟยหลันบอกว่าแพงหน้าเหมือนโฮปมาก โฮปมีอาการปวดท้องมาก เฟยหลันจึงพากลับโรงแรมก่อน สองสาวที่หน้าคล้ายเลยไม่ได้เจอกัน

ตลอดทั้งคืนโฮปถ่ายท้องจนหมดแรง รุ่งเช้าโฮปจึงให้เฟยหลันไปที่กองถ่ายก่อน ตนดีขึ้นแล้วจะตามไป... ก่อนจะนอนพัก โฮปเห็นมิสคอลจากมัมและแด๊ด แต่ไม่มีแรงจะโทร.กลับ

สุดท้ายโฮปออกมาหาซื้อยาแถวโรงแรม เห็นแมลงทอดขายริมทางก็เกิดอาการขย้อนถอยหนี ชนเข้ากับ วรัชช์ เขาตกใจเรียกแพง โฮปได้ยินเกิดอาการแพนิครีบวิ่งหนีเข้าโรงแรม

“จะวิ่งหนีผมทำไมเนี่ย ไปถ่ายแบบแถวนี้มาเหรอ เอ๊ะ! หรือคุณจะปลอมตัวมาหาผม”

วรัชช์วิ่งตามมาดึงแขนโฮปให้รีบไปกอง โฮปหมดแรงจะต้านยอมซ้อนมอเตอร์ไซค์ของเขาไป...

พอมาถึงสตูดิโอก็รีบถามหาห้องน้ำ วรัชช์ชี้มั่วๆ โฮปวิ่งจู๊ดไป แต่พอวรัชช์เข้ามาในห้องแต่งตัว ต้องตกใจเมื่อเห็นแพงนั่งแต่งหน้าอยู่ ไม่ทันถาม ช่างแต่งหน้าเข้ามาดึงเขาไปเสียก่อน

ด้านโฮปเหงื่อแตกกาฬวิ่งหาห้องน้ำไม่เจอ

เจ๊ทวิตตี้เดินมาเห็นร้องลั่น ทำไมช่างหน้าช่างผมถึงแกล้งลูกสาวตนแบบนี้ ดึงโฮปให้ไปแต่งใหม่ เธอทำหน้าไม่ไหวแล้ว ขอไปเข้าห้องน้ำก่อน เจ๊จึงชี้ไปที่ห้องน้ำชั้นบนแล้วกำชับเสร็จแล้วให้รีบมาแต่งหน้าทำผมใหม่ จากนั้นเจ๊ทวิตตี้มาต่อว่าช่างแต่งหน้า ช่างกะเทยคิดว่าตัวเองแต่งให้ฉ่ำไป พอดีจ๋อมเข้ามาถามว่าสแตนด์อินของแพงแต่งตัวเสร็จหรือยัง ต้องเข้าฉากคู่กัน ช่างผมส่ายหน้าเพราะยังไม่มีใครเห็น

ทวิตตี้เอะใจหรือคนที่ตนเจอคือสแตนด์อินเพราะท่าทางแปลกๆ จึงบอกจ๋อมว่าเห็นไปห้องน้ำชั้นสอง...วรัชช์ข้องใจไม่หาย เดินตามหาคนที่หน้าเหมือนแพงเช่นกัน โฮปเดินมาเจอก็ต่อว่าทีหลังไม่รู้ว่าห้องน้ำอยู่ไหนก็อย่ามั่ว วรัชช์ยังไม่ทันพูดอะไร จ๋อมเข้ามาดึงโฮปไปเพราะเข้าใจว่าเป็นสแตนด์อิน โฮปพยายามหาทางเลี่ยงบอกจ๋อมว่าจะไปห้องแต่งตัวเอง

วรัชช์เจอแพงยืนรอเข้าฉากอยู่ ก็เข้ามาจ้องหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ เธอกระถดตัวหนีกับท่าทางแปลกๆ ของเขา เสียงผู้กำกับถามถึงสแตนด์อิน จ๋อมบอกว่าเปลี่ยนวิกผมอยู่ วรัชช์รอเจอทั้งสองพร้อมกัน ไม่ทันไรจ๋อมได้รับโทรศัพท์จากสแตนด์อินว่ารถเสียกลางทาง เขาแปลกใจมาก

ooooooo

วรัชช์ข้องใจไม่หาย กระซิบกับแพงว่าสแตนด์อินคนที่ท้องเสียวิ่งไปห้องน้ำเมื่อกี้ หน้าเหมือนเธอมาก แพงไม่รู้เรื่องนึกฉุนที่เขายื่นหน้ามาใกล้ จึงแกล้งเหยียบเท้าเขาแล้วเดินหนี

เฟยหลันปะปนอยู่ในกลุ่มแฟนคลับ ชูป้ายวรัชช์เหยงๆ โฮปเอาผ้าคลุมหัวพลางหน้าเบียดเสียดเข้ามาสะกิดเฟยหลัน แต่เพื่อนไม่สนใจยังคงกรี๊ดกร๊าดวรัชช์จนเธอเซ็ง ถอยออกมาเจอกับเจ๊ทวิตตี้อีก ก็ตั้งท่าจะวิ่งหนี เจ๊บ่นไล่หลัง

อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 2 วันที่ 29 พ.ย.60

ละครเรื่อง เดือนประดับดาว บทประพันธ์โดย จันทร์ รีจรูญ แอนเดอร์สัน
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว บทโทรทัศน์โดย ระกาช่อนรูป
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว กำกับการแสดงโดย มนัสนันท์ เลิศวงศ์สกุล
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ผลิตโดย บริษัท ดอร์เธอร์ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ติดตามชม ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ