อ่านละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ตอนที่ 12 วันที่ 25 ก.พ.61

อ่านละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ตอนที่ 12 วันที่ 25 ก.พ.61

ทันใดนั้น ฟ้าผ่าเปรี้ยง! วิญญาณณฤทธิ์รีบผลักพุฒิเมธออกหลุดแอ๊บด่าเสียงแมนๆ

“ไอ้บ้า นี่ฉันเป็นพี่แกนะเว้ย”

ทันใดวิญญาณณฤทธิ์ก็ออกจากร่างบุญสิตา เธอเซล้มหมดสติไปทันที พุฒิเมธรีบเข้าประคองท่ามกลางเสียงฟ้าผ่าเป็นระยะ

พุฒิเมธรู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรลงไปพยายามขอโทษบุญสิตา แต่เธอถูกวิญญาณณฤทธิ์สิงจำอะไรไม่ได้คิดว่าเขาขอโทษที่เผลอสัมผัสมือ เลยบอกว่าเป็นเรื่องธรรมดา ตนโดนเป็นประจำ พุฒิเมธถามงงๆปนตกใจว่าโดนเป็นประจำหรือ ชินแล้วหรือ



วิญญาณณฤทธิ์ที่เป็นตัวการรู้เรื่องนี้ดี เห็นท่าจะไม่ดีเลยบอกให้บุญสิตาคุยเรื่องอื่นกันเถอะ บอกว่าเราอยู่กลางป่านะตนพาเธอมาเดินเล่น บุญสิตาถามพุฒิเมธว่าฝนตกหนักขนาดนี้แล้วเราจะกลับยังไง

“ฝนคงตกทั้งคืน สัญญาณโทรศัพท์ก็ไม่มี จะให้ใครมารับก็ไม่ได้ เราคงต้องนอนที่นี่”

“คะ?! ต้องอยู่ที่นี่ด้วยกันทั้งคืน!”

“อืม...จะตกใจอะไร เรื่องเมื่อกี๊เธอยังไม่ถือเลย”

บุญสิตาหน้าเครียดแต่ก็เข้าใจว่าเป็นเหตุสุดวิสัย

เจนนี่โทรศัพท์หาซาร่า โวยวายว่าวันนี้พวกที่บริษัทไปพักร้อนกัน เมธกับซินก็ไปด้วย พ่อของมาร์คก็ไป ทุกคนไปกันหมด ตนเลยอยากตามไป ชวนซาร่าไปเป็นเพื่อน ซาร่าไม่ขัดข้อง กันต์ที่ถูกณฤทธิ์ใช้บุญสิตาขู่เรื่องพ่อของมาร์คนัดนักธุรกิจมาคุยก็ร้อนใจ ทำทีอาสาขับรถพาสองสาวไป

รุ่งเช้าทุกคนที่ไร่สดชื่นกับอากาศดีๆ แต่แล้วก็ตกใจเมื่อเอมาบอกว่าซินหายไป จัสตินบอกว่าเมธก็หายไปเหมือนกัน ดนุดลตกใจว่าหรือสองคนจะหายไปด้วยกัน

“สองคนคงไม่ได้มีซัมติ้งกันหรอกนะ”

“ไม่จริง!” เจนนี่มาได้ยินพอดีร้องอย่างรับไม่ได้ “คนอย่างเมธไม่มีทางคิดอะไรกับยัยซินหรอก”

“พวกเราเปลี่ยนใจอยากมาเที่ยวด้วย” ซาร่าแก้เกี้ยว

“ผมเลยอาสาขับรถมาให้” กันต์รีบหาข้ออ้างแล้วถาม “แล้วคุณพ่ออยู่ไหนเหรอ”

“แล้วเมธอยู่ไหน” เจนนี่ถาม ซันก็ถามหาพี่สาวตนด้วยความเป็นห่วง

ที่กลางป่า พุฒิเมธกับซินที่นั่งหลังพิงกันหลับ ตื่นขึ้นตอนเช้าต่างก็งัวเงีย พอหันหน้ามองกันก็ตกใจ

บุญสิตารีบชวนกลับกันเพราะทุกคนคงเป็นห่วงแย่แล้ว

เมื่อกลับมาเจอเจนนี่ ซาร่ากับกันต์ เจนนี่ถลาเข้าหาเมธดีใจสุดๆ เขาถามงงๆว่ามาได้ไงเนี่ย?

“เจนนี่มาหาเมธไงคะ” เจนนี่ฉอเลาะ

“พอดีมีธุระอยากคุยกับพ่อมาร์คน่ะ” กันต์อ้าง

“แล้วนี่ทำอะไรอยู่กับซินคะ” ซาร่าจงใจแซะ

“คุยธุระค่ะ แต่เสร็จแล้ว ยังไงฉันขอไปหาซันก่อนนะคะ”

บุญสิตาเดินเลี่ยงไป ถูกซาร่าขัดขาจนล้มแต่เธอก็รีบลุกเดินออกไป ณฤทธิ์อยู่อีกมุมหนึ่งมองซาร่า

แค้นแทนบุญสิตา เดินตามเธอไปถามว่าเจ็บมากไหม ถ้าตนเข้าร่างเธอเมื่อไหร่จะล้างแค้นให้เอง

“ไม่ต้องหรอก ฉันไม่เป็นอะไร” ณฤทธิ์ถามแซวๆว่าเมื่อคืนนอนหลับฝันดีไหม “เพราะฝีมือคุณเอาร่างฉันไปโผล่กลางป่าจนฉันกลับไม่ได้”

“ซิน...มาคุยกันก่อน” กันต์เดินเข้ามาขัดจังหวะ ซินถามว่ามีอะไร “คุณต้องการจะเล่นอะไรกับผมกันแน่ ถึงได้หลอกผมให้มาที่นี่”

บุญสิตางงเพราะไม่รู้เรื่องจริงๆ กันต์บอกอย่างเอาเรื่องว่า ตนถามรันแล้ว พ่อมาร์คไม่ได้นัดใครมาคุยเรื่องหุ้น ถามว่า “คุณทำแบบนี้ต้องการอะไร”

วิญญาณณฤทธิ์บอกบุญสิตาว่าตนหลอกให้มันมาเองแหละ และให้เล่นตามน้ำไปว่าเพราะคิดถึงอยากเที่ยวกับมัน บุญสิตาลังเล เขารบเร้า “พูดไปเถอะ พูดเสียงอ้อนๆด้วยนะ”

บุญสิตาตกใจจำต้องทำตาม แต่พอพูดไป ถูกกันต์ย้อนถามว่าคิดว่าตนเชื่อหรือ เธอตัดบทว่าไม่เชื่อก็แล้วแต่ กันต์ไม่ทันพูดอะไรเห็นไผ่ถืออุปกรณ์ทำสวนเดินผ่านมาก็ตกใจ แต่ทำเป็นไม่รู้จักกัน ไผ่รีบเดินเลี่ยงไป

ณฤทธิ์รู้สึกถึงความผิดปกติของทั้งสอง บอกบุญสิตาว่าเดี๋ยวมา แล้วเดินตามไผ่ไป ไผ่เดินหน้าเครียดมา ณฤทธิ์ยิ่งมองก็ยิ่งสงสัยว่า

“แกเป็นใครกันแน่ ทำไมฉันคิดไม่ออก”

ครู่หนึ่งไผ่เอาโทรศัพท์มาโทร.ออก ณฤทธิ์ลุ้นว่าไผ่จะโทร.หาใคร แต่ไผ่โทร.ไม่ติด ณฤทธิ์ได้แต่เซ็งที่ทำอะไรไม่ได้

ooooooo

ที่มุมสวยงามในไร่ พุฒิเมธถูกศรันย์กับจัสตินซักไซ้จับผิดกันอยู่ ศรันย์ถามว่าตกลงสองคนหายไปไหน กันมา พุฒิเมธบอกว่าหลงไปติดฝนอยู่ในไร่แล้วก็เผลอหลับ

“แค่นั้นจริงๆเหรอ” จัสตินถามจับผิด พุฒิเมธปรามว่าไม่ต้องมองแบบนั้นเลย ไม่มีอะไรจริงๆ

เมื่อพุฒิเมธเดินเลี่ยงสองคนมา ก็เจอกับสมบัติและวรรณนา ทั้งสองถามว่าเป็นอะไรทำไมทำหน้าแบบนี้ วรรณนาถามว่าตกลงหายไปกับหนูซินจริงหรือเปล่า

พุฒิเมธรับว่าไปด้วยกันแต่ไม่มีอะไรเสียหายอย่างที่ทุกคนคิด สมบัติถามดักคอแซวๆว่า

“ถ้าจะให้พ่อไปสู่ขอให้เมื่อไหร่ก็บอกนะ” เขาย้อนถามว่าจะขอได้ไงยังไม่ได้คบกันเลย สมบัติแซวอย่างไฟเขียวเต็มที่ว่า “ไม่เป็นไร งานเลี้ยงคืนนี้ยังมีโอกาสทำคะแนน”

ทั้งพุฒิเมธและวรรณนาต่างอยากรู้ว่าใครชนะ แต่สมบัติอำไว้ไม่ยอมบอกให้รอคืนนี้ก่อน

ปาร์ตี้คืนนี้จัดเลี้ยงแบบคาวบอย เมื่อได้เวลาสมบัติเดินไปหน้าเวทีประกาศผลการแข่งขันท่ามกลางความตื่นเต้นของทุกคน แต่พอประกาศออกมายังความแปลกใจผิดหวังแก่ทุกคนอย่างมาก เพราะผู้ที่ชนะคือซิน ณฤทธิ์เองก็ยังงงว่าเป็นไปได้ยังไง

เพื่อความโปร่งใสสมบัติจึงเปิดคลิปการตัดสินให้ดู ตามกติกาการแข่งขันที่ว่า “วัดกันที่เสียง เรียงตามความดังเสียงกรี๊ด จากที่ไม่ร้องไม่กลัว จนใครที่ร้องดังที่สุด คนนั้นจะแต้มน้อยที่สุด”

เมื่อเปิดคลิปดู ปรากฎว่าทุกคนอ่อนเปลี้ยเป็นลมและร้องเสียงหลงตกใจกัน มีแต่บุญสิตาคนเดียวที่ไม่ร้องสักแอะเดียวเพราะเป็นลมไปก่อน จึงเป็นผู้ชนะ

“แบบนี้ก็มีด้วย” ศรันย์โวย

สมบัติบอกว่าถูกต้องแล้วเพราะซินมีเสียงร้องน้อยที่สุด วรรณนาบอกซินว่าจะสั่งอะไรทุกคนก็สั่งได้เลย

ซินที่ยังงงๆบอกว่าตนไม่รู้จะขออะไร ซันเลยจะขอแทน จัสตินรีบเบรกว่าไม่ต้อง บุญสิตาจึงขอให้ทุกคนกลับไปดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย

ณฤทธิ์ขัดคอว่าให้พรทั้งที สั่งอย่างอื่นที่ตื่นเต้นหน่อยสิ บุญสิตาจึงขอใหม่ว่า ให้ทุกคนสามารถขอพรจากใครก็ได้คนละ 1 ข้อ สมบัติแถมอีก 1 ของขวัญพิเศษสำหรับทุกคนคือสมาชิกฟิตเนส 1 ปีทำงานไปด้วยออกกำลังกายไปด้วยจะได้แข็งแรง และทำงานบริษัทอย่างมีประสิทธิภาพ

“คืนนี้ ขอให้ทุกคนปาร์ตี้กันอย่างสนุกสนานนะจ๊ะ” วรรณนาเอ่ยแล้วกลับไปนั่งที่โต๊ะกับสมบัติ

ส่วนบรรดาหนุ่มสาวต่างก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นคาวบอยกัน บุญสิตามีกิ๊บน่ารักติดผมด้วย

ooooooo

บุญสิตาถามณฤทธิ์ว่าอยากเข้าร่างตนไปสนุกสนานกับครอบครัวกับเพื่อนๆไหม ณฤทธิ์บอกว่าดีเหมือนกันจะได้ไปปั่นหัวกันต์ซะหน่อย เธอเตือนว่าถ้าเอาร่างตนไปทำอะไรแปลกๆอีกก็จะไม่ให้ยืมร่างแล้ว

บุญสิตาเตือนให้ระวังกันต์จะหาทางคุยเรื่องหุ้นกับคุณพ่อเขาด้วยเพราะกันต์มาครั้งนี้เพื่อจะคุยเรื่องนี้โดยเฉพาะ

เมื่อกันต์ ซาร่ากับเจนนี่มาถึงก็ไปขอนั่งร่วมโต๊ะกับสมบัติ ทักถามกันคำสองคำแล้วกันต์ขอปรึกษาเรื่องหุ้นแต่พอกันต์พูดก็ถูกพุฒิเมธขัดว่ายังไม่เลิกพูดเรื่องนี้หรือ ยังไงคุณพ่อท่านก็ไม่ขายหรอก แต่กันต์ก็ยังหาโอกาสพูดอีก เลยถูกบุญสิตาติงว่าอย่าคุยเรื่องเครียดเรื่องงานเลย เรามาพักผ่อน มากินของอร่อยๆกันดีกว่า

วิญญาณณฤทธิ์ในร่างบุญสิตาเข้าไปแทรกขัดจังหวะจนกันต์ไม่มีโอกาสพูดเรื่องหุ้นเลย

เมื่อบุญสิตาจะไปเอาอาหารมาเสิร์ฟจึงแกล้งชวนกันต์ให้ไปช่วยถือหวังยั่วให้ซาร่าหึง กันต์ไปกับบุญสิตาเขาต่อว่าเธอที่ขัดไม่ให้เขาพูดเรื่องหุ้นถามว่าเธอทำแบบนี้เพื่ออะไร เธอตั้งหลักไม่ทันตอบอึกๆอักๆว่าแค่อยากเรียกร้องความสนใจ แต่ที่ได้ผลทันตาคือซาร่าตามไปหึงกันต์จนเอาซ่าหริ่มและน้ำแดงสาดกันเลอะเทอะ

บุญสิตาสาดน้ำแดงใส่ซาร่าแล้วประกาศปรามก่อนเดินออกไปว่า

“นี่สำหรับที่แกแกล้งฉันเมื่อตอนกลางวัน และถ้าไม่อยากเละแบบนี้อีกก็อยู่นิ่งๆ สงบปากสงบคำซะ”

ตกกลางคืน ทุกคนก็มานอนเรียงกันดูดาวอย่างมีความสุข พลันบุญสิตาก็เห็นกันต์เดินลับๆล่อๆมา จึงบอกพรรคพวกว่าจะไปเข้าห้องน้ำแล้วลุกตามกันต์ไป

ที่แท้กันต์นัดพบกับไผ่ บุญสิตาแอบฟังใจระทึก ได้ยินกันต์ด่าไผ่ว่าประเทศออกกว้างขวางทำไมต้องหนีมาหลบอยู่ที่นี่ ซ้ำยังเสนอหน้ามาให้พวกเขาเห็นอีก ไม่รู้หรือว่าตำรวจกำลังตามจับตัวอยู่ ไผ่บอกว่าถ้าได้เงินจากเขาตนก็จะไปจากที่นี่ทันที

กันต์หยิบเงินส่งให้ ไผ่บอกว่าตนแค่ยืมมีแล้วจะเอามาคืน

“ไม่ต้อง แค่แกไม่ต้องโผล่หัวมาให้เห็นหน้าอีก ก็พอ”

“ส่วนเรื่องคดีไม่ต้องห่วง ถึงผมโดนจับก็ไม่มีทางสาวถึงคุณได้หรอก ทุกคนเข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุไม่มีใครคิดหรอกว่าคุณเป็นคนฆ่าคุณมาร์ค”

บุญสิตาชาไปหมดทั้งตัวเมื่อรู้ความจริงนี้ ภาพความจำกลับมาให้เห็นอีกครั้ง...

วันนั้น...ณฤทธิ์นอนอยู่ในรถเลือดท่วมตัว เขาเห็นเท้าคนหนึ่งเดินมาที่กระจกรถเพื่อมองณฤทธิ์ในรถ ชายคนนั้นพูดโทรศัพท์กับใครบางคนที่ณฤทธิ์ได้ยินแต่เสียงว่า

“ผมทำตามที่สั่งเรียบร้อยแล้ว...ผมกลัว”

ณฤทธิ์พยายามลืมตาดูคนที่ขับรถชนตัวเอง เห็นชายคนนั้นคือไผ่แค่ไม่กี่วินาทีก็หมดสติไป

ooooooo

บุญสิตาตกใจจนเผลอเหยียบกิ่งไม้หักเสียงดัง กันต์หันขวับถาม “ใครน่ะ” พริบตานั้นมีมือมาดึงเธอหลบไป เธอตกใจหันมองจึงเห็นว่าเป็นพุฒิเมธ จะร้องก็ถูกมือปิดปากไว้แน่น

ไผ่เดินมาบริเวณที่เกิดเสียงมองไปรอบๆ บอกกันต์ว่าไม่มีอะไร กันต์จึงบอกให้แยกย้ายกันกลับ แต่พอกันต์เดินไปก็เห็นกิ๊บติดผมของบุญสิตาหล่นอยู่

เขาหยิบขึ้นมาดูแปลกใจ แต่ไม่รู้ว่าเป็นของใคร

บุญสิตาถามพุฒิเมธว่ามาได้ยังไง เขาไม่ตอบแต่จ้องหน้าเธออย่างพินิจพิจารณาจนเธอถามว่าจ้องหน้าตนทำไม เขายังคงจ้องหน้าเธอนิ่งก่อนตัดสินใจถามอย่างมั่นใจว่า

“มาอยู่ในร่างซินได้ยังไง เฮีย!” ถามอย่างคาดคั้น “มันเกิดอะไรขึ้นเล่าความจริงมาเถอะ”

บุญสิตาอึ้งที่พุฒิเมธรู้เรื่องราวระหว่างตนกับวิญญาณณฤทธิ์ จึงตัดสินใจเล่าความจริงทั้งหมดให้เขาฟัง พุฒิเมธฟังแล้วบอกว่าถ้าไม่ได้ยินจากปากเธอจริงๆก็ไม่อยากเชื่อ

“แล้วคุณรู้ความจริงเรื่องนี้ได้ยังไง” บุญสิตาเป็นฝ่ายถามเขาอย่างสงสัยมาก

พุฒิเมธจึงเล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้เขาสะกดรอยตามเธอไป เห็นเธอเดินคุยกับใครบางคนแต่เขาไม่เห็นตัว แต่จากการพูดของบุญสิตาเองที่ว่า “คุณอยากเข้าร่างฉันไปสนุกสนานกับครอบครัว กับเพื่อนๆคุณไหม” แล้วยังเตือนเรื่องกันต์จะคุยเรื่องหุ้นกับสมบัติด้วย สุดท้ายปรามว่า

“แล้วก็ถ้าเอาร่างฉันไปที่ไหน ทำอะไรแปลกๆอีกฉันจะไม่ให้ยืมร่างแล้วนะคุณมาร์ค”

นาทีที่ณฤทธิ์เข้าสิงร่างบุญสิตานั้น เธอก็กลายเป็นอีกคนไปทันที พุฒิเมธอึ้ง เพ่งมองอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลย

ทั้งสิ่งที่ตัวเองเห็นและที่ฟังบุญสิตาเล่า พุฒิเมธพูดอย่างอัศจรรย์ใจว่า

“ผมไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เลยสังเกตท่าทางซิน ตอนอยู่ในงานเลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นการกิน ก็เป็นเฮียไปหมด ผมเลยคิดย้อนถึงตอนที่เจอซินครั้งแรก จนผมเริ่มมั่นใจ ผมก็เลยตามเฮียมา จนได้ยินเรื่องที่กันต์พูด”

“มันฆ่าฉัน ฉันต้องลากมันเข้าคุกให้ได้” วิญญาณณฤทธิ์ในร่างบุญสิตาแค้น พุฒิเมธถามว่าตกลงเป็นเฮียจริงๆหรือ “เออสิ...จะให้ย้ำไหมว่าแกมีไฝกี่เม็ดที่ไหนบ้าง..”

ณฤทธิ์ในร่างบุญสิตาสาธยายรายละเอียดของพุฒิเมธจนเขาบอกพอแล้วเชื่อแล้ว ณฤทธิ์ย้ำว่าเวลาซินทำอะไรแปลกๆก็คือเฮีย พุฒิเมธทำหน้าพะอืดพะอมถามว่าแล้วที่ตนจูบเมื่อวานล่ะ? ณฤทธิ์บอกว่า

“ก็ฉันอยากได้น้องสะใภ้คนนี้นี่ ฉันอยากให้นางมีชีวิตที่ดี”

“เรื่องนั้นผมจะช่วยเฮียเอง” พุฒิเมธยิ้มอย่างถูกใจ แล้วถามจริงจังว่า “แล้วเรื่องกันต์เราจะเอายังไงดี”

ณฤทธิ์บอกว่าตนจะลากมันเข้าคุกให้ได้ พุฒิเมธบอกว่าตนจะหาทางช่วยเฮียเอง

รุ่งขึ้นเมื่อทุกคนเดินทางกลับ ณฤทธิ์ขออยู่ต่อเพื่อจะสืบให้ได้ว่าไผ่อยู่ที่ไหนเพื่อนำตำรวจไปจับให้ได้

จากความพยายามของจัสตินและศรันย์ทำให้ซันเห็นความจริงใจของทั้งสองจึงตกลงเซ็นสัญญาเป็นนายแบบกับบริษัท ยังความยินดีแก่ทุกคนมาก

วิญญาณณฤทธิ์ตามไผ่ไปถึงโรงพยาบาลจึงรู้ว่าลูกสาววัย 7 ขวบของไผ่ที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเจ้าหญิงนิทรา โดยมีป้าของไผ่ดูแลอยู่ ได้ยินไผ่คุยกับป้าสำนึกผิดที่ตนทำกับณฤทธิ์แต่ไม่กล้ามอบตัวเพราะเป็นห่วงลูก อยากอยู่กับลูกให้นานที่สุดแม้จะรู้ว่าลูกไม่รอดแล้วก็ตาม

เมื่อกลับมาเล่าให้บุญสิตาฟังแล้ว เขาบอกเธอว่า “ฉันทำไม่ลงหรอก” บุญสิตาเองก็สงสารจึงปรึกษากับพุฒิเมธว่าจะทำยังไงดี บุญสิตาเสนอว่าเราควรจัดการกับตัวการที่สั่งให้เขาทำมากกว่า ซึ่งณฤทธิ์เห็นด้วย

ooooooo

กันต์กลับมานั่งดูกิ๊บที่เก็บได้ ซาร่าจำได้ว่าเป็นของบุญสิตาก็หึงจนกันต์บอกให้เธอกลับไปก่อนตนขออยู่คนเดียวสักพัก เมื่อซาร่ากลับไปเขาจึงโทรศัพท์หาทรายอ้างว่าจะนัดมาสัมภาษณ์เรื่องงาน แต่ที่แท้ต้องการสืบเรื่องบุญสิตาว่าสนิทสนมกับมาร์คเจ้านายคนเก่าของบริษัทได้ยังไง

“ยัยนั่นเหรอสนิทกับคุณมาร์ค...ไม่มีทางหรอกค่ะ ยัยนั่นวันๆทำแต่งานไม่มีทางรู้จักไฮโซหรอก”

ทรายถามว่าทำไมเขาจึงสนใจเรื่องซิน ไม่เห็นถามเรื่องตนเลย กันต์แถว่าช่วงนี้ตนกำลังตรวจสอบประวัติพนักงาน ส่วนเรื่องสัญญากับเธอนั้นต้องเข้าที่ประชุมก่อน ตนจะดูแลให้อย่างดี มีอะไรจะรีบส่งข่าว แล้วมอบครีมบำรุง เครื่องสำอางให้ ปากหวานว่า “สำหรับว่าที่นางแบบครับ” เพียงเท่านี้ทรายก็ปลื้มแล้ว

บุญสิตากลับมาแล้วก็โทรศัพท์คุยกับแนนซี่ แนนซี่ถามทันทีว่าความลับที่ตนทำนายคือเรื่องกันต์กับเรื่องคุณเมธรู้ความจริงว่าคุณมาร์คสิงร่างเธอใช่ไหม แล้วเรื่องความรักเธอกับคุณเมธล่ะ ตนบอกมาไม่รู้กี่ครั้งแล้วว่าดวงเธอกับเขาคู่กัน แล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยจริงๆหรือ

บุญสิตาเล่าว่าดูท่าทางเมธก็พยายามจะบอกอะไรหลายครั้งแต่ก็มีเหตุให้ไม่ได้พูด และตนก็พยายามเลี่ยงด้วย เพราะเจอเรื่องแบบนี้ตนก็ตื่นเต้น เขิน ไม่รู้จะยังไง พึมพำว่า

“แล้วเขาก็เป็นดารา หล่อมากด้วย แค่เห็นหน้าฉันก็เขินพูดอะไรไม่ออกแล้ว”

แต่แนนซี่มีวิธีไปแนะนำให้ที่บ้านเลยว่า ให้เอาภาพสแตนดี้พุฒิเมธขนาดเท่าตัวจริงไปไว้ที่ห้องนอน

เห็นหน้ากันทุกวันซ้อมพูดคุยเพื่อให้ชินจะกอดจะหอมด้วยก็ได้ แนะนำแล้วอวยพรขอให้ได้ขอให้โดนเร็วๆ

“ขอบใจมากนะ แต่ฉันขออยู่เฉยๆให้เป็นไปตามธรรมะจัดสรรดีกว่าจ้ะ”

“ไม่ได้ ธรรมะจัดสรรไม่ได้ เธอต้องจัดสรรตัวเอง พยายามเข้าหา ชวนคุย เชื่อฉันทำตามที่ฉันบอก แล้วก็ไปดักรอเขา ไปอยู่ที่ที่จะต้องเจอเขา”

 รุ่งขึ้นบุญสิตาไปให้อาหารปลา เจอกับพุฒิเมธ เขาขอบคุณเธอที่คอยช่วยเหลือเฮีย มีอะไรให้ตนช่วยได้ก็ให้บอก

“คุณแค่ช่วยตักบาตรทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้พี่คุณบ่อยๆก็พอค่ะ ซื้อเสื้อผ้า ของอร่อยๆ พี่คุณน่ะไม่ค่อยได้เปลี่ยนชุดเลย”

“งั้นเหรอ” พุฒิเมธหัวเราะชอบใจ พอดีสมบัติเดินเข้ามา พุฒิเมธจึงหันไปทักทายพ่อเขินๆ “คุณพ่อมาบริษัท มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ”

“พอดีพ่อมีงานมาให้ ไม่สิ มาขอความช่วยเหลือมากกว่า”

ooooooo

เมื่อทุกคนเข้าห้องประชุมแล้ว สมบัติถามทุกคนว่าเคยได้ยินชื่อนาฬิกา ที–ไทม์ ไหม พุฒิเมธจำได้ว่าเป็นบริษัทของลุงธีมาเพื่อนคุณพ่อ

“ใช่...เพื่อนพ่อเขากำลังจะออกนาฬิกาใหม่ ฉลองครบรอบสามสิบปีของบริษัท คอนเซปต์ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ แล้วเขาเห็นพวกเราไปทำงานจิตอาสากันก็เลยอยากให้พวกเราไปเป็นแบบนาฬิกาให้น่ะ”

ศรันย์กับบุญสิตาตื่นเต้น แต่พุฒิเมธเห็นสมบัติทำหน้าเหมือนมีอะไรที่ยังพูดไม่หมด ถามว่าพ่อมีอะไรอีกหรือเปล่า สมบัติจึงบอกว่า

“ตอนที่เพื่อนบอกว่าจะให้พวกเราไปเป็นนายแบบให้ พ่อดีใจ เลยลืมตัวเผลออาสาจะเป็นแม่งานช่วยจัดงานฉลองครบรอบบริษัทให้เป็นการตอบแทน...พ่อก็โม้ไปเยอะ ว่าทีมเราเก่ง เด็กๆในบริษัทชอบจัดงานปาร์ตี้บ่อยๆ...ช่วยพ่อหน่อยนะ เพื่อนคนนี้เราช่วยเหลือธุรกิจกันมาหลายครั้งแล้ว...ก็ไม่ได้งานใหญ่อะไร งานเลี้ยงภายในบริษัทเฉยๆ”

อ่านละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ตอนที่ 12 วันที่ 25 ก.พ.61

ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ บทประพันธ์โดย : ติณณา
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ บทโทรทัศน์โดย : ตฤณณา
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ กำกับการแสดงโดย : กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ที่มา ไทยรัฐ