อ่านละคร รักกันพัลวัน ตอนที่ 6 วันที่ 3 พ.ย.60

อ่านละคร รักกันพัลวัน ตอนที่ 6 วันที่ 3 พ.ย.60

พิมมี่เห็นแมตต์หายไปยังไม่กลับไปประชุมจึงออกตามหา มาเจอโรสกอดฐานัทหลับตาปี๋อย่างหวาดเสียวอยู่ที่ชายหาด ตกใจเข้าไปถามว่าพี่โรสเป็นอะไร

โรสบอกว่าถูกหอยเม่นตำเท้า ถามว่าประชุมเสร็จแล้วหรือ พิมมี่บอกว่ายังแต่แมตต์หายไป คุณลุงเลยให้ตนมาตาม

ฐานัททุบสลายหนามหอยเม่นเสร็จ ถามว่าหายเจ็บหรือยังลองเดินดู โรสเดินได้แต่ยังเจ็บอยู่

“สักพักก็ดีขึ้นเอง เสร็จธุระผมแล้ว คุณเคยช่วยผมไว้ ผมช่วยคุณกลับถือว่าหายกัน เป็นอันว่าเราไม่มีอะไรติดค้างกันแล้วนะ” ชายหนุ่มยิ้มให้แล้วเดินออกไปทันที พิมมี่มองตามถามโรสว่าใคร หน้าคุ้นๆ



“ก็ผู้ชายที่เคยมีเรื่องกับพี่ที่ฟิตเนส แล้วก็มาอ้วกใส่พี่ที่ปั๊มนั่นไง”

พิมมี่จำได้ มองตามฐานัทไปอย่างแปลกใจว่า ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงมาเจอโรสที่หัวหินได้???

ooooooo

แมตต์เป่าลมเข้าปากตุลแล้วดูว่าเธอหายใจหรือยัง ตุลสำลักน้ำพรวดแต่ยังไม่ได้สติ ฐานัทที่ผละจากโรสมาเห็น เขาพุ่งเข้าผลักแมตต์ล้มก้นจ้ำเบ้า ตวาด

“เฮ้ย! คุณทำอะไรเพื่อนผม!!”

“เพื่อนคุณจมน้ำ ผมพยายามช่วยให้ฟื้น เป็นเพื่อนกันก็ดูแลกันต่อก็แล้วกัน ตอนนี้หายใจได้แล้ว”

แมตต์ลุกไปทันที ฐานัทนั่งลงดูตุลที่ยังไม่รู้สึกตัวอย่างเป็นห่วง...ตบหน้าเบาๆเรียก แต่ตุลยังไม่รู้สึกตัว เขาก้มลงจะเป่าปากให้ แต่ยังไม่ทันเป่า ตุลก็ลืมตาสะลึม สะลือ เห็นหน้าฐานัทจ่ออยู่ตรงหน้าตัวเองก็เคลิ้ม...ยิ้มดีใจเรียกเสียงแหบแห้ง...

“พี่นัท...ตุลว่ายน้ำตามหาพี่นัท นึกว่าพี่นัทเป็นตะคริว แต่ตุลดันเป็นซะเอง...ตุลยังไม่ตายใช่ไหม”

“เออสิ...ขอบคุณนะที่เป็นห่วงพี่จนแทบเอาชีวิตไม่รอดแบบนี้ ขอบคุณจริงๆว่ะ” ฐานัทกอดตุลแมนๆอย่างซึ้งใจ ตุลเต็มตื้นในหัวใจ ซบเคลิ้ม...อยากอยู่ในอ้อมกอดเขา อย่างนี้ไปตลอดชีวิตเลย...

ฝ่ายแมตต์มอบตุลให้ฐานัทดูแลต่อแล้วก็เดินตัวเปียกกลับโรงแรม โรสถามว่าไปทำอะไรมา ทำไมตัวเปียก อย่างนี้ แบรดเดินเข้ามาพูดหน้าเครียดว่ากวนโมโหตนหรือ ถึงได้โดดลงทะเลเหมือนเด็กสิบขวบไม่รู้จักเวล่ำเวลา ถามว่า “หรือเมื่อกี้แกยังทำฉันเสียหน้าไม่พอฮะ”

พิมมี่ขอให้คุณลุงฟังพี่แมตต์ก่อน ก็ถูกฌอนเร่งแบรดให้กลับเข้าประชุมได้แล้ว เราไม่ควรเลต แมตต์จึงบอกพิมมี่ว่าตนจะเลตห้านาทีเดี๋ยวตามไป

โรสกับพิมมี่มองหน้ากันงงๆว่าแมตต์ไปทำอะไรมา ทำไมถึงตัวเปียกอย่างนี้...

ฝ่ายตุลยังตกอยู่ในภวังค์เคลิ้มกับอ้อมกอดของฐานัท ทั้งที่ตัวเขาลุกไปชงโกโก้ร้อนแล้ว กลับมาเห็นตุล ยังตกอยู่ในภวังค์เคลิ้มก็เรียกสติ พอตุลรู้สึกตัวเธอ มองหน้า เขายิ่งเขิน รับถ้วยโกโก้ร้อนไปดื่ม ขอบคุณที่ช่วยตนไว้ ฐานัทเล่าตามจริงที่ตนเห็นเธอนอนนิ่งอยู่และจะเป่าปากแต่ตุลรู้สึกตัวเสียก่อน เธอถามว่ากลัวตนตายหรือ เขาหัวเราะร่วนบอกว่ากลัวผี

“พี่นัทรู้ไหม การได้ลืมตาขึ้นมาเห็นพี่นัทเป็นคนแรกมันเป็นอะไรที่...ดีจัง” ตุลลุกขึ้นกระโดดโลดเต้น “ฮิ้ว...การมีชีวิต มีลมหายใจนี่มันดีจริงๆเลย”

ฐานัทมองตุลอย่างเป็นห่วงที่เพิ่งฟื้นแต่กระโดดโลดเต้นเมามันอย่างนี้กลัวจะช็อกตายไปจริงๆ...

ooooooo

ค่ำแล้ว...ที่เทอเรซห้องอาหารติดชายหาดในโรงแรม แบรดนั่งอยู่หัวโต๊ะ แมตต์กับฌอนนั่งขนาบซ้ายขวา ส่วนโรสกับพิมมี่นั่งข้างชายที่ตัวเองชอบ ทุกคน ดูผ่อนคลาย ยกเว้นแบรดที่ยังเหมือนครุ่นคิดอะไร

พนักงานบรรจงเสิร์ฟอาหารแล้วถอยไป ขณะที่หนุ่มๆสาวๆกำลังลงมือจะกิน แบรดก็เอ่ยขึ้นว่า

“ใครเสนออะไรผ่านในที่ประชุม ใครต้องสานงานอะไรต่อก็กลับไปรับผิดชอบ ไป follow up งานของตัวเอง” ทุกคนที่กำลังจะลงมือกินอาหารชะงักฟังอย่างอึดอัดแต่เก็บอาการ “Schedule โปรเจกต์ Blue Sea World ไปถึงไหนแล้วฌอน”

ฌอนยืดตัวตรงขึ้นทันที รายงานว่าตอนนี้บริษัทแม่ ที่ออสเตรเลียกำหนดวันมาแล้ว เราต้องเตรียมข้อมูลและโครงสร้างของส่วนแสดงโชว์เพื่อ pitch งานแข่ง กับเจ้าอื่น

แมตต์ทนไม่ไหวทะลุกลางปล้องขึ้นว่า เวลานี้เป็นเวลาอาหารไม่ใช่หรือ ขอกินข้าวแบบปล่อยสมองว่างๆ ไม่ต้องคิดเรื่องงานสักชั่วโมงได้ไหม โรสกับพิมมี่ชำเลืองมองหน้ากันแบบแมตต์วอนอีกแล้ว!

พิมมี่เสนอว่าทุกคนประชุมเครียดกันแล้ว หยุดคุยเรื่องงานสักพักดีไหม โรสเห็นด้วยกุลีกุจอตักปูนิ่มพริกไทยดำให้แบรดชิม แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อแบรดเสียงแข็งใส่แมตต์ว่า

“ทำไมแกไม่หัดพูดเรื่องงานให้มันเป็นเรื่องธรรมดา ฝึกให้ชินเป็นนิสัยเหมือนที่แกหายใจ”

“ผมไม่ได้หายใจเข้าออกเป็นงานๆๆอย่างพ่อ ผมไม่เห็นว่าเอกสารเป็นพันๆแผ่นหรือบนจอคอมพิวเตอร์ จะมีค่ามากกว่าคนที่อยู่ข้างๆ”

“ฉันไม่คิดว่าการจริงจังกับงานจะทำให้เด็กไม่รู้จักโตอย่างแกทุกข์ทรมานได้ขนาดนี้”

แมตต์โต้ทันควันว่า ทุกข์ทรมานเพราะลมหายใจมีแต่งานๆๆของพ่อทำให้คนที่ตนรักต้องตาย พ่อทิ้งครอบครัวเพื่อความเจริญก้าวหน้าของตัวเอง แม่กับน้าเล็กต้องตายเพราะพ่อ พ่อเคยเสียใจกับเรื่องนี้บ้างไหม หรือเห็นว่าการเกิดแก่เจ็บตายมันเป็นเรื่องธรรมดา!!

แมตต์ระเบิดอารมณ์ออกมาจนทุกคนอึ้ง แล้วลุกเดินไปที่ชายหาดเลย แบรดลุกตามทันที ฌอนขอตัวหมดอารมณ์กิน พิมมี่มองฌอนอย่างเป็นห่วง ส่วนโรสลุกตามแมตต์ไป กลัวแมตต์กับแบรดจะมีเรื่องกัน แต่เท้าที่ถูกหนามหอยเม่นตำเจ็บจนทรุดนั่ง

ที่โต๊ะไม่เหลือใครแล้ว โรสมองอาหารบนโต๊ะบ่น

“ฉันต้องรับผิดชอบสินะ!!!”

ooooooo

ตุลยังทั้งร้องทั้งเต้นดีใจเมื่อนึกถึงคำทำนายของหมอดูที่ว่า

“ผู้ชายคนนั้นคือคนที่มอบจูบแรก มอบชีวิต และมอบลมหายใจให้กับเจ้า”

ฐานัทดูแล้วพึมพำขำๆ “รอดตายก็เป็นบ้าเลยนะ ...ตุล”

ตุลถือโทรศัพท์เดินหัวเราะคิกคักมาที่หน้าบังกะโลไม่เห็นแมตต์ที่เดินจ้ำมาจากอีกทางหนึ่งและแบรดตามมาห่างๆ ตุลโทร.คุยฮิฮะด้วยหัวใจฟูฟ่องพองโตกับอโนมาว่า

“แก๊...เป็นเรื่องแล้ว ข่าวดีที่สุดในชีวิตเลย...แกจำแม่หมอที่แกพาฉันไปหาด้วยกันได้ไหมอโน...นั่นแหละแก๊...แกรู้ไหมว่าพี่นัท...”

ตุลพูดได้แค่นั้นก็หยุดกึกเมื่อได้ยินเสียงแบรดตวาด “ไอ้แมตต์!! ที่แกพูดเมื่อกี้หมายความว่ายังไง”

ตุลหันมองเห็นแมตต์กับแบรดยืนอยู่ห่างไปไม่ไกลนัก รีบกระซิบบอกอโนว่าแค่นี้ก่อนนะแล้วปิดโทรศัพท์ นิ่งงันหูผึ่ง

แมตต์กับแบรดทะเลาะกันเรื่องแม่ของเขา แบรดบอกว่าตนกับแม่แมตต์จบกันด้วยดี แมตต์ยิ้มหยันถามว่า พ่อรู้ไหมภายใต้หน้าที่ยิ้มแย้มของแม่ แม่เจ็บปวดขนาดไหน...จ้องหน้าถามอย่างขมขื่นว่า

“รู้ไหมว่าการที่เด็ก 10 ขวบต้องมาเห็นแม่กับน้าตัวเองรถคว่ำต่อหน้าต่อตา หัวใจเด็กคนนั้นเป็นยังไง รู้สึกยังไง พ่อไม่รู้ เพราะพ่อไม่เคยรับรู้!!!”

แมตต์จำได้ฝังใจว่า วันนั้นแม่จะไปหย่ากับพ่อ เขาขอตามไปด้วย แม่บอกว่าเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ให้แมตต์อยู่กับน้ากลาง แล้วเร่งน้าเล็กให้ไปกัน ไปช้าเดี๋ยวทางนั้นจะว่าเอา

น้าเล็กขึ้นไปนั่งที่คนขับพาแม่ออกไป แมตต์หันไปจับมือน้ากลางอ้อนวอน...

“น้ากลางครับ พาแมตต์ตามแม่ไปนะครับ แม่เสียใจ แม่แอบร้องไห้ทั้งคืน แมตต์กอดแม่ แมตต์รู้...แล้วถ้าแม่ไปเจอพ่อแล้วแม่เสียใจ ใครจะกอดแม่ครับน้ากลาง แมตต์ไหว้ล่ะ”

แมตต์ในวัย 10 ขวบกราบน้ากลาง เวลานั้น น้ากลาง ได้แต่กอดแมตต์ไว้ด้วยความสงสารแต่ไม่รู้จะทำยังไง

แมตต์ถามแบรดอย่างปวดร้าวว่า “พ่อรู้ไหม เด็กคนนั้นตามแม่ของเขาไป ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีกี่ชาติ เขาก็ไม่มีวันลืมภาพวันนั้น...”

ขณะน้ากลางขับรถตามรถของแม่แมตต์ไปนั้น แมตต์จ้องรถของแม่ไม่วางตา แล้วตะโกนลั่น

“แม่!!!”

รถบรรทุกคันหนึ่งแล่นตัดหน้ารถที่น้าเล็กกับแม่ นั่งอยู่ น้าเล็กเบรกกะทันหันรถเหวี่ยงปัดไปอย่างไร้ทิศทาง แล้วพุ่งเข้าชนต้นไม้อย่างแรง!!

แมตต์พูดถึงเหตุการณ์วันนั้นทั้งน้ำตาว่า

“ผมยังนึกเสียใจที่แม่ไม่ให้ผมไปด้วย ถ้าวันนั้นผมนั่งรถไปกับแม่ ผมคงได้ไปอยู่กับคนที่ผมรัก ไม่ต้องมาทนทรมานอยู่กับความเจ็บปวด อยู่กับคนที่ผมเกลียดแบบนี้!!”

“ไอ้แมตต์!!” แบรดตบแมตต์หน้าหัน ตุลที่ดูอยู่สะดุ้งเฮือก เห็นแมตต์มองพ่อของเขาเหมือนมองคนแปลกหน้าแล้วหันหลังเดินหนีไป แบรดมองตามแมตต์ไปอย่างรู้สึกผิด

ตุลยืนหน้าซีดเผือด มองตามแมตต์ไปอย่างคิดไม่ถึงว่ามีเรื่องแบบนี้ด้วย...

แมตต์เดินไปทรุดนั่งกอดเข่าน้ำตาไหล...เขาซบหน้ากับแขนตัวเองร้องไห้จนตัวโยน...

แบรดยืนมองแมตต์ด้วยหัวใจที่แตกสลาย แล้วเดินคอตกกลับไป

ส่วนตุลมองภาพแมตต์อย่างไม่เชื่อสายตาว่า วีพี 3 ที่ดูไร้หัวใจนั้น จะมีเบื้องลึกที่น่าสงสารมาก...

ooooooo

ฌอนออกจากโต๊ะอาหารแล้วไปนั่งดื่มที่หน้าเคาน์เตอร์ จมอยู่กับความเจ็บปวดที่ตัวเองไม่กล้าทำตามหัวใจตัวเองเหมือนแมตต์ คิดถึงที่นาตาลีต่อว่าเขาทั้งน้ำตาว่า

“ชีวิตคุณมีแต่งาน...งาน...งาน...คุณสนใจทุ่มเทให้กับสิ่งที่ไม่มีชีวิตจิตใจมากกว่าคนที่มีลมหายใจตรงนี้เสียอีก”

ยิ่งคิดยิ่งเจ็บปวด ฌอนดื่มแล้วดื่มอีกจนเมา ดื่มหมดแก้วก็สั่ง “เอามาอีกแก้ว”

พิมมี่ขอให้พอได้แล้ว เขาบอกเธอให้ขึ้นไปนอนเสีย ตนอยากอยู่คนเดียว แต่เขาไม่ยอมหยุด สั่งบาร์เทนเดอร์ ให้เอามาอีกแก้ว!!

“ถ้าพี่ฌอนไม่ขึ้นไปกับพิมมี่ พิมมี่จะไปตามลุงแบรดมาเรียกพี่ฌอนกลับขึ้นไปนะคะ”

ฌอนชะงักเมื่อถูกพิมมี่ยื่นคำขาดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ในที่สุดเขายอมให้พิมมี่ประคองขึ้นห้องพัก เธอจะผสมน้ำอุ่นให้อาบ เขานั่งก้มหน้าพูดอะไรไม่รู้เรื่อง พอพิมมี่ส่ายหน้าแล้วกู๊ดไนท์ เขาก็คว้ามือเธอไว้

“จะไปไหน ผมไม่ให้คุณไปไหนทั้งนั้น” ฌอนดึงอย่างแรงจนพิมมี่เสียหลักล้มที่เตียง เธอช็อก ฌอน ยังคงคร่ำครวญ “ผมขอโทษ...ผมรักคุณนะ นาตาลี...ผมรักคุณ”

พิมมี่ช็อกหนักกว่าเก่า ลุกยืนตัวแข็งทื่อ ฌอนเห็นเธอยืนนิ่งเหมือนหุ่นก็ค่อยๆถอนตัวออกมา เพ่งมองแล้วเอ่ยอย่างผิดหวัง

“พิมมี่....พี่ขอโทษ...พี่ขอโทษ...พี่ไม่ได้ตั้งใจ พี่นึกว่าพิมมี่เป็น...”

“นาตาลี...” พิมมี่พูดต่อให้อย่างเจ็บปวด พอตั้งสติได้ก็เอ่ย “กู๊ดไนท์นะคะ” แล้วออกไปเปิดประตูห้อง

ฌอนนั่งกุมหัว พึมพำเมาๆ...กรูทำอะไรลงไปวะเนี่ย???

ooooooo

ตุลคิดเรื่องแมตต์ เดินใจลอยกลับบังกะโล ฐานัทถามว่าไปไหนมา เธอบอกว่าไปเดินเล่น ถามว่าเขาพักร้อนกี่วัน ตนจะขอกลับก่อนเพราะวันจันทร์มีประชุม

ฐานัทบอกว่างั้นกลับด้วยกัน แต่ตุลอยากให้เขาพักให้คุ้มก่อน เพราะนานๆจะได้ลาพักร้อนสักที

“ได้ไง มาด้วยกันก็ต้องกลับด้วยกันสิ จริงๆที่มานี่พี่แค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจะได้เลิกฟุ้งซ่านเรื่องแนน แต่พอเจอตุลจมน้ำไม่หายใจเข้าไปนี่ พี่คิดได้เลยนะ คนเราจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ เราจะไปสนใจคนที่ไม่รักเราทำไม สู้อยู่เพื่อคนที่รักเราและดีกับเราไม่ดีกว่าเหรอ จริงไหม”

ตุลยังอยากให้เขาพักชาร์จแบตให้เต็มที่ก่อนกลับไปทำงาน เขาบอกว่าคืนนี้นอนให้เต็มอิ่ม พรุ่งนี้หาอะไรอร่อยๆกินกันแล้วค่อยเดินทางกลับ บอกว่าขามาตุลขับ ขากลับให้นั่งสบายๆ เป็นคุณชายไปเลยตนจะขับเอง พูดพลางขยี้ผมตุลเหมือนหยอกน้องชาย

รุ่งขึ้นตุลตื่นแต่เช้าจะออกไปจ๊อกกิ้ง ชวนฐานัทไปด้วย เขาไม่ไปเพราะเมื่อวานว่ายน้ำจนเพลีย แต่เดี๋ยวตุลกลับมาจะพาไปกินโจ๊กเจ้าอร่อยกัน

ตุลวิ่งผ่านแถวหน้าโรงแรมก็มัวแต่มองหวังว่าจะเห็นแมตต์ จนวิ่งสะดุดแมตต์ที่ยังนั่งอยู่ที่เดิมล้มไปด้วยกัน ตุลรีบขอโทษ กลบเกลื่อนแก้เกี้ยวถามว่าการประชุม เป็นยังไงบ้าง เขาตอบเนือยๆว่าก็ดี แล้วเตือนว่า “พรุ่งนี้มีประชุม หวังว่าคงจำได้นะ” พูดแล้วเดินกลับโรงแรมเลย

“ไม่ได้นอนทั้งคืนเลยเหรอวะเนี่ย” ตุลมองตามพึมพำ

ที่โรงแรม แบรด ฌอน โรสและพิมมี่ เข้ามานั่งที่โต๊ะอาหารเช้าแล้ว โรสถามว่าทำไมแมตต์ไม่ลงมาสักที บอกให้พิมมี่ช่วยโทร.ตาม

พิมมี่โทร.แล้ว แมตต์บอกว่าไม่หิวให้กินกันไปเลย แบรดถามว่าแล้วจะลงมาเมื่อไหร่

“คงสักพักมังคะ บอกจะไปสนามบินเอง เพราะต้องเอารถที่เช่ามาไปคืนน่ะค่ะ”

“งั้นโรสไปกับแมตต์นะคะ ทุกคนจะได้ไม่ต้องนั่งเบียดกัน”

ทุกคนคิดว่าเบียดยังไง รถตู้ออกกว้าง แต่ไม่มีใครพูด และที่โต๊ะอาหารนี่เอง ฌอนกับพิมมี่หยิบซอสจ๊ะกัน ต่างชักมือกลับทำหน้าไม่ถูก รีบก้มหน้าก้มตากินอาหาร

ฝ่ายฐานัท เมื่อตุลวิ่งกลับมาก็พาไปกินโจ๊กเจ้าอร่อย ตุลยังพยายามหว่านล้อมให้เขาพักอีกสองสามวันค่อยกลับ บอกว่าเสียดายเวลาพักร้อน

“เสียดายทำไม พี่คิดดูแล้ว ทำอะไรให้ยุ่งๆ เข้าไว้น่าจะดีกว่าอยู่เฉยๆ”

“ก็จริง ตอนตุลอกหัก ตุลอยู่คนเดียวไม่ได้เลยนะพี่ ก็มีอโนกับดา ที่ช่วยให้ผ่านวันแย่ๆไปได้”

“ใช่ เวลาช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น เวลาคงทำให้พี่ลืมแนนได้...ว่าแต่เราล่ะ เห็นอโนกับดาบอกว่ามะปรางกลับมาง้อขอคืนดีถึงออฟฟิศเลยหรือ”

ฐานัทยื่นหน้าเข้าไปถามแซวๆ ตุลเขินทำเป็นบ่นเพื่อนทั้งสองว่า อโนมา ดารินทร์รู้ โลกรู้ กระจายข่าวเร็วยิ่งกว่าแชร์ลงโซเชียลอีก ฐานัทฟังแล้วหัวเราะขำ

ทันใดนั้นมีรถคันหนึ่งพุ่งเข้ามาชนโต๊ะว่างที่ตั้งอยู่ข้างๆฐานัทกับตุล ชายหนุ่มดึงตุลหลบได้หวุดหวิด ผู้คนแตกตื่นพากันมามุงดู ฐานัทกับตุลสวมวิญญาณเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยแหวกคนเข้าไปดูรถที่คนขับยังไม่เปิดประตูลงมา

ขณะตุลร้องขอชะแลงจะมางัดประตูรถ เกรงคนขับจะสลบอยู่ข้างในนั้นประตูรถก็เปิดออก แมตต์เดินมึนๆลงมา

“คุณแมตต์!!” ตุลตะลึง

แมตต์รับว่าเมื่อกี๊ตนวูบไป ขอโทษเฮียเจ้าของร้านโจ๊กและลูกค้า รับจะชดใช้ค่าเสียหายให้ทั้งหมด

ฐานัทถามตุลว่ารู้จักเขาหรือ ตุลบอกว่าเจ้านายตนเอง บ่นว่าขับรถเสยฟุตปาทแบบนี้แสดงว่าหลับในชัวร์ สงสัยเมื่อคืนไม่ได้นอนจริงๆ ตุลเป็นห่วงว่าแล้วจะขับกลับเชียงใหม่ได้หรือ อาจเกิดวูบชนดะไปตลอดทาง ถามฐานัทว่าเขากลับคนเดียวได้ไหม ชายหนุ่มพยักหน้า งงๆว่าเธอถามทำไม?

ตุลเป็นห่วงแมตต์จึงไปขับรถให้เขาที่ยังสะลึมสะลือทั้งเมาทั้งง่วง เขาถามว่ารู้ได้ไงว่าตนไม่ได้นอนทั้งคืน ตุลบอกให้หยุดสงสัย หยุดถามแล้วนอนเสีย เดี๋ยวเที่ยงจะปลุกไปกินข้าว

ฝ่ายโรสกับพิมมี่ที่เตรียมเดินทางกลับพร้อมคณะ โรสเห็นท่าทีพิมมี่กับฌอนแปลกไปก็ถาม พิมมี่อึกอักบอกว่าแค่เข้าใจผิดกันนิดหน่อย โรสมองหน้าสงสัย ทักว่า มาสคาร่าเลอะ หยิบกระดาษทิชชู่จากกระเป๋าสะพายแล้ววางกระเป๋าไว้บนกระเป๋าใบใหญ่ หันไปเช็ดให้

พนักงานขนกระเป๋ามาถามว่าขนกระเป๋าขึ้นรถเลยใช่ไหม โรสบอกว่าขนไปหมดนั่นแหละ

แบรดมานั่งรถบอกโรสให้ดูแมตต์ให้ขับรถดีๆด้วยเขาไม่ชำนาญทาง

“ค่ะคุณลุง บ๊ายบายนะคะทุกคน แล้วเจอกันที่สนามบินค่ะ”

โรสโบกมือร่าเริงดีใจที่จะได้ไปกับแมตต์สองต่อสอง รีบขึ้นไปหาแมตต์ที่ห้อง เจอแต่แม่บ้านที่กำลังเปลี่ยนผ้าปูที่นอน บอกว่าคุณผู้ชายเช็กเอาต์ไปตั้งนานแล้ว!

โรสยืนมึนว่าแล้วตัวเองจะกลับยังไง พิมมี่ก็คงไปไกลแล้ว นึกได้จะโทรศัพท์ถาม จึงรู้ว่ากระเป๋าถือติดรถตู้ไปด้วย โรสว้าวุ่นใจว่าจะกลับยังไง มือถือ เครดิตการ์ด ติดรถตู้ไปหมดแล้ว!

ฐานัทกำลังจะขับรถกลับ เขาได้รับโทรศัพท์จาก “หอยเม่น” ก็แปลกใจ รับสายแล้วจึงรู้ว่าโรสตกรถ จำเบอร์โทรศัพท์ใครก็ไม่ได้ โชคดีที่แม่บ้านยังไม่ทิ้งกระดาษที่จดเบอร์เขาไว้

โรสบอกให้แวะส่งตนที่สุวรรณภูมิ พอดูนาฬิกาเห็นจะเที่ยงแล้วก็กรี๊ดที่เครื่องจะออกบ่ายโมงครึ่ง ไปไม่ทันแน่ บอกเขาว่าต้องซื้อตั๋วใหม่ให้ตนก่อน ถึงเชียงใหม่แล้วจะจ่ายคืนสามเท่า ฐานัทเล่นตัวขอเป็นสิบเท่า ต่อรองกันลงตัวที่ห้าเท่า โรสเร่งให้เขาเหยียบเต็มที่ ฐานัทเหล่มองแอบยิ้มที่ยั่วเธอได้

ooooooo

อ่านละคร รักกันพัลวัน ตอนที่ 6 วันที่ 3 พ.ย.60

ละครเรื่อง รักกันพัลวัน บทประพันธ์โดย เชอริณ
ละครเรื่อง รักกันพัลวัน บทโทรทัศน์โดย ปารดา
ละครเรื่อง รักกันพัลวัน กำกับการแสดงโดย ป้าแจ๋ว ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ละครเรื่อง รักกันพัลวัน ผลิตโดย บริษัท ฟีล กู๊ด เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง รักกันพัลวัน วัน-เวลาออกอากาศ: ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.15 น.
ติดตามชมละครเรื่อง รักกันพัลวัน ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ