อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 1 วันที่ 26 พ.ย.60

อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 1 วันที่ 26 พ.ย.60

หน้าบ้านที่มีการถ่ายทำละคร...แพงอาภรณ์ ดาราสาวดาวรุ่งวิ่งมาตามทางเดินด้วยสีหน้าร้อนรน มาถึงมุมร้างผู้คนแถวลานจอดรถ เธอชนกับใครคนหนึ่งอย่างจังล้มลง แล้วต้องตกใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายมีใบหน้าคล้ายตนราวกับส่องกระจก ยกเว้นทรงผมที่ไปคนละทาง...

ก่อนหน้านั้น...แพงอาภรณ์หรือแพงอยู่กับแม่รื่นจิต ความสัมพันธ์ของทั้งสองไม่ค่อยดีนัก หลังจากพ่อแก้วขวัญจากไปเมื่อเธออายุได้ 12 ปี แม่เอาแต่ทำงานหนักเพื่อยกระดับฐานะครอบครัว เพราะแม่เชื่อว่าหากมีเงินก็คงยื้อชีวิตพ่อแก้วขวัญได้นานกว่านั้น

แพงนั่งดูละครที่ตัวเองแสดง อยากได้คำติชมจากแม่ แต่รื่นจิตไม่สนใจ แพงอดบ่นไม่ได้



“ตั้งแต่แม่ได้ขึ้นเป็นพาร์ตเนอร์นี่ งานยุ่งกว่าเดิมอีกนะ ใช้งานกันยันบ่ายวันอาทิตย์เลย”

“แพงก็รู้แม่ไม่ชอบดูพวกละครเพ้อฝันอะไรพวกนี้”

แพงหน้าเสียแต่ยังอยากเอาใจแม่ ตักข้าวใส่จานรอทานพร้อมกัน รื่นจิตกลับรีบร้อนออกไปทำงาน แพงผิดหวังบอกสาวใช้เก็บโต๊ะ จะออกไปทำงานเหมือนกัน ใจขอถามด้วยความอยากรู้ว่าวรัชช์พระเอกที่แสดงคู่กับแพง ตัวจริงหล่อแค่ไหน

“ก็หล่อมั้ง แต่ดูเจ้าชู้ไปหน่อย แพงชอบแบบอบอุ่นมากกว่าจ้ะ” แพงยิ้มคิดถึงใครบางคน

เจ๊ทวิตตี้หรือสาวิตรีผู้จัดการส่วนตัวของแพงโทร.เข้ามา “แพง เจ๊ใกล้ถึงบ้านแพงแล้ว อีกประมาณสิบนาทีออกมารอเจ๊เลยนะ”

“โอเคค่ะ...แต่แพงบอกแล้วนะว่าแพงทำกับข้าวไม่ค่อยเป็น รายการเขาโอเคจริงๆนะเจ๊”

“ไม่ต้องกังวล ไปยืนยิ้มสวยๆออกทีวีก็พอย่ะเจอกันนะลูกสาว”

แพงหยิบกระเป๋าใบใหญ่ก่อนจะหันมาบอกใจ ล็อกบ้านได้เลยตนกลับดึก แล้ววิ่งออกมาหน้าบ้าน อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองคฤหาสน์ที่อยู่ติดกันด้วยคิดถึงใครบางคน เธอยกมือถือขึ้นมากดดูวันที่มีโน้ตไว้ว่า...พระลอง

ooooooo

คฤหาสน์หลังงามที่อยู่ติดกันนี้มีตุ๊กตาสลักรูปไก่ฟ้าตั้งตระหง่านที่สวนหน้าบ้าน เป็นของคุณหญิงชลลดา ประธานบริษัทยาสตรีไก่ฟ้าพญาลอ เป็นแม่ของกันลอง ชายหนุ่มที่แพงคิดถึง

ภายในห้องนั่งเล่นชลลดาละสายตาจากนิตยสารที่แพงถ่ายขึ้นปกกับวรัชช์ แล้วเปรยว่า

“เด็กคนนี้นับวันยิ่งสวย ดีนะไม่เหมือนคนแม่ นับวันยิ่งหย่อนยานเพราะเอาแต่ทำตาถลน ถ้าตาลองมัวช้าอยู่คงจะมีคนตัดหน้าไปแน่ๆ”

“คุณพะลองของบ่าวจะผัดหน้าไปทำไมเจ้าคะ ไม่ใช่กะเทยเสียหน่อย แค่นี้ก็รูปงามเหมือนพะลอจะแย่อยู่แล้ว” โรยบุญสาวใช้เก่าแก่ทำตัวราวกับเกิดมาในยุครัชกาลที่ 7 ชอบใช้คำพูดโบราณ กิริยาท่าทางเลียนแบบชาววัง แต่ที่แย่คือ...หูตึง

ชลลดาทำหน้าเซ็ง เปิดดูหนังสือต่อเจอหน้าโฆษณายาสตรีไก่ฟ้าพญาลอ ซึ่งตัวเธอเป็นพรีเซ็นเตอร์ มีสโลแกนว่า ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะไก่ และมีลายเซ็นใต้สโลแกนก็ชื่นชม

“เอเจนซี่นี้เขาทำแอดดีนะ เดี๋ยวต้องโชว์ตาลองสักหน่อย อืม...เครื่องบินลงแต่เช้าแล้ว ทำไมป่านนี้ยังไม่ถึงบ้านอีก บอกว่าจะไปรับก็ไม่ยอม”

“คุณพะลองของบ่าวคงอยากขับเครื่องบินกลับมาหาคุณหญิงที่บ้านใจจะขาดนะเจ้าคะ”

“ไม่รู้จะไปเรียนขับเครื่องบินทำไม พูดไปก็ไม่เชื่อ ดื้อเหมือนพ่อมันไม่มีผิด ลูกคนนี้มันเลี้ยงเปลืองข้าวสุกจริงๆ”

“เดี๋ยวโรยไปดูให้นะเจ้าคะว่าข้าวสุกรึยัง” โรยบุญรีบเดินเข้าครัว ปากก็ร้องสั่งนังไหม นังหม่อนให้ดูข้าวในหม้อเพื่อเตรียมจัดสำรับขันโตกให้ทันพระลอปิ๊กวัง

ชลลดาส่ายหน้าระอาใจกับความหูตึงของสาวใช้เก่าแก่ นั่งดูนิตยสารต่อไป ประกอบกับเสียงร่ายกลอนวรรณคดีลิลิตพระลอของโรยบุญแว่วมา

ในขณะที่กันลองนั่งอยู่ในรถลีมูซีน ในมือถือโมเดลเครื่องบินเล็ก สายตามองออกไปเห็นโปสเตอร์โฆษณาละครที่แพงเป็นนางเอก ก็รำพึงออกมา “ยังรอกันอยู่ไหมนะ...พะแพง”

เมื่อมาถึงบ้าน ชลลดาจะโผกอดลูกชายด้วยความคิดถึง แต่โรยบุญแทรกเข้ามากอดก่อน แถมหอมแก้มซ้ายทีขวาที กันลองบอกป้าโรยว่าพะลองกลับมาหาป้ากับพะแพงแล้ว ชลลดาค้อนปะหลับปะเหลือก กันลองหันมากอดเอาใจ เธอจึงบอกว่าพรุ่งนี้ให้เข้าบริษัท เสียเวลาไปมากกับการเรียนสองปริญญาที่เปล่าประโยชน์ ชายหนุ่มตัดพ้อ

“แม่ก็รู้ดีนี่ครับว่าผมไม่เคยปล่อยการเรียนเสีย ที่จบโทบริหารเกียรตินิยมอันดับหนึ่งมานี่ ยังไม่พอใจอีกเหรอครับ”

“แม่จะพอใจกว่านี้มาก ถ้าลูกเข้าใจสักทีว่าทำไมแม่ถึงต้องเคี่ยวเข็ญลูกให้ไปทางนี้ และจะพอใจที่สุดถ้าลูกทำยอดขายเพิ่มเกิน 60% ภายในสองปี พิสูจน์ให้แม่เห็นสิว่าลูกทำได้”

กันลองรู้แก่ใจว่าตนเติบโตมาเพราะเงินจากต้นตระกูลที่เป็นหมอยาสตรีจากในวัง จึงขอร้องถ้าตนทำสิ่งที่แม่ต้องการได้ แม่ต้องปล่อยให้ตนทำในสิ่งที่ตนอยากจะทำ

“ความฝันลมๆแล้งๆแบบเดียวกับที่พาพ่อแกไปตายน่ะนะ ทำให้ได้อย่างที่ฉันบอกแล้วค่อยมาคุยกัน” ชลลดาประชด

กันลองมีสีหน้ากดดันแต่ไม่ยอมแพ้
ooooooo

บนถนนในเมืองเพิร์ธ โฮปสาวสวยวัยใสกำลังขับรถออกนอกเมือง โฮปเป็นคนโผงผางเลินเล่อ อ่อนไหวง่าย คิดว่าพ่อแม่รักซาร่าน้องสาวมากกว่า อยากเป็นจุดสนใจของพ่อแม่บ้าง ความใฝ่ฝันอยากทำรายการอาหาร และที่เธอขับรถออกมาเพื่อหาซื้อวัตถุดิบไปปรุงแต่งขนม

บรรยากาศริมทะเลสาบดูร่มรื่นและสวยงาม โฮปจอดรถหยิบมือถือลงมาถ่ายเซลฟี่ตัวเองก่อนจะกดอัดซ้อมถ่ายรายการอาหาร

“สวัสดีค่ะเพื่อนๆ กลับมาพบกับรายการขนมหวานของโฮปกันอีกแล้วนะคะ วันนี้โฮปจะสืบเสาะหาวิธีทำขนมหวานที่แสนอร่อยในราคาสบายกระเป๋าทุกคนค่ะ...” โฮปเดินพูดไปถ่ายไปเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ทันไรมีสายเข้ามาขัดจังหวะ หน้าจอขึ้นชื่อเฟยหลันจึงกดรับ

“เออ...แกอยู่ไหนแล้ว ชักช้าจริง เออๆ งั้นฉันเข้าไปในห้องแกก่อนนะ”

โฮปขับรถไปยังอพาร์ตเมนต์ของเพื่อนสนิท...

หอบข้าวของพะรุงพะรังเข้ามาในห้อง จัดแจงถ่ายการทำขนมเค้กไปพลางก่อน เฟยหลันมาถึงกดปิดการอัด โฮปบ่น

“โทร.มาเร่งไอแท้ๆ แต่ดันมาถึงช้ากว่า ดีนะที่ไอมีกุญแจสำรองอยู่ รายการขนมไอเละหมดเลย เกือบอัดเสร็จแล้วเชียว”

“ซอรี่น่า ให้ยืมครัวแล้วยังจะพูดมากอีก แล้วที่ฉันมาช้านี้ก็เพราะไปเยี่ยมนายแดน เอ็กซ์แกที่เข้าโรงพยาบาลไง เล่นกินเค้กใส่ยาถ่ายที่แกอบให้มันตอนบอกเลิกเข้าไปทั้งก้อนแบบนั้น ไม่ขาดน้ำจนช็อกก็บุญแล้ว โชคดีนะที่ฉันเป็นเพื่อนแก...เห็นเป๋อๆอย่างนี้ เอาคืนทีอย่างแรงเลย”

“ก็สมควรโดน แอบคบยัยนีน่าทั้งๆที่เดตกับไออยู่เนี่ยนะ”

เฟยหลันขยาดเปลี่ยนเรื่อง “แล้วเป็นไง อบเค้กได้เรื่องไหม เตาที่บ้านแกใหญ่กว่าบ้านฉันตั้งเยอะ ดันมาทำที่นี่ทำไมก็ไม่รู้”

“แกก็รู้ ซาร่าชอบพาเพื่อนมาเล่นที่บ้านช่วงวีกเอนด์ ไอทำอะไรได้ที่ไหนล่ะ”

“แหม อยู่คนเดียวทำเป็นเก่งนะ ทีตอนไปออดิชั่นพิธีกรรายการอาหาร ดันแพนิคกำเริบจนทำแป้งหกเรี่ยราด” เฟยหลันขำที่เพื่อนตื่นเต้นเกินเหตุคราวก่อน

โฮปรับรองว่างานพรุ่งนี้ไม่พลาดแน่ ไม่ทันขาดคำเผลอหยิบถาดเค้กที่เพิ่งอบออกจากเตาโดยลืมใส่ถุงมือ เลยร้องเสียงหลง วิ่งไปเปิดน้ำใส่มือลดความแสบร้อน

ขณะเดียวกัน แพงซึ่งอยู่เมืองไทยกำลังอ่านบทอยู่ที่กองถ่าย รู้สึกแสบร้อนที่มือจนสะบัดบททิ้ง เจ๊ทวิตตี้ตกใจคว้ามือเธอมาสำรวจว่ามีมดหรือแมลงอะไรกัด แพงแปลกใจตัวเอง

“แสบจังค่ะ เหมือนโดนลวกเลย เจ๊ช่วยหาบัวหิมะให้แพงหน่อยได้ไหมคะ”

เจ๊ทวิตตี้จะออกไปถามคนในกองแต่แพงรีบบอกว่าตนมีอยู่ในกระเป๋าให้ช่วยหยิบที ผู้จัดการสาวใหญ่เปิดกระเป๋าของแพงแล้วต้องทึ่งกับความเป็นระเบียบเรียบร้อยของเธอ แพงจัดของใส่กล่องวางแยกของใช้กับของกินเป็นสัดส่วน มีกระดาษแปะบอกว่าอะไรเป็นอะไร

“นี่หล่อนจะเตรียมมาติดเกาะเหรอยะ แล้วพกฟอยล์ห่ออาหารมาทำไม”

“ฟอยล์ช่วยกันความร้อนได้นะคะ เผื่อกระเป๋าตากแดดแล้วเครื่องสำอางจะเสีย”

“หือ ฉันประมาทนางไม่ได้จริงๆ เฮ้ย! มีเมล็ดฟักทองของโปรดฉันด้วย” เจ๊หยิบขนมเข้าปาก แล้วเหน็บ “นี่ฉันนึกว่ากระเป๋าโดเรม่อน”

แพงบอกคนเราต้องพร้อมรับทุกสถานการณ์ เจ๊ทวิตตี้ยิ้มอย่างเอ็นดูก่อนจะส่งกระปุกบัวหิมะให้พร้อมวางซองบนกระปุก และยังเป่ากระหม่อมแพง

“แฮปปี้เบิร์ธเดย์ค่ะลูกสาว เงินทองไหลมาเทมา สวยๆๆ เด้งๆๆๆ เพี้ยง”

“ขอบคุณค่ะเจ๊ นี่ของขวัญชิ้นแรกเลยนะคะเนี่ย” แพงเปิดซองดู พอเห็นเป็นคอร์สร้อยไหมเพชร ก็ทำหน้าเหย กลัวเจ็บ แย็บถามว่าเข็มเล่มใหญ่ไหม

“โอ๊ยเล็กเท่าจิมิมดย่ะ ไปๆรีบไปถ่ายให้เสร็จ เดี๋ยวมีเรียนการแสดงต่ออีกนะ”

แพงทาบัวหิมะที่มือก่อนจะเดินตามเจ๊ทวิตตี้ออกไป...ขณะเดียวกัน โฮปกำลังทาบัวหิมะบนมือที่โดนความร้อนอยู่ในอพาร์ตเมนต์เมืองเพิร์ธ มือถือเฟยหลันดังเตือนให้รู้ว่าได้เวลาดูละครออนไลน์ผ่านดิจิตอล เธอตื่นเต้นออกนอกหน้าจนโฮปหมั่นไส้ที่เพื่อนกรี๊ดวรัชช์พระเอกละครมาก แถมสาธยายว่าหล่อเลิศ จบโทด้านบริหารแต่มาทำตามความฝันที่อยากเป็นนักแสดง...โฮปนั่งเป่ามือไม่ทันมองไตเติ้ลละครที่เพื่อนเปิดไว้ ว่านางเอกหน้าตาเหมือนตัวเองราวกับแกะ

ooooooo

อ่านละครเรื่อง เดือนประดับดาว ตอนที่ 1 วันที่ 26 พ.ย.60

ละครเรื่อง เดือนประดับดาว บทประพันธ์โดย จันทร์ รีจรูญ แอนเดอร์สัน
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว บทโทรทัศน์โดย ระกาช่อนรูป
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว กำกับการแสดงโดย มนัสนันท์ เลิศวงศ์สกุล
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ผลิตโดย บริษัท ดอร์เธอร์ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ติดตามชม ละครเรื่อง เดือนประดับดาว ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ