อ่านละคร เงินปากผี ตอนที่ 5 วันที่ 4 ก.พ.61
“เกี่ยวสิ...เกี่ยวหรือไม่เกี่ยวก็ลองถามนังพินทุอรดู”มาลินทิ้งท้ายแบบกวนประสาทเพราะทุกอย่างเป็นไปตามแผน ผีจากหุ่นของจูหยวนปลอมตัวเป็นเลี้ยง ทำร้ายทุกคนในบ้านเสริมเมื่อคืนจนแทบไม่มีใครได้นอน ทั้งวันพุธและพินทุอรจำใบหน้าถมึงทึงของผีร้ายได้ดี และยืนยันกับพ่อและแม่บ้านเก่าแก่ว่าผีตนนั้นหน้าเหมือนคนในรูปถ่ายไม่มีผิด!
วันพุธเชื่อสนิทว่าผีที่ทำร้ายคนในบ้านคือเลี้ยง แค้นใจมากจนต้องไปปรึกษาทศกับธงชาติที่วัด แต่สองหนุ่มเพื่อนสนิทยังไม่ตื่น หลวงตาอ่ำเลยเสนอตัวให้คำปรึกษาแทน แถมดักคออย่างรู้ทัน
“ผีมีจริงหรือไม่จริง ไม่ใช่สิ่งสำคัญหรอกพ่อหนุ่ม”
พูดพลางหยิบน้ำชามาจิบ ไม่ยี่หระท่าทางตกตะลึงของวันพุธ
“หลวงตา...ทราบ”
“เป็นสิ่งที่พ่อหนุ่มสงสัยอยู่มิใช่เหรอ”
“ครับ...ผมไม่เคยเชื่อเลยว่าผีมีจริง แต่เมื่อคืนมีสิ่งแปลกๆเกิดขึ้นที่บ้าน ผม...ผมเห็น...ผมไม่แน่ใจ”
ท่าทางอึกอักของวันพุธทำให้หลวงตาอ่ำนึกเมตตา อยากเตือนสติให้เปิดใจ
“ถ้าหลวงตาบอกว่าชานี้ขม พ่อหนุ่มจะเชื่อไหม... พ่อหนุ่มก็ไม่เชื่อใช่ไหม เพราะพ่อหนุ่มยังไม่ได้ชิม”
“แต่นี่ผีนะครับ ไม่ใช่น้ำชา...ผมจะได้ชิมได้”
“ถ้าพ่อหนุ่มชิม...อาจจะบอกว่าไม่ขม แต่หลวงตาบอกว่าขม เหมือนพ่อหนุ่มบอกว่าผีไม่มีจริง หลวงตาบอกว่ามีจริง พ่อหนุ่มบอกว่าผีน่ากลัว แต่หลวงตาว่าไม่น่ากลัว”
“ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีครับ”
“พ่อหนุ่มเคยฝันไหม”
“เคยสิครับ...ทุกคนก็เคยฝันกันทั้งนั้น”
“เวลาฝัน...เราควบคุมจิตเราได้ไหม...คนเรา ประกอบด้วยกายกับจิต เมื่อเราตาย...กายเราเปื่อยเน่า จิตอยู่ไม่ได้ก็ล่องลอยไปตามกระแสกรรม แต่ถึงตอนนั้นเราไม่เรียกว่าจิต...เรากลับเรียกว่าวิญญาณหรือผี”
ooooooo
ตันได้ยินวันพุธกับหลวงตาอ่ำคุยเรื่องผีก็ ขวัญผวา วิ่งไปบอกทศกับธงชาติซึ่งเพิ่งตื่น สองลูกศิษย์วัดกลัวความลับเรื่องขโมยเงินปากผีจะแตก รีบแจ้นไปหาหลวงตาที่กุฏิ
วันพุธไม่ได้คิดถึงเพื่อนสนิททั้งสองเลย แต่คิดถึงใบหน้าของเลี้ยงที่ทำร้ายคนในครอบครัวเมื่อคืนก่อน
“ทำไมผีมีอิทธิฤทธิ์ ทำสิ่งที่คนทั่วไปทำไม่ได้ล่ะครับ”
“เพราะจิตหรือวิญญาณไม่มีสังขารคอยควบคุมสกัดกั้นไงล่ะ อยากทำอะไรก็ทำได้ เหมือนพ่อหนุ่มอยากไปเชียงใหม่ ตัวพ่อหนุ่มยังอยู่ที่นี่ แต่จิตของพ่อหนุ่มไปถึงเชียงใหม่แล้ว...จริงไหมล่ะ”
“พอเข้าใจครับ ถ้าจิตอยากทำอะไรก็ทำได้เลย เหมือนผีก็สามารถมีอิทธิฤทธิ์ได้ แล้วผีทำไมต้องดุร้ายล่ะครับ”
“เพราะดวงจิตเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ฝึกฝนให้ตนเองดุร้ายอยู่แล้ว ตายไปเป็นผี เคยเป็นยังไงก็เป็นยังงั้น พ่อหนุ่มเคยทะเลาะกับเพื่อนไหมล่ะ”
วันพุธพยักหน้า “เคยครับ”
“เราทำให้เพื่อนโกรธ เพื่อนก็เลยโมโหเอากะเรา ดุร้ายกะเรา พ่อหนุ่มลองย้อนถามตัวเองดูซิว่าพ่อหนุ่มไปทำอะไรให้ผีโกรธถึงต้องอาฆาตจองเวรพ่อหนุ่มล่ะ”
ธงชาติกับทศมาถึงกุฏิพอดี หลวงตาอ่ำขอตัวแต่ไม่วายทิ้งท้ายให้คิด
“อย่าลืมนึกทบทวนล่ะว่าพ่อหนุ่มไปทำอะไรให้ผีเขาโกรธอาฆาตพยาบาท”
วันพุธนิ่วหน้าคิดตาม แต่ไม่ทันได้เรื่อง ธงชาติกับทศที่ร้อนตัวเรื่องขโมยเงินปากผีก็โวยวาย วันพุธรำคาญ รับปากแบบขอไปทีจะไม่บอกใคร ก่อนจะผละไปดื้อๆ เพราะเป็นห่วงพ่อกับคนในบ้าน
มาลินฉวยจังหวะตอนวันพุธไม่อยู่ ใช้ว่านกาหลงที่ได้จากจูหยวนทำเสน่ห์ใส่เสริม โดยเอากิ่งมาคนในน้ำและเอาให้กิน ก่อนจะทดสอบฤทธิ์เดชของมันด้วยการกระซิบสั่งให้เสริมไล่อุไรออกจากห้อง
อุไรตะลึงมากที่เห็นท่าทีเกรี้ยวกราดของเสริม มั่นใจว่าเขาต้องโดนของจากมาลิน เพราะสีหน้าหมองคล้ำ แววตาว่างเปล่าและเหม่อลอย แต่ยังไม่มีหลักฐาน เลยต้องปล่อยเขาไว้กับมาลินในห้อง
มาลินสะใจมาก ทันทีที่ลับร่างแม่บ้านเก่าแก่คู่กัด ก็หันไปถามเสริมยิ้มๆ
“รักฉันมากเหรอคะคุณพี่”
“รัก...รักมาก”
“รักลินก็ต้องเชื่อลิน...รับปากได้ไหมล่ะว่าจะฟังลินคนเดียวเท่านั้น!”
จูหยวนหัวเราะชอบใจเมื่อรู้ว่าว่านกาหลงได้ผลดี ยุรีหมั่นไส้มาลินที่แวะเวียนมาหาผัวของตนไม่ขาด โพล่งบอกเรื่องบ้านเสริมมีของดีซ่อนอยู่ ของขลังของซินแสจึงถูกทำลายเสมอ
มาลินคิดว่าเป็นอุไรที่รู้ทันเธอแทบทุกเรื่อง แต่จูหยวนส่ายหน้าบอกไม่ใช่
“คนที่ชื่ออุไรแค่สนใจคาถาอาคมเท่านั้น ไม่ได้เชี่ยวชาญไสยเวท”
“ถ้างั้นมันจะเป็นใครกันล่ะคะ หรือว่าไอ้วันพุธ ไอ้นี่มันไม่กลัวผีเลยนะคะ มันกล้าตีรูปของไอ้ผีเลี้ยงจนแตกละเอียด มันกล้าท้าทายมากเลยค่ะ”
“เด็กคนนี้จิตแข็ง ผีตนไหนๆก็ทำร้ายมันไม่ได้”
จูหยวนคิดจะใช้ประโยชน์จากจิตแข็งแกร่งของวันพุธ บอกให้มาลินแสร้งทำดีกับลูกเลี้ยงหนุ่ม มาลินโวยวายเพราะเกลียดลูกเลี้ยงทั้งสองเข้าไส้ จูหยวนต้องอธิบายเหตุผลและแผนการ
“จิตเด็กคนนี้แข็งมาก บางทีมันอาจจะเป็นคนปราบไอ้ผีเลี้ยงให้เราก็ได้”
“แต่มันไม่เชื่อว่าผีมีจริงนะคะ ทั้งๆที่มันเจอผีไม่รู้กี่ครั้งกี่หน มันก็ยังไม่เชื่อเลยค่ะ”
“ทำให้มันเชื่อสิ...ให้มันโกรธเกลียดไอ้เลี้ยง แล้วทำร้ายไอ้เลี้ยงแทนเรา”
“จริงด้วยค่ะ แหม...แผนของซินแสนี่ล้ำลึกจริงๆ”
ooooooo
อาการของเสริมหนักข้อและชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่าถูกของ แต่วันพุธกับพินทุอรยังไม่เชื่อ รุ้งแก้วที่แวะมาหาสองพี่น้องเป็นกังวลมาก พร่ำเรียกชื่อเลี้ยงในใจตลอด อยากให้เขาปรากฏตัวเพื่อถามความจริง
แต่จนแล้วจนรอด เลี้ยงก็ไม่แสดงสัญญาณว่าได้ยินเสียงเรียกของรุ้งแก้ว และไม่รับรู้ว่าทุกคนในบ้านเสริมจะตกในอันตรายอีกครั้ง...เมื่อมาลินเอากวง ผีในขวดแก้วของจูหยวนมาปล่อยในบ้าน
“หลอกมัน! เอาให้มันบ้าไปเลย อย่าลืมทำให้มันเข้าใจผิดด้วยล่ะ ทำอย่างที่ซินแสนายแกบอกมาน่ะ”
แผนของมาลินคือส่งกวงไปป่วนและหลอกคนในบ้าน และนำหุ่นปั้นจากดินป่าช้าของจูหยวนมาทำพิธี แทงเข็มลงไปเพื่อสร้างความเจ็บปวดแสนสาหัส อุไรโดนของเป็นคนแรก ร้องไห้ทุรนทุราย ก่อนโก่งคออาเจียนมาเป็นลิ่มเลือดสีดำ วันพุธกับพินทุอรตกใจมาก แล้วถึงกับสะดุ้ง เมื่ออุไรโพล่งออกมาเป็นเสียงผู้ชาย
“มันไม่ได้เป็นอะไรหรอก ข้ากินตับไตไส้พุงมัน เลือดมันก็เลยออก”
กวงนัั่นเองที่เข้าสิงร่างของอุไร ก่อนจะผละออกมาและทำให้วันพุธเห็นว่าเป็นใบหน้าของเลี้ยง
“มึงอีกแล้วเหรอ...มึงเป็นใครกันแน่ มึงเป็นผีหรือคน มึงจะเอายังไงกับกู...มาสิ...กูไม่กลัวมึงหรอก”
พินทุอรมองหน้าพี่ชายงงๆเพราะไม่ได้เห็นด้วย ก่อนผวาสุดตัวเมื่ออุไรโพล่งออกมาเป็นเสียงผู้ชายอีกครั้ง
“ข้าชื่อเลี้ยง ข้าจะฆ่าทุกคนในบ้านนี้ ข้าไม่ได้ชื่ออุไร ข้าชื่อเลี้ยง...กูจะฆ่าทุกคนในบ้านนี้!”
ขู่จบกวงก็ออกจากร่างอุไร และทำให้วันพุธเห็นว่าเป็นใบหน้าของผีเลี้ยงอีกครั้ง วันพุธโกรธมาก กลับเข้าห้องไปหยิบเหรียญเงินมาดู พลางคิดถึงคำพูดทิ้งท้ายของหลวงตาอ่ำที่ว่าเขาอาจเคยทำให้ผีแค้นเคือง
“โกรธฉันหรือว่าอยากได้เหรียญคืน ถึงมาจองเวรจองกรรมกันยังงี้...ไอ้ผีบ้า!”
กวงแอบตามเข้าไปจะทำร้ายวันพุธ แต่ประกายสีเงินจากเหรียญก็ทำให้กลัวผละหนี วันพุธไม่รู้เรื่อง มัวคิดหนักเรื่องเหรียญและตัดสินใจจะเอาไปคืนที่บ้านร้าง แต่ถูกทศกับธงชาติขัดขวางไว้ โดยอ้างว่าติดต่อคนซื้อเหรียญไว้แล้ว หากวันพุธนำไปคืนหรือบอกหลวงตาเรื่องนี้ คงเดือดร้อนกันหมด...
อ่านละคร เงินปากผี ตอนที่ 5 วันที่ 4 ก.พ.61
ละครเรื่องเงินปากผี บทประพันธ์โดย ประดิษฐ์ กัลย์จาฤกละครเรื่องเงินปากผี บทโทรทัศน์โดย ภาคย์รพี
ละครเรื่องเงินปากผี กำกับการแสดงโดย บรรจง สินธนมงคลกุล
ละครเรื่องเงินปากผี ผลิตโดย บริษัท กันตนา เอฟ โวลูชั่น จำกัด
ละครเรื่องเงินปากผี ออกอากาศ ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ทีมา ไทยรัฐ