อ่านละครเรื่อง สายธารหัวใจ ตอนที่ 10 วันที่ 20 พ.ย.60
ในสถานีตำรวจ สวัสดิ์กับละมุลนั่งให้การร้อยเวร ประคองเดินหน้าเครียดเข้ามา ปรี่เข้าตบหน้าสวัสดิ์ และกล่าวหาเขาล่อลวงลูกสาวไป ละมุลรีบบอกว่าตนขอให้สวัสดิ์พาไปเอง ประคองกราดเกรี้ยวสั่งให้พูดความจริง ละมุลย้ำหนักแน่น“หนูพูดออกไปแล้ว หนูเป็นคนหนีไปเอง ทุกอย่าง หนูเป็นคนทำเอง”
ประคองผิดหวังในตัวลูกสาวมาก ร้อยเวรสรุปความว่าเป็นการเข้าใจผิด ถามสวัสดิ์ว่าต้องการฟ้องกลับหรือแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายหรือไม่ สวัสดิ์ปฏิเสธและขอจบเพียงเท่านี้
กลับมาถึงวังจงสวัสดิ์ ประคองคาดคั้นละมุลให้พูดอีกครั้งว่าหนีออกจากบ้านทำไม และให้ยืนยันกับผู้อำนวยการโรงเรียนว่าลาออก ละมุลเหนื่อยหน่ายย้ำว่าตนบอกไปหมดแล้ว ไม่อยากอยู่ที่นี่ และจะไม่ลาออก ประคองปรี๊ดทันที
“นี่แกเสียให้มันแล้วใช่ไหม ถึงยังอยากอยู่ใกล้มัน รู้ทั้งรู้ว่าฉันไม่ชอบ แกก็ยังดื้อด้าน”
“อย่าดูถูกครูสวัสดิ์กับหนู”
ประคองเงื้อมือแต่ต้องชะงักเมื่อละมุลยื่นหน้ารอ
“เอาเลย...หนูจะไม่หนี จะยืนให้แม่ลงโทษ แม่ตีหนูให้ตายเลยก็ได้ แต่หนูก็ยังยืนยันจะทำในสิ่งที่หนูต้องการ เพราะหนูไม่ได้ทำอะไรผิด ครูสวัสดิ์ไม่ใช่
คนเลวอย่างที่แม่คิด หนูจะเป็นเพื่อนกับเขา คุยกับเขา กินข้าวกับเขา”
ประคองตวาดให้หยุด แต่ละมุลไม่หยุดพูดถึงสวัสดิ์ในแง่ดี ทำให้ประคองเดือดดาลตบตีลูกสาว บรรจง สีดา และชื่นตื่นตระหนกแต่ไม่กล้าเข้าไปห้าม จนกระทั่งณรังค์กลับมาถลาเข้าช่วย ละมุลห้ามเขาไว้ บอกว่าปล่อยให้แม่ตีจนกว่าจะพอใจ ตนจะไม่หยุดให้คุณค่ากับคนที่เห็นคุณค่าของตน เพราะตนอยากรู้สึกรักตัวเอง ไม่ใช่ขอให้ใครมารักเหมือนที่แม่พยายามให้ตนทำ...
ประคองชะงักแล้วตัดพ้อทั้งน้ำตา “แม่ทำผิดมากนักเหรอ ผิดเหรอที่แม่ทำทุกอย่างเพื่อให้ชีวิตแกพรั่งพร้อม ไม่ขาดเหมือนชีวิตของแม่ ถ้าแกเห็นว่ามันผิด ก็ได้ ไม่ต้องเชื่อ ต่อไปนี้ไม่ต้องมาเชื่ออะไรฉัน อยากจะไปมีชีวิตของตัวเองก็ไปมีที่อื่น ไม่ใช่ที่นี่ ที่นี่จะเป็นที่ของฉันคนเดียว”
ทุกคนนิ่งงัน ประคองเดินลิ่วออกไป ละมุลร้องไห้ตัวโยน ณรังค์เข้ากอดปลอบและดูแลจนเธอดีขึ้น ละมุลขอบคุณ เรียกเขาเต็มปากว่าพี่ชายที่แสนดี ณรังค์ลูบหัวน้องสาวด้วยความเอ็นดู
“มีน้องสาวกับเขาอยู่คนเดียว ไม่ดีด้วยแล้วจะให้ไปดีกับใครที่ไหน”
“ดีกับคนที่พี่ณะรักไง”
ณรังค์แปลกใจที่ละมุลพูดเรื่องนี้ได้ เธอยอมรับว่าคิดได้แล้ว รวมถึงเรื่องสวัสดิ์ แต่ต่อว่าทีหลังอย่าแอบคุยเรื่องตนกับสวัสดิ์อีก ณรังค์รับปาก เมื่อละมุลถามเรื่องแม่ว่าทำไมถึงเปลี่ยนไปมาก เขาหน้าเครียดลง ตัดสินใจเล่าเรื่องที่ท่านชายบอกว่าประคองจะฆ่าท่าน
ละมุลตกใจและไม่เชื่อ หาว่าแม้นเทพโยนความผิดให้แม่เพราะไม่ต้องการให้ตนกับแม่อยู่ในวัง ณรังค์เองก็ไม่อยากเชื่อจึงขอพิสูจน์ เพราะถ้าเราไม่พิสูจน์จะมีอะไรยืนยันว่าท่านชายกล่าวหาแม่ หญิงสาวยินยอม แต่ถ้าไม่เป็นความจริงเธอจะไม่ทนอยู่ที่นี่อีก
บรรจง สีดา และชื่นต่างหวาดกลัวประคอง รู้สึกว่าจิตไม่ปกติ ณรังค์ต้องขอร้องให้ช่วยกันดูแลเธอ มีอะไรรีบโทร.บอกตน เมื่อณรังค์เดินตรงไปที่เรือนเล็ก มองพระจันทร์กลมโตแล้วคิดถึงสิริกันยา
ขณะเดียวกันสิริกันยายืนมองพระจันทร์ที่ริมหน้าต่างห้องตนเอง ประคองก็มองจันทร์ดวงเดียวกัน แต่ทุกคนมองด้วยความรู้สึกที่แตกต่าง
ooooooo
เช้าวันใหม่ ประคองหน้าเครียดสั่งบรรจงเอารถออก แต่ไม่ทันจะไป รถโรงพยาบาลแล่นเข้ามาจอด ณรังค์ดูแลให้เจ้าหน้าที่และพยาบาลช่วยกันเข็นเตียงพาแม้นเทพขึ้นห้อง ประคองหน้าเสีย ต่อว่าณรังค์พาท่านกลับมาทำไม
“อาการท่านคงที่แล้ว รอแค่ท่านฟื้นรู้สึกตัว อยู่ที่โรงพยาบาลต่อก็เท่านั้น หมอเลยแนะนำให้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน”
“แล้วทำไมไม่มีใครบอกฉัน ไม่เห็นหัวกันแล้วใช่ไหม”
ณรังค์อ้างว่าเห็นเธอเครียด ไม่อยากเอาภาระไปเพิ่มและจ้างพยาบาลดูแลท่านไว้พร้อม ประคองยิ่งเดือดเดินปึงปังออกไป ละมุลหวั่นใจตามมาถามแม่ว่าน่าจะดีใจที่ท่านชายอาการดีขึ้น ประคองรีบกลบเกลื่อนว่าโกรธที่ทำอะไรกันข้ามหัวตน ละมุลเริ่มกังวลตามที่ณรังค์เล่า
ณรังค์เข้ามาคุกเข่าข้างเตียงคุยกับแม้นเทพว่าตนขอตัวไปทำงาน แล้วหันบอกพยาบาลว่าให้แม่บ้านคอยอยู่ใกล้ๆเผื่อจะเรียกหา ถ้ามีปัญหาอะไรก็รีบโทร.บอกตน เวลานั้นประคองเดือดดาลอยู่ในห้องนอน เข่นเขี้ยวว่าแม้นเทพควรตาย ทำไมยังรอด
สายวันนั้นประคองตัดสินใจเอาซีรินจ์เหน็บชายพกเดินออกจากห้องด้วยสายตาเยือกเย็น สั่งชื่นให้พา พยาบาลไปแนะนำข้าวของที่ต้องใช้ดูแลท่านชาย และให้จัดการเรื่องส่วนตัวของตัวเอง พอพยาบาลออกจากห้องแม้นเทพ ประคองก็กดล็อกประตูทันที หยิบซีรินจ์ ออกมาจะฉีดเข้าในสายน้ำเกลืออัดอากาศเข้าไป
วันนี้สิริกันยาตั้งใจไปพบณรังค์เพื่อเจรจาเรื่องการผ่อนชำระหนี้สิน พอเข้ามาในห้องทำงานเห็นเขาใส่หูฟังจ้องโทรศัพท์มือถือสีหน้าเคร่งเครียด เขายกมือห้ามเธออย่าเพิ่งพูดอะไร หญิงสาวจึงนั่งลงอย่างสงบเงียบ ณรังค์จับจ้องอยู่หน้าจอโทรศัพท์ เห็นประคองเดินเข้าหาแม้นเทพ พูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว สีหน้าเคียดแค้น
“น่าเสียดายที่ฝ่าบาทไม่มีโอกาสได้เห็นว่าหม่อมฉันสวมสร้อยมรกตได้สวยไม่แพ้หม่อมช้องนางเลย...จริงๆแล้วหม่อมฉันไม่ได้มีอะไรแพ้หม่อมช้องนางเลยสักนิด แต่ไม่ได้เกิดเป็นผู้ดีเท่านั้น เป็นความผิดร้ายแรงมากเลยใช่ไหม เลยทำให้ฝ่าบาทให้หม่อมฉันได้แค่ตำแหน่งนางบำเรอที่ต้องเจียมตัวอยู่แต่ในมุมเล็กๆ ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิดถึงวันที่จะมีชีวิตที่ดีกว่า
แม้หม่อมฉันจะมีลูกที่มีสายเลือดจงสวัสดิ์โดยตรงจากฝ่าบาท มันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น”
แม้นเทพหลับตาแต่มือกระตุก ประคองจับสายน้ำเกลือจะฉีดอากาศเข้าไป ท่านชายหวาดหวั่นลืมตาขึ้น แต่อีกฝ่ายไม่ทันมอง ยังพร่ำพูดว่าเธอจงรักภักดีจนลืมศักดิ์ศรีตัวเอง เขาก็ยังไม่เห็นคุณค่า ตอนแรกคิดว่า เป็นเพราะหม่อมยังมีชีวิตอยู่ จึงกำจัดหม่อมเสีย แม้นเทพตกใจมาก ขณะที่ประคองยังคายความลับออกมาอีก
“แต่ก็ยังเหมือนเดิม...ยังไงฝ่าบาทก็มองไม่เห็นหัวหม่อมฉันอยู่ดี คนอย่างฝ่าบาทมันให้โอกาสไม่ขึ้น หม่อมฉันก็เลยให้ฝ่าบาทกินยาเหมือนที่ให้หม่อมช้องนางกิน แต่ฝ่าบาทก็ฆ่าไม่ตาย ทั้งๆที่ควรจะตาย กลับรอดมานอนเป็นผัก หมดสง่าราศีของหม่อมเจ้าแม้นเทพ จงสวัสดิ์ ผู้ที่เคยยิ่งใหญ่ ที่คอยชี้เป็นชี้ตายคนในวัง
บอกตามตรงว่ามันน่าสมเพช ทุเรศทุรังจนหม่อมฉันทนดูไม่ได้ ตายๆไปซะเถอะนะ อย่าอยู่ตอกย้ำความอัปรีย์ที่ตัวเองทำเอาไว้กับคนอื่นเลย”
แม้นเทพโกรธแค้น กลั้นใจออกแรงเหวี่ยงแขนไปโดนประคองจนเธอสะดุ้ง ท่านชายลืมตาแล้วหลับลง ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูดังขึ้น ประคองตกใจรีบเก็บซีรินจ์แล้วมาเปิดประตู พยาบาลถามว่าล็อกประตูทำไม ประคองอ้างหน้าตาเฉยว่าไม่รู้ล็อกได้อย่างไร แล้วบอกพยาบาลว่าท่านชายฟื้น แต่เมื่อมองไปเห็นท่านยังหลับเลยคิดว่าตัวเองตาฝาด แล้วกลับออกไปด้วยความงุนงง
พยาบาลรีบเข้ามาดูอาการแม้นเทพ กระซิบว่าณรังค์โทร.ให้ตนรีบเข้ามา ท่านชายนึกถึงที่ณรังค์บอกเมื่อเช้าว่าได้ติดกล้องวงจรปิดไว้ ท่านยังถามเขาว่าเสียใจ ไหมถ้าประคองทำจริง
“เสียใจกระหม่อม ถ้ามันเกิดขึ้นจริง กระหม่อมขอคุยกับแม่คองเป็นการส่วนตัว ก่อนที่จะจัดการอะไรลงไป เรื่องนี้ไม่ควรมีใครรู้เรื่องมากนัก เพื่อปกป้องพระเกียรติของฝ่าบาท”
ณรังค์ตอบท่านชายไปอย่างนั้น และในเวลานี้เขาก็รู้เห็นความจริงทั้งหมดแล้ว ณรังค์นั่งน้ำตารื้นด้วยความเสียใจ สิริกันยามองอย่างแปลกใจ เขาได้สติไม่อยากให้เธอเห็นน้ำตา จึงคว้าโทรศัพท์มือถือลุกเดินออกจากห้อง สั่งไม่ให้เธอตาม แต่หญิงสาวอดเป็นห่วงเขาไม่ได้
ณรังค์ขึ้นมาบนดาดฟ้า ทรุดลงร้องไห้เสียใจ ปล่อยความอัดอั้นโดยไม่รู้ว่าสิริกันยาตามขึ้นมายืนมองด้วยความสงสารและเห็นใจ...ผ่านไปสักพัก ณรังค์สงบลงลุกขึ้นหันมา ต้องชะงักเมื่อเห็นสิริกันยายืนส่งยิ้มมา
เขาถามเสียงเข้มว่าเธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่
“ตั้งแต่ที่คุณห้ามนั่นแหละ”
“ไม่เคยคิดจะฟัง”
“ฟังค่ะ...แต่เผื่อว่าจะช่วยอะไรคุณได้ เลยตามมา”
“นั่นแหละ เขาเรียกว่าไม่ฟัง”
สิริกันยายิ้มอบอุ่น ณรังค์ใจอ่อนยวบและเผลอยิ้มตอบ หญิงสาวดีใจที่เขาสบายใจขึ้น อดถามไม่ได้ว่าเรื่องมันร้ายแรงมากนักหรือ เขาพยักหน้าพร้อมตอบว่า ที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต แล้วยื่นโทรศัพท์มือถือให้เธอดูคลิป
ooooooo
ประคองเหมือนคนสติไม่สมประกอบ พร่ำพูดคนเดียวเมื่อนึกย้อนเหตุการณ์ที่ตัวเองพยายามฆ่าแม้นเทพ แต่เหมือนเห็นเขาลืมตามอง หรือเขาอาจจะได้ยินความลับที่เธอพูดออกมาทั้งหมด แต่แล้วทำไมเขายังหลับอยู่อย่างเดิม
ที่หน้าห้องนอน บรรจง สีดา และชื่นยืนออด้วยท่าทีกล้าๆกลัวๆ เกี่ยงกันว่าใครจะเคาะประตู พลันเสียงสิ่งของกระทบประตูดังโครมครามตามด้วยเสียงตวาดของประคองว่าอย่ามายุ่งกับตน เล่นเอาทั้งสามคนผวา แต่ต้องทำตามคำสั่งณรังค์ที่ให้เฝ้า
ละมุลเดินมาเห็นแปลกใจที่สามคนรับใช้มาอยู่ตรงนี้ ทั้งสามเล่าว่าท่าทางประคองผิดปกติ ให้โทร.บอกณรังค์ ละมุลรับฟัง แต่ยังพยายามเคาะประตู เรียกแม่ ครั้นไม่มีเสียงตอบก็เริ่มหวั่นใจ
ทางด้านสิริกันยาที่ณรังค์ส่งโทรศัพท์มือถือให้เธอดูความร้ายกาจของประคอง หญิงสาวคาดไม่ถึงและพูดอะไรไม่ออก คืนโทรศัพท์ให้เขาด้วยมือสั่นเทา เขาถามถ้าเธอเป็นเขาจะทำอย่างไร เธอตอบว่าเขามีคำตอบในใจอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่ให้คนอื่นดูคลิปนี้ คงเลือกทำลายมันไป ซึ่งตนเข้าใจความรู้สึกเขา มันไม่ง่ายเลยที่จะตัดสินใจ
ณรังค์พยักหน้าเศร้าๆ ตลอดชีวิตตั้งแต่พ่อแม่ตายก็มีประคองที่คอยดูแลอบรมสั่งสอนไม่ให้ตนรู้สึกเดียวดายบนโลกใบนี้ เธอทำให้ตนรู้คุณค่าในตัวเอง มันคือ สิ่งยึดเหนี่ยวหัวใจตน
สิริกันยาจับไหล่เขาเบาๆส่งความรู้สึกให้ “ฉันเชื่อว่าทุกการกระทำของมนุษย์มันมีเหตุผล แม่คองของคุณก็เหมือนกัน ท่านคงถูกกดดันมามากจนทนไม่ไหว”
“ผมไม่รู้เลยว่ามันเริ่มต้นตั้งแต่ตอนไหนกันแน่ ผมไม่เคยเฉลียวใจเลย แม่คองไม่น่าเลือกทางออกด้วยวิธีนี้”
“เวลาที่คนเราหลังชนฝามากๆ การฮึดสู้มีแค่สองทางให้เลือกเท่านั้น คือสู้อย่างมีสติหรือขาดสติ น่าเสียดายที่แม่คองของคุณเลือกอย่างหลัง”
ณรังค์รับรู้ถึงกำลังใจที่สิริกันยามีให้ เขายิ้มออกมาได้ ตั้งใจจะทำหน้าที่ลูกที่ดีต่อไป เมื่อละมุลโทร.บอกเรื่องประคองอย่างร้อนใจ ณรังค์ให้เฝ้าดูแล้วตนจะรีบกลับ จากนั้นเขารีบโทร.หาสวัสดิ์ เป็นเวลาที่สวัสดิ์กำลังเก็บเสื้อผ้าจะกลับไปอยู่กับแม่ เพราะลาออกจากโรงเรียนแล้ว แต่พอได้คุยโทรศัพท์กับณรังค์ก็ผลุนผลันออกไป ส่วนณรังค์ตรงไปที่สถานีตำรวจ ก่อนจะกลับมาที่วังจงสวัสดิ์
ooooooo
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังวุ่นวาย เกียรติศักดิ์กลับมาปล่อยปฐวี เธอสงบนิ่งไม่โวยวาย แต่ยื่นความจำนงขอหย่า เขาหัวเราะเยาะไม่ยอมง่ายๆ เธอกระชากแขนเขา ถามว่าต้องการอะไรจากตัวเธออีก เขาสะบัดเธอล้มลง เธอโผกอดขาเขาอ้อนวอน
เกียรติศักดิ์คาดไม่ถึงว่าเธอทำได้ขนาดนี้ แกล้งเหยียดหยามให้ทำมากกว่านั้นด้วยการกราบเท้า ไม่คาดคิดว่าเธอทำเพราะต้องการหย่าจริง
“คงต้องการเป็นอิสระมากสินะ ให้ผมหย่าแล้วปล่อยคุณหญิงไปเอาไอ้เด็กในบ้านนั่นอย่างสบายใจเหรอ ไม่มีทาง! ลดตัวลงได้เพื่อมัน ยิ่งเห็นแบบนี้ ผมยิ่งจะยึดคุณหญิงเอาไว้กับตัว ทางเดียวที่จะเป็นอิสระจากผมได้คือ...ความตายเท่านั้น”
ปฐวีเจ็บปวดร้องไห้โฮออกมา สักพักสายตากร้าวเต็มไปด้วยความแค้น “ฉันบอกแล้วไง ว่าฉันทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้เป็นอิสระจากแก!”
เกียรติศักดิ์ยักไหล่ไม่สน แต่พอเห็นเธอวิ่งออกจากห้องไปเปิดกระเป๋าถือ แล้วเหมือนหาอะไรไม่เจอ...ปฐวี จะหยิบปืน แต่นึกได้ว่าณรังค์เก็บปืนไว้ จึงวิ่งออกมาจากคอนโดแทน เกียรติศักดิ์เอะใจรีบไปเปิดลิ้นชักในห้องนอน พบว่าปืนหายก็ใจหาย ไม่รู้ว่าเธอเอาปืนไปทำไม
ระหว่างวิ่งมาที่รถ ปฐวีถามพนักงานที่โรงแรมว่าณรังค์อยู่ไหน พอรู้ว่าเขากลับวังจงสวัสดิ์ก็รีบตามไป
ประคองยังคงพร่ำพูดคนเดียวในห้องว่าไม่มีใครทำอะไรตนได้ ตนคือหม่อมคนเดียวของท่านชายแห่งจงสวัสดิ์...ละมุลนั่งรอณรังค์อย่างร้อนใจ พอเห็นสวัสดิ์มาก็แปลกใจ เขาบอกว่าณรังค์ให้มาอยู่เป็นเพื่อนเธอ ละมุลยิ่งว้าวุ่นใจเพราะยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ สวัสดิ์รู้เรื่องจากณรังค์แต่เขาบอกว่าละมุลไม่เชื่อ จึงไม่กล้าเล่าอะไรให้ฟัง แล้วชวนไปเฝ้าดูประคอง
สวัสดิ์ลองเคาะประตูเรียกประคอง เธอตวาดไล่ให้เขากลับไป ละมุลพยายามขอร้องให้แม่ออกมาคุยกัน แต่เธอก็ไม่ยอม ณรังค์กับสิริกันยามาถึง ละมุลร้องเรียกณรังค์ ประคองได้ยินเกิดความหวาดระแวงอย่างมาก
เมื่อละมุลคาดคั้นถามณรังค์ว่าแม่เป็นอะไร เขาขอให้เธอฟังให้จบ
“แม่คองพยายามฆ่าท่านชาย พี่แจ้งตำรวจแล้ว ตอนนี้ตำรวจกำลังมา เราจะต้องคุยให้แม่คองยอมมอบตัว”
ทุกคนในบ้านตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน ละมุลไม่เชื่อ ณรังค์จึงเปิดคลิปวางลงบนโต๊ะให้ทุกคนได้ดูและฟังคำพูดของประคองที่เป็นหลักฐานมัดตัวเธอเอง บรรจง สีดา และชื่นตาเหลือกคาดไม่ถึง ละมุลร้องไห้สะอึกสะอื้น ทันใดปฐวีเดินเข้ามาได้ยินตอนที่ประคองพูดว่าวางยาฆ่าช้องนางและทำกับแม้นเทพด้วย ก็กรี๊ดลั่นกลั้นใจฟังต่อ ด้วยความช็อกเช่นเดียวกับละมุลอกแทบระเบิด ปฐวีกราดเกรี้ยวถามหาประคองแล้วถลาไปที่ห้อง ละมุลวิ่งตามร้องห้ามอย่าทำอะไรแม่ตน ณรังค์กับคนอื่นวิ่งตามอย่างตกใจ แต่พอมาถึงประตูเปิดค้างอยู่ ประคองไม่ได้อยู่ในห้อง ณรังค์ฉุกคิดเป็นห่วงแม้นเทพ รีบวิ่งไปที่ตึกใหญ่ ทุกคนตามติด
ooooooo
ในห้องแม้นเทพ ประคองทำร้ายพยาบาลจนสลบ ย่างสามขุมเข้าหาแม้นเทพ เขาลืมตามองด้วยความหวาดกลัวและพยายามขยับตัวหนี ประคองมองตาท่านชายพร้อมเข่นเขี้ยว
“คนอย่างท่านชาย ไม่เคยไว้ใจได้ หลอกลวงหม่อมฉันตลอดเวลา! ไม่ยอมตาย ยังจะฟื้นขึ้นมาอีก แต่รู้อะไรไหมว่าไม่มีใครหนีความตายพ้น” ประคองเอาหมอนกดลงบนหน้าท่านชาย
ณรังค์วิ่งนำทุกคนขึ้นมา ปราดเข้าทุบประตู แต่มันล็อกด้านใน กุญแจก็อยู่ที่ประคอง ณรังค์ตัดสินใจจะพังประตู พอดีตำรวจมาถึง จึงช่วยกันกับสวัสดิ์และณรังค์พังประตูเข้าไป
ภาพแรกที่เห็นคือประคองนั่งชื่นชมความตายของแม้นเทพตรงหน้าอย่างหนำใจ แล้วรีบพุ่งไปที่ระเบียง ปฐวีถลาเข้ามองแม้นเทพด้วยความช็อก ละมุลร้องไห้โฮในอ้อมกอดสวัสดิ์...ณรังค์สะเทือนใจมากตามมาเกลี้ยกล่อมประคองไม่ให้โดด ละมุลอ้อนวอนน้ำตาพรั่งพรู
“แม่จ๋า...แม่รักหนูไหม หนูรักแม่นะ หนูขอโทษ ที่เคยทำให้แม่เสียใจ หนูรู้ว่าแม่ทำทุกอย่างเพื่อหนู แต่ทุกอย่างมันไม่มีความหมายอะไรเลย ถ้าไม่มีแม่...หนูจะอยู่ยังไง ถ้าไม่มีแม่ แม่มอบตัวเถอะนะ แม่ยังมีโอกาสกลับมาอยู่กับหนู แม่ไม่อยากอยู่กับหนูเหรอ หนูไม่เคยมีพ่อ อย่าให้หนูต้องขาดแม่ไปอีกคนเลยนะ”
ประคองร่ำไห้คร่ำครวญ “แม่รักหนู แต่หัวใจของแม่มันฉีกขาดไปหมดแล้ว เพราะผู้ชายเห็นแก่ตัว สารเลวนั่น แม่ทำผิดอะไร ทำไมแม่ต้องถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า และแม่ก็ไม่ผิดที่หยิบยื่นความตายให้กับมัน”
ณรังค์ค่อยๆขยับเข้าใกล้ “ผมเข้าใจแม่นะ ละมุลก็เข้าใจ และศาลก็จะรับฟังแม่ แม่ยังมีโอกาสนะครับ โอกาสที่เราจะกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง เริ่มต้นชีวิตกันใหม่นะครับแม่”
“ณะ...ละมุล...” ประคองเริ่มใจอ่อนลง
ปฐวีทนไม่ได้ปราดเข้ามาด่าว่า ยุให้ประคองโดดลงไปเลย เพราะชีวิตมีแต่ความไร้ค่า สมควรตาย ณรังค์กับละมุลร้องลั่นให้คุณหญิงหยุด แต่เธอกลับตอกย้ำว่า ให้ตายกี่ครั้งก็ไม่มีทางชดใช้ความผิดได้หมด ประคองตวาดกลับ
“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ผิด ถ้าจะผิด ก็คงมีอยู่ อย่างเดียว คือฉันไม่ได้ฆ่าแกอีกคน แต่ใช่ว่าฉันจะฆ่าแกไม่ได้ ฉันจะฆ่าแกให้ตายทั้งเป็น ฉันจะใช้เลือดของฉันสาปแช่งแก ชีวิตแกจะต้องฉิบหาย หาความสุขไม่ได้...ฉันเคยบอกแล้วใช่ไหม ว่าฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ที่นี่คือที่ตายของฉัน!” พูดจบประคองทิ้งตัวลงจากระเบียง ท่ามกลางเสียงร้องตกใจสุดขีดของละมุลกับณรังค์
ความวุ่นวายเกิดขึ้น ปฐวียืนเชิดสะใจ รถพยาบาลเข้ามานำศพแม้นเทพกับประคอง พร้อมพยาบาลที่บาดเจ็บไป สิริกันยานั่งเงียบข้างๆณรังค์ที่เศร้าเสียใจอย่างมาก เขาคิดถึงความสัมพันธ์ที่ดีที่เพิ่งเกิดขึ้นกับแม้นเทพ
ความรัก ความเอื้ออาทรที่ประคองมีให้แต่เล็ก น้ำตาเขาไหลริน...ส่วนสวัสดิ์คอยปลอบละมุลที่ร้องไห้อย่างน่าสงสาร
เวลาผ่านไป ณรังค์ขอบคุณสิริกันยาและสวัสดิ์ ให้บรรจงขับรถไปส่งทั้งสอง แต่นึกได้ถามสิริกันยาว่ามีธุระอะไรกับตน เธอส่ายหน้าเอาไว้ก่อน ตอนนี้มีอะไรให้ช่วยบ้าง เขาสบตาเธออย่างอ่อนโยนลึกซึ้ง จนเธอหวั่นไหวหลบสายตา สวัสดิ์สังเกตเห็นว่าทั้งสองมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
ระหว่างเดินมาขึ้นรถ สวัสดิ์แย็บกับสิริกันยาว่าณรังค์เข้มแข็งได้เพราะมีเธอเป็นกำลังใจ เธอรีบปฏิเสธว่าตนไม่ได้มีความสำคัญ และตนก็รู้ว่าเขามีใครบางคนเป็นกำลังใจอยู่แล้ว สวัสดิ์ไม่อยากเถียง แต่มั่นใจว่าณรังค์มีใจให้เธอ
ooooooo
อ่านละครเรื่อง สายธารหัวใจ ตอนที่ 10 วันที่ 20 พ.ย.60
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ บทประพันธ์โดย วาสนาละครเรื่อง สายธารหัวใจ บทโทรทัศน์โดย คนเขียนเงา
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ กำกับการแสดงโดย ชนะ คราประยูร
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ควบคุมการผลิตโดย ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิเวช
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางช่อง 33 HD
ที่มา ไทยรัฐ