อ่านละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ตอนที่ 3 วันที่ 3 ก.พ.61
พุฒิเมธเห็นเจนนี่เป็นแผลมีเลือดออกก็บอกบุญสิตาที่ตามมาว่าให้ดูแลเจนนี่ก่อนอย่าให้ไปไหน ตนจะไปเอายามาทำแผลให้ พอพุฒิเมธไปเจนนี่ก็โทษบุญสิตาว่าเพราะเธอคนเดียวแผนตนจึงเละแบบนี้ บุญสิตา ขอโทษแต่เห็นว่าเจนนี่ไม่ควรทำแบบนี้ เจนนี่หาว่าเธอด่า เลยผลักตกสระว่ายน้ำบุญสิตาตะเกียกตะกายและร้องขอความช่วยเหลือ พุฒิเมธมาถึงพอดีโดดลงไปช่วยขึ้นจากสระในสภาพที่บุญสิตากลัวจนผวา แนนซี่บอกว่าคงตกใจไม่หาย พุฒิเมธ จึงฝากแนนซี่ให้พาบุญสิตาส่งโรงพยาบาลด้วย เพราะตนต้องไปส่งพ่อกลับบ้าน
พุฒิเมธเดินผ่านเจนนี่ไปอย่างไม่สนใจ เธอยืนเซ็งกลายเป็นคนโดดเดี่ยวไม่มีใครสนใจ
ooooooo
สมบัติกลับถึงบ้านโรคหัวใจกำเริบหายใจไม่ออก วรรณนากับพุฒิเมธรีบเข้าไปดูและโทร.บอกณฤทธิ์ เขาตกใจมากรีบขับรถกลับไปโดยฝากกันต์ให้ดูแลงานในบริษัทด้วย
ณฤทธิ์ขับรถอย่างเร็วด้วยความเป็นห่วงพ่อ เขารู้สึกตาลายพยายามขยิบตาและขับต่อไป แต่ถูกมอเตอร์ไซค์ที่ขี่มาด้วยความเร็วสูงเช่นกันตัดหน้า เขาหักหลบจนหัวทิ่มไปกระแทกพวงมาลัยอย่างแรง รถจอดนิ่งอยู่กลางถนน ครู่หนึ่งณฤทธิ์เงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆเห็นว่าตัวเองปลอดภัยแล้ว จับหัวตัวเองรู้สึกเจ็บๆเพราะกระแทกพวงมาลัยอย่างแรง คลำๆพลางบ่น “หัวแตกไหมเนี่ย”
สมบัติไม่ยอมไปหาหมอบอกว่าดีขึ้นแล้ว พุฒิเมธได้รับโทรศัพท์แจ้งอุบัติเหตุของณฤทธิ์เขาตกใจบอกว่าเดี๋ยวไป สมบัติฟังอยู่ตกใจถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?!”
ณฤทธิ์ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เขานั่งรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน บ่นว่ารอเป็นชาติแล้วทำไมไม่เรียกสักทีระหว่างนั้นเขาเห็นพุฒิเมธวิ่งเข้ามาก็บ่นว่าบาดเจ็บนิดเดียวจะตามมาทำไม แต่แล้วก็แปลกใจเมื่อพุฒิเมธวิ่งผ่านร่างตนไป ไม่เพียงเท่านั้นสมบัติและวรรณนาที่ตามมาก็วิ่งทะลุร่างเขาไปอีก ณฤทธิ์ช็อกว่าเกิดอะไรขึ้น ตะโกนเรียก “เมธ...พ่อ...น้าวรรณ” แต่ไม่มีใครได้ยินเลย
ณฤทธิ์สงสัยว่านี่มันอะไรกัน แล้วภาพเหตุการณ์ไม่กี่ชั่วโมงก่อนก็ผุดขึ้น รู้ว่าถูกมอเตอร์ไซค์ตัดหน้าและตัวเองเบรกจนหัวกระแทกพวงมาลัยอย่างแรง พอรู้สึกตัวก็หยิบโทรศัพท์มาโทร.ออก ทันใดนั้นรถบรรทุกขับมาอย่างเร็วพุ่งเข้าชนรถของณฤทธิ์อย่างแรง ณฤทธิ์ได้รับบาดเจ็บสาหัส เลือดท่วมตัว
ณฤทธิ์เข้าไปในห้องผ่าตัดมองตัวเองที่กำลังถูกผ่าตัดอยู่อย่างไม่อยากเชื่อ ถามตัวเองงงๆว่า
“นี่เราฝันไปใช่ไหม มันเกิดอะไรขึ้น”
พอเดินออกจากห้องผ่าตัด ณฤทธิ์เห็นพ่อกับวรรณนาร้องไห้ภาวนาขออย่าให้ตนเป็นอะไร พ่อพร่ำบอกว่า “พ่อรักลูกนะ” พุฒิเมธปลอบพ่อให้ใจเย็นๆ มาร์คต้องไม่เป็นอะไร สมบัติโทษว่าเพราะมาร์ครีบออกมาหาตนถึงได้เป็นแบบนี้ ตนทำให้ลูกเป็นแบบนี้ ณฤทธิ์บอกพ่อว่ามันเป็นอุบัติเหตุ หยุดร้องเถอะ ตนยังไม่ตาย บอกให้พ่อด่าตนเหมือนทุกครั้ง แต่ทุกอย่างก็ยังเป็นเหมือนเดิม ณฤทธิ์บ่นหงุดหงิด
“เมื่อไหร่ฉันจะเข้าร่างได้นะ” แต่พอวิ่งจะเข้าร่างก็มีแสงขาวมากั้นไว้ ณฤทธิ์ใจเสียบอกตัวเองว่า
“ฉันต้องไม่เป็นอะไร ฉันต้องไม่ตาย” ณฤทธิ์พยายามอีกครั้ง คราวนี้วิญญาณเขาถูกดูดเข้าไปในร่างตัวเองทันที
นาทีนั้นณฤทธิ์คิดถึงเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมา โดยเฉพาะการทะเลาะกับพ่อครั้งหลังจนท้าตัดพ่อลูกกัน แล้วณฤทธิ์ก็จากไป
สมบัติหัวใจสลาย พร่ำบอกให้ณฤทธิ์ตื่นขึ้นมา พ่อจะไม่บังคับอะไรอีกแล้ว ไม่ต้องมาทำงานของพ่อก็ได้ ลูกจะทำอะไรจะเป็นอะไรก็ได้ ขอแค่ลูกกลับมามีลมหายใจแค่นี้ก็พอ...กลับมานะมาร์ค...
วรรณนาปลอบสมบัติว่ามาร์คไปเจอกับคุณแม่เขาแล้วอย่าเสียใจไปเลย ส่วนพุฒิเมธก็พูดกับร่างณฤทธิ์เสียงสั่นเครือว่า “ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะดูแลพ่อให้เอง”
แนนซี่พาบุญสิตามาโรงพยาบาลโชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก ขณะเดินออกจากโรงพยาบาลรอแท็กซี่ เป็นเวลาที่ณฤทธิ์ออกตามหาพ่อที่หายไปจากโรงพยาบาลและจะโดดให้รถชนตาย ณฤทธิ์ตกใจวิ่งไปชนบุญสิตาที่รอแท็กซี่อยู่โดยไม่ตั้งใจ เกิดแสงสว่างวาบจากร่าง
บุญสิตา พริบตานั้นวิญญาณณฤทธิ์ก็รวมเข้าไปเป็นร่างเดียวกับบุญสิตา บุญสิตาร้องสุดเสียง
“พ่อ!!!”
ร่างบุญสิตาที่ถูกวิญญาณณฤทธิ์รวมอยู่กระโดดผลักสมบัติพ้นจากการถูกรถชนแต่ตัวเองถูกรถเฉี่ยวหมดสติไป พุฒิเมธกับวรรณนาเดินตามหาสมบัติมาเจอเหตุการณ์ก็ตกใจวิ่งมาดูบุญสิตา
แนนซี่เฝ้าบุญสิตาอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน พุฒิเมธมาบอกว่าเธอปลอดภัยดีที่สลบเพราะตกใจ แนนซี่ขอบคุณที่พุฒิเมธเป็นห่วงเป็นใย ถามว่าเขามาทำอะไรที่นี่ เห็นสีหน้าของพุฒิเมธกับสมบัติก็รู้ว่าต้องมีเรื่องอะไรที่ไม่ดีแน่จึงเงียบไป
พอบุญสิตาฟื้นขึ้นมาแปลกใจและตกใจที่ตัวเองเปลี่ยนไป เอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูหน้าตัวเองก็ยิ่งช็อกทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นเห็นแสงสว่างวาบแล้ววิญญาณณฤทธิ์ก็รวมเข้าเป็นร่างเดียวกับตน มองรูปตัวเองในโทรศัพท์มือถือถาม...
“อย่าบอกนะว่าฉันมาเข้าร่างเธอ เรื่องจริงเหรอเนี่ย... อย่างกับในหนัง...” พอตั้งสตินึกได้ก็ตกใจมองหา
“ร่างฉัน...” แล้ววิ่งออกจากห้องพักคนไข้ทันที
เข้าไปในห้องดับจิตเห็นร่างณฤทธิ์นอนอยู่ ก็พยายามจะเข้าร่างนั้น พุฒิเมธเข้ามาเห็นก็ดึงบุญสิตาออกจากร่างณฤทธิ์ถามว่าทำอะไรน่ะ
“ก็เข้าร่างฉันน่ะสิ ฉันจะเข้าร่างฉัน เมธแกต้องช่วยฉันนะ ฉันยังไม่ตายจะเอาศพไปไหนไม่ได้นะ”
พุฒิเมธงงถามว่าพูดอะไรของคุณ ณฤทธิ์ในร่างบุญสิตาบอกว่า “ฉันพี่ชายแก...มา...” แต่พูดไม่ทันจบบุญสิตาก็สลบไป พอดีสมบัติกับวรรณนาเดินเข้ามา สมบัติเห็นท่าทางของบุญสิตาก็รู้สึกคุ้นๆว่าเหมือนณฤทธิ์ เมื่อออกมาเขาบอกวรรณนาว่า
“เด็กคนนั้นท่าทางเหมือนมาร์คเลย” วรรณนาติงว่าเพราะเขาคิดถึงมาร์คมากเห็นใครก็คิดถึงมาร์คไปหมด อย่าคิดมากเลย “นั่นสิมาร์คตายไปแล้ว ฝากคุณไปดูเด็กคนนั้นด้วยนะถ้าเขาฟื้นแล้วฝากขอบคุณด้วย”
“คุณไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันให้เมธดูเด็กคนนั้นอยู่”
ooooooo
วันรุ่งขึ้น กันต์ได้รับโทรศัพท์จากพุฒิเมธแจ้งการเสียชีวิตของมาร์ค เอได้ข่าวแจ้งต่อไปยังศรันย์ ทีแรกศรันย์นึกว่าถูกอำเล่น แต่พอรู้ว่าเป็นเรื่องจริงก็ตกใจจนพูดไม่รู้เรื่องต้องให้จัสตินคุยแทน
ข่าวการเสียชีวิตของณฤทธิ์ทำให้คนในบริษัทต่างตกใจคาดไม่ถึงและรู้สึกเคว้งคว้าง เจนนี่บอกว่าแม้ตนจะไม่ชอบขี้หน้ามาร์ค แต่ก็แอบใจหายไม่ได้ เมื่อวานยังทะเลาะกันอยู่เลย พูดกลัวๆว่าคงไม่มาหลอกตนนะ
โหน่งได้ยินติงว่าแทนที่จะมาคิดว่าไม่มีมาร์คแล้วพวกเราจะทำยังไง เขาไม่อยู่ ตกงานกันแน่ เจนนี่กลัวตกงานรายได้ลด เสนอว่าเราย้ายสังกัดกันดีไหม ตนโทร.หาเสี่ยฮงเลยดีกว่า
เพื่อนนางแบบคนหนึ่งทักท้วงว่าพี่มาร์คเพิ่งตายทำแบบนี้ได้ยังไง รอให้เสร็จงานศพพี่มาร์คก่อนค่อยโทร.จะได้ไม่น่าเกลียด
การตายทำให้มาร์คได้เห็นถึงคนที่ภักดีและคนที่คิดทรยศหักหลังตน
เจนนี่หาพวกกับดนุดลว่าการตายของมาร์คเข้าทางเขาเลยใช่ไหม
“ยัง...ที่บอกจะย้ายสังกัดผมก็พูดไปยังงั้นแหละ ผมคงไม่ไปไหนหรอก พี่มาร์คปั้นผมมา เป็นคนแรก ที่ให้โอกาสผม ถึงผมจะอยากดังแต่ก็จะไม่ทรยศพี่มาร์คเด็ดขาด”
มาร์คฟังแล้วอึ้ง ไม่นึกว่าดนุดลเด็กทะเยอทะยานไม่ค่อยเชื่อฟังตนจะคิดแบบนี้...
ooooooo
พุฒิเมธคุยกับหมอโอบในงานศพว่าตนไม่อยากเชื่อว่ามาร์คจะเกิดอุบัติเหตุเพราะเป็นคนขับรถระวังมากและเมื่อคืนในงานปาร์ตี้เขาก็ไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์เลย หมอโอบว่ามาร์คอาจเหนื่อยกับงานมากแล้วก็รีบด้วย
“ไม่ทราบสิครับ ผมแค่สังหรณ์ใจบางอย่าง ช่วงนี้ เฮียมีหลายโปรเจกต์ที่กำลังทำอยู่ ผมแค่อยากมั่นใจว่าไม่ได้มีการจัดฉากหรือมีเบื้องหลังอะไรจากการตายครั้งนี้”
“สงสัยใครหรือ” หมอโอบถาม พุฒิเมธบอกว่า
ก็คงเป็นคนที่ได้ผลประโยชน์จากการตายของเฮียมาร์ค หมอโอบถามว่า “หมายถึงกันต์น่ะเหรอ”
พุฒิเมธนิ่ง ไม่ตอบ แต่วิญญาณณฤทธิ์ที่ฟังอยู่เถียงแทนว่า
“ไม่มีทาง กันต์ไม่เคยคิดจะยุ่งกับงานบริษัทเลย เป็นไปไม่ได้” แล้ววิญญาณของมาร์คก็มองหากันต์ไปทั่วศาลา สงสัยว่าทำไมกันต์ยังไม่มา มาร์คเป็นห่วงกันต์ตัดสินใจไปหาที่บ้าน
ooooooo
ณฤทธิ์ไปหากันต์ที่คอนโด ประตูห้องนอนเปิดอยู่เลยเดินเข้าไปเห็นกันต์นอนดูหนังและคุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่ ณฤทธิ์หยุดฟัง...
“บอกแล้วไงว่าไม่อยากไป ผมเล่นละครเป็นแฟนมันมาตั้งนาน ตอนมันตายคุณยังจะบังคับให้ผมเล่นละครปั้นหน้าร้องไห้ให้มันอีกเหรอที่รัก” ณฤทธิ์ได้ยินถึงกับอึ้ง “ก็จริงอย่างคุณว่าไปแสดงตัวหน่อย
ทุกคนจะได้รู้ว่าคนที่จะดูแลบริษัทของมาร์คต่อไปก็คือผม ตอนจะขายบริษัทจะได้ง่ายๆ”
ณฤทธิ์ช็อก คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะโดนผู้ชายที่ไว้ใจหักหลัง แข็งใจฟังต่อไป...
“ความจริงเราก็หลอกเอาเงินมันมาตั้งนาน ไปขออโหสิกรรมหน่อยก็ดี”
ณฤทธิ์แค้นที่โดนคนที่ตัวเองรักหลอก พยายามจะเข้าไปอาละวาดทำร้ายกันต์แต่ไม่สามารถสัมผัสตัวกันต์ได้ ได้แต่คำรามอาฆาต
“แกทรยศฉันได้ยังไง ต่อให้เป็นผี ฉันก็จะกลับมาล้างแค้นแก!”
วิญญาณณฤทธิ์ที่ได้ยินได้ฟังหลายคนพูดถึงความตายของตนกับท่าทีหลังการตายของตน ทำให้ณฤทธิ์ได้รู้ความจริงว่า คนที่พูดแรงพูดตรงเช่นพ่อและดนุดลแม้จะบาดใจแต่กลับเป็นคนที่รักเขามากที่สุด และคนที่ดูเหมือนรักเขามากเช่นกันต์ กลับกลายเป็นคนที่หลอกลวงปลิ้นปล้อนที่สุด!
ณฤทธิ์ขึ้นไปบนดาดฟ้าหยุดที่ขอบตึกคิดถึงชีวิตตนเองที่ผ่านมา ตะโกนลั่น
“ฉันยังไม่อยากตาย ให้ฉันย้อนเวลากลับไปเดี๋ยวนี้นะ...”
ทันใดนั้น ท้องฟ้าเกิดปั่นป่วนลมพัดอื้ออึง ท้องฟ้าที่โล่งปรากฏภาพนาฬิกาขนาดใหญ่มาก เข็มนาฬิกาหมุนอย่างเร็วจนเกิดพายุหมุนดูดร่างณฤทธิ์หายไปในนาฬิกา
ณฤทธิ์ถูกดูดเข้าไปในนาฬิกา เขาโวยวายถามว่าที่นี่ที่ไหนนรกหรือสวรรค์จะมารับตนไปนรกใช่ไหมตนไม่ไป เสียงของเวลาบอกว่า “นี่คือห้วงเวลาของเธอ ฉันคือเวลาของเธอ” ณฤทธิ์บอกว่าตนยังไม่อยากตาย ยังอยากทำอะไรหลายๆอย่าง
“ฉันไม่สามารถให้ชีวิตเธอได้ แต่ฉันสามารถให้เวลาเธอได้อีกร้อยวันหรือจนกว่าร่างของเธอจะถูกเผา เธอจะสามารถใช้เวลาครั้งสุดท้ายไปจัดการสิ่งที่เธอค้างคาได้อีกครั้ง”
ทันใดนั้นนาฬิกาขนาดใหญ่พลิกกลับด้าน เห็นร่างณฤทธิ์อยู่ในนาฬิกาทราย ในขณะที่ทรายด้านบนไหลลงมาทีละนิด เสียงเวลาบอกว่า
“นี่เป็นเวลาที่เหลืออยู่ของเธอ ขอให้ใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างคุ้มค่า แต่อย่าลืมนะว่าจะต้องไม่มีใครเผาศพของเธอ”
ณฤทธิ์คิดถึงคำพูดของครอบครัวตัวเองตอนอยู่ในงานศพ...ที่วรรณนาถามพุฒิเมธว่าจะเก็บศพไว้สามวันแล้วเผาดีไหม เขาบอกว่าแล้วแต่คุณน้า คิดแล้วณฤทธิ์ตกใจถามตัวเองว่าจะทำยังไงไม่ให้ศพถูกเผา คืนนี้
ณฤทธิ์จึงมาเข้าฝันพุฒิเมธ สั่งห้ามเผาร่างตนเด็ดขาดเพราะกันต์ต้องการจะโกงบริษัท
ooooooo
เช้าวันรุ่งขึ้นกันต์มาปรึกษาวรรณนาที่บ้าน
ณฤทธิ์ขอเป็นเจ้าภาพงานศพมะรืนนี้ ตีหน้าเศร้าบอกว่าอยากทำอะไรให้มาร์คเป็นครั้งสุดท้าย
พุฒิเมธเข้ามาบอกว่าตนยังไม่เผาเฮีย อยากเก็บศพไว้ร้อยวัน กันต์ขอเหตุผล พุฒิเมธอึกอักเพราะไม่อยากเล่าความฝันให้กันต์ฟัง ตอบแขวะกวนๆไปว่า
“ก็คงเป็นเหตุผลที่ตรงข้ามกับพี่กันต์ ผมรู้สึกว่าเฮียมาร์คมีอะไรที่อยากจะทำค้างไว้ตั้งหลายอย่าง ผมอยากจะช่วยเฮียมาร์คจัดการทุกอย่างให้เสร็จก่อน วิญญาณเฮียมาร์คจะได้ไปสู่สุคติ โดยไม่มีห่วงอะไร”
พุฒิเมธถามว่าน้าวรรณนามีความเห็นอย่างไร วรรณนาบอกว่า เมธว่ายังไงน้าก็ว่าตามนั้น
กันต์ไม่พอใจขอตัวกลับ แต่พอออกมาพ้นหน้าพุฒิเมธกับวรรณนาหน้ากันต์ก็เปลี่ยนเป็นไม่พอใจมาก
หมอโอบที่มาตรวจอาการของสมบัติบอกวรรณนากับพุฒิเมธว่าร่างกายท่านอ่อนเพลียและเครียดมากแต่ตนฉีดยาบำรุงให้แล้ว วรรณนาให้พุฒิเมธพาหมอโอบไปคุยกันอีกห้องตนจะไปเอาน้ำมาให้พ่อเขากินยา
พอทุกคนออกไป วิญญาณณฤทธิ์ก็เข้าไปหาพ่อปลอบน้ำตาคลอว่า “พ่อต้องเข้มแข็งไว้นะครับ”
หมอโอบบอกพุฒิเมธว่าช่วงนี้คนในครอบครัวต้องอยู่ใกล้และคุยกับคุณพ่อบ่อยๆ อย่าปล่อยให้อยู่คนเดียว เตือนว่าถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ อาการหนักเข้ากลัวเขาจะคิดสั้น
ทันใดนั้นวรรณนาเข้ามาบอกพุฒิเมธว่าตนไปเอาน้ำกลับมาคุณพ่อก็หายไปแล้ว ทุกคนตกใจพยายามตามหาสมบัติตามห้องต่างๆ เกรงจะคิดสั้นอย่างที่หมอโอบเตือน
พุฒิเมธตามเจอสมบัตินั่งกอดเสื้อผ้าของณฤทธิ์ร้องไห้คร่ำครวญ
“มาร์ค พ่อขอโทษ...มาร์คกลับมาหาพ่อนะ มาร์คได้ยินพ่อใช่ไหม”
พุฒิเมธเห็นภาพนั้นแล้วน้ำตาไหล วิญญาณณฤทธิ์นั่งปลอบพ่ออยู่ข้างๆ ไม่มีใครเห็นแต่ในกระจกสะท้อนภาพน่าเศร้านี้อย่างชัดเจน
ooooooo
สายวันนี้ พุฒิเมธเข้าไปที่บริษัทของณฤทธิ์บอกเอ ศรันย์ โหน่งที่กำลังพูดกันถึงงานของบริษัทว่า
“ช่วงนี้พวกเราก็คงต้องช่วยกันดูแลไปก่อน ที่ผมมาวันนี้ก็จะมาคุยเรื่องนี้แหละ ไม่นานออฟฟิศเราต้องมีปัญหาตามมาเพียบแน่”
พุฒิเมธพูดขาดคำโทรศัพท์ของศรันย์ก็มีสายเข้า ฟังปลายสายแล้วถามว่า จัสตินมีปัญหาอะไร
ศรันย์รีบไปที่สตูดิโอ ทีมงานรายงานว่าลูกค้าโมโหที่จัสตินหน้าบวมตาบวมดูไม่ได้เลย ให้ช่วยไปดูหน่อย ศรันย์เข้าไปหาจัสตินที่ยังร้องไห้ทำใจไม่ได้กับการจากไปของณฤทธิ์อยู่ พุฒิเมธขอให้ทำใจเข้มแข็ง ใครๆก็เสียใจแต่เราต้องผ่านมันไปได้ ถ้ามัวเสียใจจนงานเสียหายแบบนี้เฮียมาร์คจะยิ่งเสียใจ
แก้ปัญหาจัสตินไม่ทันเสร็จดี ศรันย์ก็ได้รับโทรศัพท์บอกว่ามีปัญหาที่ออฟฟิศอีก
วิญญาณณฤทธิ์ที่ติดตามมาบ่นว่า “ปัญหาอะไรอีก ทำไมมีแต่ปัญหานะ”
ปัญหาเกิดขึ้นเพราะกันต์ไปคุยกับลูกค้าว่าให้ถอดดนุดลออกจากงานและให้ซาร่ากับเจนนี่เป็นตัวนำแทน ดนุดลโวยกันต์ว่าทำแบบนี้ไม่ได้เพราะพี่มาร์คตัดสินใจแล้ว กันต์อ้างว่าตอนนี้มาร์คตายแล้วคนที่มีหุ้นในบริษัทรองจากมาร์คก็คือตน
พอดีโหน่งเดินเข้ามาถามว่าได้ข่าวว่ากันต์จะขายบริษัทหรือ ดนุดลยิ่งตกใจถามกันต์ว่าทำอย่างนี้ได้ไงนี่เป็นบริษัทของพี่มาร์ค พี่เขารักบริษัทมาก กันต์ตะแบงว่าเวลานี้มาร์คไม่อยู่แล้ว ในฐานะที่ตนสร้างบริษัทมากับมาร์คและมีหุ้นด้วยเห็นสมควรขายบริษัทให้มืออาชีพดีกว่า
“แต่คนที่มีสิทธิ์ในบริษัทนี้ต่อจากเฮียมาร์คจริงๆ คือพ่อของเฮีย” พุฒิเมธมาถึงพูดขัดจังหวะขึ้น “แค่หุ้นส่วนไม่กี่เปอร์เซ็นต์ที่เฮียยกให้เพราะสนิทและไว้ใจ ไม่มีสิทธิ์มาตัดสินใจเรื่องนี้แทน”
กันต์ตะแบงว่าพ่อของมาร์คตอนนี้ก็กำลังตรอมใจ ไม่มีประสบการณ์ในวงการบันเทิง จะมาดูแลได้ยังไง
“เรื่องขายไม่ขาย รอคุณพ่อท่านหายแล้วมาตัดสินใจเองดีกว่าว่าท่านจะทำยังไง ส่วนเรื่องบริหารได้ไม่ได้ ผมเชื่อว่ายังไงทุกคนในบริษัทที่รักพี่มาร์คจะช่วยกันดูแลบริษัทนี้ต่อ”
“ตอนนี้โอกาสกำลังมา น้ำกำลังขึ้นไม่รีบตัก อยากจะรอตายกันหมดก็ตามใจ” กันต์ไม่พอใจเดินออกไปเซ็งๆ วิญญาณณฤทธิ์ที่รู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดมองกันต์แค้นๆ
โหน่งถามว่าจะเอายังไงต่อดี พุฒิเมธบอกค่อยๆ คิดกันไปก็แล้วกัน
“ฉันจะไม่ยอมให้มันเอาบริษัทฉันไปขายเด็ดขาด” วิญญาณณฤทธิ์ประกาศเครียด “ฉันจะไม่ยอมให้ทุกอย่างต้องพังไปพร้อมกับชีวิตฉัน ฉันต้องกลับไปจัดการทุกอย่าง”
ooooooo
อดีต...ในห้องกาลเวลา ณฤทธิ์บอกกับเวลาว่าตนต้องกลับไปล้างแค้นกันต์และจัดการบริษัทของตนให้เหมือนเดิม แม้เวลานี้ไม่มีตัวตนแต่ก็เคยสิงร่างผู้หญิงคนหนึ่งได้ ทำยังไงจะเข้าสิงร่างเธอได้อีก
เวลาบอกว่าเขาต้องไปคิดหาทางเอาเอง ตนมีหน้าที่แค่ให้เวลาครั้งสุดท้ายในชีวิตแก่เขาเท่านั้น
“ไม่บอกก็ไม่เป็นไร ฉันหาวิธีของฉันเองก็ได้” ณฤทธิ์มุ่งมั่นที่จะหาวิธีเข้าสิงร่างบุญสิตาให้ได้
ณฤทธิ์คิดถึงที่เวลาให้โอกาสแล้วประเมินว่า “เวลานี้ศพฉันก็ไม่ถูกเผาแล้ว ที่เหลือก็แค่ยืมร่างผู้หญิงคนนั้น ทุกคนรอฉันก่อนนะฉันจะกลับมาจัดการทุกอย่างเอง”
วันนี้บุญสิตาไปทำงานที่บริษัทสายด่วนบำบัดทุกข์ แนนซี่แกล้งโทร.เข้าไปปรับทุกข์ บุญสิตาจำเสียงได้
คุยกันแล้วบอกว่าคืนนี้จะไปงานศพคุณมาร์ค บอกแนนซี่ว่า
“ฉันว่าฉันเห็นวิญญาณเขา ฉันไม่สบายใจ ฉันอยากไปขออโหสิกรรมน่ะ”
อ่านละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ตอนที่ 3 วันที่ 3 ก.พ.61
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ บทประพันธ์โดย : ติณณาละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ บทโทรทัศน์โดย : ตฤณณา
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ กำกับการแสดงโดย : กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ออกอากาศเร็ว ๆ นี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ