อ่านละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ตอนที่ 12 วันที่ 24 ก.พ.61
“ก็นั่นแหละ ถ้าเธอไม่ออกไอเดีย ทุกคนก็คงไม่ยกแผงตามกันมาหมดแบบนี้หรอก ปกติเด็กพวกนี้ไม่อยากมางานอะไรพวกนี้ ฉันเลยได้โปรโมตบริษัท แถมยังสร้างภาพบวกๆให้เด็กๆด้วย” ณฤทธิ์สวมกอดบุญสิตาเอ่ยจากใจ “แม่ตัวนำโชคของฉัน”แม้บุญสิตาจะเขินแต่ก็อดภูมิใจไม่ได้
วัฒน์ที่ต้องการซื้อหุ้นบริษัทมาร์คแต่นับวันบริษัทก็ดีขึ้นๆ เขานัดกันต์มาถามอย่างไม่พอใจว่าแบบนี้ชาติไหนพวกเขาถึงจะยอมขายหุ้นให้
กันต์ได้แต่ขอให้ใจเย็นๆ ตนกำลังดำเนินการอยู่ วัฒน์ทนไม่ไหวยื่นคำขาดว่า
“งั้นผมให้เวลาคุณอีกแค่เดือนเดียวเท่านั้นนะ ถ้าคุณเอาหุ้นมาให้ผมไม่ได้ สัญญาของเราจบกัน”
เมื่อกลับมาเล่าให้ซาร่าฟัง เธอถามว่าแล้วจะทำยังไงแค่เดือนเดียวพ่อมาร์คจะยอมขายหุ้นหรือ กันต์หนักใจ ครั้นจะขายหุ้นของตนก่อนวัฒน์ก็ไม่ยอม เพราะหุ้นของตนมีไม่ถึงครึ่ง
“งั้นคุณก็ปลอมพินัยกรรมเขียนว่ามาร์คยกส่วนของเขาให้คุณไว้ก่อนตาย แค่นี้หุ้นก็เป็นของคุณเกินครึ่งแล้ว” ซาร่าแนะ
กันต์เครียดเห็นว่าเสี่ยงเกินไป แต่ก็จะลองคิดวิธีอื่นดูก่อนก็แล้วกัน ถ้ามันไม่มีทางอื่นแล้วก็จะลองดู
วันเดียวกันนี้สมบัติกับวรรณนาปรารภกับพุฒิเมธว่าข่าวจิตอาสานี่แท้ๆเลย สร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่บริษัทกลบข่าวลือแย่ๆก่อนหน้านี้ได้ เสนอว่าเราน่าจะให้กำลังใจทุกคนหน่อย จึงชวนกันไปที่บริษัท ไปถึงสิบโมงเช้าแล้วแต่ไม่เจอใครเลย
เมื่อไปที่ห้องนั่งเล่นจึงเจอศรันย์ จัสติน โหน่ง และเอ ต่างนั่งๆนอนๆ ฟังเพลง อ่านนิตยสารและกินของขบเคี้ยวกันอย่างสบายใจ บุญสิตาถามว่างานยังค้างอยู่เต็มเลยไม่รีบเคลียร์ให้เสร็จหรือ
ศรันย์ เอ กับโหน่งบอกว่าพวกเราต้องใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ห้ามว่ากันเพราะนี่เป็นนโยบายใหม่ของบริษัท สมบัติถามว่าใครออกนโยบายใหม่นี้ ศรันย์บอกว่ามติเสียงส่วนใหญ่นโยบายคืนความสุขให้พนักงาน
“ดีนะสโลว์ไลฟ์...งั้นอยากสโลว์ตลอดชีวิตไหม ฉันจะจัดให้” สมบัติถาม ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ สมบัติยิ้มขำๆกับท่าทางตกใจของทุกคน
ขณะนั้นเอง บุญสิตาได้รับข้อความจากเพื่อน ที่ส่งคำขอบคุณมายังพี่ๆที่ช่วยกันแพ็กยาส่งไปให้ว่า
“ผมและเพื่อนๆได้รับของจากพี่ๆเรียบร้อยแล้วนะครับ ผมจะดูแลตัวเองดีๆ ตามที่พี่ๆแนะนำ พี่ๆก็รักษาสุขภาพด้วยนะครับ”
“บางทีการมอบความสุขให้คนอื่นก็ทำกันได้ง่ายๆเนอะ” ศรันย์เอ่ยขึ้น บุญสิตาเห็นด้วยว่า
“นั่นสิคะ นอกจากเราให้พลังพวกเขา เขาก็ยังให้เรากลับมาอีก”
พอดีพุฒิเมธเข้ามาบอกว่าคุณพ่อเรียกทุกคนประชุม มีเรื่องสำคัญจะบอก”
ทุกคนมองหน้ากัน ทั้งสงสัย ทั้งกลัวว่าท่านคงโมโหที่เราไม่ทำงานกัน ทำใจดีสู้เสือว่าเดี๋ยวก็รู้
ooooooo
ที่แท้สมบัติเรียกประชุมเพื่อจะแจ้งว่าทุกคนทำงานเหนื่อยกันมามากจะให้รางวัลโดยพาทุกคนไปเที่ยวกัน มีแพ็กเกจให้เลือกระหว่างวันหยุดพร้อมเงินไปเที่ยวเองกับครอบครัวหรือจะไปเที่ยวกับเราก็ได้
บุญสิตาเสนอว่าจะพาพวกเราไปเจริญสติและจะได้แผ่ส่วนบุญให้มาร์คด้วย ปรากฏว่าทุกคนไม่เอา แล้วเสนอกันว่าอยากไปเกาหลีบ้าง ไปติดเกาะบ้าง ไปนอนอาบแสงจันทร์ริมทะเลบ้าง พุฒิเมธเลยเสนอว่า
“เพื่อความเป็นธรรม ให้ทุกคนเสนอที่ที่อยากจะไป แล้วเราจะจับสลากกัน ถ้าหยิบของคนไหนได้ก็จะไปตามที่ที่คนนั้นต้องการ ถ้าทุกคนตกลง เราจะเปิดโหวตกันคืนนี้นะ”
เจนนี่กับซาร่าได้ข่าวบริษัทจะพาไปเที่ยวโดยให้เลือกจะไปกับบริษัทหรือไปเอง ทั้งสองเลือกไปเอง คาดว่าที่จะไปกับบริษัทก็คงมีแก๊งศรันย์เท่านั้น
ค่ำนี้พวกบุญสิตาไปกินข้าวร้านที่ซันทำงานอยู่ บุญสิตาถามซันเรื่องสัญญา ซันตอบอย่างไม่แยแสว่า
ตนตอบเป็นล้านครั้งแล้วว่าไม่สนใจแล้วขอตัวไปทำงาน บุญสิตาเห็นทุกคนผิดหวังก็รับปากว่าจะลองพูดกับซันดูอีกที
ศรันย์บอกว่าตนรู้แล้วว่าจะหาทางกล่อมซันได้ยังไง บอกจัสตินให้ทำตัวหล่อเท่น่าประทับใจจนซันยอมไปด้วย ที่ต้องให้จัสตินทำเพราะซันไม่ชอบแบบตน
แผนของศรันย์สำเร็จเมื่อจัสตินทำเป็นสนิทกับบุญสิตาและนัดไปเที่ยวด้วยกัน ซันจึงตัดสินใจไปกับคณะทัวร์บริษัท
ooooooo
ณฤทธิ์กลุ้มใจเรื่องซาร่า เรื่องการตายของตัวเองและเรื่องบริษัท บอกบุญสิตาว่าตนจนปัญญาคิดไม่ออกว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อน บุญสิตาสงสารจึงพาไปหาแนนซี่บอกว่าแนนซี่ช่วยแนะนำได้ ลองถามไพ่ดู
แนนซี่สับไพ่ มีไพ่กระเด็นออกมาใบหนึ่ง แนนซี่ทำนายว่า
“เธอกำลังจะต้องเดินทางไกลใช่ไหม”
“แล้วทริปนี้จะเป็นยังไงบ้าง มีเรื่องอะไรต้องระวังไหม การเดินทางราบรื่นหรือเปล่า”
“สนุกสนานดีนะ แต่ก็มีเรื่องวุ่นวายนิดๆ แถมฉันยังมองเห็นความรักที่เปล่งประกายอีกด้วย...ความลับจะถูกเปิดเผย”
“ความลับใคร ความลับฉันหรือคุณมาร์ค หรือกันต์”
“ไพ่ไม่ได้บอก ไพ่บอกแค่ว่าความลับที่มีคนอยากรู้จะถูกเปิดเผย ระวังปากให้ดี”
ระหว่างนั้น ณฤทธิ์ร้อนใจฝากบุญสิตาถามให้ว่า
“ทำยังไงถึงจะหาทางเล่นงานกันต์ให้ออกจากบริษัทได้ คุณมาร์คอยากล้างแค้น”
แนนซี่บอกว่านั่นไม่ใช่การล้างแค้น มันเป็นเรื่องเวรกรรม บุญสิตาถามว่าแล้วควรทำยังไง แนนซี่ให้เปิดไพ่แทนมาร์คสี่ใบ พอบุญสิตาเปิดไพ่ ก็ทำนายว่า
“ทำให้เขาไปทริปนี้ แล้วปริศนาจะเริ่มคลี่คลาย”
บุญสิตาบอกณฤทธิ์ว่าเราต้องหาทางทำให้กันต์ไปกับเขาให้ได้ ณฤทธิ์บอกว่าจะทำยังไง กันต์ไม่ไปหรอก
ไม่นานนัก จู่ๆโทรศัพท์ของกันต์ก็มีข้อความว่า
“ฉันได้ยินว่าพ่อมาร์คนัดนักธุรกิจคุยเรื่องหุ้น ท่านต้องการให้พนักงานไปรู้จักผู้ถือหุ้นคนใหม่ คุณควรไปห้าม หวังว่าจะได้เจอกัน”
บุญสิตาเป็นคนส่งข้อความตามณฤทธิ์สั่ง แล้วถามว่ากันต์จะมาไหม ณฤทธิ์เองก็ไม่รู้ แนนซี่พูดแทรกขึ้นว่า
“เรื่องคุณกันต์ฉันไม่ห่วงนะ ฉันห่วงเรื่องความลับจะเปิดเผยมากกว่า”
“ความลับอะไร ฉันใจไม่ดีเลย”
“ฉันก็ไม่รู้ เดี๋ยวทริปนี้ก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
คำตอบของแนนซี่ทำให้บุญสิตากังวลขึ้นมา
วันนี้ทรายกลับมารู้สึกบ้านเงียบผิดปกติ ถามแม่ว่าเขาไปไหนกันหมด พอรู้ว่าซินไปเที่ยวกับบริษัทก็บอกแม่ให้พาตนไปสมัครเป็นนางแบบที่บริษัทมาร์คกัน ตนไม่อยากไปวันที่ซินอยู่
สมศรีกลัวว่าจะไม่มีคนอยู่บริษัท ทรายบอกว่าเราก็ทิ้งใบสมัครไว้ก็ได้ ตนอยากเห็นมาร์คเอ็นเตอร์เทนเมนต์
สองแม่ลูกจัดแจงแต่งองค์ทรงเครื่องราวกับจะเดินทางไปเมืองนอกแล้วไปยืนหน้าบริษัทท่ามกลางแดดที่ร้อนอบอ้าว
ครู่หนึ่งกันต์ออกมาถามว่ามีอะไรให้ช่วยไหม ทรายแอ๊บพูดอย่างสาวไฮโซว่าตนจะมาสมัครเป็นนางแบบ กันต์บอกว่าวันนี้ไม่มีใครอยู่ สมศรีบอกทรายว่าวันหลังค่อยมาใหม่ก็แล้วกัน
“วันอื่นก็ต้องเจอนังซิน ทรายไม่อยากมาสมัครตอนนังซินอยู่ เดี๋ยวมันจะมาขัดขวางทราย”
กันต์ได้ยินชื่อซินก็หูผึ่ง รีบเอาบัตรตัวเองให้อวดว่าเป็นหุ้นส่วนของบริษัท ทรายดีใจบอกว่าตนเป็นพี่สาวซิน แล้วรีบส่งซองเอกสารประวัติ ผลงาน ความสามารถ และรูปตัวเองให้ กันต์ยิ้มรับบอกว่าแล้วจะติดต่อกลับไป ตนจะดูแลเธอเป็นพิเศษ หรือถ้ามีอะไรสงสัยก็ติดต่อตนโดยตรงได้เลยไม่ต้องผ่านบริษัทก็ได้
กันต์หว่านเสน่ห์หวังจะอาศัยทรายสืบซิน ในขณะที่ทรายก็อ่อยกันต์หวังได้เป็นนางแบบของบริษัท แต่พอกันต์เข้าไปในรถเปิดซองดูรูปของทรายแล้วเบ้หน้าพึมพำยิ้มร้ายเหมือนเห็นเหยื่อ
“วอนนาบีขนาดนี้ คงทำได้ทุกอย่างสินะ”
ฝ่ายทรายดีใจมาก วาดฝันในอากาศชวนสมศรีไปช็อปปิ้งเครื่องสำอางและเสื้อผ้าเตรียมล่วงหน้า สมศรีเสียงอ่อยว่าแม่ไม่ค่อยมีเงิน ทรายขอให้ถือว่าเป็นการลงทุน ตนได้ทำงานเมื่อไหร่จะคืนให้แม่เป็นร้อยเท่า
ooooooo
ทั้งพุฒิเมธและบุญสิตาต่างเลือกไปพักผ่อนที่ไร่ทองสมบูรณ์ เพราะต่างรู้ว่าเป็นสถานที่ที่ณฤทธิ์อยากมาเที่ยวกับคนที่เขารักตามที่ได้เคยสัญญากับทุกคนไว้ พุฒิเมธถามว่าเธอรู้จักไร่นี้ได้ยังไง?
“ก็คุณมาร์คเคยเล่าให้ฉันฟังว่าเคยมาที่นี่กับเพื่อนๆ แต่ตอนนั้นไร่ยังไม่เสร็จเรียบร้อย ฉันเลยอยากพาทุกคนมาที่นี่อีกครั้ง คุณเองยังจะเลือกที่นี่เลย เพราะคุณคิดถึงพี่ชายคุณใช่ไหมล่ะ”
พูดแล้วบุญสิตาเดินเลี่ยงไปเพราะยังเขินอยู่ พุฒิเมธถามว่ายังไม่หายโกรธตนหรือ? ส่วนณฤทธิ์ที่ตามลุ้นทั้งสองอยู่ มองตามหลังบุญสิตา พูดอย่างหมายมั่นว่า
“ทริปนี้ ฉันจะทำให้เมธเป็นของเธอให้ได้ คอยดู”
สมบัติกับวรรณนา อยากให้ทุกคนในบริษัทที่มาทริปนี้ได้สนุกกันเต็มที่จึงชวนกันเล่นบีบีกัน มีรางวัลคือ ถ้าใครได้คะแนนมากที่สุดจะสามารถสั่งให้ใครทำอะไรก็ได้ ทุกคนอยากเป็นผู้ชนะเพื่อจะสั่งให้คนแพ้ทำตามที่ตนสั่งได้ทุกอย่าง จึงเล่นกันอย่างเต็มที่
“เราจะประกาศผลที่งานปาร์ตี้คืนพรุ่งนี้” สมบัติประกาศท่ามกลางความตื่นเต้นของทุกคน
ซันมุ่งมั่นที่จะเอาชนะเกมนี้ให้ได้ เพื่อจะขอให้ทุกคนเลิกยุ่งกับตนและซินเสียที
พุฒิเมธกระซิบบอกบุญสิตาว่าถ้าตนชนะ เธอต้องหายงอนนะ บุญสิตาบอกว่าตนไม่ได้งอนเพียงแต่อยากรักษาระยะห่างเท่านั้น
กลายเป็นว่าการเล่นเกมคืนนี้ทุกคนต่างบอกกันว่า คืนนี้ไม่มีคำว่าเพื่อน พี่และน้อง...เราคือศัตรูกัน
ณฤทธิ์สนุกไปด้วยบอกให้ทุกคนสู้ๆ ทั้งที่ไม่มีใครได้ยิน
ถึงแม้ว่าทุกคนอยากเป็นผู้ชนะ แต่ผู้ชนะต้องมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น สุดท้ายพุฒิเมธเป็นผู้ชนะไล่ล่าบุญสิตาจนมุมและเล็งปืนใส่สีหน้าจริงจังมากจนบุญสิตากลัวถามว่า “คุณจะยิงฉันได้ลงเหรอ” ณฤทธิ์ก็ตะโกนว่าอย่ายิงนะ พุฒิเมธยังทำท่าขึงขังเหมือนพระเอกพูดขณะจะฆ่านางเอกในละครดราม่าว่า
“ผมขอโทษ ยกโทษให้ผมด้วยนะ”
แล้วภาพที่เห็นคือ พุฒิเมธยิงบุญสิตาล้มลงแล้วก้มมองเธอด้วยความรัก จนจัสตินตะโกนให้ดึงสติหน่อย โหน่ง ศรันย์ และเอที่ยืนดูอยู่ตะโกนถามว่าจะดราม่าอีกนานไหม คนอื่นรออยู่จะได้ไปเล่นเกมอื่น พุฒิเมธจึงได้สติ ยิ้มแหยๆ ขอโทษทุกคนที่อินไปหน่อย
เมื่อไปเล่นแข่งขับรถลงเนินก็ปาดหน้ากันไปมา เกมนี้จัสตินจงใจแข่งกันซัน เขาพยายามเก๊กหล่อ แมนสุดๆ หมายชนะใจซันให้ได้ ทุกคนสนุกกันสุดเหวี่ยง แผดเสียงอย่างปลดปล่อยความเครียดกันเต็มที่
สมบัติกับวรรณนาไปนั่งรถไฟชมวิวกันประสาผู้ใหญ่แต่ก็คอยฟังรายงานความสนุกสนานของพนักงานตลอดเวลาจากพุฒิเมธ เขาหัวเราะชอบใจเมื่อรู้ว่าเกมแรกพุฒิเมธเป็นผู้ชนะ
ที่ไร่นี้เอง ณฤทธิ์เห็นไผ่คนงานของไร่กำลังขนของกับเพื่อนคนงานรู้สึกคุ้นๆหน้า ยิ่งเมื่อได้ยินเสียงไผ่พูดกับคนงานก็ยิ่งคุ้นแต่นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน
เมื่อไผ่รู้ว่าพวกดารานางแบบมาเที่ยวไร่และกำลังเล่นเกมกันอยู่จึงไปแอบดู
พวกพนักงานต่างจับคู่กันเล่นลูกบอลยักษ์ จัสตินจับคู่กับซันตามแผน พุฒิเมธคู่กับบุญสิตา ดนุดลจึงไปกับเอ ศรันย์ไม่มีคู่จึงไปเดี่ยว
พอเล่นไปได้ครู่เดียว เอ ศรันย์ กับดนุดลก็ทำท่าจะเป็นลมต้องนั่งพัดกันหมดสภาพ จัสตินก็เวียนหัวอาเจียนซันต้องคอยลูบหลังให้ แต่พอซันถามว่าไหวไหม จัสตินก็แอ๊บแมนบอกว่าเล่นได้ แต่ช่วงนี้งานหนักหน่อยไม่ได้พักสังขารเลยไม่ไป ซันเอายาดมให้ จัสตินมองหน้าอย่างประทับใจจนซันเขินวางหน้าไม่ถูก
พุฒิเมธก็อาเจียนจนบุญสิตาต้องลูบหลังให้แต่ก็ยังปากแข็งเมื่อเธอถามว่าไหวไหม เธอจะพาไปห้องน้ำล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น ถามไผ่ที่ยืนอยู่แถวนั้นว่าห้องน้ำอยู่ไหน ไผ่ชี้ทางให้แล้วเดินเลี่ยงไป ณฤทธิ์ติดใจเรื่องไผ่จึงตามไป
ระหว่างพุฒิเมธกับบุญสิตาไปห้องน้ำนั่นเองเจนนี่ก็โทร.หาพุฒิเมธ เขากำลังพยายามจะบอกความในใจบางอย่างกับบุญสิตา จึงรับสายอย่างหงุดหงิดบอกว่าติดธุระอยู่เดี๋ยวโทร.กลับ เจนนี่ที่อยู่ในห้องออกกำลังกายเห็นพุฒิเมธวางสายก็ระแวง จิกตาพึมพำ
“ทำอะไร ทำไมต้องรีบขนาดนี้ด้วย หรือว่าอยู่กับผู้หญิงที่ไหน”
ณฤทธิ์ลุ้นบุญสิตากับพุฒิเมธเต็มที่ กระทั่งหาชุดเซ็กซี่ให้เธอใส่ หว่านล้อมแกมขู่ๆว่า
“ไม่ต้องเขินแล้ว มัวแต่อายๆไม่ทันกินพอดี เธอต้องเปลี่ยนตัวเอง ต้องหัดทรานฟอร์มเมอร์เป็นกุลสตรีเชิงรุกได้แล้ว” บุญสิตาพูดสะบัดใส่ว่าคุณรุกเองเถอะ “อยากให้ฉันรุกจริงเหรอ จัดให้จริงนะ” เห็นเธอถลึงตามอง ดุๆก็เฉไฉเปลี่ยนเรื่องว่า “ไม่รุกก็ได้ งั้นเธอช่วยโทร.หากันต์ อ้อนนางให้ตามมาที่นี่หน่อยสิ อย่างน้อยเรื่องเธอไม่ได้เรื่อง ได้เรื่องกันต์ก็ยังดี”
บุญสิตาไม่กล้าโทร. ณฤทธิ์เลยเข้าสิงร่างเธอจัดการเองโดยเธอไม่ทันตั้งตัว พอสิงร่างบุญสิตาแล้ว ณฤทธิ์ดูนาฬิกาถามตัวเองว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ตัดสินใจจัดการกันต์ก่อนดีกว่า จึงโทรศัพท์หากันต์ชวนมาที่ไร่ กันต์ไม่เล่นด้วย เขาจึงหลอกล่อว่า
“ไม่มาก็ไม่เป็นไร ฉันแค่จะโทร.มาบอกว่าพ่อมาร์คนัดใครก็ไม่รู้ มาคุยเรื่องหุ้นบริษัท คุณควรหาโอกาสมาคุยกับคุณพ่อ ตอนนี้เป็นโอกาสดี...ฉันโทร.มาเตือนเพราะหวังดี ระวังรู้ตัวอีกทีพ่อมาร์คขายทุกอย่างให้บริษัทอื่นแล้วนะ”
วางสายจากกันต์แล้ว ณฤทธิ์ในร่างบุญสิตาก็หวังว่ากันต์จะมา คิดต่ออีกว่า เรื่องกันต์เรียบร้อยแล้ว เหลือแต่เรื่องน้องชายตน คือพุฒิเมธ แล้วพาร่างบุญสิตาไปหยิบชุดสวยในกระเป๋าทาบตัวส่องกระจกพึมพำ
“รับรองว่าตื่นขึ้นมา เธอจะได้อยู่สองต่อสองกับเมธสมใจ”
ณฤทธิ์พาร่างบุญสิตาถือชุดสวยไปเข้าห้องน้ำอย่างมีความสุข
ooooooo
ขณะพุฒิเมธกำลังถ่ายภาพวิวสวยๆในไร่อยู่นั้น บุญสิตาก็เดินสวยออกจากห้องน้ำแกล้งพูดดังๆขณะเดินผ่านพุฒิเมธจงใจให้เขาได้ยินว่า “ฉันกำลังจะไปค่ะ”
พุฒิเมธสงสัยว่าเธอนัดใครไว้ ระแวงว่าอาจเป็นดนุดล จึงย่องตามไป วิญญาณณฤทธิ์คิดในใจว่า
“ตามมาเลยน้องเลิฟ ฉันจะพาแกไปติดฝนที่กระท่อมกลางป่าเอง”
ครู่หนึ่งบุญสิตาก็หันขวับมาถามพุฒิเมธว่าตามตนมาทำไม เขาอึกอักตั้งหลักไม่ทันถามว่าเธอมาทำอะไรกลางป่าแบบนี้ เธอตอบหน้าตาเฉยว่า มาเดินเล่น
พุฒิเมธถามว่าเดินเล่นกลางป่าคนเดียวเนี่ยนะ ชวนกลับกันเถอะดูเหมือนฝนจะตกแล้ว บุญสิตาบอกว่ากลับไม่ทันหรอก ชี้ท้องฟ้าบอกว่านั่นไง ฝนตกแล้ว ทำวี้ดว้ายชวนไปหลบฝนกัน มีกระท่อมอยู่ด้านโน้น ว่าแล้ววิ่งนำไปเลย
พอวิ่งเข้ากระท่อม พุฒิเมธถามว่าเธอรู้ได้ไงว่ามีกระท่อมตรงนี้
“ได้ยินคนสวนบอก...คงต้องรอให้ฝนหยุดก่อนเราค่อยกลับก็แล้วกัน”
“คงต้องอย่างนั้น”
ณฤทธิ์ในร่างบุญสิตามองพุฒิเมธอย่างหมายมาด คิดในใจว่าอากาศเป็นใจเหมือนในละคร เมธไม่เคลิ้มก็ให้มันรู้ไป แต่แล้วก็ต้องเซ็งเมื่อมือถือเขาดังขึ้น เป็นสายจากเจนนี่โทร.มาตัดพ้อว่า
“ทำอะไรอยู่คะเมธ เจนนี่เห็นเมธไม่โทร.กลับมาซะทีก็เลยทนไม่ไหว มัวแต่ทำอะไรอยู่คะ” เขาบอกว่ามาเที่ยวเล่นเกมกับเพื่อนๆ เลยไม่ได้รับสาย
ณฤทธิ์ในร่างบุญสิตาขัดใจมาก เลยแกล้งร้องโอ๊ย! ให้เสียงดังเข้าไปในโทรศัพท์ สำออยว่าอยู่ๆก็เข่าอ่อนสะดุดพื้นหกล้ม อ้อนดังๆ
“เจ็บมากค่ะคุณเมธ ช่วยซินด้วยค่ะ”
เจนนี่ได้ยินชื่อซินก็ตาลุกถามว่าเขาอยู่กับซินได้ไง ทำอะไรกันอยู่ พุฒิเมธเห็นซินเจ็บมากจึงขอวางสายก่อนเดี๋ยวจะโทร.กลับ แล้วรีบไปประคองบุญสิตาที่สำออยกุมเท้าอยู่ที่พื้น แพ้มารยาหญิงโดยไม่รู้ตัว
เจนนี่อึ้งไปพักใหญ่จึงโทร.หาดนุดล ถามว่าไปพักร้อนกันที่ไหนทำไมไม่มีใครบอกตนเลย ดนุดลย้อนเอาว่าก็เธอบอกว่าไม่ไปจะบอกไปทำไม เจนนี่ถามว่าแล้วไปที่ไหนกันเพื่อจะตามไปหาพุฒิเมธให้ได้
ooooooo
แม้ว่าวิญญาณณฤทธิ์จะตะขิดตะขวงใจที่จะต้องอ่อยพุฒิเมธ แต่เมื่อสิงร่างบุญสิตาและต้องการให้ทั้งสองได้ลงเอยกัน เขาจึงรุกพุฒิเมธ ทั้งกอดทั้งหอมจนพุฒิเมธที่มีใจอยู่แล้วหวั่นไหวและจูบบุญสิตาแทนคำตอบที่เธอถามว่าจะคบกับตนไหม
ทันใดนั้น ฟ้าผ่าเปรี้ยง! วิญญาณณฤทธิ์รีบผลักพุฒิเมธออกหลุดแอ๊บด่าเสียงแมนๆ
“ไอ้บ้า นี่ฉันเป็นพี่แกนะเว้ย”
อ่านละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ตอนที่ 12 วันที่ 24 ก.พ.61
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ บทประพันธ์โดย : ติณณาละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ บทโทรทัศน์โดย : ตฤณณา
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ กำกับการแสดงโดย : กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ที่มา ไทยรัฐ