อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 1 วันที่ 13 ก.พ.61
สิ้นคำการะเกด เธอก็โดนชายกำยำทั้งสองลากตัวลงหลุมที่มีไฟเดือดพล่าน เกศสุรางค์ตกใจร้องเสียงหลง ปลุกตัวเองให้ตื่นจากฝันเสียที...ช่วงเวลานั้น ร่างการะเกดที่เรือนออกญาโหราธิบดี ตาเหลือกหายใจเฮือกสิ้นลม ภาพความร้ายกาจของเธอปรากฏขึ้นในจิตสำนึก เสียงร่ายมนต์กฤษณะกาลียังดังก้อง ฟ้าร้อง ฟ้าผ่าน่ากลัว ผินกับแย้มหน้าตาตื่นกลัว ร้องไห้โฮปริกกลับมารายงานจำปาหน้าตาสมใจ ท้องฟ้าสว่างไสวขึ้นเหมือนฟ้าเปิด ออกญากับท่านหมื่นสวดจบ ท่านหมื่นกล่าวอย่างปลดปลง...เป็นนางจริงๆ ขอให้นางไปนรกเถิด
ขณะที่ผินกับแย้มร้องไห้เสียใจที่เจ้านายตาย กลัวก็กลัว ห่วงก็ห่วงกลัวตัวแมลงจะมาตอมศพ จึงช่วยกันจะเอามุ้งลง ทันใดร่างการะเกดลุกพรวดขึ้นนั่ง สองบ่าวหงายก้นจ้ำด้วยความตกใจ พนมมือไหว้ขอให้ไปที่ชอบๆ เถิดแม่นายการะเกด
“การะเกดเหรอ ฉันชื่อเกศสุรางค์นะ” เกศสุรางค์ก้มดูร่างตัวเอง เห็นสะโอดสะอง เอวบางร่างน้อยแขนขาเรียวงามก็ตกใจ “เฮ้ย! ใครเนี่ย โอย...ตื่นจากฝันเสียทีสิวะ”
“แม่นายท่าน อย่ามาหลอกหลอนบ่าวเลยเจ้าค่ะ ...บ่าวจักทำบุญไปให้นะเจ้าคะ”
“ไม่เอา...ไม่ต้อง...” เกศสุรางค์เสียงดัง ลุกไปหาผินกับแย้ม
ทั้งสองขยับหนีอย่างลนลาน พลันเสียงหมื่นสุนทรเทวาดังถามขึ้นว่าเป็นอะไร สองบ่าวพุ่งตัวมาเปิดประตู เห็นท่านออกญาและจำปายืนอยู่ด้วย เกศสุรางค์มองการแต่งกายของทั้งสามก็กลัวถอยร่นไปชิดผนัง ปากก็ร้องว่า อย่าเข้ามา ฉันสู้จริงๆด้วย...จำปาได้ฟังสำเนียงก็อุทานว่า
“วิปลาสไปแล้วแม่การะเกด”
“เฮ้ย! ไม่บ้า...แต่อยากตื่น ตื่นเสียที ฝันบ้าฝันบออะไรขนาดนี้” เกศสุรางค์ตบหน้าตัวเอง พอเห็นสามคนเดินเข้ามาหาอีกก็ร้องว่า “อย่าเข้ามา! พวกคุณเป็นใคร...ฉันจะกลับบ้าน อยู่ไม่ได้แล้วโว้ย” เธอถลกผ้าจีบหน้านางขึ้นสูง แล้วต้องตกใจกับการแต่งกายของตัวเอง
หมื่นสุนทรเทวามองอย่างจับผิด ออกญาโหราธิบดีพยายามปลอบให้หายตื่นกลัว แต่หญิงสาวยังโวยวาย ท่านหมื่นจึงให้บ่าวจับเธอไว้ เกศสุรางค์กลัวผ้าหลุดตะปบไว้แน่น แย้มกับผินขอร้องให้เลิกดิ้น แต่เธอยังกลัว คว้าผ้าคลุมเตียงมาคลุมตัวแล้วสะบัดวิ่งหนีออกจากห้อง จำปาร้องสั่งให้หยุด ท่านออกญาเสียงเข้มขึ้นว่า
“แม่จำปานั่นแหละหยุด เห็นหรือไม่ว่าเอาผิดนางไม่ได้ นาง...ไม่...ตาย”
วิ่งออกมาจากเรือนได้ เกศสุรางค์ต้องตะลึงเมื่อเห็นสภาพแวดล้อมทั้งบ้านเรือนและผู้คน บรรดาบ่าวไพร่ซุบซิบกันใหญ่ที่การะเกดไม่ตาย...เกศสุรางค์หันกลับมาถามว่าตนอยู่ที่ไหน
ออกญาเดินเข้าหา “ออเจ้าเป็นอันใดรึแม่การะเกด ไม่ใคร่สบายเหตุใดจึงไม่นอนพัก”
“ไม่ใช่ ฉันไม่ใช่การะเกด!”
จำปาถามสวนว่าผีสิงหรืออย่างไร ออกญาแย้งว่าเรือนเรามีสายสิญจน์ขึงรอบ ภูตผีปีศาจเก่งกาจแค่ไหนก็กล้ำกรายไม่ได้ เกศสุรางค์ปัดว่าตนไม่ใช่ผีสาง แล้วรู้สึกโหวงเหวงในท้อง หมื่นสุนทรเทวาสบตาเกศสุรางค์แล้วรู้สึกว่าสายตานั้นแปลกเปลี่ยนไป เธอพึมพำชี้ที่ตัวเอง
“หิวน่ะ...ข้า...ข้าหิวน้ำ”
จำปาเอ็ดว่าหิวก็กินไม่เห็นต้องทำให้ใครแตกตื่น เกศสุรางค์พยายามฟังการพูดของแต่ละคน ออกญาสั่งผินกับแย้มพานายของพวกเธอกลับห้อง ท่านหมื่นพูดด้วยน้ำเสียงรังเกียจ
“คงสบายดีแล้วกระมังขอรับคุณพ่อ กระโจนวิ่งสะบัดจนพวกบ่าวกระเด็นอย่างนี้ ป่วยน่ะอาจจะป่วยไม่จริงเสียก็ไม่รู้ได้”
เกศสุรางค์พยายามจับความหมายที่ท่านหมื่นพูด พอจะรู้สึกได้ว่าเขาเกลียดเจ้าของร่างนี้มาก เธอจะเดินกลับห้อง แต่เดินผิดทาง เสียงท่านหมื่นเอ็ดว่าไม่ใช่ทางนั้น เธอสะดุ้งแก้เก้อ
“เอ้า ยังอยู่อีก ก็จะไปพักไงคะ อย่างที่คุณพ่อของคุณบอก...ไปห้อง” ท่านหมื่นชี้ว่าทางโน้น “ทางโน้นน่ะทางไหน อ๋อ...เออจริง จำไม่ได้ เอ๊ย ยังไม่ได้จำ”
บ่าวไพร่พากันงง ท่านหมื่นก็แปลกใจ สงสัยกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของการะเกดมาก
ooooooo
หมื่นสุนทรเทวานั่งคุยกับออกญาโหราธิบดีถึงอาการที่แปลกไปของการะเกด ท่านหมื่นแน่ใจว่าการะเกดทำให้อีแดงตายจริง ถึงไม่ตายก็มีอาการสติวิปลาสจากมนต์กฤษณะกาลี
ด้านเกศสุรางค์นั่งตรึกตรองอยู่ในห้อง เริ่มมั่นใจแล้วว่านี่ไม่ใช่ความฝัน จึงสำรวจทรงผมและการแต่งตัวของผินกับแย้มที่คอยปรนนิบัติด้วยท่าทางสั่นกลัวทั้งคู่ เห็นทรงผมปีกตัดเกรียนลงน้ำมันจนเห็นขอบตั้ง สองข้างหูมีจอนผมยาว ข้างหลังผมสั้นแค่ต้นคอ ผิวคล้ำหน้าตาไทยแท้ ฟันดำเป็นมัน กินหมากจนปากมีสีแดงคล้ำ
หวนคิดถึงตอนอยู่บ้านกับแม่และยาย เธอมักจะเก็บมะม่วงมาจิ้มกะปิกิน ยายแปลกใจที่เก็บลูกอ่อนๆ มากินไม่กลัวเปรี้ยว แม่จะบอกยายว่าเธอไม่กลัว เกศสุรางค์อธิบายกับยายว่า กินเปรี้ยวจะได้ไม่อ้วนเดี๋ยวไม่สวย
ยายจะโอบกอด บอกว่าอ้วนแบบนี้สวยที่สุดสำหรับยายกอดได้เต็มไม้เต็มมือดี แล้วทุกคนก็หัวเราะไปด้วยกัน
เกศสุรางค์น้ำตาริน คิดถึงวันต่อมาที่ยายนวลฝันว่ามีคนมาเอาตัวหลานไป สิปางบอกว่าเรืองฤทธิ์มาพาหลานไปอยุธยา ยายส่ายหน้าไม่ใช่ แล้วยายก็พูดถึงที่หมอดูเคยดูว่า เกศสุรางค์จะอายุสั้น ถึงฆาตตอนอายุยี่สิบห้า สิปางไม่เชื่อ...แต่ตอนนี้เกศสุรางค์เชื่อแล้ว อยากบอกให้แม่กับยายรู้ว่า วิญญาณตนมาอยู่สมัยอยุธยา ตนมาอยู่ในร่างการะเกด มันช่างเหมือนเรื่องเพ้อเจ้อจริงๆ
เกศสุรางค์ลองหยิกแขนตัวเองแล้วร้องโอ๊ย ขึ้นมาด้วยความเจ็บ ผินกับแย้มสะดุ้งกลัวกอดกันกลม เกศสุรางค์ต้องเข้ามาใกล้ให้ทั้งสองจับตัวว่ายังอุ่น ไม่ใช่ผี ทั้งสองขยับหนี เธอโวย
“จะเอาอย่างนี้ใช่ไหม พูดให้รู้เรื่องกันบ้างสิ...เธอไม่สิ เอ็ง เอ็งสองคนชื่ออะไร”
สองบ่าวบอกชื่อแล้วไหว้ปลกๆ “เจ้าแม่อย่ามาหลอกหลอนบ่าวเลยนะเจ้าคะ”
“หลอกได้ไง ข้ายังไม่ตาย...”
“แม่นายท่านยังไม่ตายได้กระไรเจ้าคะ ยามนั้นตะวันดับกลางแจ้งราวกับเกิดอาเพศ บ่าวดูแล้วแม่นายไม่หายใจตั้งหลายเพลา...บ่าวกำลังจะไปแจ้งคุณหญิง แม่นายท่านถึงได้ขยับตัว”
เกศสุรางค์พยายามทำให้ผินกับแย้มเชื่อว่าตนไม่ใช่ผี แค่หลงลืม แล้วเธอก็เกิดอาการปวดปัสสาวะ จึงถามว่า “เรียกว่าอะไรนะที่จะไปฉี่เนี่ย”
“อ๋อ เว็จเจ้าค่ะ...ที่เยี่ยวที่ขี้เจ้าค่ะ”
“ขี้เยี่ยวตรงๆ โต้งๆเลยเหรอ เออดีเหมือนกัน มันส์ดี” เกศสุรางค์หลุดคำพูดยุคตัวเอง
ผินกับแย้มทำหน้างง พอดีเสียงเคลื่อนไหวที่นอกชาน สองบ่าวบอกว่าสงสัยท่านหมื่นจะมีแขก ได้ยินว่าหมื่นเรืองจะมาเยือน เกศสุรางค์หูผึ่ง อยากเห็นหน้าว่าชื่อนี้จะหน้าตาอย่างไร แต่ผินห้ามไปดูเพราะเป็นหญิงจะส่องผู้ชายไม่ได้...แย้มจะพาไปเว็จ เกศสุรางค์แอบขำกับคำพูดตรงๆของคนโบราณ ถ้าเป็นสมัยตนคงโดนยายตีปาก
แต่พอมาเห็นเว็จก็แทบทรุด เพราะเป็นเพียงหลุมที่ขุดไว้ มีไม้กระดานพาด มีพุ่มไม้ล้อมรอบ แย้มเตือนให้เดินระวัง ด้วยความที่ปวดหนัก เกศสุรางค์จำต้องปฏิบัติการณ์ตามคนโบราณ แต่พอเสร็จกิจก็ไม่รู้จะเอาอะไรเช็ด จึงร้องถามผินกับแย้มมีกระดาษไหม ทั้งสองงงจะเอาไปทำไม ผินกับแย้มจะเข้าไปหา เกศสุรางค์ร้องลั่น ...ไม่ต้อง พี่ผิน พี่แย้ม
สองสาวทำหน้าเหวอ เกศสุรางค์จึงถามปกติเรียกอะไร ทั้งสองบอกเรียกอีผิน อีแย้ม เธอส่ายหน้าขอเริ่มใหม่ เรียกพี่ผิน พี่แย้ม ทั้งสองยิ่งแปลกใจที่แม่นายลืมขนาดนี้...เมื่อไม่มีกระดาษ เกศสุรางค์จึงใช้ผ้านุ่งที่สวมมาเช็ด แล้วเดินโหย่งผ้าออกมาบอกสองบ่าวว่าจะต้องอาบน้ำเดี๋ยวนี้
สองบ่าวรีบเตรียมเครื่องของที่ต้องใช้เวลาอาบน้ำ มีทั้งมะขามเปียก ขมิ้น ไพล ผ้าถุงผ้าห่มเวลาเดินกลับ...
เกศสุรางค์แอบซักผ้าถุงตัวเองในน้ำ ถามผินกับแย้มว่า ปกติขับถ่ายเสร็จแล้วใช้อะไรเช็ด สองบ่าวตอบว่าใบไม้ เธอตาโพลง
“เหมือนที่เรียนมาเปี๊ยบ ใช้ใบไม้ ไม้ไผ่ แต่ผ้าถุงเช็ดสะอาดกว่านะพี่จ๋า แล้วก็ซักซะหน่อย...เอ ไม่หน่อยหรอก ซักแรงอย่างเงี้ย” ว่าแล้วก็ขยี้ผ้าถุงอย่างหนัก
ผินกับแย้มจะไปขัดตัวให้ เกศสุรางค์ร้องห้าม สองบ่าวไม่หยุดเพราะเป็นหน้าที่ เธอแอบบ่นว่าเหมือนที่เรียนมาอีกแล้ว ต้องขัดตัวด้วยขมิ้นจนตัวเหลืองอร่าม มะกรูดมีไว้สระผม
อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 1 วันที่ 13 ก.พ.61
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทประพันธ์โดย รอมแพงละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทโทรทัศน์โดย ศัลยา
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส กำกับการแสดงโดย ภวัต พนังคศิริ
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ออกอากาศเร็ว ๆ นี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ