อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 1 วันที่ 11 ก.พ.61

อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 1 วันที่ 11 ก.พ.61

“อำนาจเหนือดวงจิตเป็นดังบุพเพสันนิวาส ที่นำพาดวงใจสองดวงให้มาบรรจบกัน”

ปี พ.ศ.2225 รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์แห่งกรุงศรีอยุธยา ได้เกิดเหตุร้ายขึ้นที่เรือนของออกญาโหราธิบดี เมื่อแม่หญิงการะเกด สาวงามที่ออกญาหมายมั่นให้แต่งงานกับลูกชายปากจัดเอาแต่ใจ ขี้อิจฉา ทำให้หมื่นสุนทรเทวาเกลียดจนแทบไม่อยากมองหน้า จึงยื้อเวลาไม่ร่วมหอลงโรงด้วย คุณหญิงจำปาผู้เป็นแม่เข้าข้างลูกชาย คอยคัดค้านสามีไม่ให้เร่งรีบการแต่งงาน

ห่างไปอีกฝั่งแม่น้ำเป็นบ้านออกญาโกษาธิบดีกับคุณหญิงนิ่ม มีบุตรีคือแม่หญิงจันทร์วาด นางมีกิริยามารยาทงามสง่าสมกับรูปร่างหน้าตา นางพอใจในตัวหมื่นสุนทร–เทวา จึงมักทำสำรับอาหารกับคุณหญิงแม่ไปฝากคุณหญิงจำปาบ่อยๆ สร้างความไม่พอใจให้การะเกด



เพลาเย็นใกล้ค่ำ การะเกดรู้ว่าจันทร์วาดจะต้องนั่งเรือพายมากับบ่าวไพร่อีก ด้วยจิตใจเหี้ยมโหดคิดกำจัดเธอให้พ้นทาง จึงวางแผนให้ผิน...บ่าวคนสนิทดำน้ำไปล่มเรือลำที่จันทร์วาดนั่ง แย้ม...บ่าวอีกคนพยายามห้ามอย่างกลัวๆ แต่ไม่อาจเปลี่ยนใจผู้เป็นนายได้

การะเกดเห็นเรือของจันทร์วาดมาแต่ไกล ก็ให้ผินไปจัดการตามที่สั่งและให้แย้มเฝ้าดูว่าสำเร็จไหม ส่วน ตัวเธอทำทีเดินชมนกชมไม้ เผื่อมีบ่าวไพร่คนใดเห็น

แย้มนั่งหลบในพุ่มไม้ใจคอไม่ดี ไม่นานก็ได้ยินเสียงวี้ดว้ายของบ่าวไพร่บนเรือที่ตกน้ำ ช่วยกันพาจันทร์วาดขึ้นฝั่ง มีเพียงอีแดงที่ว่ายน้ำไม่เป็นจึงจมน้ำตาย...แย้มรีบมารายงานการะเกด

“มีแม่หญิงจมน้ำคนหนึ่ง แต่บ่าวไม่เห็นแจ้งว่าเป็นใคร มันพลบแล้วเจ้าค่ะ”

“ก็มันนั่นแหละ มันว่ายน้ำไม่แข็ง...อีผินล่ะ”

แย้มบอกยังไม่โผล่ขึ้นมา ท่าทางแย้มกลัวคนมาเห็น เร่งให้ขึ้นเรือน แต่การะเกดสั่งให้รอผิน แม้ท่าทางจะดูไม่สะทกสะท้านแต่ปากก็ก่นด่าผินตลอด จนผินมาถึงผลัดผ้าเรียบร้อยทิ้งผ้าเปียกถ่วงก้อนหินลงก้นคลอง การะเกดยิ้มกริ่มได้ดั่งใจเดินกลับขึ้นเรือน กำชับบ่าวทั้งสอง

“กูปวดขี้จึงไปเว็จ จำไว้”

สองบ่าวรับคำ ไม่ทันไรเสียงหมื่นสุนทรเทวาถามว่าใคร...ท่ามกลางความมืด การะเกดกับสองบ่าวค่อยๆโผล่ออกมาให้เห็นชัดๆ

“น้องเองค่ะคุณพี่ น้องลงไปเว็จมาค่ะ” การะเกดทำมือไล่สองบ่าวกลับห้อง

“แม่การะเกด ออเจ้าลงไปเว็จทำไม นี่มันจวนพลบแล้วบ่าวบนเรือนไม่ได้จัดหม้อน้ำมูตรไว้ให้เจ้าถ่ายฤา” หมื่นสุนทรเทวามองด้วยสายตาเกลียดชัง

ต่างจากการะเกดที่มองด้วยความรัก วางท่าสงบเสงี่ยมตอบว่าจัด ท่านหมื่นเสียงเข้มขึ้น

“แล้วยังไงเล่า จัดแล้วทำไมต้องลงไปถ่ายข้างล่าง งูเงี้ยวเขี้ยวขอกัดเข้าจะว่าอย่างไร มิเดือดร้อนกันไปหมดรึ ตั้งแต่ออเจ้าจากหัวเมืองมาอยู่ที่นี่ไม่เว้นเลยที่จะ...ทำไมไม่ถ่ายในหม้อ”

ท่านหมื่นยั้งไว้ไม่อยากพูดแรง การะเกดโกหกว่าปวดหนัก ไม่อยากให้กลิ่นคลุ้งในห้อง ผินกับแย้มจะนอนไม่หลับ ท่านหมื่นไม่อยากเชื่อว่าเธอจะหวังดีกับบ่าว แต่ไม่อยากสนทนาให้มากความ จึงโบกมือไล่กลับเข้าห้องไป

การะเกดวางท่าระเหิดระหงหมายให้ชายมอง ท่านหมื่นมองแต่มองด้วยสายตาเกลียดชัง...ออกญา– โหราธิบดีกับจำปาเดินมา เห็นสายตาลูกชายก็อดถามไม่ได้ว่าเกลียดนางมากหรือ ท่านหมื่นยอมรับ

“ขอรับคุณพ่อ เกลียด คนอย่างนางมีฤาจะห่วงผู้ใด พูดจามุสา”

“การะเกดเป็นคู่หมายของลูก เกลียดอย่างไรก็ต้องร่วมหอลงโรงกับนาง หลีกเลี่ยงไม่ได้” จำปาค้อนสามีที่หาเรื่องมาให้ลูก ออกญาย้ำ “จะประวิงน่ะไม่ได้แล้วนะพ่อเดช แม่การะเกดจะเป็นสาวเทื้อคาเรือนอยู่นี่ เพราะลูกประวิงแล้วประวิงอีกอยู่อย่างนี้...นางอายุเลยยี่สิบปีแล้ว เขาลือกันไปสามบ้านแปดบ้าน เห็นใจนางบ้างหรือไม่”

“ลูกแสนจะเกลียด เกลียดแสนเกลียด” หมื่นสุนทรเทวายืนกราน

ทันใดมีเสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นที่ท่าน้ำ ทั้งสามหันขวับไปมอง...ที่เชิงบันไดบ่าวชายเข้ามารายงานว่าเรือแม่หญิงจันทร์วาดล่ม อีแดงบ่าวของแม่หญิงจมน้ำตาย ส่วนแม่หญิงมีเรือบ่าวที่ตามมาช่วยเหลือพากลับเรือนแล้ว เจ้านายทั้งสามตกใจแต่ก็โล่งใจที่จันทร์วาดปลอดภัย

ด้านการะเกดนั่งเจ็บใจ “พวกเอ็งได้ยินไหมทำไมไม่เป็นนังจันทร์วาด นังหญิงสาระแน คิดจะเทียบเคียงกู อยากเป็นแม่หญิงเคียงเรือนของคุณพี่เดชจนตัวซีดตัวสั่น มันต้องเจออย่างนี้ถึงจะสาสม ออกญาพ่อนางก็ช่างกะไรเอาลูกสาวมาเร่ขาย หน้าไม่อายทั้งพ่อและลูก”

ผินหวาดกลัวอีแดงจะเป็นผีมาหลอกหลอน การะเกดตวาดเหลวไหล ท่าทางเธอเหมือนมีอาการของโรคหอบ ทั้งผินและแย้มเป็นห่วง รักและซื่อสัตย์กับเธอมากจนแทบยอมตายแทนได้

 เช้าตรู่ แย้มกับผินนอนไม่ค่อยหลับสีหน้าอมทุกข์ด้วยความกลัว ต่างจากการะเกดที่นอนหลับในสภาพไม่สำรวมเอาเสียเลย...ทั้งสองค่อยๆย่องลงจากเรือน เสียงหมื่นสุนทรเทวาเรียก

“อีผิน อีแย้ม...อีแดงตายแล้ว มึงสองคนร่วมมือกันกับนายมึงทำใช่หรือไม่...บอกมา!” ผินกับแย้มชะงัก พยายามเก็บอาการ หมอบส่ายหน้าไม่รู้ไม่เห็นอะไร  จำปาสั่งให้ไปตามการะเกด ทั้งสองบอกว่ายังไม่ตื่น ทั้งท่านหมื่นและคุณหญิงส่ายหน้าเอือม สั่งปริกให้ไปปลุก

การะเกดโดนปลุกก็โวยวายด่าปริกลั่นห้อง...จำปาทนไม่ไหวกับกิริยาของการะเกด จึงบอกให้หมื่นสุนทรเทวาชำระความไป ตนจะไปวัดไชยเพราะมีเทศน์มหาชาติ

ระหว่างผลัดเปลี่ยนผ้า จำปาอดบ่นให้ปริกฟังไม่ได้ว่า “แม่การะเกดเป็นหลานท่านเจ้าคุณที่นั่งเมืองพระพิษณุโลก ท่านออกญามีคำสั่งสัญญาต่อพ่อของนางว่า จะให้ตบแต่งกับท่านหมื่น พ่อแม่นางตายหมดทั้งสองคน ข้าคิดว่าท่านออกญาคงไม่ทำลายสัญญาเพราะเป็นสหายรักกับพ่อของนาง...เออนังปริก เอ็งรู้หมดแล้ว ข้าจะพูดให้ฟังอีกทำไมวะนี่ เอ้า กรองสไบให้ข้าที”

ปริกเข้าไปจัดแจง...ขณะที่นั่งเรือไปวัด จำปาก็อดบ่นอย่างอ่อนใจให้ปริกฟังอีกไม่ได้ว่า หมื่นสุนทรเทวาไม่ถูกชะตากับการะเกดเอาเสียเลย เพราะนางไม่เอาการเอางาน ขี้เกียจตัวเป็นขน วาจาแข็งกระด้าง จิกใช้บ่าวไพร่... ปริกเอ่ยขึ้นว่า

“ถ้าเป็นบุพเพสันนิวาสก็ได้เป็นคู่ ถ้าไม่ใช่ก็แคล้วคลาด เชื่อบ่าวเถอะเจ้าค่ะแม่นาย”

“บุพเพสันนิวาส จริงสิ ใครก็ขัดขวางบุพเพสันนิวาสไม่ได้” จำปาเห็นจริง

เรือมาถึงวัดไชยพอดี ผู้คนเดินกันขวักไขว่พระปรางค์ พระอุโบสถสวยสง่าในยุคสมัยนี้

ooooooo

วัดไชยวัฒนารามในยุคปัจจุบันกลายเป็นซากปรักหักพัง เป็นประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ว่ายุคสมัยอยุธยารุ่งเรืองเพียงใด

เกศสุรางค์ นักโบราณคดีสาวร่างท้วมวัย 25 ปี หน้าตาธรรมดาแต่จิตใจดี มองโลกในแง่ดี เธอเดินมากับเรืองฤทธิ์ เพื่อนชายที่เธอหลงรักแต่เก็บงำไว้ในใจ ครั้นเดินมาไกลเธอบ่นว่าขาจะหลุดแล้ว ใกล้ค่ำด้วยมันน่ากลัว

“ เรียนโบราณคดีขุดค้นของโบราณไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แกยังกลัวผีอยู่อีกเหรอไอ้เกศ”

“ผีนะโว้ย ไม่ใช่เพื่อนเล่น จะไม่ให้กลัวได้ไง นี่ถามจริงแกคิดจะทำมิดีมิร้ายฉันรึเปล่า แอบชวนฉันไม่บอกคนอื่น มาไกลซะขนาดนี้”

“ทะลึ่ง...หวังสูงไปหน่อยนะแก หวังจะให้ฉันทำมิดีมิร้ายแกเหรอ ฝันไปเถอะว่ะ”

“อ้าว ทำไมไม่คิดล่ะว่าแกก็ฝันสูงเหมือนกัน ไปขุนตัวเองให้อ้วนเท่าฉันก่อนเถอะว้า” เกศสุรางค์รู้สึกเสียใจกับคำพูดของเรืองฤทธิ์ แต่พูดตลกกลบเกลื่อน

เรืองฤทธิ์หัวเราะก๊าก กอดคอเกศสุรางค์ราวเป็นเพื่อนชายคนหนึ่งเดินเข้าไปในบริเวณวัดไชย แล้วต้องแปลกใจที่วันนี้คนน้อย หญิงสาวถามอีกว่าจะมาทำไม เพื่อนหนุ่มสาธยาย

“วันนี้พระจันทร์เต็มดวง เดี๋ยวคอยดู สวยตะลึงเลยแกเอ๋ย พระจันทร์สว่างกระจ่างอยู่บนฟ้า มีโครงสร้างที่สวยเพอร์เฟกต์ของวัดไชยเป็นฉาก”

“ใช่...ฝีมือคนโบราณหลายร้อยปีมาแล้วนะ ไม่มีเทคโนโลยีใดๆ ฉันนับถืออัจฉริยะของมนุษย์จริงๆว่ะ” เกศสุรางค์นึกได้ แววตาอ่อนโยนลงทันที

อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 1 วันที่ 11 ก.พ.61

ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทประพันธ์โดย รอมแพง
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทโทรทัศน์โดย ศัลยา
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส กำกับการแสดงโดย ภวัต พนังคศิริ
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ออกอากาศเร็ว ๆ นี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ