อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 2 วันที่ 27 พ.ย.60
“ครับ...ผู้หญิงเวลาอ่อนแอ รู้สึกตัวเองไร้ค่า ทำอะไรก็ได้ทุกอย่าง...แม้แต่ทำร้ายตัวเอง ผมล่ะกลัวใจผู้หญิงจริงๆ ผมขอโทษนะครับที่เอาเรื่องแบบนี้มาเล่าให้คุณฟัง”เรื่องเล่าของชาคริตทำให้ญาดาร้อนรน บุกไปหาทัศนะถึงบ้านเพราะเดาว่าชาคริตอาจไปซ่อนตัว เพ็ญขวัญเห็นท่าไม่ดี ปล่อยให้พี่ชายรับหน้าญาดา ส่วนตัวเองหลบไปคุยกับเขมิกาในห้อง
เขมิกาเห็นหน้าพี่สาวก็ตัวสั่น พร่ำบอกเพ็ญขวัญจะไม่ยอมกลับบ้าน
“ไม่กลับก็ไม่กลับค่ะ ขวัญกับพี่นะตกลงกันแล้วว่าเราจะรอจนกว่าคุณเขมจะพร้อม”
“ไม่ได้โกหกเขมนะ”
“เราไม่โกหกคุณเขมอยู่แล้ว”
“คนที่เขมรักที่สุด...ยังโกหกเขมได้ แล้วอย่างนี้เขมจะเชื่อคำพูดใครได้อีก”
สภาพขวัญเสียของเขมิกาทำให้เพ็ญขวัญพูดไม่ออก แม้จะอยากส่งตัวคืนแค่ไหน แต่เธอคิดว่าเขมิกายังไม่พร้อม คงต้องให้เวลาปรับตัวปรับใจอีกสักพัก ค่อยกล่อมให้กลับบ้านอีกที
ทัศนะลำบากใจไม่แพ้น้องสาว ญาดามีท่าทีตึงเครียดกว่าวันก่อนมาก กลัวเขมิกาจะตามหาตัวชาคริตและคิดสั้น ความกังวลของญาดาทำให้ทัศนะสะดุ้ง ภาพเหตุการณ์เขมิกาจะกระโดดสะพานข้ามแม่น้ำและจะพุ่งตัวให้รถชนผุดในหัวเขาอีกครั้ง แต่กระนั้นก็ไม่กล้าบอกความจริงกับญาดา
ท่าทางอึกอักของทัศนะทำให้ญาดาเอะใจ แต่เขาก็กลบเกลื่อนจนเธอเลิกสงสัยและเปลี่ยนมาถามเรื่องชาคริตแทนว่าเป็นใคร มาจากไหน เพราะเธอหาข้อมูลของเขาแทบไม่ได้
“นายคริตใช้ชีวิตที่ฮ่องกงเป็นส่วนใหญ่ ทำงานให้กับพ่อบุญธรรมที่โน่น ส่วนบริษัทที่นี่เขาให้ผมเป็นผู้บริหาร”
“คงเป็นความคิดเขาสินะที่ให้บริษัทเราร่วมลงทุนกับบริษัทคุณ แล้วเขาใช้โอกาสนี้เข้ามาในครอบครัวฉัน”
ทัศนะกลืนน้ำลาย เขารู้แผนการของชาคริตดีแต่ก็จำต้องโกหก
“ผมรู้แต่เรื่องงาน เรื่องอื่น...ผมไม่รู้จริงๆ ผมเองก็อยากเจอมัน อยากถามว่ามันทำกับคุณเขมอย่างนี้ได้ยังไง”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันขอจัดการเพื่อนคุณด้วยตัวของฉันเอง!”
ooooooo
ญาดากลับไปแล้ว เพ็ญขวัญไปบอกเขมิกาให้เบาใจ ก่อนปลอบไม่ให้คิดมาก เธอรู้จักนิสัยช่างเอาอกเอาใจของชาคริตดี แม้แต่เธอยังอดรักเขาในฐานะพี่ชายไม่ได้
เรื่องราวของชาคริตจากปากเพ็ญขวัญทำให้เขมิกาสะเทือนใจ พลางย้อนคิดถึงอดีตเมื่อหลายเดือนก่อน...
วันที่เธอเจอเขาเป็นครั้งแรก เขมิกาจำได้ดี ดิลกเป็นปลื้มชาคริตหุ้นส่วนหนุ่มจากทีมาร์ทมาก ไม่เว้นแม้แต่เธอกับปาริฉัตรที่แทบละสายตาจากเขาไม่ได้ และเขาก็ทำให้เธอหัวใจเต้นแรง เมื่อเขาแสดงท่าทีชัดเจนว่าอยากสานสัมพันธ์กับเธอ
ทัศนะเป็นอีกคนที่ทบทวนถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ท่าทางของเขมิกาในวันนี้ทำให้เขาคิดถึงอดีต เขายอมรับว่ารู้ตื้นลึกหนาบางแผนของชาคริตดี...เพื่อนรักจงใจเข้าหาพวกเมธาสิทธิ์เพื่อล้างแค้น!
ชาคริตกับทัศนะเป็นเพื่อนรักตั้งแต่เด็ก เช่นเดียวกับพ่อของพวกเขา แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อเก่งกาจ พ่อของชาคริตนำเงินของพ่อทัศนะไปร่วมลงทุนกับดิลกแต่ถูกโกงหมดตัว
ครอบครัวของทัศนะสิ้นเนื้อประดาตัว ส่วนเก่งกาจถูกดำเนินคดีติดคุกถึงทุกวันนี้ ชาคริตแค้นดิลกและพาลไปถึงทุกคนในครอบครัวเมธาสิทธิ์ และเขาก็ปฏิญาณจะทำทุกทางให้พวกนั้นชดใช้อย่างสาสม!
การล้างแค้นของชาคริตเริ่มต้นหลังจากนั้น เขาตัดสินใจไปทำงานที่ฮ่องกงจนได้เป็นลูกบุญธรรมของมาเฟียที่นั่น หนทางดำมืดของพวกมาเฟียเป็นทางลัดที่ทำให้เขามีทุกอย่างเช่นวันนี้...อำนาจและเงินตรา เก่งกาจที่ยังอยู่ในคุกไม่เคยเห็นด้วยกับทางเลือกของชาคริต และประท้วงด้วยการไม่ยอมรับสิ่งใดจากลูกชายคนเดียว
แต่กระนั้นชาคริตก็ไม่สน เขาชดใช้ให้ทัศนะกับเพ็ญขวัญด้วยบ้านหลังงาม ทัศนะจะไม่รับ แต่ชาคริตยืนกรานจนเขาต้องยอมพบกันครึ่งทาง คือเขาจะจ่ายค่าบ้านครึ่งนึง ส่วนอีกครึ่งถือเป็นของขวัญจากชาคริตให้เพ็ญขวัญ
ชาคริตใช้เวลาร่วมยี่สิบปีก่อร่างสร้างตัวและฐานอำนาจเพื่อเอาคืนพวกเมธาสิทธิ์ และวันนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่พวกนั้นจะได้ลิ้มรสความเจ็บปวดแสนสาหัสแบบที่เขากับพ่อเคยเจอ!
ooooooo
เพ็ญขวัญเล่าเรื่องชาคริตเท่าที่รู้ให้เขมิกาฟังด้วยความเห็นใจ แต่กระนั้นก็ไม่เข้าข้างเพื่อนสนิทพี่ชาย และยืนยันกับเขมิกาว่าชาคริตต้องมาอธิบายความจริงทั้งหมดด้วยตัวเอง
เขมิกาหน้าเสีย ใจหวนคิดถึงช่วงเวลาดีๆ แม้จะไม่นานแต่เป็นช่วงเวลาที่เธอมีความสุขมาก ชาคริตแวะเวียนเข้ามาในชีวิตเธออย่างจงใจ ใช้ความอ่อนโยนและความอ่อนหวานทำให้เธอตกหลุมรัก เปิดโลกใบน้อยของคุณหนูอย่างเธอให้เจอสิ่งใหม่ๆ ตบท้ายด้วยการขอแต่งงานในเวลาไม่กี่เดือน
ระหว่างที่เขมิกาทบทวนความทรงจำ ชาคริตที่ข้องใจการหายหน้าหายตาของทัศนะโทร.เข้าบ้าน เพ็ญขวัญกำลังยุ่งเลยขอให้เขมิการับสาย น้ำเสียงคุ้นหูทำให้
ชาคริตชะงักไปอึดใจ เริ่มสังหรณ์ว่าเขมิกาอาจไม่ได้หายตัวไปไหนไกล แต่อาจมีใครบางคนรอบตัวเขาคอยช่วยเหลือ
แต่ถึงอยากแล่นไปบ้านทัศนะเพื่อหาความจริงแค่ไหน ชาคริตก็มีอย่างอื่นสนุกกว่ารอที่โรงพยาบาล การปั่นหัวญาดาซึ่งเริ่มเอะใจเรื่องเล่าของเขา และจับได้ในที่สุดว่าทุกอย่างที่เขาเล่าเป็นแค่เรื่องโกหก!
ญาดาไม่รอช้า รีบเช็กกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลและห้องพิเศษข้างๆห้องพักของพ่อ แต่กลับไม่พบแม้แต่เงาของคนที่มองหา ชาคริตมองอาการวิ่งพล่านของเธอด้วยแววตาสาแก่ใจ ก่อนตัดสินใจปรากฏตัวต่อหน้าเธอ
ท่าทางยียวนของชายหนุ่มแปลกหน้าที่เธอเพิ่งมั่นใจวันนี้ว่าคือชาคริตทำให้ญาดาหัวเสียมาก
“คุณเป็นใคร”
“แล้วคุณก็จะรู้เอง ไม่ต้องตามไล่ล่าผม ผมชอบเป็นฝ่ายไล่ล่ามากกว่า”
โดนประกาศศึกขนาดนี้ ญาดาถึงกับไปไม่ถูก ชาคริตสะใจมาก ทิ้งท้ายเสียงเยาะ
“อีกอย่างนึงนะคุณญาดา...โลกนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญ”
พูดจบก็ขึ้นรถสปอร์ตจากไป ทิ้งญาดาให้วิ่งตาม แต่รองเท้าส้นสูงยี่ห้อหรูก็ทำให้เธอช้ากว่าที่คิด ได้แต่กรีดร้องด้วยความขัดใจ ก่อนจะถอดรองเท้าคู่โปรดเขวี้ยงตามหลัง...
ooooooo
ความโกรธชาคริตไม่ทันหาย ญาดาต้องประสาทเสียอีกเมื่อไตรทศ น้องชายโทร.ตามไปห้ามพ่อที่รั้นจะออกจากโรงพยาบาลทั้งที่ไม่หายดี กมลพรรณกับปาริฉัตรดักรออยู่แล้ว ปั้นหน้าโศกเศร้า ขอร้องให้ญาดาพูดกับดิลก ญาดาเหนื่อยเกินกว่าจะทำอะไรจึงตัดสินใจยอมให้พ่อกลับบ้านง่ายๆ
ดิลกจะได้กลับบ้านสมใจในวันรุ่งขึ้น ญาดากับไตรทศไม่อยากให้พ่อกระทบกระเทือนจิตใจเรื่องเขมิกาเลยคิดว่าต้องทำข้อตกลงกับกมลพรรณและปาริฉัตร
“ดาจ้างคนดูแลคุณพ่อเรียบร้อยแล้ว ระหว่างที่คุณพ่อยังอยู่ที่นี่ ก็ให้นางพยาบาลพิเศษเฝ้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง”
“ไม่เป็นไรค่ะ น้าเฝ้าท่านให้ได้ น้าไม่เหนื่อยอะไรเลย”
“ดาไม่ได้เกรงว่าน้ามลจะเหนื่อยหรอกค่ะ แต่เกรงว่าถ้าน้ามลกับฉัตรอยู่ คุณพ่อจะยิ่งเครียดหนัก ยิ่งพูดจาให้คุณพ่อเครียดอยู่อย่างนี้...อยู่ห่างๆดีกว่า”
กมลพรรณกลัวถูกปลดจากตำแหน่งแม่เลี้ยง
ไตรทศแสยะยิ้ม โพล่งไม่ไว้หน้า “เราคงไม่คิดหาแม่เลี้ยงคนใหม่หรอกครับ แค่หาคนที่ดูแลเอาใจใส่คุณพ่อจริงๆ แพงแค่ไหนเรายอมจ่าย ถ้าจ่ายแล้วคุ้มเงิน!”
ปฏิกิริยาของญาดากับไตรทศเรื่องดิลกทำให้กมลพรรณกับปาริฉัตรเจ็บใจมาก โดยเฉพาะคนแม่ ต้องข่มใจไม่อาละวาดเพราะยังหวังสมบัติของดิลก รอจนได้อยู่ลำพังกับลูกสาวจึงได้ระเบิดอารมณ์
อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 2 วันที่ 27 พ.ย.60
ละครเรื่อง ระเริงไฟ บทประพันธ์โดย โสภี พรรณรายละครเรื่อง ระเริงไฟ บทโทรทัศน์โดย พิมพ์ธนา และ เอกชยา
ละครเรื่อง ระเริงไฟ กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง ระเริงไฟ ผลิตโดย บริษัท ชิติเช่น เคน จำกัด
ละครเรื่อง ระเริงไฟ ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง ระเริงไฟ เริ่มออกอากาศตอนแรกวันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2560
ที่มา ไทยรัฐ