อ่านละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ตอนที่ 9 วันที่ 19 ก.พ.61

อ่านละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ตอนที่ 9 วันที่ 19 ก.พ.61

เย็นนี้...ณฤทธิ์กับบุญสิตาไปนั่งที่มุมสวยในสวนสาธารณะที่มีหอนาฬิกาสถานที่ประจำตามเคย บุญสิตาหวังว่าข่าวเจนนี่จะจบได้แล้ว

“ดูท่าจะยังไม่จบง่ายๆ เขาจะรู้ไหมว่าวันหนึ่งเขาเสียเวลาชีวิตของตัวเองไปกับเรื่องของคนอื่นกี่นาที ทั้งๆที่คนที่เรารักอยู่ข้างๆตัวแท้ๆ”

“มีคนรักนั่งอยู่ข้างๆแท้ๆ แต่พวกเขากลับเอาแต่แชต แชร์ จ้องหน้าจอ ไม่ยอมมองสิ่งสวยๆที่อยู่รอบตัวเลย น่าเสียดาย”



“ตอนฉันมีชีวิตอยู่ ฉันก็เป็นแบบเขาเลย...ถ้าย้อนเวลาไปได้ ฉันคงอยากกลับไปมองหน้าคนที่ฉันรักมากกว่ามองโทรศัพท์ เวลาเป็นสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด แต่เรามักกลับปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไร้ค่าที่สุด”

บุญสิตานึกได้บอกว่าตนควรยุ่งแต่เรื่องของตัวเอง เพราะทุกวันนี้เสียเวลาไปกับเรื่องของเขามากเหมือนกัน ทำเอาณฤทธิ์ผวาพลิกลิ้นทันทีว่ามันต้องมีกรณียกเว้น เราอยู่ร่วมโลกกัน ไม่ให้ยุ่งเรื่องคนอื่นได้ไง เห็นบุญสิตาเบ้หน้าอย่างรู้ทันก็กล่อมว่า

“งั้นก็ยุ่งแต่เรื่องดีๆก็แล้วกัน ทางสายกลางแบบพอดีๆ อย่าเอาทุกอย่างมาทำให้เราเสียเวลาชีวิตมากไปก็แล้วกัน ดีไหมจ๊ะ”

“แล้วเรื่องคุณกันต์ คุณจะทำยังไงต่อไป”

ณฤทธิ์มองหน้าเธอยิ้มเจ้าเล่ห์

หัวค่ำวันนี้เอง กันต์ก็ถือกล่องของขวัญมาให้ซาร่าบอกว่ามีคนส่งมาให้ ซาร่าแปลกใจว่าใครรู้ที่อยู่ของตน

พอซาร่าเปิดกล่องเห็นของข้างใน เธอโยนกล่องทิ้งอย่างตกใจสุดขีด เพราะของในกล่องคือมีดเปื้อนเลือดและเครื่องในสัตว์สดๆ

กันต์สงสัยว่าจะเป็นเจนนี่เพราะคราวก่อนเธอทำกับเจนนี่แบบนี้

“ไม่ใช่เจนนี่แน่ ถ้าเจนนี่รู้ ตอนนี้นางคงมาด่า ฉันตรงๆแล้ว อย่างนี้คนส่งต้องรู้แน่ๆว่าฉันกับคุณอยู่ด้วยกัน” ทั้งสองตึงเครียด สงสัยว่าใครเป็นคนส่งกล่องนี้มา!

ooooooo

หลายวันต่อมา ที่บริษัท ศรันย์เปิดโฆษณาให้โหน่ง จัสติน พุฒิเมธและดนุดลดูอย่างตื่นเต้น บอกทุกคนว่า ผู้กำกับส่งตัวอย่างโฆษณามาให้เราดูก่อน

เมื่อเปิดดู เป็นภาพเจนนี่ไปพบแฟนคลับที่มาชูป้ายให้กำลังใจให้สู้ๆ และพ่อแม่ก็มาให้กำลังใจว่าลูกไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก พ่อกับแม่อยู่ข้างลูกเสมอ แล้วปิดฉากด้วยพุฒิเมธพูดกับกล้องต่อด้วยเจนนี่ว่า

“ในช่วงเวลาที่แย่ ก็ยังมีคนที่รักอยู่เคียงข้างคุณเสมอไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหน กำลังใจก็ไปถึง”

“ส่งความรู้สึกดีๆ คุยแต่เรื่องดีๆกับคนที่คุณรัก Dtalk”

แล้วข้อความโฆษณาก็ขึ้นอย่างสวยงามว่า

“Dtalk ให้เวลาดีๆ ส่งความรู้สึกดีๆให้คุณได้คุยเรื่องดีๆกับคนที่คุณรัก”

ในโฆษณามีนัทที่เป็นแฟนคลับยืนเด่นอยู่ด้วย ดูจบศรันย์บอกว่านัทคงดีใจที่มีโฆษณาคู่กับซุปตาร์ที่ตัวเองชอบ ดนุดลบอกว่าพี่เจนนี่พาเจ้านัทแจ้งเกิดในวงการ แต่พี่เมธโดนตัดออกจากโฆษณาไปเลย

พุฒิเมธบอกว่าเขาให้ตนอยู่อีกเวอร์ชั่นต่างหาก โหน่งถามว่าแล้วลูกค้าดูหรือยัง ศรันย์บอกว่าดูแล้วเขาชมใหญ่เลย ชอบใจมาก พุฒิเมธบอกว่างานนี้ต้องให้เครดิตซินเพราะเป็นไอเดียเขาล้วนๆ บุญสิตาฟังแล้วงงเพราะเวลานั้นเธอถูกวิญญาณณฤทธิ์สิงอยู่ พุฒิเมธยืนยันว่า

“ก็เธอเป็นคนไปเตี๊ยมกับแฟนคลับ ผู้กำกับให้ถ่ายแบบนี้เองนี่”

การแก้ปัญหาเจนนี่ของณฤทธิ์ในร่างบุญสิตาครั้งนี้ ทำให้ภาพลักษณ์บริษัทดีขึ้น เจนนี่เองก็กลับมาได้รับความชื่นชมอีกครั้ง ทุกคนในบริษัทต่างยกนิ้วให้บุญสิตา แต่ใครชมก็ไม่เท่าพุฒิเมธ ทำเอาบุญสิตาดีใจหน้าบานแต่ก็งงๆ เพราะตลอดเวลาที่แก้ปัญหาเธอถูกณฤทธิ์สิงอยู่

ณฤทธิ์เห็นบุญสิตาเฉิ่มๆเชยๆ ก็อยากให้เปลี่ยนแปลงตัวเองเผื่อจะสู้เจนนี่ได้ เธอชักเขว คิดจะลองแต่มานึกๆอีกทีไม่ใช่ทางของตัวเองเลยเลิกสนใจ

บ่ายวันนี้ สมศรีถูกเจ้าหนี้โหดมาทวงหนี้ที่บ้าน ไม่มีให้ก็ถูกมันขู่ สมศรีจึงโบ้ยให้ไปเอาที่บุญสิตาที่ทำงานอยู่บริษัทใหญ่โต พอเจ้าหนี้ไปสมศรีก็บอกให้ทรายเก็บข้าวของหนีไปอยู่ที่อื่นกันสักพัก ซันเป็นผู้ชายไม่ต้องห่วง ส่วนซินเชื่อว่าเดี๋ยวก็หาทางออกได้เองแหละ เห็นทรายลังเลก็ขู่พลางรีบจัดกระเป๋าตัวเองว่า

“แกจะอยู่ที่นี่ รอพวกมันลากไปฆ่าไปขายก็ตามใจ”

เจ้าหนี้ไปทวงหนี้ของสมศรีกับบุญสิตาที่บริษัท บุญสิตาบอกว่าตนไม่รู้เรื่องและไม่มีเงิน มันจะเอาให้ได้ ณฤทธิ์บอกอย่าไปคุยกับมันเลยน่ากลัว พอเธอเดินหนีมันก็เอามีดออกมาขู่ว่าถ้าไม่มีเงินให้ได้เจ็บตัวแน่

บุญสิตาก้มหน้ากลัวตัวสั่น แต่พอเธอเงยหน้าอีกที ดวงตาที่มองนักเลงกลายเป็นแววตาของณฤทธิ์ที่จ้องอย่างเอาเรื่อง พูดเสียงแข็งว่า

“ถ้าแกยังไม่ไป ฉันจะเรียกตำรวจมาเดี๋ยวนี้” พลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา พวกนักเลงจึงพากันถอยไป

ครู่หนึ่ง ซันก็โทร.มาบอกบุญสิตาว่าช่างภาพคนนั้นมาที่ร้านแล้ว พุฒิเมธได้ยินจึงรีบไปที่ร้านกับเธอ

ไปถึงร้านเห็นพวกนักเลงกำลังรุมซ้อมช่างภาพคนนั้นและลากไปขึ้นรถตู้ขับออกไปอย่างเร็ว ณฤทธิ์ในร่างบุญสิตาลืมตัวสั่งพุฒิเมธให้รีบตามไป แม้จะงงๆแต่พุฒิเมธก็รีบขับรถตามรถตู้ไป

รถตู้พาช่างภาพไปที่โรงงานร้างแห่งหนึ่ง พอพุฒิเมธจอดรถบุญสิตาก็โดดลงตามไปทันที บอกว่าเราต้องหาทางช่วยเขา พุฒิเมธถามว่าเธอไม่กลัวตายหรือ

“ฉันตายไปแล้วจะกลัวอะไร” ณฤทธิ์ในร่างบุญสิตาเผลอตอบไป แล้วนึกได้รีบเปลี่ยนเรื่อง “รีบหาทางช่วยเขาดีกว่า”

แต่วิญญาณณฤทธิ์เกรงร่างบุญสิตาจะได้รับอันตรายจึงเปลี่ยนใจโทร.เรียกตำรวจ นักเลงมาจากข้างหลังเห็นจึงจับตัวทั้งสองมัด โยนเข้าไปรวมกับช่างภาพ

ช่างภาพถามว่าพวกคุณเป็นใคร พุฒิเมธบอกว่าตามเขามานั่นแหละ พวกนักเลงจะทำร้ายพุฒเมธ

บุญสิตาขู่ว่าเขาเป็นดารา เป็นคนดัง เกิดอะไรขึ้นพวกเขาหนีไม่รอดแน่ บอกให้ปล่อยพวกเราเถอะ

บุญสิตาพยายามต่อรองถ่วงเวลา ขณะเดียวกันทั้งเธอและพุฒิเมธก็แอบแก้มัดไปด้วย พอแก้ของตัวเอง ได้ก็ช่วยแก้ให้ช่างภาพ ทั้งสองพยายามกล่อมช่างภาพให้เลิกทำมาหากินแบบนี้อีก เพราะการกดชัตเตอร์แต่ละครั้งของเขาไม่ต่างกับการลั่นไกฆ่าคน

“กลับไปถ่ายภาพสวยๆ เพื่อเก็บความสุข บันทึกเวลาดีๆ ความทรงจำ ภาพคนที่เรารักเถอะนะ อย่างน้อยถึงเวลาจะผ่านไป คนคนนั้นจะจากไป แต่เรื่องราวดีๆ ก็ยังอยู่ในภาพของคุณ” บุญสิตาช่วยกล่อมอีกคน

“พูดไปก็เท่านั้น ผมไม่เปลี่ยนใจหรอก แต่ละคนก็มีทางเดินของตัวเอง ผมเลือกทางนี้แล้ว”

“ปล่อยเขาไปเถอะ เดี๋ยวเขาคงคิดได้เอง” ณฤทธิ์บอกพุฒิเมธกับบุญสิตาที่มองช่างภาพอย่างผิดหวัง

ooooooo

เมื่อบุญสิตากลับถึงบ้าน เห็นบ้านถูกรื้อข้าวของกระจัดกระจายและซันนั่งซึมอยู่ ถามจึงรู้ว่าแม่กับทรายหนีไปแล้ว แม่บอกให้ตนไปอยู่บ้านเพื่อน แต่ตนเป็นห่วงพี่กลัวเจ้าหนี้จะกลับมา

บุญสิตาบอกว่ามันคงไม่กลับมาตอนนี้หรอก เดี๋ยวเราไปแจ้งความให้ตำรวจมาดูแล ณฤทธิ์เห็นสภาพของสองพี่น้องแล้วก็สะท้อนใจว่า “เคราะห์ซ้ำกรรมซัดอะไรของเธอเนี่ย”

ณฤทธิ์ยังพยายามที่จะพูดให้ช่างภาพคิดได้และเปลี่ยนใจที่จะหารายได้ด้วยการ “ฆ่า” คนอื่นอย่างเลือดเย็นก่อนที่มันจะสายจนเกินแก้

เช้าวันนี้ ณฤทธิ์บอกบุญสิตาว่าอยากไปหาคุณพ่อและจัดการเรื่องช่างภาพคนนั้นด้วย เอ่ยปากขอยืมร่างเธอหน่อย แต่กลับเข้าร่างเธอไม่ได้ บุญสิตาบอกว่าคงเพราะเมื่อวานเขาอยากช่วยตนจึงเข้าร่างได้ ณฤทธิ์พึมพำว่าตนต้องหาเหยื่อรายใหม่อีกแล้วสิ บอกบุญสิตาว่า

“เวลาเหลือน้อยลงทุกที ฉันอยากไปคุยกับช่างภาพด้วยตัวเอง อยากรีบจัดการกันต์ให้ออกไปจากบริษัทฉัน” บุญสิตานิ่งเงียบอย่างไม่รู้จะช่วยอย่างไร อึดใจเดียวณฤทธิ์ก็ร้องดีใจว่า “ฉันนึกออกแล้วว่าจะหาเหยื่อรายใหม่ที่ไหน”

ณฤทธิ์ไปฟังการทำงานที่จิตอาสา รับฟังความทุกข์กระทั่งอยากฆ่าตัวตายของผู้ที่โทร.เข้ามาระบาย วันนี้เจอนัทโทร.เข้ามาระบายความซึมเศร้า กระทั่งจะกระโดดสะพานพระรามแปดฆ่าตัวตาย พุฒิเมธไปหว่านล้อมให้นัทอยู่อีกห้าวัน ถ้าห้าวันแล้วนัทยังไม่เปลี่ยนใจก็จะไม่ห้ามอีก นัทจะลองดู ยอมอยู่อีกห้าวัน พุฒิเมธจึงพานัทไปส่งบ้านแล้วโทร.บอกบุญสิตา

อ่านละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ตอนที่ 9 วันที่ 19 ก.พ.61

ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ บทประพันธ์โดย : ติณณา
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ บทโทรทัศน์โดย : ตฤณณา
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ กำกับการแสดงโดย : กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ที่มา ไทยรัฐ