อ่านละครเรื่อง สายธารหัวใจ ตอนที่ 7 วันที่ 8 พ.ย.60
ประคองเดินมาได้ยินปฐวีกำลังเยาะหยันละมุล หาว่าเป็นพวกโลกสวยคิดว่าชาตินี้จะได้ความรักจากณรังค์ ด้านณรังค์ทนไม่ไหวตัดบทไล่ปฐวีที่มีอาการมึนเมาให้กลับไปหรือไม่ก็ไปนอน หญิงสาวโวยว่าเขาไม่อยากเห็นหน้าตนหรือ ถึงไม่อยากให้กลับมาที่วังนี้“ผมไม่มีสิทธิ์ทำอย่างนั้น”
“ก็ดี...งั้นก็ไม่ต้องมายุ่ง ฉันจะกลับมาทำอะไร ตอนไหน ยังไงก็เรื่องของฉัน”
“คุณหญิงนั่นแหละที่ไม่ต้องมายุ่ง เมื่อไหร่จะเลิกยุ่งกับพวกเราซะที” ละมุลกล้าเถียงขึ้น
“เมื่อไหร่น่ะเหรอ...จนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่งนั่นแหละ! หรือไม่ก็ไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ” พูดจบปฐวีเดินตึงตังออกไป
ละมุลทรุดลงร้องไห้โฮรำพันไม่อยากอยู่ที่นี่อีก ณรังค์ปลอบใจ ประคองแอบมองด้วยความแค้นใจและสงสารลูก...เดินตามปฐวีไปที่ตึกใหญ่ ต่อว่าเธอ
“เมื่อกี้ ดิฉันเห็นคุณหญิงคุยกับตาณะและละมุล มาแสดงความยินดีเหรอคะ”
“เรียกที่ฉันด่ามันว่ายินดีเหรอ...ประสาท”
“ทำไมไม่ยินดีล่ะคะ ในเมื่อทุกอย่างมันก็เป็นไปตามที่คุณหญิงต้องการแล้ว แต่กลับโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ใครกันแน่คะที่ประสาท” ปฐวีปรี๊ด ประคองถากถางต่อ “อ้อ หรือว่าที่คุณหญิงโกรธ เพราะสองคนนั่นรักกันจริง ไม่ได้ฝืนใจแต่งงานกัน”
“ฉันไม่เชื่อว่าพวกมันจะมีความสุขจริง ตอแหล!”
“อืม...ไม่เชื่อก็ต้องมาดูให้เห็นกับตาค่ะ ดิฉันกับลูกจะไม่ย้ายออกไปไหน รอให้คุณหญิงมาเห็นว่าเรามีความสุขกันมาก” ประคองยิ้มเยือกเย็นก่อนจะเดินไปปล่อยปฐวียืนแค้นอกจะแตก
กลับมาที่เรือนเล็ก เห็นละมุลยังน้ำตาซึมก็เข้ามาเอ็ด ว่าน้ำตามีไว้สำหรับคนพ่ายแพ้ จะไม่มีใครย้ายออกไปไหนทั้งนั้น จนกว่าไม่ใครก็ใครตายกันไปข้างหนึ่ง ต่อไปห้ามให้เห็นน้ำตาอีก ถ้าไม่เชื่อก็ลองดู ละมุลกับณรังค์หน้าเสีย ตกใจกับอารมณ์ของผู้เป็นแม่
ขณะปฐวีนั่งเครียดอยู่ในห้องโถง แม้นเทพแต่งตัวกำลังจะออกข้างนอกพอเห็นลูกสาวก็ชะงักถามกลับมาทำไม หญิงสาวหน้าตึงเสียใจที่ไม่มีใครต้อนรับ ย้อนกลับทันที
“ตอนแรกจะแวะมาเอารองเท้าเพคะ แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว” ว่าแล้วก็กดโทรศัพท์ไปสั่งปลายสายว่า “ฉันจะกลับมาอยู่ที่วัง ให้คนเก็บของมาให้ด้วย”
แม้นเทพเอือมระอาถามจะทำอะไรอีก เธอพูดขำๆว่า จะกลับมาทำหน้าที่ว่าที่เจ้าสาว ต้องจัดงานแต่งที่นี่ก็ต้องคอยคุมช่างให้ปรับปรุงวังแทนเกียรติศักดิ์ ท่านชายรู้ทันสวน
“อ้าปากฉันก็เห็นลิ้นไก่ อย่าหวังว่าจะสร้างเรื่องอะไรได้อีก”
“ไม่ต้องทรงห่วงหรอกเพคะ ว่าหญิงจะทำอะไร หญิงจะอยู่ของหญิงเฉยๆ” ปฐวีเดินขึ้นห้องไม่สนใจ แต่คำพูดของเธอทำเอาท่านชายเครียด ถึงกับเซหน้ามืด ลงนั่งสักพัก
ท่านชายไม่เอะใจกับอาการของตัวเอง คิดว่าเป็นเพราะความเครียด ด้านประคองตั้งหน้าต้มยาสมุนไพรเพิ่ม ณรังค์ตามเข้ามาจะคุย แต่เธอขัดพูดขึ้นก่อน
“แม่ปกป้องละมุลมากจนเกินไป จนกลายเป็นคนอ่อนแอ ต่อไปนี้คงต้องใช้ไม้แข็งกันบ้าง ถ้าณะสงสารน้อง ก็เป็นไม้นวมให้กับน้องแทนแม่แล้วกัน แม่ก็คน ความอดทนแม่มีขีดจำกัด ถึงเวลาที่แม่จะสู้ สู้เพื่อสิทธิ์ของแม่และละมุล หวังว่าณะจะเข้าใจแม่”
ณรังค์พูดไม่ออก สัมผัสได้ถึงความผิดปกติของผู้เป็นแม่...ณรังค์กลับเข้าห้องนอน แต่ก็นอนไม่หลับ มองชื่อสิริกันยาบนจอก็สุขใจ
ด้านสิริกันยาลุกขึ้นมาช่วยย่าทำขนม แต่หน้าตาเศร้าซึม ศรีนวลเห็นแล้วรู้สึกสงสาร...
บ่ายวันนั้น ศรีนวลมาเรียกสิริกันยาที่ห้องบอกว่าเจ้านายมาเยี่ยม เธอดีใจคิดว่าเป็นณรังค์ แต่พอลงมาเจอกลายเป็นอ๋องนำกระเช้ามาเยี่ยม ก็พยายามรักษามารยาทพูดคุยด้วยแม้จะอึดอัดใจ ศรีนวลสังเกตท่าทีแน่ใจว่า นี่เป็นอีกคนที่มาติดพันหลานสาว เห็นหลานสาวไม่ค่อยสนใจจึงเข้ามาเติมน้ำแล้วชวนทานข้าวกลางวันด้วยกัน สิริกันยาสะดุ้ง รีบทำทีป่วยไข้ขึ้นให้ย่าช่วยพาไปนอน อ๋องจึงลากลับอย่างเสียดายโอกาส ศรีนวลอดพูดกระทบไม่ได้
“ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์มาเยี่ยม ไม่เคยเจอเจ้านายใจดีอย่างนี้มาก่อนเลย เจอแต่ไอ้พวกใจร้ายใจมาร...”
สิริกันยาปรามย่าแล้วขอโทษอ๋องที่ไม่สามารถนั่งคุยด้วยนานๆ อ๋องขอโทษกลับที่มารบกวนเวลาพักผ่อน... พออ๋องกลับไป ศรีนวลก็ถามทำไมถึงเสียมารยาทไล่แขกกลับ สิริกันยาไม่ตอบเดินหนีเข้าห้องนอน ศรีนวลตามมาคาดคั้นคำตอบ เธอจึงบอกย่าว่า อ๋องเป็นได้แค่เจ้านายเท่านั้น ย่าแนะให้ทำให้คนที่ทำเราเจ็บ เห็นว่าเรามีดีให้เขาเสียดาย
“หนูมีดีด้วยตัวของหนูเอง โดยไม่ต้องอาศัยผู้ชายมาทำให้มันมีไม่ได้เหรอ”
ศรีนวลหาว่าไม่เข้าใจ สิริกันยาบอกว่าตนเข้าใจว่าย่าเจ็บแทน อยากเห็นตนมีความสุข แต่ตนยังไม่พร้อม ผู้เป็นย่าถอนใจเตือน
“อย่าปิดโอกาสตัวเองเลยนะ เจ้านายแกคนนี้ท่าทางเป็นคนดีมีน้ำใจ ข้ารู้สึกได้ เผลอๆดีกว่าไอ้บ้านั่นอีก เอ็งรีบๆลืมมันไปเลยนะ อย่าไปเสียเวลากับมัน ยิ่งลืมเร็วได้เท่าไหร่ เอ็งก็ยิ่งมีความสุขเร็วขึ้นเท่านั้น”
สิริกันยาล้มตัวนอนพยายามทำอย่างที่ย่าบอก แต่มันช่างลืมยากเย็น
ooooooo
เช้าวันใหม่ สีดา ชื่น และบรรจงสุมหัวนินทาเรื่องที่ปฐวีกลับมาอยู่วัง คงเพราะหวงก้าง ประคองเข้ามาเอ็ดมัวแต่นินทาเจ้านายจนตั้งสำรับช้า คาดโทษถ้าเป็นแบบนี้อีกจะไล่ออก ชื่นรีบเอาใจจะยกสำรับไปให้ ประคองดึงไว้ไล่ให้ไปจัดโต๊ะ แล้วมองสำรับด้วยแววตาน่ากลัว
ปฐวีปัดจานข้าวบนโต๊ะบอกสั่งอาหารโรงแรมมาเอง ไม่ต้องสะเออะเอาอาหารที่ประคองทำมาให้กิน ประคองมองอย่างไม่พอใจ แม้นเทพว่าดัดจริตกลับมาอยู่บ้านก็ควรกินข้าวบ้าน
“หญิงไม่ใช่คนเกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกงเหมือนใครบางคน”
แม้นเทพถามว่าใคร เธอสวนว่าใครเป็นก็รับไป ท่านชายโกรธจะเอาเรื่องแต่เกิดอาการไออย่างหนักจนเหนื่อย ประคองรีบเข้าดูแล แม้นเทพไล่ปฐวีไปให้พ้นหน้า
“อะไรกัน ทรงทำเหมือนตัวเองใกล้จะตายแล้วงั้นแหละ ไม่สมกับที่ทรงเป็นหม่อมเจ้าแม้นเทพผู้ไม่เคยแก่ ไม่เคยเจ็บ และไม่ยอมตาย”
“หญิงวี! ฉันบอกให้ไปให้พ้น” แม้นเทพกราดเกรี้ยวแล้วไอโครกๆ
“อย่ากริ้วนักเลยเพคะ เดี๋ยวพระทัยวายขึ้นมาอยู่ไม่ถึงส่งตัวหญิงเข้าหอ หญิงคงเสียใจพิลึก” ใจจริงนึกเป็นห่วงแต่อดปากเสียไม่ได้ แม้นเทพโมโหแต่พยายามเย็นลงเหน็บกลับ
“อย่าห่วงไปเลย ฉันจะไม่เป็นอะไรอย่างที่แกหรือใครอยากให้เป็นง่ายๆ ฉันจะอยู่ดูแกมีความสุขในวันแต่งงานกับไอ้เกียรติศักดิ์ ดูไอ้ณะมันแต่งงานกับนังละมุล ดูจนกว่าฉันจะแน่ใจ ว่าไม่มีใครทำเรื่องระยำ ดูหมิ่นจงสวัสดิ์ของฉันได้อีก...ออกไป!”
ปฐวีเถียงไม่ออก สะบัดหน้าออกไป แม้นเทพเรียกประคองให้มาช่วยพยุงรู้สึกตัวเองเหมือนเป็นไข้ ประคองแอบยิ้มบอกให้เสวยสักนิดแล้วค่อยเสวยโอสถ
ประคองยกสำรับกลับมาที่ครัว สีดาเห็นอาหารเหลือเพียบจึงขอไปทานเอง แต่ประคองกลับปัดสำรับหกกระจาย ณรังค์เข้ามาพอดีตกใจว่าแม่เป็นอะไร สีดาเองก็ตกใจ ประคองทรุดลงร้องไห้รำพันกลบเกลื่อน
“ขอโทษ...แต่มันไม่ไหวแล้วจริงๆ”
ทั้งสองเปลี่ยนเป็นเห็นใจ สีดาเก็บสำรับที่หกเกลื่อนอย่างเสียดาย ณรังค์เอาน้ำมาให้ประคองกินคลายความเครียดแล้วบอกว่าตนรู้เรื่องอาหารที่ปฐวีไม่ยอมกินแล้ว ปลอบไม่ต้องเครียดแล้วชวนไปเที่ยวพักผ่อนต่างจังหวัดบ้าง แต่เธอกลับบอกว่าไปไหนไม่ได้ท่านชายกำลังประชวร ณรังค์เป็นห่วงจะพาไปหาหมอ
“แค่เป็นไข้เพราะพักผ่อนน้อย ท่านไม่ยอมไปหาหมอ แม่ถามแล้ว นี่ก็บรรทมอยู่ แม่ให้ละมุลไปเฝ้า แม่มีงานต้องไปทำต่อแล้วล่ะ ขอบใจนะลูกที่เป็นห่วง ดูสิถึงกับจะพาไปเที่ยวเลย แม่แค่เครียดนิดหน่อยเดี๋ยวก็หาย ดูแลท่านชายสำคัญกว่าเรื่องเครียดของแม่นะ”
ณรังค์นึกเป็นห่วงละมุลเพราะปฐวีอยู่ที่นี่ จึงรีบเดินไปที่ตึกใหญ่...ขณะนั้นละมุลเดินมาถึงทางขึ้นบันได เห็นปฐวียืนอยู่กลางบันไดถามมาทำไม ละมุลตอบว่าแม่ให้มาเฝ้าท่านชาย
“เสนอหน้าคิดจะทำคะแนนเรียกความเมตตาหรือไง”
“มาทำหน้าที่ลูกค่ะ ไม่ได้คิดจะเอาอะไร”
ปฐวีตากร้าวบอกให้ขึ้นมา ละมุลรวบรวมความกล้าก้าวขึ้นไปอย่างช้าๆ พอมาถึงขั้นเดียวกับปฐวีก็ตั้งหลักระวังตัวเต็มที่ ปฐวีจับไหล่ละมุลเยาะ
“กลัวฉันผลักเธอตกบันไดเหรอ...ไม่ต้องกลัวไม่ทำหรอก เพราะเธอรู้ตัวแล้วนี่ ดูสิ ระวังตัวน่าดู ถ้าเธอจะตกบันไดก็ต้องเป็นเพราะเธอเดินไม่ระวัง บังเอิญตกลงไปเองต่างหาก ไม่ใช่เพราะฉันผลักเธอ...อุ๊ยขอโทษ!” ปฐวีแกล้งกระแทก ละมุลจับราวไว้ทัน “แหม ดวงแข็งเนอะ”
แต่พอละมุลเห็นณรังค์เดินมาก็แกล้งปล่อยมือตัวเองให้ตกบันไดลงมาเพราะเห็นว่าสูงไม่กี่ขั้น ปฐวีตกใจไม่คิดว่าละมุลจะทำแบบนี้ ณรังค์เข้ามาเห็นละมุลตกบันไดลงมาก็ปรี่เข้าหา เธอร้องไห้กอดเขาตัวสั่นให้ช่วยด้วย ชายหนุ่มเงยมองปฐวีและต่อว่ารุนแรง คุณหญิงโวย
“มันตั้งใจทำตัวเองตกลงไปเอง หญิงไม่ได้ทำ!”
“ใครจะบ้าทำร้ายตัวเอง คุณหญิงตั้งใจผลักละมุล” ละมุลยืนกราน
ปฐวีโกรธปราดลงมาจะตบที่ปรักปรำ ณรังค์ลุกขึ้นกันเธอไว้เสียงเข้มใส่ ให้หยุดบ้า คุณหญิงร้องลั่นว่าละมุลโกหก เชื่อมันหรือ เขารับว่าเชื่อ เพราะใครๆก็รู้ว่าคุณหญิงเป็นคนยังไง ละมุลแอบยิ้ม ปฐวีเห็นยิ่งโกรธถลาเข้าใส่แต่ณรังค์กันไว้อีก ละมุลทำทีสะอื้นโอดครวญ
“คุณหญิงเข้าใจผิดใหญ่แล้ว ละมุลไม่ได้ยิ้ม จะเอาอะไรกับละมุลอีก ที่ผ่านมายังไม่สะใจคุณหญิงอีกหรือไง นี่จะเอากันให้ถึงตายเลยหรือไง”
ปฐวีตวาดลั่น “นังตอแหล!” ณรังค์ปรามให้หยุด “ฉันไม่หยุด!”
“ถ้าอย่างนั้นผมจะแจ้งความ ข้อหาทำร้ายร่างกาย จะลองดูไหม”
ปฐวีชะงัก ณรังค์ขู่อีกถ้ากล้าแตะละมุลอีกเพียงครั้งเดียว ตนทำแน่ พูดจบหันไปประคองละมุลพาออกไป คุณหญิงแค้นจัดทำอะไรไม่ได้นอกจากร้องกรี๊ดลั่นวัง
ละมุลใช้เหตุนี้เป็นข้ออ้างกับประคองอยากออกไปอยู่ที่อื่น ประคองแค้นใจแทนแต่ก็ปลอบให้ลูกอดทน และชื่นชมที่ณรังค์ขู่ปฐวีไปว่าจะใช้กฎหมายจัดการเธอถ้าเธอไม่หยุดรังแกละมุล แต่ถึงอย่างไรประคองก็ยังให้ละมุลไปเฝ้าแม้นเทพ ณรังค์จึงเดินไปส่ง
ระหว่างที่ละมุลนั่งเงียบ แม้นเทพพึมพำขอน้ำดื่ม เธอจึงหยิบแก้วน้ำแล้วประคองให้ดื่ม เธอสัมผัสถึงความอบอุ่นอย่างประหลาดที่ได้ใกล้ชิดพ่อ แม้นเทพนอนหลับต่อโดยไม่รู้ว่าละมุลเป็นคนดูแล เธอพึมพำเรียกท่านพ่อเบาๆ ทันใดนั้น แม้นเทพลืมตาขึ้นมา ตวาดลั่น
“ใครใช้ให้แกอยู่ตรงนี้ ที่นี่ไม่ใช่ที่ของแก ออกไป!”
ละมุลเห็นสายตาที่เกลียดชังของท่านชาย เจ็บปวดวิ่งน้ำตาซึมออกไป กลับมาที่เรือนเล็ก ณรังค์เห็นตกใจว่าเธอเป็นอะไร ละมุลกลั้นสะอื้นบอกคำพูดที่ทิ่มแทงใจที่ออกจากปากท่านชายให้ฟัง ประคองแอบฟังอยู่ กำมือแน่นเจ็บปวดแทนลูกสุดๆ
ประคองกลับมาที่ครัว รินน้ำสมุนไพรจากกาใส่ถ้วย ทิ้งกากใส่ถุงขยะดำ สีดาเดินมาจะเก็บไปทิ้งให้ ประคองห้ามเสียงเข้มจะเอาไปทิ้งเอง อ้างต้องมีวิธีทิ้ง สีดาสงสัยถามทำไมหลังๆมานี่เคี่ยวยานานมาก ประคองปัดไม่มีอะไรแล้วกำชับห้ามใครแอบกินยานี้เพราะมันแรงกว่าเดิมแถมขู่อาจจะตายคาครัว สีดาหน้าเสีย ประคองกลบเกลื่อน
“คนดีๆกินเข้าไป มันไม่ได้บำรุงหรอกนะ แต่มันจะกลายเป็นยาพิษแทน”
สีดาตกใจบอกจะเตือนทุกคนทันที...ประคองยกถาดถ้วยยามาให้แม้นเทพ เขาโวยวายหายไปไหนถึงให้ละมุลเสนอหน้ามาแทน ประคองบอกเคี่ยวยาอยู่ ท่านชายปัดถ้วยยากระฉอก
“ไม่กิน! ยาอะไรของแก กินแล้วทำไมฉันถึงไม่สบาย” ประคองนิ่วหน้าแต่หาข้ออ้าง
“ฝ่าบาททรงพักผ่อนน้อยมาก อีกอย่างเพราะทรงเครียดเรื่องคุณหญิง ยาดีแค่ไหนก็เอาไม่อยู่หรอกเพคะ...” ประคองขอให้พักผ่อนเยอะๆ อย่าออกไปไหนระหว่างนี้ ท่านชายอึ้ง เธอจึงป้อนยาให้ดื่มจนหมดถ้วย
ooooooo
มือถือสิริกันยาดังขึ้น เธอมองหน้าจอขึ้นชื่อณรังค์ ใจเต้นตูมตามผุดลุกจากเตียงตั้งสติกดรับสาย ปรากฏว่าเป็นวิเชียรที่โทร.มา เขาบอกว่าณรังค์ให้โทร.ถามอาการ และตอนนี้ณรังค์กำลังคุยงานกับสวัสดิ์ ตนทำหน้าที่จดบันทึกแทนจึงอยากรายงานให้เธอทราบ
ณรังค์คุยงานกับสวัสดิ์ แต่เงี่ยหูฟังวิเชียรคุยโทรศัพท์ตลอด คอยแย็บถามอาการและให้บอกให้เธอพักผ่อนจนกว่าจะหาย ไม่ต้องรีบกลับมาทำงาน สวัสดิ์รู้สึกได้ว่าเขาเป็นห่วงเธอมาก วิเชียรวางสายแล้วบอกว่า เพราะสิริกันยาเป็นคนขยันทำงาน ใครๆก็ชื่นชม นิสัยน่ารัก จริงใจ ณรังค์ตัดบทชวนสวัสดิ์เดินดูสถานที่ที่จะติดรูป ว่าตรงไหนควรเป็นภาพแบบไหน สวัสดิ์แนะ
“ไม่ใช่แค่สถานที่ที่สวยงาม ที่ทำให้นักเดินทางหรือนักท่องเที่ยวประทับใจ เรื่องวิถีชีวิตของคนในพื้นที่นั้นๆ ก็ทำให้พวกเขาประทับใจได้เหมือนกันนะครับ”
“คุณคงชอบเดินทาง”
“ครับ มันคือลมหายใจของผม ถ้ามีเวลาว่างผมก็จะเดินทาง ถ้าช่วงไหนไม่ได้ไป เหมือนขาดอากาศหายใจ”
วิเชียรมองสองคนคุยกันแล้วเปรยว่า “สงสัยช่วงนี้คงไม่ได้ไปไหนล่ะสิครับ มิน่าดูหน้าเซียวๆ คุณณรังค์ก็เหมือนกันนะครับ เหมือนกำลังขาดอากาศหายใจทั้งคู่”
ณรังค์กับสวัสดิ์สบตากันขำๆ รู้แก่ใจว่าตัวเองขาดอากาศหายใจ เพราะหัวใจขาดรักทั้งคู่ หน้าห้องทำงาน ละมุลนั่งรออยู่ ณรังค์เดินกลับมากับสวัสดิ์ก็แปลกใจ เธอบอกว่าวันนี้หยุด แม่ให้ออกมาเที่ยวแต่ตนไม่รู้จะไปไหน จึงแวะมาชวนทานข้าว ณรังค์สังเกตเห็นความบาดหมางของละมุลกับสวัสดิ์ จึงถามขึ้นว่าทั้งสองทะเลาะกันใช่ไหม ตนเห็นรอยแผลที่หน้าสวัสดิ์
ละมุลหน้าเสียรีบออกตัว “ละมุลไม่ได้ไม่ชอบหน้าครูสวัสดิ์ แต่ละมุลไม่ชอบสิ่งที่เขาพูด ละมุลเลยโกรธแล้วก็เผลอปากุญแจรถโดนหน้าครู แต่ละมุลไม่ได้ตั้งใจ กำลังจะขอโทษ แต่ครูเขาไปซะก่อน เลยไม่ได้พูด”
ณรังค์จึงให้พูดเสียตอนนี้ ละมุลอิดออดสักครู่ก่อนจะกล่าวขอโทษ สวัสดิ์ยิ้มรับ ณรังค์ชวนไปทานข้าวด้วยกัน ละมุลทำหน้าผิดหวัง สวัสดิ์อยากขอตัวแต่ก็เป็นห่วงเธอ...
ตกค่ำประคองนำถุงที่ใส่กากสมุนไพรมาฝังในสวนหลังวัง สีดาชวนชื่นกับบรรจงมาแอบดูทำไมต้องทำลึกลับ ชื่นให้ไปถามตรงๆ สีดาไม่กล้า บรรจงกลัวถูกจับได้ชวนกันสลายตัว
คืนนั้นปฐวีนั่งดื่มอยู่ในผับกับเกียรติศักดิ์ เปรยถึงอาการป่วยของท่านพ่อที่ไม่ยอมหาหมอ เกียรติศักดิ์แดกดันเกรงจะตายก่อนได้ส่งตัวเราเข้าหอ คุณหญิงตาเขียวใส่ที่มาแช่งพ่อตน
“ไม่ได้แช่ง แต่สะท้อนให้คุณหญิงเห็นว่า เราต้องรีบทำสิ่งที่ควรทำ” เกียรติศักดิ์เปิดไฟล์แบบการ์ดแต่งงานให้ดู ลงวันที่อีกไม่นาน
ปฐวีตกใจที่มันรวดเร็ว วังยังซ่อมไม่เสร็จ เขากลับบอกว่าเงินถึง อย่างไรเสียก็เสร็จทัน คุณหญิงเครียดหนัก กระดกเหล้าอีกหลายแก้ว
รุ่งเช้าขณะที่แม้นเทพนั่งอยู่กับณรังค์ ปฐวีบอกเรื่องวันแต่งงาน ท่านโวยที่ตัดสินใจอะไรไม่ปรึกษา หาว่าเธออยากแต่งจนตัวสั่น ปฐวีโกรธตอกกลับ
“ก็คงทำนองนั้นเพคะ ใครก็ตัวสั่นทั้งนั้นถ้าได้แต่งงานกับหญิง ใช่ไหมณะ”
ณรังค์นิ่ง แม้นเทพใส่ “เป็นถึงคุณหญิง แต่เมาหัวราน้ำทั้งวี่ทั้งวัน ทำตัวเหมือนพวก...”
ปฐวีสวนเหมือนพวกอะไร แม้นเทพไม่อยากพูด สั่งณรังค์ให้ตามไปคุยในห้องทำงาน ประคองได้ยินอยากรู้ว่าเรื่องอะไร...พออยู่ในห้องทำงาน แม้นเทพสั่งณรังค์ให้นัดทนายมาเร็วที่สุด เขาแปลกใจท่านจะทำอะไร แม้นเทพยิ้มหยัน
“แร้งอย่างไอ้เกียรติศักดิ์ มันได้จากฉันมากพอแล้ว มันจะไม่ได้อะไรไปอีก ฉันจะป้องกันมันทุกทาง แล้วห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร จนกว่าจะถึงเวลา”
ณรังค์รับคำ รู้สึกเป็นห่วงท่านชายที่ดูทรุดโทรมลงมาก ตัดสินใจขอให้เสด็จไปหาหมอ แต่ท่านไม่ไป กลัวปฐวีจะตีปีกดีใจที่เห็นพ่อตัวเองป่วย ณรังค์อ่อนใจ ประคองเข้ามาพยุงพาขึ้นไปพักผ่อน แล้วกลับมาหาณรังค์ ถามเรื่องที่แม้นเทพเรียกไปคุย ณรังค์ไม่อาจปิดบังแม่ บอกเพียงว่าท่านให้เรียกทนายมาหาแต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร ประคองเอะใจ
ooooooo
วันนี้สิริกันยามาทำงาน เธอไล่เช็กงานที่ผ่านมา พอเห็นณรังค์เดินมาก็ชะงักใจเต้นโครมคราม มือไม้ทำอะไรไม่ถูก ณรังค์ก็ไม่ต่างกัน พอเห็นเธอก็ชะงักเดินกลับไป ยุพินเห็นถามเจ้านายเป็นอะไรคิดว่าจะเป็นลม ณรังค์ตั้งสติอ้างว่าอากาศมันร้อน แล้วเดินไปใหม่
อ่านละครเรื่อง สายธารหัวใจ ตอนที่ 7 วันที่ 8 พ.ย.60
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ บทประพันธ์โดย วาสนาละครเรื่อง สายธารหัวใจ บทโทรทัศน์โดย คนเขียนเงา
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ กำกับการแสดงโดย ชนะ คราประยูร
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ควบคุมการผลิตโดย ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิเวช
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางช่อง 33 HD
ที่มา ไทยรัฐ