อ่านละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ตอนที่ 6 วันที่ 10 ก.พ.61
“จะไม่มีการขายหุ้นบริษัทให้ใคร ต่อไปนี้ฉันจะมาดูแลบริษัทนี้แทนมาร์ค และขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลบริษัทนี้ไปกับฉันด้วย”ฟังคำยืนยันจากสมบัติแล้วทุกคนเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ศรันย์ดีใจจนเผลอกระโดดกอดสมบัติพอรู้สึกตัวก็รีบขอโทษ หันมองทุกคนที่ยิ้มแย้มดีใจก็ยิ้มกันไปมาอย่างมีความสุข
สมบัติมองไปรอบๆ เอ่ยกับทุกคนที่ยืนห้อมล้อมอยู่ว่า
“นี่เป็นสิ่งสุดท้ายและสิ่งเดียวที่มาร์คทิ้งไว้ให้ พ่ออยากจะรักษามันไว้...ตอนมีชีวิต มาร์คพยายามทำทุกทางเพื่อสร้างบริษัทนี้ มันเป็นความฝันสูงสุดของมาร์ค พ่อเลยอยากจะสานฝันสุดท้ายของมาร์คให้สำเร็จ ที่สำคัญพ่ออยากรู้อยากเข้าใจว่าทำไมมาร์คถึงทุ่มเททั้งชีวิตให้บริษัทนี้ เมธช่วยพ่อดูแลบริษัทของมาร์คด้วยนะ”
“ครับพ่อ ผมและทุกคนในบริษัทจะช่วยพ่อดูแลบริษัทของเฮียเองครับ” พุฒิเมธรับปากแทนทุกคน
สมบัติขอบคุณพุฒิเมธ วิญญาณณฤทธิ์เอ่ยขอบคุณพ่อและเมธอย่างซึ้งใจ
เพราะดนุดลเพิ่งฟื้นจากการบาดเจ็บทั้งกายและใจ ศรันย์จึงฝากบุญสิตาให้ช่วยดูแลเป็นพิเศษ เมื่อมีข่าวดีของบริษัทก็รีบไปบอก ให้กำลังใจว่า
“พี่มาร์คเคยบอกว่าดลเป็นเด็กที่มีของ ให้หาตัวเองให้เจอไวๆและใช้ความสามารถที่มี สักวันความฝัน ดลก็จะเป็นจริง...พี่มาร์คเชื่อในศักยภาพของดลถึงได้เลือกดลมา ถึงเวลาแล้วที่ดลจะต้องสู้ และพิสูจน์ฝีมือให้ทุกคนเห็น พี่มาร์คกำลังดูดลอยู่นะ”
“ผมจะไม่ทำให้พี่มาร์คผิดหวังครับ” ดนุดลพูดเหมือนสาบานจากใจ
“งั้นก็รีบไปแต่งตัวไปฉลองกัน ทุกคนกำลังรอดลอยู่ที่ร้านแล้ว” เมื่อไปถึงร้านอาหารประจำ เธอบอกดนุดลว่า “วันนี้พี่รันเขาฉลองให้ดลโดยเฉพาะเลยนะ”
จัสตินบอกว่าฉลองให้บริษัทด้วย ศรันย์สมน้ำหน้ากันต์เยาะว่าคิดจะมาเอาบริษัทของมาร์คไปหรือฝัน
ไปเถอะ แล้วชวนทุกคนชนแก้วกัน ศรันย์ได้รับโทรศัพท์ดูหน้าจอแล้วตกใจนึกขึ้นได้ว่าลืมชวนเมธ ถามว่าตอนนี้อยู่ไหน รีบมาเลย พวกเรากำลังฉลองกัน
ooooooo
พุฒิเมธมาถึงเห็นบุญสิตานั่งติดกับดนุดลและพูดคุยอย่างใกล้ชิดสนิทสนมก็เกิดอาการหึงโดยไม่รู้ตัว เข้าไปนั่งแทรกอ้างว่าเป็นที่ประจำของตนพูดประชดว่า “คุณสนิทสนมกับดลเร็วจังเลยนะ”
บุญสิตาบอกว่าดนุดลเพิ่งเจอเรื่องร้ายๆมาพี่รันขอให้ตนช่วยดูแล พุฒิเมธก็อ้างว่าตนก็เจอเรื่องร้ายๆมาเหมือนกันร้ายกว่าดลอีก เกือบตกตึกแล้วอ้อนทำเป็นปวดหัว ปวดแขน โมเมว่าเธอต้องรับผิดชอบดูแลตนเป็นพิเศษเหมือนกัน
แต่ขณะที่พุฒิเมธกำลังอ้อนบุญสิตานั้น เจนนี่ได้ข่าวมีงานฉลองและพุฒิเมธก็อยู่ด้วยจึงรีบไปทั้งที่กำลังทำผมอยู่ มาถึงก็เข้าไปฉอเลาะพุฒิเมธ บุญสิตารู้แกวจึงขอตัวออกไป
คืนนี้ณฤทธิ์สนุกสุดเหวี่ยงบอกบุญสิตาขณะเธอกลับบ้านว่าตั้งแต่ตายตนไม่ได้มางานปาร์ตี้สนุกสนานแบบนี้เลย
“ก็ที่ผ่านมามันมีแต่เรื่องเครียดนี่ จะเอาเวลาที่ไหนมาสนุก...” ณฤทธิ์บ่นว่าใช่ปัญหานั้นแก้ตก ปัญหานี้ก็เข้ามา “ก็จริง ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ เราก็ต้องสู้กันต่อไป”
“ฉันไม่มีลมหายใจ ฉันยังต้องสู้เลย”
ทั้งสองยิ้มให้กันเดินคู่กันไปบนถนนที่ทอดยาว เหมือนทางเดินแห่งชีวิต...
แต่พอกลับเข้าบ้าน บุญสิตาก็เจอทั้งสมศรีขอเบิกค่ากับข้าวทั้งที่เพิ่งเบิกไป ซ้ำทรายยังมาพูดเชิงบังคับให้พาตนไปทำงานที่บริษัทนี้ด้วยอ้างว่าจะได้ช่วยหารายได้ ถูกซันดักคออย่างรู้ทันว่าอยากทำงานหรืออยากเจอดาราหล่อๆกันแน่
สมศรีย้ำถามบุญสิตาเชิงบังคับว่าจะฝากงานให้ลูกตนไหม บุญสิตาบอกว่าตนเองก็ยังไม่ผ่านโปรฯเลยจะฝากได้ยังไง
“ไม่รู้ล่ะเธอต้องทำยังไงก็ได้ ให้บริษัทเธอรับลูกฉันเข้าทำงานให้ได้” พูดแล้วสะบัดไปเลย
ส่วนที่บ้านณฤทธิ์ วรรณนาดีใจแทนมาร์คที่สมบัติไปดูแลบริษัท หมอโอบว่าถ้ามาร์ครู้คงดีใจ
“สุดท้ายคุณก็ใจอ่อนช่วยมาร์คตลอด เหมือนครั้งที่แล้ว เรื่องเงินทุนสุดท้ายคุณก็ระดมทุนให้มาร์ค”
หมอโอบเปรยว่าเสียดายที่มาร์คตายไปทั้งๆที่ไม่ได้รู้ว่าพ่อรักเขาแค่ไหน วิญญาณมาร์คบอกว่าตนรู้แล้วว่าพ่อรักตนมากที่สุด สมบัติพูดเศร้าๆถึงความหลังว่า
“พอมาร์คตายไป ผมก็เพิ่งคิดได้ ผมพยายามทำทุกอย่างให้เขา แต่สุดท้ายสิ่งที่ผมทำก็ไร้ค่าไปหมดผมไม่รู้ว่าผมทำทุกอย่างไปเพื่อใคร จะทะเลาะกับมาร์คบังคับเขาไปเพื่ออะไร” วรรณนาติงว่าอย่าคิดมากเลย คิดถึงสิ่งที่อยู่ตรงหน้าดีกว่า “ก็ต้องลองดู ทำได้ไม่ได้ก็อีกเรื่อง ถ้าไม่ไหวจริงๆก็คงต้องปิดไป คงต้องฝากความหวังไว้กับเมธ”
วรรณนาแหย่ว่าแค่นี้ทุกคนก็ซึ้งใจจะแย่อยู่แล้ว ตนภูมิใจในตัวเขาจริงๆ ทั้งใจดีทั้งน่ารัก สมบัติเลยหยอดว่า “งั้นก็ใจอ่อนกับผมเร็วๆสิ” หมอโอบแซวว่าพูดแบบนี้แสดงว่าหายสนิทแล้ว แก้วตาจะจัดชุดเก๋ๆไปบริษัท เอาให้ซุปตาร์ในบริษัทอายไปเลย
“เอาให้หล่อกว่าเจ้าเมธนะเอาให้มันอายไปเลย”
ลูกเล่นของสมบัติทำให้ทุกคนหัวเราะสบายใจไปด้วย
ooooooo
เช้าวันรุ่งขึ้น สมบัติเข้าบริษัทไปอย่างเท่ และศรันย์ก็จุดพลุกระดาษต้อนรับอย่างเอิกเกริก สมบัติพูดขรึมบอกทุกคนว่า
“ฉันก็แค่แวะมาดูวันนี้เท่านั้นแหละนอกนั้นให้เมธจัดการ ต่อไปนี้เมธมีสิทธิ์ขาดทั้งหมดในบริษัทแทนฉัน” ศรันย์กับโหน่งขอให้กล่าวอะไรเป็นขวัญกำลังใจให้ทุกคนในบริษัทหน่อย “ก่อนหน้านี้ ทุกคนคงเสียวสันหลังวาบ กลัวตกงานกันน่าดู ตอนนี้บริษัทเราผ่านวิกฤติความเป็นความตายมาแล้ว หลังจากวันนี้ทุกคนคงต้องเหนื่อยอีกหลายเท่า เราต้องเรียกความน่าเชื่อถือที่หายไป กู้ชื่อเสียงบริษัทคืนมาให้ได้ ขอให้ทุกคนช่วยกันเพื่อบริษัทของเรา...”
“ถ้าใครทำตัวเป็นจุดอ่อน จะโดนเรียกมาปรับทัศนคติทันที เคนะ” ศรันย์ย้ำ
“ถึงเวลาที่จะต้องปกป้องบริษัทที่เรารักกันแล้ว”
ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสพร้อมสู้เต็มที่ แต่กันต์กับซาร่ามองด้วยความไม่พอใจ กันต์จิกตาหมายมาดไม่ยอมแพ้ จะต้องหาทางขายบริษัทให้ได้
ooooooo
เมื่อเริ่มงาน ทุกคนทุ่มเททำอย่างจริงจังโดยเฉพาะพุฒิเมธบริหารทั้งงานบริษัทของมาร์คและทำงานของตัวเองจนไม่ได้หลับได้นอน ทุกคนเป็นห่วงกลัวเขาจะล้ม
สมบัติไปทำงานก็บ่นว่าเหนื่อยจริงๆ ไม่คิดว่างานบริษัทมาร์คจะน่าปวดหัวขนาดนี้ และยิ่งต้องมาทำงานกับพวกเกย์ก็ยิ่งอึดอัดเพราะไม่ถูกโฉลกกัน
บุญสิตาเป็นห่วงพุฒิเมธ บอกให้เขาพักผ่อนบ้าง เขาถามว่าเป็นห่วงตนหรือ เธอบอกว่าทุกคนในออฟฟิศเป็นห่วง แล้วควักอมยิ้มให้บอกว่ากินหวานๆจะได้รู้สึกดี
พูดแล้วก็รีบเดินไปอย่างแอบเขิน
พุฒิเมธรับอมยิ้มไปมองบุญสิตายิ้มมีความสุขที่ได้กำลังใจจากเธอ
ooooooo
ศรันย์ จัสตินกับเอต่างเฝ้ามองดูพุฒิเมธอย่างเป็นห่วง บุญสิตาออกจากห้องพุฒิเมธเจอทั้งสามบ่นเป็นห่วงพุฒิเมธก็นึกสงสาร ณฤทธิ์กระซิบถามว่า
“สงสารเมธเหรอ...เขาว่าความสงสารเป็นบ่อเกิดของความรักนะ”
“รักอะไรกัน” บุญสิตาเผลอร้องเสียงดัง จนทั้งสามมองงงๆ เธอรีบบอกว่า “ไม่มีอะไรค่ะ ฉันอุทาน”
พอดีโหน่งมาถามว่า วันนี้มีใครว่างไหมไปดูแลเมธแทนตนหน่อย ตนมีงานด่วน ปรากฏว่าไม่มีใครว่างเลย จัสตินเสนอให้เอาซินไปแทน
“ให้นางไปเป็นผู้จัดการ จะไหวไหมเนี่ย” ศรันย์เหล่มองบุญสิตาอย่างไม่เชื่อถือ
“มีนางไปช่วยเมธถือของ แบกของ ก็ยังดีกว่าไม่มีใครเลยนะ แต่ถ้าไปสภาพนี้อายเขาตาย” โหน่งบ่น
“เจ๊ก็โมดิฟายนางสิ แต่งตัวให้ดูดีหน่อยก็ได้แล้ว” เอเสนอ
“ไม่เอานะคะ ฉันไม่ไป ฉันทำอะไรไม่เป็นซักอย่าง” บุญสิตาตื่นตกใจ ณฤทธิ์ให้กำลังใจว่า
“ไม่ต้องกลัวหรอก เดี๋ยวฉันช่วยเอง”
แต่บุญสิตายังหนักใจ ไม่อยากไปอยู่ดี
เมื่อได้เวลา พุฒิเมธออกมาขึ้นรถตู้หรูของบริษัท ศรันย์เข้าไปบอกว่า
“ฉันหาผู้จัดการ ผู้ช่วยเฉพาะกิจไปช่วยหิ้วของให้เธอแล้วนะ มีอะไรก็บอกให้หล่อนช่วยก็แล้วกัน”
“ใครครับ” พุฒิเมธถาม ศรันย์บุ้ยไปที่รถพอพุฒิเมธเห็นก็แปลกใจ “ยัยซินเนี่ยนะ เขาจะไปทำอะไรได้ เอฟซียังไม่รู้จักเลย”
“เอาน่า เราลงมติกันแล้ว ว่ามีนางไปช่วยก็ดีกว่าไม่มีใครไป อย่างน้อยก็ให้ช่วยรับโทรศัพท์ถือของได้ ตอนนี้คนบริษัทเราเหลือน้อยต้องช่วยๆกัน เมธมีอะไรก็แนะนำนางหน่อยก็แล้วกันนะ” ศรันย์ตัดบทยิ้ม
พุฒิเมธจำต้องพยักหน้า เหล่ไปทางบุญสิตาสงสัยว่าจะไหวไหมเนี่ย
บุญสิตายิ้มแห้งๆแหยๆให้อย่างพยายามให้ความมั่นใจ ทั้งที่ตัวเองไม่มั่นใจเลย
ooooooo
ลุงบุญลือขับรถตู้ไปก็ฮัมเพลงอารมณ์ดีไป บุญสิตาแซวว่าอารมณ์ดีจัง ถูกหวยหรือ ลุงบุญลือหัวเราะร่วนบอกว่าแค่เลขท้ายนิดหน่อย
“โชคดีจังนะคะ เห็นลุงอารมณ์ดีมีความสุขตลอดเวลาหนูอิจฉาจัง ดูลุงไม่เครียดเลย”
ลุงบุญลือบอกว่าตนเป็นคนขี้ลืมเลยลืมความเครียด ปรารภว่าแต่ช่วงนี้เจอแต่เรื่องแย่ๆเหมือนกัน ได้ยินว่าหนูขายประกันใช่ไหม ตนเพิ่งซื้อมา เสียดายไม่ได้ซื้อกับหนู
“ซื้อเพิ่มก็ได้นะคะ จะได้เพิ่มความคุ้มครองมากขึ้น เดี๋ยวหนูจะให้เพื่อนแนะนำโปรดีๆให้ค่ะ”
“อยู่ในเวลางาน แต่กลับมาหารายได้พิเศษ แทนที่จะ ใส่ใจกับงานที่จะทำ แล้วนี่รู้รึยังว่างานผู้จัดการต้องทำอะไรบ้าง” พุฒิเมธที่นั่งอยู่เบาะแรกหันมาตำหนิจนบุญสิตาหน้าจ๋อย ถามว่าตนต้องทำอะไรบ้าง
“ก็ดูแลผม ใส่ใจผม ให้ความสนใจกับผม...เริ่มจากเช็กความเรียบร้อย เสื้อผ้าหน้าผมของผมว่าเรียบร้อยดีรึยัง ผมต้องเป๊ะตลอดเวลา”
บุญสิตาพยักหน้ารับ ก็ถูกดุว่านั่งนิ่งทำไมปฏิบัติสิ เธอรีบรับคำลุกขึ้นจัดเสื้อผ้า จัดผมให้ ทำให้หน้าใกล้กันมากจนเขินแต่ต้องฝืนใจทำเพราะเป็นหน้าที่ ในขณะที่พุฒิเมธแอบมองยิ้มชอบใจที่เรียกความสนใจจากเธอได้ นึกสนุกสั่งเป็นชุด...
“ซับหน้าให้ผมด้วย ถ้าถึงที่สตู คุณก็ต้องอยู่ใกล้ๆผม คอยดูแลความเรียบร้อยให้ผม หาน้ำให้ผม ห้ามห่างจากตัวผมเด็ดขาด เข้าใจไหม”
“ค่ะๆ”
บุญสิตามองทุกส่วนบนใบหน้าพุฒิเมธอย่างใกล้ชิดแล้วแอบใจหวิว เมธแกล้งถามว่าเขินตนหรือ ตนหล่อ ล่ะสิ เธอบอกว่าแชมป์ลูกลุงบุญยังน่ารักกว่าเขาอีก รถเบรกกะทันหันทำให้ทั้งสองเสียการทรงตัว บุญสิตาล้มทับบนร่างพุฒิเมธ เธอรีบเด้งตัวออกมาอย่างเร็ว
ลุงบุญลือขอโทษบอกว่าถูกมอเตอร์ไซค์ตัดหน้า บุญสิตาเลยบอกให้พุฒิเมธซับหน้าต่อเองแล้วกัน พุฒิเมธยิ้มขำๆบอกลุงบุญลือว่า
“ไม่เป็นไรลุง ผมโอเค”
เมื่อไปถึงสตูดิโอ บุญสิตาถือกระเป๋า ข้าวของเสื้อผ้าของพุฒิเมธพะรุงพะรังเดินตามเขาไป พุฒิเมธเดินไปก็สั่งงานไปไม่หยุดปาก
“ระหว่างที่ผมถ่ายแบบ คุณก็นั่งรอที่เซต คอยดูแลความเรียบร้อยและรับโทรศัพท์ให้ผม ถ้าผมเรียก คุณก็ต้องเข้ามาหาทันที ถ้าผมหิวน้ำ คุณก็ต้องเอามาให้ เข้าใจไหม”
บุญสิตาตื่นตาตื่นใจกับนายแบบนางแบบในสตู เดินไปมองไปจนลืมดูทาง เลยชนพุฒิเมธเข้าอย่างจังข้าวของหล่นกระจาย เขามองเซ็งๆ พึมพำ...รอดไหมเนี่ย ...บุญสิตารีบขอโทษ ก็ถูกดุว่า
“ช่วยตั้งสตินิดนึง เดี๋ยวผมจะไปแต่งตัว คุณก็อย่าปล่อยไก่แถวนี้ล่ะ”
พุฒิเมธสั่งแล้วเดินไปเลย บุญสิตายังตื่นเต้นมองไปรอบๆ ทำอะไรไม่ถูก ทันใดนั้นณฤทธิ์ปรากฏตัวถามว่า ตื่นเต้นเหรอ
“หายไปไหนมาตั้งนาน มาช่วยฉันเลยนะ ฉันต้องทำอะไรบ้าง”
“ไม่ยากหรอก เดี๋ยวช่วยบอกให้” ณฤทธิ์พูดสบายๆ ในขณะที่บุญสิตาเครียดทำอะไรไม่ถูก
ooooooo
พอออกจากสตูแรก พุฒิเมธก็ตะโกนบอกลุงบุญลือให้ไปสตูสามสองต่อ บุญสิตาตกใจถามว่ายังไม่หมดอีกหรือ เขาบอกว่ายังเหลืออีกงาน
คราวนี้ได้มืออาชีพอย่างณฤทธิ์คอยแนะนำทำให้บุญสิตาหายเครียด แต่ก็ยังไม่ถูกใจพุฒิเมธเขาสั่งซับหน้าให้ตนอย่าให้มีความมันบนใบหน้าแม้แต่นิดเดียว สั่งให้เช็ดเบาๆเดี๋ยวหน้าตนช้ำ บุญสิตาหมั่นไส้แอบค้อน พอดีซาร่ามาเห็น ยุเจนนี่ว่าดูท่าเธอจะมีคู่แข่งเสียแล้ว
เจนนี่แกล้งเข้าไปขัดจังหวะบอกพุฒิเมธว่าผู้กำกับเรียก พอเขาไปบุญสิตาจะตามเธอก็เรียกไว้ บอกว่าตนเป็นคนในบริษัทเหมือนกันมาดูแลตนด้วย ณฤทธิ์ที่รู้เช่นเห็นชาติเจนนี่เตือนบุญสิตาให้ระวัง เจนนี่สั่งบุญสิตาให้ผูกเชือกรองเท้าให้ ณฤทธิ์บอกว่าไม่ต้องทำ แต่บุญสิตาก้มลงทำแล้ว ถูกเจนนี่แกล้งทำแก้วน้ำบนโต๊ะหกใส่แล้วทำเป็นขอโทษบอกให้ไปเช็ดตัวให้เรียบร้อยแล้วฝากเอาเสื้อผ้าของตนที่ห้องแต่งตัวกลับบริษัทด้วย บุญสิตารับคำทำให้ทุกอย่าง
“ถ้าเป็นฉัน เธอเจอดีแน่ นังน้ำปั่น” ณฤทธิ์ได้แต่พึมพำแค้นแทน
เมื่อเจอกันที่ทางเดินในสตูดิโอ ณฤทธิ์ถามว่ารู้ว่าเจนนี่แกล้งแล้วเธอยอมได้ยังไง เสื้อผ้าพวกนี้มีทีมงานคอยส่งไปให้ที่บริษัทอยู่แล้ว บุญสิตาบอกว่าตนมาทำงานวันแรกก็ไม่อยากให้มีเรื่อง ยิ้มโลกสวยบอกว่า
“อากาศร้อน เจอน้ำก็เย็นดีเหมือนกัน ส่วนเสื้อพวกนี้ฉันก็ว่างอยู่พอดีด้วย ดีกว่าอยู่เฉยๆนะ”
“การเป็นคนดีกับคนโง่มันมีเส้นบางๆกั้นนิดเดียวจริงๆ ฉันบอกไม่ถูกเลยว่าเธอเป็นแบบไหน”
บุญสิตายิ้มแห้งๆกับคำด่าเนียนๆ แบกของพะรุงพะรังทุลักทุเลเดินตามพุฒิเมธไป ทันใดนั้นเธอเห็นแท่งเหล็กที่เป็นอุปกรณ์ประกอบฉากกำลังจะล้มทับลุงบุญลือ เธอทิ้งของกระโดดไปผลักลุงบุญลือออก
ลุงบุญลือรอดแต่บุญสิตาล้มไปกับพื้นเนื้อตัวเลอะเทอะ พุฒิเมธวิ่งไปดูบุญสิตาถามว่าเป็นไงบ้าง ณฤทธิ์ก็วิ่งเข้าไปดูห่างๆ แทนที่บุญสิตาจะห่วงตัวเองกลับถามว่าลุงเป็นไงบ้าง พอรู้ว่าไม่เป็นไรก็โล่งใจ
พุฒิเมธพาบุญสิตาเข้าห้องแต่งตัวโดยมีวิญญาณณฤทธิ์ตามไปด้วยถามบุญสิตาพร้อมกันว่า เธอไม่เป็นไรแน่นะ เธอบอกว่าไม่เป็นไร พุฒิเมธจึงเอากระดาษทิชชูเปียกจากกระเป๋าเช็ดฝุ่นให้ตามตัว ส่วนเสื้อผ้าก็เอาเสื้อเชิ้ตของตัวเองให้เปลี่ยนไปก่อน เดี๋ยวตนจะไปบอกทีมงานก่อน บุญสิตาจึงเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
“น้องชายฉันน่ารักเหมือนกันนะเนี่ย” วิญญาณณฤทธิ์ชมแล้วตามบุญสิตาเข้าไป
ระหว่างอยู่ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้านั่นเอง ซาร่ากับเจนนี่เดินคุยกันมาเรื่องที่เจนนี่พยายามจะหันมาจับพุฒิเมธอีกครั้งหลังจากเลิกไปเพราะรู้ว่าเขาเป็นเพียงลูกบุญธรรมของสมบัติ แต่เธออ้างว่าตอนนั้นที่เลิกเพราะถูกมาร์คกีดกัน แต่ตอนนี้มาร์คตายไปแล้วตนจะทำอะไรก็ได้ไม่ต้องห่วงตุ๊ดปากจัดนั่นอีก
ณฤทธิ์ปรี๊ดแตกเข้าสิงร่างบุญสิตาออกไปจัดการเจนนี่ทันที ด่าแล้วบอกว่าต่อให้มาร์คไม่ตายพุฒิเมธก็มีสิทธิ์ได้สมบัติทุกอย่าง นิสัยอย่างเธออย่าหวังเลยว่าเมธจะชอบ ประกาศในร่างบุญสิตาว่า
“ตราบใดที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ เธอไม่มีทางงาบเมธไปได้เด็ดขาด ฉันจะขวางให้ถึงที่สุด”
เจนนี่ด่าบุญสิตาว่าให้ท่าและอ่อยเมธหวังแย่งเมธไป ตนไม่มีทางยกเมธให้เด็ดขาด บุญสิตาถามว่าเธอจะทำอะไร สาดน้ำใส่เหมือนก่อนหน้านี้หรือ พลางหันไป คว้าแก้วน้ำแถวนั้นสาดใส่เจนนี่ทันที ปรามสำทับว่า
“นี่สำหรับที่แกทำกับซินเมื่อกี้ นินทามาร์คกับเมธลับหลัง”
ขณะสองสาวกำลังพันตูกัน พุฒิเมธกลับมาพอดีรีบเข้าไปห้ามเลยโดนลูกหลงสาดน้ำใส่เข้าไปเต็มๆ พอพุฒิเมธเปียกทั้งสองจึงหยุดต่างยิ้มแห้งๆ กลัวโดนดุ
ทันใดนั้นเอง ทีมงานวิ่งหน้าตื่นเข้ามาบอกว่านักข่าวมากันเต็มสตูเลย!
“อะไรกันอีกวะเนี่ย” พุฒิเมธหงุดหงิด
ooooooo
ศรันย์เห็นนักข่าวมาก็ตกใจว่านักข่าวรู้ได้ยังไงต้องมีคนไปบอกแน่ๆ จัสตินบอกว่าให้รีบโทร.ไปหาเมธก่อน ศรันย์โทร.แล้วเมธไม่รับสาย กังวลว่าเมธจะทำยังไงยิ่งปล่อยไปกับยัยซินด้วย
เวลาเดียวกัน กันต์กับวัฒน์ที่จะมาซื้อบริษัทกำลังนั่งจิบกาแฟคุยกันอยู่ กันต์บอกว่าตอนนี้พวกนักข่าวก็คงรุมต้อนเมธกันน่าดู วิธีนี้คงช่วยดิสเครดิตลดความน่าเชื่อถือของบริษัทได้ ลูกค้าจะได้เห็นว่าผู้บริหารที่จะเข้ามาไร้คุณภาพขนาดไหน
“ผมจะรอดูผลก็แล้วกัน ถ้าผมซื้อบริษัทนี้ได้เมื่อไหร่ ผมจะตอบแทนคุณงามๆเลย” วัฒน์อ่อย กันต์ยิ้มอย่างมีความหวังว่าแผนของตนจะสำเร็จพร้อมผลประโยชน์ก้อนโต
พุฒิเมธ เจนนี่และบุญสิตาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว แอบดู ข้างนอกเห็นนักข่าวอยู่เต็มทางออก เจนนี่ถามว่า แล้วเราจะออกไปยังไง บุญสิตาเชื่อว่านักข่าวต้องถามเรื่องบริษัทแน่ๆ
อ่านละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ตอนที่ 6 วันที่ 10 ก.พ.61
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ บทประพันธ์โดย : ติณณาละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ บทโทรทัศน์โดย : ตฤณณา
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ กำกับการแสดงโดย : กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ที่มา ไทยรัฐ