อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 11[ตอนอวสาน] วันที่ 10 ก.พ.61

อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 11[ตอนอวสาน] วันที่ 10 ก.พ.61

ในขณะที่ตรึงจิต ธานีและขวดทะเลาะกันเองอยู่ในห้องขัง โดยมีนกขมิ้นคอยห้ามทัพ แต่ไม่วายเหน็บแนมไปยังแสงเดือนและล้วน ทำให้เกิดการทะเลาะข้ามห้องขังเสียงดังล้งเล้งไปหมด ตำรวจต้องตะเบ็งเสียงห้าม แล้วบอกให้เตรียมพบญาติที่มาเยี่ยม...เจียง หลอ ดำเกิงและไหมฟ้าถือบะหมี่และน้ำเข้ามาฝาก ทุกคนได้กินอย่างเอร็ดอร่อย ตรึงจิตเริ่มสำนึกผิด ขอให้เจียงช่วยประกันตัว นกขมิ้นเสริม สัญญาจะกลับตัวเป็นคนดี จะไม่ทำเลวกับใครอีก

กลับมาบ้าน ดำเกิงค้านหัวชนฝาไม่ให้เจียงช่วยตรึงจิตกับนกขมิ้น กนกวิภาดุว่าเขาพูดแรงเกินไป ดำเกิงบ่นอุบที่ไม่เข้าข้างกัน หลอต้องบอกให้ทุกคนหยุดพูดก่อน ให้บัวเป็นคนตัดสินใจเพราะเป็นเจ้าทุกข์ เจียงถามความเห็นชยุติ เขาให้สิทธิ์บัว เจียงจึงบอกบัวว่า



“ไม่ต้องคิดมากนะอาบัว ป๊าไม่ได้บังคับ เพราะยังไงสิ่งที่พวกอีทำกับลื้อมันก็ผิดมาก แม้ว่าป๊าจะอยากให้ลื้อให้อภัย แต่ถ้าลื้อคิดว่าไม่ก็คือไม่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับลื้อนะอาบัว”

บัวรับคำ...ในคืนนั้น บัวนอนไม่หลับครุ่นคิดถึงคำพูดของเจียง ชยุติเองก็นอนไม่หลับครุ่นคิดถึงคำพูดของบัวประกอบกับคำพูดของเจียงเช่นกัน

ooooooo

เช้าวันใหม่ จี๊ด จ๊าดและชูดวงนั่งเซ็งที่บ้านดูเงียบเหงาไม่คึกคักเหมือนตอนที่ชยุติกลับจากเมืองนอกใหม่ๆ วลีก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้องไม่ยอมกินข้าว ระหว่างนั้นบัวแอบฟังอยู่นาน รู้สึกว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ จึงตัดสินใจเข้ามาหาทั้งสามคน และขอยกอาหารขึ้นไปให้วลีเอง

วลีเข้ามานั่งในห้องชยุติ มองรูปอากงอาม่าที่ติดบนผนังด้วยแววตาเศร้าราวต้องการที่พึ่ง บัวยกอาหารเข้ามา วลีคิดว่าเป็นจ๊าดก็ไล่ให้ออกไป แต่พอเห็นว่าเป็นบัวก็ตกใจ...ที่หน้าบันได จี๊ด จ๊าดและชูดวงชะเง้อมอง ด้วยความแปลกใจที่ไม่มีเสียงโวยวายของวลี ผ่านไปสักพัก บัวถือถาดข้าวที่กินหมดแล้วลงมากับวลี ทั้งสามมองด้วยความประหลาดใจ แถมวลียังขอบใจบัว

บัวก้มหัวให้พร้อมกล่าว “แค่เห็นคุณวลีกินได้ บัวก็ดีใจแล้วค่ะ”

“หวังว่าเธอจะรีบทำตามสัญญา”

“ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันกลับก่อนนะคะ” บัวส่งถาดให้จี๊ดแล้วเดินออกไป

สามคนรับใช้งงเป็นไก่ตาแตกว่าวลีกับบัวตกลงอะไรกัน วลีถึงมีสีหน้าเป็นผู้ชนะ...บ่ายวันเดียวกัน

เจียง หลอและดำเกิงมาจัดการถอนแจ้งความ ตรึงจิต นกขมิ้น ธานีและขวดได้รับการปล่อยตัว แสงเดือนโวยวายในเมื่อเจ้าทุกข์ยอมความ ทำไมพวกตนไม่ได้รับการปล่อยตัว ตำรวจจาระไนว่า คดีนี้เจ้าทุกข์ยอมความแต่คดีฉ้อโกง เจ้าทุกข์ไม่ได้ยอมความ แสงเดือนกับยิ่งจันทร์ร้องกรี๊ด ล้วนลมจะใส่ เพราะคงติดคุกอีกนาน

ตรึงจิตและนกขมิ้นเข้ามาไหว้ขอบคุณเจียง สัญญาจะไม่ลืมบุญคุณ หลอบอกแค่ขอบคุณไม่พอ พวกเธอต้องทำมากกว่านี้ ธานีกับขวดมองเจียงด้วยสายตาขอบคุณ และรู้สึกขยาดไปด้วย

ทั้งสี่คนถูกให้มานั่งพนมมือสาบานต่อหน้าศาลเจ้า พูดตามคำของดำเกิง กนกวิภากับไหมฟ้าช่วยจุดธูปแจก ทั้งสี่คนว่าตามไม่อิดออดแม้จะสาบานให้ตายโหงถ้าคิดร้ายอีกก็ยอม

“เอาล่ะพวกลื้อลุกขึ้นได้ ต่อไปนี้ขอให้พวกลื้อทำตามที่ได้สาบานเอาไว้ อย่าเอาตัวไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งไม่ดีอีก และขอให้รักกัน อย่าทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก” เจียงกำชับ

เสร็จพิธี ดำเกิงไล่ให้ธานีกับขวดกลับ แต่ธานีขอพูดอะไรสักนิด เขาสำนึกผิดที่ทำไม่ดีกับเจียงไว้มากแต่เจียงยังมีแก่ใจช่วยเหลือ จึงขอให้เจียงอโหสิกรรมให้ แล้วหันมาขอจากไหมฟ้าด้วย เจียงยินดีและบอกให้ไหมฟ้าอโหสิกรรมด้วย

ooooooo

บัวชวนชยุติมาพักที่บ้านริมทะเลของมาลัยอีกครั้ง เธอมองซองเอกสารในมือด้วยแววตาเศร้าหมอง ค่อยๆดึงเอกสารออกมาดู เป็นเอกสารการหย่าและไม่ขอรับสินสมรส บัวคิดถึงที่คุยกับวลี เธอเป็นคนยื่นข้อเสนอนี้กับวลีเอง วลียังถามย้ำว่าจะทำได้จริงหรือ

“ค่ะ บัวตัดสินใจดีแล้ว ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะบัว เพราะฉะนั้นมันก็ควรจะจบที่บัว”

“ทำไม เธอไม่เสียดายเหรอ ตาติลูกฉันทั้งหล่อ ทั้งรวย มีพร้อมทุกอย่าง ทั้งเกียรติยศชื่อเสียง เงินทอง ผู้หญิงมีแต่จ้องจะจับตาติให้อยู่หมัด เธอโชคดีได้ตาติมาอยู่ในมือแล้ว จู่ๆคิดจะปล่อยไปง่ายๆอย่างนี้น่ะเหรอ”

“บัวรักคุณติ ไม่ใช่เพราะชื่อเสียงหรือเงินทอง แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมา คุณติได้พิสูจน์ให้บัวเห็นแล้วว่าคุณติรักบัวด้วยหัวใจของเขา การได้ครองหัวใจของผู้ชายคนหนึ่งที่เรารักเขาสุดหัวใจ มันก็เพียงพอสำหรับบัวแล้วค่ะ ไม่จำเป็นต้องได้ครอบครองตัว หรือสมบัติใดๆของเขาทั้งนั้น...”

วลีอึ้งแต่ยังใจแข็งไม่ยอมเชื่อ “เธอรักตาติมากเหรอ?”

“คุณติคือหัวใจของบัวค่ะ เขาสุขบัวก็สุข เขาทุกข์บัวก็ทุกข์ เพราะฉะนั้นถ้าบัวสามารถทำให้เขามีความสุขได้ แม้จะไม่ต้องอยู่เคียงข้างกัน บัวยินดีค่ะ”

วลีถามย้ำว่าบัวยอมหย่าและไม่ขอรับสินสมรส บัวรับคำ วลีจึงจัดเตรียมเอกสารเพื่อให้บัวทำอย่างไรก็ได้ให้ชยุติเซ็นให้ได้ บัวมั่นใจว่าเขาดื้อไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะตนตัดสินใจแล้ว

บัวมองเอกสารในมือน้ำตารื้น ชยุติเข้ามากอดทางด้านหลัง เธอรีบเก็บเอกสาร เขาเห็นแววตาเธอก็รีบถามว่าร้องไห้ทำไม บัวฝืนยิ้มปฏิเสธไม่ได้ร้อง แต่ชยุติไม่เชื่อ

“บัว...ผมรักคุณนะและเราก็แต่งงานกันแล้ว คุณมีอะไรคุณต้องบอกผมสิ”

“คุณรักฉันใช่ไหมคะคุณติ?” บัวตัดสินใจเริ่มเรื่อง

“ผมรักคุณที่สุด อย่างที่ผมเคยบอก คุณคือหัวใจของผม”

“งั้น...ถ้าฉันขออะไรคุณ คุณก็จะทำใช่ไหมคะ”

“ถ้าสิ่งนั้นทำให้คุณมีความสุข และคุณยิ้มได้ ผมทำได้ทุกอย่าง”

“เราหย่ากันนะคะ...” บัวพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

ชยุติตกใจย้อนถามว่าพูดอะไรรู้ตัวบ้างไหม

บัวย้ำว่าตนมีสติดี และตนไตร่ตรองแล้วว่า ชีวิตตนกับเขามีความสุขดีตอนที่เรายังไม่เจอกัน ชยุติแทรกถาม ตอนนี้ไม่มีความสุขหรือ

“แต่คนรอบข้างของเราทุกข์นะคะ โดยเฉพาะครอบครัวของคุณ อาม้าของคุณ แม่ยังไงก็คือแม่... เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ถ้าจะต้องเลือกตัดใครสักคนออกจากชีวิต เพื่อยุติปัญหาทุกอย่าง มันก็ควรจะเป็นฉันค่ะ ไม่ใช่อาม้าของคุณ...”

ชยุติเสียใจคิดว่าวลีบังคับบัว แต่บัวยืนยันว่าไม่มีใครบังคับ ตนเห็นว่าทางนี้เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว เราควรกลับไปที่จุดเริ่มต้น ต่างไปมีชีวิตของตัวเอง ชยุติไม่ยอมหย่า บัวถอนใจยื่นซองเอกสารให้เขาบอกว่า ตนเซ็นชื่อเรียบร้อยแล้วพร้อมเซ็นไม่รับสินสมรสใดๆ เขาจะลงชื่อเมื่อไหร่ก็ได้ ว่าแล้วบัวก็รีบเดินออกจากบ้านทั้งน้ำตาพรั่งพรู

ชยุติไม่ยอม ตามออกมาคว้าตัวบัวไว้ ขอร้องให้สู้กันต่อไป มันต้องไม่จบแบบนี้ ทันใดเสียงวลีดังขึ้นว่า จบแบบนี้ถูกแล้ว...ทั้งสองตกใจหันมอง เห็นวลีกับไชโย วลีถามบัวจะไปไหน เธอตอบว่าได้ทำตามสัญญาแล้วก็จะไปตามทางของตน

“อย่าเพิ่งไป...ตาติ เอาเอกสารมาให้ม้า...”

ชยุติหน้าเสีย ไชโยเข้าไปดึงซองจากมือชยุติมาส่งให้วลี ชยุติโวยว่าทำแบบนี้ทำไม เมื่อไหร่จะเข้าใจว่าตนรักบัว  ไชโยสวนว่าเข้าใจ ป๊ากับม้าเข้าใจทุกอย่าง ...วลีก้าวเข้าไปหาบัว

“ขอบใจที่เธอทำตามสัญญา”

ดำเกิงกับกนกวิภาประคองเจียงเดินเข้ามา บัวตกใจมากันทำไม เจียงยิ้มบอกบัวว่ามาเป็นพยาน วลีย้ำว่าตนกับไชโยต้องการพยาน ชยุติโวยว่าจะทำอะไรกันอีก วลีชูเอกสารการหย่าขึ้น

“เมื่อทุกคนมาพร้อม ใบหย่ากับสัญญานี่คงไม่จำเป็นอีกแล้ว...” วลีฉีกเอกสารทิ้ง กุมมือบัวขึ้นมา

“บัว เธอได้พิสูจน์ให้ฉันเห็นแล้วจริงๆ ว่าตาติเลือกผู้หญิงไม่ผิด เธอไม่ได้รวยเงินทอง แต่หัวใจของเธอเต็มเปี่ยมไปด้วยความดีงาม ฉันขอโทษที่เคยมองเธอผิดไป เคยทำเรื่องร้ายๆกับเธอมากมาย ให้อภัยฉันได้ไหม”

บัวน้ำตารินอย่างห้ามไม่อยู่ ไชโยเข้ามาขอให้อภัยให้ตนด้วย บัวพูดไม่ออก โผเข้ากอดวลีร้องไห้ด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ คนอื่นๆมองด้วยความยินดีตื้นตัน ภาพความอบอุ่นของครอบครัวได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ท่ามกลางแสงอาทิตย์อัสดง

ooooooo

เมื่อทุกอย่างลงเอยด้วยดี เหลืออีกเรื่องที่วลีสำนึกผิด เธอเข้ามานั่งร้องไห้ในห้องมาลัย ไชโย ชยุติและกนกวิภามตามเข้ามาปลอบ  ไชโยบอกถ้ารู้ว่าผิดก็ควรไปพาอาม่ากลับมา แต่วลีกลัวมาลัยโกรธเกลียด กนกวิภาบอก คนเป็นแม่ให้อภัยลูกได้เสมอ เหมือนที่อาม้าให้อภัยตน

รุ่งเช้า ชยุติมาหามาลัยที่บ้านพักคนชรา พาเธอออกมาขึ้นรถโดยบอกว่าจะพาไปดูงิ้ว มาลัยดีใจเพราะไม่ได้ดูนานแล้ว...พอมาถึงโรงงิ้ว วลัยประคองมาลัยเดินมาทักเจียง หลอและดำเกิงที่กำลังช่วยกันจัดที่ทางเพื่อการแสดง ชยุติเห็นวลี ไชโยและกนกวิภาเดินมาก็รีบบอกมาลัยว่ามีคนอยากเจอ มาลัยหันมองเห็นวลีก็หันหลังจะกลับ วลีรีบเข้ามาคุกเข่าตรงหน้า ยกมือไหว้

“อาม้าคะ หนูขอโทษ...ที่ทำให้เสียใจผิดหวัง ขอโทษที่เป็นลูกอกตัญญู ทำให้ม้าเหนื่อยใจ ทำร้ายความรู้สึกของอาม้า...หนูมันบาปหนาเหลือเกิน หนูไม่สมควรเกิดเป็นลูกม้าเลย”

ไชโยเข้ามากราบขอโทษอีกคน มาลัยปลงตกบอกบ้านพักคนชราก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร วลีขอให้มาลัยกลับมาอยู่บ้าน ขอให้ตนได้ดูแล มาลัยกล่าวอย่างจริงใจ

“อั๊วเคยบอกลื้อแล้วไงวลี อั๊วเป็นอาม้าของลื้อ อะไรที่ทำให้ลูกมีความสุขได้ อั๊วก็จะทำ...ต่อให้ลูกทำผิดพลาด หรือทำให้แม่ต้องเสียใจหนักหนาขนาดไหนก็ตาม แต่คนเป็นแม่ย่อมให้อภัยลูกได้เสมอ”

วลีร้องไห้โฮ “ม้า...หนูรู้รสชาติของการถูกทอดทิ้งแล้วว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน หนูได้รับบทเรียนครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตแล้วม้า”

ทุกคนปลื้มปริ่มกับความเข้าใจกันด้วยดีของคนในครอบครัว...จ๊าดเดินหน้าเศร้าเข้ามายกมือไหว้ขอโทษทุกคนที่ทำไม่ดีเอาไว้ จี๊ดแอบสมน้ำหน้า มาลัยกับบัวยกโทษให้ จ๊าดดีใจยกใหญ่

กนกวิภาช่วยดำเกิงทำบะหมี่มาเสิร์ฟให้ทุกคน มาลัยเห็นแล้วทึ่งที่หลานสาวเปลี่ยนไปมาก ชยุติบอกความรักเปลี่ยนโลกได้ทั้งใบ...วลีสะกิดมาลัยบอกงิ้วกำลังเริ่มแสดง ตนตั้งใจจัดให้โดยเฉพาะ มาลัยยิ้มรับ เสียงดนตรีประโคมโหมโรง บัว ไหมฟ้า ตรึงจิตและนกขมิ้นแสดงอย่างสวยงาม มาลัย วลี ไชโยและทุกคนเฝ้าดูอย่างตื่นตาตื่นใจ ยอมรับว่าเป็นการแสดงที่ดีจริงๆ...

หลายวันผ่านไป กนกวิภาช่วยดำเกิงทำบะหมี่ขายและเป็นคนเก็บเงินทั้งหมด ดำเกิงโอดโอย เธอก็บอกว่าจะเก็บเงินไว้เป็นค่าสินสอด ดำเกิงจึงหุบปากไม่กล้าบ่นอีกต่อไป

ด้านชยุติกับบัว มารำลึกความหลังที่บ้านพักริมทะเล ตักตวงความสุขที่หายไป ทั้งสองยืนมองแสงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้า บัวถามขึ้นว่าเขารักตนเพราะอะไร ชยุติบอกเพราะเธอน่ารัก

“เอาจริงๆสิคะ ฉันอยากรู้ว่าผู้หญิงธรรมดาอย่างฉัน เอาชนะใจผู้ชายที่มีผู้หญิงดีๆมาให้เลือกมากมายอย่างคุณได้ยังไง”

“ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าเพราะอะไร แต่พอรู้ตัวอีกทีก็รักไปแล้ว คุณรู้ไหมบัวว่าคุณเป็นรักแรกของผมนะ...  รักแรกที่ผมไม่เคยลืมเลย ตอนเรียนอยู่ที่ฟิลิปปินส์ ผมมีผู้หญิงเข้ามาให้คบหาเยอะแยะเลยนะ แต่ก็ไม่รู้สึกดีกับใครเลย เพราะในหัวของผมมีภาพของเด็กผู้หญิงที่เถียงกับผมเรื่องไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนติดอยู่ตลอดเวลา”

“แต่ตอนคุณไป ไม่เห็นมาลา ปล่อยฉันคอยเก้อ”

“คุณคงรอแย่เลย...”

“ก็รอจนถึงตอนนี้ไงคะ”

ชยุติดีใจที่เขาเป็นรักแรกของบัว บัวยอมรับว่าเป็นรักแรกและรักสุดท้าย ชยุติโอบกอดบัว ประทับจูบอย่างอ่อนโยนก่อนจะอุ้มเข้าบ้านที่มีเพียงเขาและเธอเท่านั้น...

********อวสาน*********

อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 11[ตอนอวสาน] วันที่ 10 ก.พ.61

ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว บทประพันธ์โดย กราตร ศักตา
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว บทโทรทัศน์โดย ยิ่งยศ ปัญญา, สรรัตน์ จิรบวรวิสุทธิ์
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว กำกับการแสดงโดย ธนากร โปษยานนท์
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ผลิตโดย บริษัท ดู เอนเตอร์เทนเมนต์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ควบคุมการผลิตโดย ธัญญา-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ