อ่านละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ตอนที่ 8 วันที่ 17 ก.พ.61

อ่านละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ตอนที่ 8 วันที่ 17 ก.พ.61

แม้จะตกใจแทบสิ้นสติแต่เมื่อถึงเวลางาน ทั้งสองก็ออกไปทำงานได้อย่างมืออาชีพ

นัทวิ่งหนีไปและย้อนกลับมาในสภาพเปิดหน้าร่วมกับแฟนคลับของเจนนี่ชูป้ายเชียร์เจนนี่ และเบียดเข้าไปจนได้จับมือกับเจนนี่บอกว่า “ผมชอบพี่มากนะครับ สู้ๆ” แต่นัทจับมือเจนนี่ไม่ปล่อย เจนนี่ใจไม่ดีพยายามดึงมือกลับแล้วรู้สึกเวียนหัวหน้ามืดคลื่นไส้จนต้องวิ่งไปอาเจียนข้างเวที

เป็นเรื่องใหญ่ทันที นักข่าวถ่ายรูปเจนนี่ที่อาเจียนกลางงานอีเวนต์ประโคมข่าวครึกโครมจนสองพิธีกรสาวเจ้าเก่าเม้าท์กันอย่างออกรสว่า...



“เจนนี่หน้ามืด อ้วกกลางงานอีเวนต์ค่ะ”

“อาการแบบนี้มันคุ้นๆนะคะ หรือว่าจะท้อง...”

ศรันย์กับพุฒิเมธดูรายการนี้ต่างโมโหที่พิธีกรเม้าท์กันส่งเดช พุฒิเมธสั่งเอให้บอกเจนนี่ช่วงนี้ให้พักผ่อน ไปหาหมอให้เรียบร้อยก่อน หายค่อยว่ากัน

วันรุ่งขึ้นบุญสิตาจึงพาเจนนี่ไปหาหมอ เจนนี่เดินผ่านป้าย “แผนกสูตินรี” ก็ถูกแอบเก็บภาพไว้

แล้วก็มีข่าวพาดหัวตัวเขื่องว่า “ยืนยัน นางท้องจริงๆ ฝากครรภ์แล้ววันนี้”

ข่าวนี้ทำให้ทั้งพุฒิเมธ ศรันย์ และบุญสิตาเครียดหนัก ศรันย์ให้บอกเจนนี่ว่า

“ไม่ต้องออกไปไหนทั้งนั้น เก็บตัวอยู่แต่ในบ้านซะ เรื่องจะได้เงียบ”

เป็นเรื่องอีกจนได้ เมื่อสองพิธีกรเจ้าเก่าเม้าท์กันมันว่า

“ตอนนี้นางงดออกงาน ออกสื่อ หายหน้าหายตาไปเป็นอาทิตย์แล้วค่ะ มีสายข่าวแว่วมาว่านางแอบไป ทำแท้ง!”

“นางพวกนี้จะเอายังไงเนี่ย ทำอะไรก็ผิดไปหมด” วิญญาณณฤทธิ์บ่นหัวเสีย บุญสิตาเป็นห่วงสภาพจิตใจของเจนนี่ว่าตอนนี้คงย่ำแย่ ศรันย์ถามว่าแล้วตอนนี้เจนนี่เป็นยังไง บุญสิตาบอกว่าอยู่กับคุณเมธ

ooooooo

เจนนี่ฟูมฟายระบายความอัดอั้นกับพุฒิเมธว่าตนทำผิดแค่ครั้งเดียวตอนนี้กลายเป็นทำอะไรก็ผิดหมด บอกว่าที่ตนอาเจียนเพราะเครียดกับข่าวจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เล่าอย่างอัดอั้นว่าเมื่อตอนไปหาหมอเดินผ่านแผนกสูตินรีก็กลายเป็นตนไปฝากท้อง ตนอยู่เงียบๆ

ก็กลายเป็นไปทำแท้ง ถามว่า “ฉันควรทำยังไง??”

พุฒิเมธได้แต่มองอย่างเห็นใจกับความจริงที่เธอพูด แต่คนที่สะใจและเตรียมถล่มเจนนี่ซ้ำคือซาร่า เธอบอกกันต์ว่าจะทำภาพตัดต่อโปรโมตข่าวให้นาง

สมบัติกับวรรณนาที่ติดตามข่าวนี้ ต่างเห็นใจเจนนี่ แก้วตาติงว่าถ้าทำตัวดีๆใครเขาจะเสียเวลามาว่า

“แต่บางทีมันก็เกินไป ถ้ามันเป็นเรื่องจริง จะว่าไปก็ไม่แปลกหรอก ถ้ามันไม่จริง คิดบ้างไหมว่าคนที่โดนว่าเขาจะรู้สึกยังไง” วรรณนาติง

“ถูก ขนาดผมโดนลูกน้องเม้าท์ ผมยังรู้สึกแย่ แล้วนี่คนทั้งประเทศรุมว่า ผมไม่อยากคิดเลยว่าผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเจนนี่เขาจะเป็นยังไง” สมบัติพูดอย่างเห็นใจ

แล้วก็กลายเป็นเรื่องตกใจเมื่อแม่บ้านของเจนนี่โทรศัพท์บอกพุฒิเมธว่าเจนนี่ไม่กลับบ้านตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ทั้งพุฒิเมธ จัสติน บุญสิตาและณฤทธิ์ที่อยู่แถวนั้นต่างตกใจว่าเธอหายไปไหน

เมื่อไปดูกล้องวงจรปิดที่บ้านเจนนี่ เห็นนัทยืนแอบดูเจนนี่อยู่ที่หน้าบ้าน บุญสิตารู้สึกคุ้นๆ เมื่อเจนนี่ขับรถออกจากบ้าน นัทก็ขี่มอเตอร์ไซค์ตามไปทันที พุฒิเมธสงสัยจะเป็นคนเดียวกับที่เอามีดเด็กเล่นเปื้อนเลือดไปให้เจนนี่ในงานอีเวนต์วันนั้น

บุญสิตาเป็นห่วงเจนนี่ แต่ณฤทธิ์จำได้ว่านัทเคยมามีตแอนด์กรี๊ด ไพรเวทปาร์ตี้กับบริษัทเราน่าจะมีชื่อที่อยู่ที่ออฟฟิศ บอกว่าเดี๋ยวจะโทร.ขอข้อมูลจากเอ

เมื่อได้ข้อมูลแล้วก็พากันไปที่บ้านนัท แม่นัทบอกว่าลูกเป็นคนชื่นชอบเจนนี่  ไม่มีทางทำอะไรอย่างที่คิดกัน แต่ก็ยอมให้เข้าไปดูห้องของนัทซึ่งเต็มไปด้วยรูปเจนนี่

ขณะนั้นเอง ศรันย์ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่คอนโดที่พัทยาของเจนนี่แจ้งว่ารถเธอขวางทางเข้าออกโทร.ไปหาที่ห้องก็ไม่ติดไม่รู้เป็นอะไร เมื่อพุฒิเมธเล่าให้ทุกคนฟัง ณฤทธิ์บอกว่าเดี๋ยวตนจะตามไปที่พัทยาเอง

ณฤทธิ์ไปเห็นเจนนี่กำลังเสียใจฟูมฟายแล้วไปหยิบขวดยานอนหลับมา ณฤทธิ์ตกใจรีบไปตามคนมาช่วย ไปเจอพุฒิเมธ จัสติน และบุญสิตากำลังเดินทางมา เขาบอกว่าเจนนี่กำลังจะฆ่าตัวตาย  ขอเข้าสิงร่างบุญสิตาทันทีแล้วเร่งคนขับรถให้ขับเร็วกว่านี้อีก

ooooooo

เมื่อไปถึงคอนโด ขอกุญแจสำรองไขเข้าไปในห้อง ทุกคนช็อกเมื่อเห็นเม็ดยาหล่นกระจายเต็มพื้นและเจนนี่ก็นอนหมดสติอยู่ที่พื้น พุฒิเมธเอามือรอที่จมูกยังหายใจอยู่  เขาบอกให้เรียกรถพยาบาลเร็ว!

ทุกคนพยายามเรียกเธอ ครู่หนึ่งเธอลืมตาขึ้น

ทุกคนดีใจ พุฒิเมธถามว่าเธอกินยาพวกนี้เข้าไปใช่ไหม เจนนี่บอกว่าตนไม่ทันได้กิน เล่าให้ฟังว่า ขณะเธอกำลังจะกินยาได้ยินเสียงเคาะประตูจึงเดินไปดูที่ตาแมวก็ไม่เห็นใคร ตกใจกลัววิ่งจะไปหยิบโทรศัพท์แต่สะดุดล้มหัวฟาดพื้นหมดสติไป ยาเลยกระจายเต็มพื้น

รู้ความจริงแล้วทุกคนโล่งใจ พุฒิเมธบอกให้บุญสิตาพาเจนนี่ลงไปก่อน  ตนกับจัสตินจะเก็บของแล้วตามไป ระหว่างนั้นจัสตินถามว่าแล้วคนที่มาเคาะห้องเธอเป็นใคร?

“นั่นสิ แล้วเด็กโรคจิตคนนั้นอยู่ที่ไหน” พุฒิเมธมองหาแต่ไม่เห็น

บุญสิตาพาเจนนี่มานั่งในรถตู้ปิดประตูแล้วขอไปบอกยามเรื่องรถของเจนนี่ที่จอดขวางทางอยู่

ที่ลานจอดรถ นัทใส่หมวกใส่หน้ากากเดินถือถุงพลาสติกสีดำเล็กๆ กำลังด้อมๆมองๆ มุ่งไปยังรถตู้ที่เจนนี่นั่งอยู่คนเดียวแล้วเคาะกระจกรถ เจนนี่นึกว่าบุญสิตากลับมาจึงเปิดประตูรถให้ เธอตกใจสุดขีดเมื่อเห็นเป็นนัทที่ใส่หมวกใส่หน้ากากและถือถุงดำเล็กๆกำลังล้วงไปในถุงอย่างน่ากลัว

เจนนี่ตกใจผลักนัทกระเด็นแล้ววิ่งลงจากรถ โชคดีที่พุฒิเมธ จัสตินกับบุญสิตากลับมาพอดีจึงช่วยกันจับนัทไว้ จากการสารภาพของนัท เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งสิ้น นัทสารภาพว่าตนชื่นชอบเจนนี่มากและตั้งเป้าหมายในชีวิตที่อยากเป็นและดังอย่างเธอ ไม่มีเจตนาร้ายเลยแม้แต่นิดเดียว ถุงดำที่ถือมาก็ล้วนแต่เป็นของบำรุงและขนมขบเคี้ยวที่ซื้อมาฝาก และขอโทษที่ทำให้เจนนี่ตกใจ

“ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณ ถ้าไม่ได้นายฉันคงตายไปแล้ว”  เจนนี่เอ่ยจากใจ  พุฒิเมธก็ขอโทษแทนทุกคนด้วย

“ไม่เป็นไรครับ ผมห่วงพี่มากกว่า พี่อย่าคิดมากเลยนะ ผมจะช่วยพี่หาคนที่สร้างข่าวใส่ร้ายพี่เอง”

บุญสิตาบอกเจนนี่ว่าทุกคนเป็นห่วงเธอมาก ก็พอดีนาฬิกาเตือนหมดเวลา เธอรีบบอกเจนนี่ว่า

“เธอต้องสู้นะ เพื่อพี่มาร์ค งานรอเธออยู่อีกเพียบ รีบหายรีบกลับไปทำงาน ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” พูดจบก็วิ่งไป แต่นึกอะไรได้หันมาบอกประสาคนเป็นเจ้าของบริษัทว่า “พรุ่งนี้มีถ่ายโฆษณาด้วยนะ ยังไม่ลืมใช่ไหม” พูดจบก็วิ่งไปเลย

ทุกคนงง ที่บุญสิตาสั่งราวกับเจ้าของบริษัท ซ้ำลีลาท่าทางและคำพูดก็ถอดแบบมาร์คมาไม่มีผิด!

เมื่อเดินทางกลับ พุฒิเมธให้จัสตินไปกับเจนนี่  ส่วนตัวเองไปกับบุญสิตา อ้างเนียนๆว่านั่งไปเป็นเพื่อนตน แต่จัสตินก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่พุฒิเมธมีกับบุญสิตา

ตลอดทางที่นั่งรถมาด้วยกัน พุฒิเมธหาเหตุให้บุญสิตาทำโน่นนี่นั่นให้ตน จะกินน้ำก็ให้ป้อนเพราะขับรถอยู่ จะกินลูกอมก็ให้ป้อน ให้ชวนคุยตนจะได้ไม่ง่วง แกล้งขับช้าๆเพื่อจะได้อยู่ด้วยกันนานๆ

จนกระทั่งให้ถือโทรศัพท์ให้ขณะคุยกับหมอโอบให้ไปดูเจนนี่ที่บ้านเพราะเธอไม่ยอมไปโรงพยาบาล ความใกล้ชิดทำให้ใจเต้นแรงเผลอเหยียบเบรกจนบุญสิตาหัวทิ่มปากแตกเลือดกำเดาไหล แต่พอเขาถามว่าเป็นอะไรไหม เธอตอบไปว่า “ไม่เป็นไรค่ะ”

แต่พอพุฒิเมธเห็นกำเดาไหลและปากแตกก็ให้เอายาที่เบาะหลังมาทำแผลให้ ทำให้ยิ่งใกล้ชิดและต่างก็ประหม่าเขินตกอยู่ในภวังค์

สมบัติเป็นห่วงเจนนี่แต่พอรู้ว่าปลอดภัยก็โล่งใจ วรรณนาจึงเล่าให้ฟังว่า

“ก่อนหน้านี้ฉันเห็นทุกคนเครียดๆเรื่องที่บริษัทมีแต่เรื่องวุ่นๆเลยไม่ได้เล่าให้ฟังเรื่องคดีของมาร์ค คดียังไม่คืบหน้า ตำรวจยังตามจับคนขับรถบรรทุกไม่ได้เลย แต่เห็นว่าได้เบาะแสแล้ว” สมบัติพยักหน้าอย่างไม่คิดอะไรมาก  เชื่อว่ามันเป็นอุบัติเหตุ “ฉันก็บอกตำรวจไปแล้วค่ะ แต่ยังไงทางตำรวจก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายจะปล่อยคนร้ายไม่ได้”

เห็นสมบัติพยักหน้า วรรณนาบอกว่าทั้งตัวเขาและเมธต่างก็ยุ่งเรื่องบริษัท ยังไงเรื่องนี้เดี๋ยวตนจะตามเรื่องให้เอง

เย็นนี้หมอโอบมาดูอาการของเจนนี่ บอกเธอว่าทำใจให้สบายๆ พักผ่อนเยอะๆเดี๋ยวก็หาย บอกจัสตินว่าตนให้ยาบำรุงและยาคลายเครียดแล้ว  ช่วงนี้คงต้องดูแล อย่างใกล้ชิด

“ครับ เดี๋ยวผมกับรันจะผลัดกันดูเองครับ” จัสตินรับคำ

วิญญาณณฤทธิ์มองเจนนี่อย่างเป็นห่วง ครู่หนึ่งเจนนี่บอกว่าไม่ต้องโทร.บอกพ่อกับแม่ตน ไม่อยากให้ท่านคิดมาก หวังว่าท่านคงวุ่นวายทำงานจนไม่รู้เรื่องข่าวฉาวของตน ศรันย์ให้กำลังใจว่า...

“เธอเองก็อย่าคิดมากเหมือนกัน เดี๋ยวเวลาผ่านไปคนก็ลืมเอง”

“อย่ามัวไปเสียเวลา เสียสุขภาพจิตกับความคิดของคนอื่นเลยนะ” หมอโอบเอ่ย ณฤทธิ์แอบเสริมทั้งที่ไม่มีใครได้ยินว่า ใช่ เสียเวลาชีวิตเปล่าๆ

“เอาเวลามาลุยงานข้างหน้าให้กับคนที่เรารักดีกว่า ยังมีแฟนคลับที่รักและเชื่อใจเธอรออยู่อีกตั้งเยอะ ถ้ามาร์คอยู่ มาร์คคงอยากพูดกับเธอแบบนี้”

“แกนี่รู้ใจฉันจริงๆเลยรัน” วิญญาณณฤทธิ์ยิ้มพอใจ

ooooooo

เมื่อพุฒิเมธกับบุญสิตากลับมาถึง  พุฒิเมธไปเยี่ยมเจนนี่ แต่บุญสิตาขอตัวอ้างว่าเจนนี่ไม่ชอบหน้าตน แล้วขอตัวกลับเลย

ณฤทธิ์ถามอย่างระแวงว่าทำไมกลับมาช้า บุญสิตาบอกว่าพุฒิเมธขับรถช้า ณฤทธิ์ยิ่งไม่เชื่อเพราะขาซิ่งอย่างเมธขับช้าไม่เป็น มองบุญสิตาอย่างจับพิรุธถามว่าเกิดอะไรขึ้น เล่ามาเดี๋ยวนี้เลย พอดีรถเมล์มาบุญสิตารีบขึ้นไป แต่ณฤทธิ์ไม่ยอมแพ้ตามขึ้นไปด้วย

“เกิดมาฉันไม่เคยขึ้นรถเมล์เลย นี่ฉันต้องมาลำบากตอนตายเหรอเนี่ย”

“แล้วตามฉันมาทำไม...ฉันว่าคุณน่าจะไปดูเจนนี่ดีกว่านะ” ณฤทธิ์บอกว่าตนเป็นผีดูไม่ได้ “ก็จริง...แต่อย่างน้อยวันนี้ก็โชคดีนะที่พวกเราไปช่วยคุณเจนนี่ได้ทัน”

“ใช่ จากแฟนคลับโรคจิต คนที่เราคิดว่าเขาจะทำร้ายเจนนี่ กลายเป็นคนที่ช่วยเจนนี่ซะงั้น”

“ถ้าแฟนคลับเป็นคนช่วยเจนนี่ แล้วคนที่เอามีดเปื้อนเลือดไปให้เจนนี่คือใคร”

“นั่นสิ เรื่องมีด ฉันไม่แน่ใจ  แต่เรื่องคนที่ปล่อยภาพแล้วทำเรื่องวุ่นวายเนี่ย ฉันพอจะเดาได้ว่าเป็นฝีมือใคร”

“คุณสงสัยคุณกันต์ใช่ไหม”

“ใช่ ถ้าเป็นฝีมือมัน ที่ทำลายเด็กในบริษัทขนาดนี้ ฉันไม่ปล่อยมันไว้แน่ ก่อนหน้านี้ฉันมัวแต่ยุ่งเรื่องพ่อ เรื่องสัญญาเกาหลี ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวแล้ว คงถึงเวลาที่ฉันต้องกำจัดมะเร็งบริษัทอย่างจริงจังซะที”

“ในฐานะพนักงานบริษัท ฉันจะช่วยคุณเอง มายบอส...” บุญสิตายกมือทำท่าสู้ๆ

“จ้ะ เธอน่ะ เอาเรื่องตัวเองให้รอดก่อนไหม...แต่ก็ขอบใจนะ”

บุญสิตาคุยกับผีอย่างถูกคอ กระเป๋ารถเมล์กับคนขับและผู้โดยสารต่างขยับห่างและมองอย่างหวาดระแวง

อ่านละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ตอนที่ 8 วันที่ 17 ก.พ.61

ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ บทประพันธ์โดย : ติณณา
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ บทโทรทัศน์โดย : ตฤณณา
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ กำกับการแสดงโดย : กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ที่มา ไทยรัฐ