อ่านละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ตอนที่ 13 วันที่ 26 ก.พ.61
“ตอนที่เพื่อนบอกว่าจะให้พวกเราไปเป็นนายแบบให้ พ่อดีใจ เลยลืมตัวเผลออาสาจะเป็นแม่งานช่วยจัดงานฉลองครบรอบบริษัทให้เป็นการตอบแทน...พ่อก็โม้ไปเยอะ ว่าทีมเราเก่ง เด็กๆในบริษัทชอบจัดงานปาร์ตี้บ่อยๆ...ช่วยพ่อหน่อยนะ เพื่อนคนนี้เราช่วยเหลือธุรกิจกันมาหลายครั้งแล้ว...ก็ไม่ได้งานใหญ่อะไร งานเลี้ยงภายในบริษัทเฉยๆ”พุฒิเมธบอกว่าจะลองดู สมบัติบอกให้เข้าไปคุยรายละเอียดกับเพื่อนพ่อเลยพ่อนัดไว้แล้ว บุญสิตาถามว่าเมื่อไหร่ พอสมบัติบอกว่าพรุ่งนี้ พุฒิเมธตกใจ แต่สมบัติพูดสบายๆว่า
“ฝากด้วยนะ อย่าไปสายล่ะ เพื่อนพ่อคนนี้ขึ้นชื่อเรื่องตรงเวลามาก”
พุฒิเมธ บุญสิตา และศรันย์มองหน้ายิ้มกันแหยๆ แบบงานเข้าแล้ว...
ooooooo
รุ่งขึ้นที่บริษัททีไทม์ ขณะที่ก้อยเลขาของธีมาหัวหมุนวุ่นกับงานอยู่ พุฒิเมธกับบุญสิตาก็เดินเข้ามา
ระหว่างนั้นก้อยก็รับสายโทรศัพท์ ทั้งเรื่องตารางนัดงานและเรื่องที่คุณผู้หญิงโทร.เข้ามาเตือนเรื่องงานประชุมผู้ปกครอง ก้อยหันยิ้มแหยๆกับทั้งสองบอกว่าตารางงานแน่นมากเลย ดูนาฬิกาแล้วถาม
“แล้วเพื่อนยังไม่มาอีกเหรอคะ อีกห้านาทีเดี๋ยวท่านก็มาถึงแล้วค่ะ ท่านตรงเวลามาก แล้วท่านก็ไม่ชอบคนที่มาสายด้วยค่ะ”
“ครับๆผมจะรีบโทร.ตามเดี๋ยวนี้” พุฒิเมธรีบโทร.ตามศรันย์ ศรันย์บอกว่าถึงแล้วกำลังจะเข้าบริษัทจะรีบเหาะไปเลย
พุฒิเมธกับบุญสิตามองนาฬิกาตาเป๋ง ใจลุ้นว่าศรันย์จะมาทันไหม
พอเข็มนาฬิกาเลื่อนไปบ่ายโมงเป๊ะ ประตูห้องก็เปิด ทุกคนลุ้นกันว่าจะเป็นใครเข้ามา ปรากฏว่าเป็น ธีมาเปิดประตูเข้ามา
“เมธเป็นไงบ้าง ไม่ได้เจอนานเลยนะ”
“สวัสดีครับคุณลุง ผมสบายดีครับ” แล้วหันไปแนะนำซิน “นี่คุณซินผู้จัดการบริษัทครับ”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ เราย้ายไปคุยห้องลุงดีกว่าเนอะ ...เห็นว่าจะมากันสามคนไม่ใช่เหรอ อีกคนล่ะ...อย่าบอกนะว่ามาสาย”
ทันใดนั้นประตูเปิด ศรันย์เข้ามาเห็นยังไม่ได้ประชุมกันก็ถอนใจโล่งอกบอกว่า “ทันเวลาพอดีเลย”
“ทันตรงไหนครับ สายไปหนึ่งนาทีสิบห้าวินาที” ธีมาพูดยิ้มๆอย่างผู้ใหญ่ใจดีตั้งใจสอนลูกหลาน “มีนาฬิกาแต่มาสายก็อย่ามีนาฬิกาดีกว่านะครับ” พูดแล้วเดินออกไปเลย
พุฒิเมธ บุญสิตา และศรันย์ มองหน้ากันกลืนน้ำลายเอื๊อก...
ooooooo
เมื่อเข้าไปในห้องทำงานขนาดใหญ่ของธีมา ในห้องประดับประดาด้วยนาฬิกามากมายทั้งใหม่และโบราณ ธีมาเริ่มการประชุมด้วยท่าทีสบายๆ แต่สอนบรรดาลูกหลานในทีว่า
“ลุงย้ำกับลูกน้องเสมอว่าเราทำนาฬิกา เราอยู่กับเวลาตลอด เราก็ต้องใช้เวลาแต่ละวินาทีให้คุ้มค่า ให้เกิดประโยชน์สูงสุด...เวลามันผ่านแล้วผ่านเลย หนึ่งนาทีเราก็เอากลับคืนมาไม่ได้”
“แต่ถ้าเราต้องทำตามเวลาเป๊ะๆแล้วทำให้ไม่มีความสุขก็เอาเวลาไปนั่งเฉยๆ ดูต้นไม้ใบหญ้าก็ดีกว่านะคะ” บุญสิตาปากไว ถูกศรันย์เอาเท้าสะกิดจึงรู้ตัวรีบขอโทษ ธีมาไม่ถือสา ตัดบทว่า
“อย่าเสียเวลาพูดเรื่องไร้สาระเลย...เรามารีบคุยงานดีกว่า ลุงมีเวลาแค่ชั่วโมงเดียว”
การประชุมดำเนินไปอย่างจริงจัง จนเหลือเวลาอีกห้านาที ธีมามองนาฬิกาแล้วบอกพุฒิเมธว่าตนมีนัดต่อ เดี๋ยวให้เลขาคุยรายละเอียดต่อแล้วกัน ขอบใจที่มาช่วยงาน ยิ้มให้อย่างกันเองแล้วลุกเดินออกไป ทุกคนหันมองนาฬิกาในห้องพร้อมกัน พอธีมาออกไปและประตูปิดก็เป็นเวลาบ่ายสองโมงเป๊ะ!
“ยังมีคนแบบนี้อยู่บนโลกอีกเหรอ” ศรันย์อึ้งมาก
ขณะธีมาเดินออกมาก็ได้รับโทรศัพท์จากฐิติมาภรรยา บอกว่าวันนี้มีประชุมผู้ปกครองตนรออยู่ที่โรงเรียนแล้วหวังว่าเขาไม่ลืมใช่ไหม ธีมาบอกว่าไม่ต้องห่วง ตนกำลังจะไป พูดไม่ทันขาดคำพนักงานก็มารายงานว่านาฬิกาที่จะทำเป็นที่ระลึกในงานมีปัญหา คนออกแบบอยากคุยเรื่องแบบด่วน
“ได้ งั้นเดี๋ยวผมไปคุยเอง” ธีมาตัดสินใจเดินย้อนกลับไปทันที
ก้อยเลขาของธีมายังประชุมกับพวกพุฒิเมธต่อ
เธอชื่นชมการทำงานของธีมาว่า บอสขยันมากลงมือทำเองทุกอย่าง ตารางงานแน่นทุกวันจนแทบไม่ได้พัก พุฒิเมธเลยได้ไอเดียเสนอว่า
“งั้นพรีเซนต์บริษัท เรานำเสนอให้เห็นความตั้งใจทุ่มเทของคุณลุงในการทำงานดีไหมครับ” เลขาเห็นด้วย “งั้นเดี๋ยวผมกับเพื่อนๆจะลองไปแตกไอเดียนี้มาเสนออีกที”
“ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวฉันนัดคุณธีมาให้ แล้วจะโทร.ไปแจ้งเวลาสถานที่นะคะ” เลขาสรุป
พุฒิเมธ บุญสิตากับศรันต์เดินออกมาเห็นธีมายังไม่ออกไปจึงจะไปลา ได้ยินเขาพูดโทรศัพท์กับภรรยาขอโทษที่วันนี้มีงานด่วนตนต้องไปจัดการ ถูกตัดพ้อว่า
“คุณมีเวลาให้คนอื่นแต่ไม่มีเวลาให้ครอบครัวตัวเองเลย”
“ท่าทางเราจะคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว...ไว้เราค่อยคุยกันนะ ผมมีนัดคุยงาน”
ธีมาวางสายอย่างหงุดหงิดแล้วเดินออกจากบริษัทไปเลย พวกพุฒิเมธเลยยืนค้างตัดสินใจอย่าไปลา
ooooooo
ณฤทธิ์ติดตามไผ่ไปที่โรงพยาบาล ป้าที่เฝ้าลูกของไผ่ที่โรงพยาบาลบอกว่า หมอบอกให้เขาทำใจลูกคงไม่รอดแล้ว ไผ่แทบสติแตกถามว่าหมอที่ไหนพูดแบบนี้ตนจะไปจัดการ แล้วพูดทั้งน้ำตาว่า
“พ่อจะทำทุกทางเพื่อยืดเวลาให้ลูก จะยื้อให้เรามีเวลาได้อยู่ด้วยกันให้นานที่สุด อดทนหน่อยนะลูก”
ไผ่พรวดไปถามพยาบาลว่าหมออยู่ไหน พยาบาลไม่บอกแต่บอกว่าหมอจะมาเข้าเวรหกโมงเย็นณฤทธิ์เห็นอารมณ์พลุ่งพล่านของไผ่ก็กลัวว่าเขาทำร้ายหมอรีบไปสิงร่างบุญสิตาให้มาช่วย
ไผ่รอจนเห็นรถหมอเข้ามาจึงไปดักหน้าแล้วล้วงไปในถุงที่ถือมา หยิบเงินใส่มือหมอร้องไห้อ้อนวอน
“ทั้งตัวผมมีเงินเท่านี้ ผมให้หมอหมดเลย ผมจะให้หมออีกเท่าที่หมอต้องการ หมอช่วยรักษาลูกผมต่อเถอะครับ...ผมเชื่อว่าลูกผมจะต้องฟื้น”
บุญสิตาที่ถูกณฤทธิ์สิงจึงรู้ว่าตัวเองเข้าใจผิดคิดว่าไผ่จะมาทำร้ายหมอ จึงสืบเรื่องไผ่ต่อ โดยทำทีตกใจที่เห็นไผ่เดินหมดอาลัยตายอยากมานั่งทำท่าจะร้องไห้บอกว่าพ่อไม่สบายหมอบอกว่าไม่มีทางรักษาหาย ไผ่บอกว่าลูกตนก็เหมือนกันหมอบอกว่าไม่มีทางรักษาหาย
บุญสิตาบอกว่าเราเหมือนกันเลย ไผ่ติงว่าไม่เหมือนเธอยังโชคดีมีงานทำ ตนไม่มีงานทำซ้ำยังต้องใช้เงินเยอะเพื่อรักษาลูก บุญสิตาเลยทำเนียนบอกว่าที่บริษัทกำลังเปิดสมัครคนงานเพิ่มให้ลองไปสมัครดู แล้วพยายามพูดให้บริษัทดูดีว่า พ่อของมาร์คใจดีแต่หุ้นส่วนพยายามจะขายบริษัท
บุญสิตาพูดอ้อมๆกล่อมไผ่ แล้วขอตัวไปทำงาน แต่ก่อนไปก็ให้นามบัตรของพุฒิเมธและเบอร์โทร.ของตัวเองบอกว่า ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้
รุ่งขึ้น พุฒิเมธ บุญสิตากับศรันต์ไปที่บ้านธีมาตามนัด ไปเจอธีมากับฐิติมากำลังโต้เถียงกันเรื่องธีมาไม่ไปงานโรงเรียนลูก ธีมาขอโทษทั้งสามที่มาเจอบรรยากาศนี้ แล้วชวนคุยเรื่องงานกันเลย
ธีมาชอบไอเดียที่ทั้งสามเสนอแต่ไม่แน่ใจว่าตนจะมีเวลาถ่ายทำหรือไม่ แล้วขอตัวสั่งงานลูกน้อง บอกว่าวันนี้คิวตนแน่นมาก มีเวลาแค่ชั่วโมงเดียวตอนห้าโมง พุฒิเมธเปรยอย่างหนักใจว่า
“อยากหาเงินให้ครอบครัวเยอะๆ แต่ก็ต้องแลกกับการทำงานจนไม่มีเวลาให้ครอบครัว”
บุญสิตาถามว่าจะช่วยเขายังไงดี ณฤทธิ์บอกว่าโรคแบบนี้ต้องรอเขาหรือใครเป็นอะไรก่อนถึงจะคิดได้
“พูดอย่างกับว่าเขามีเวลา มีจังหวะให้เราแทรกอย่างนั้นแหละ พอจะพูดอะไรเวลาก็หมดต้องรีบไปทำอย่างอื่น” พุฒิเมธงึมงำ
ooooooo
เห็นปัญหางานแน่นไม่มีเวลาของธีมาแล้ว บุญสิตาปรารภกับณฤทธิ์ขณะนั่งกันที่สวนสาธารณะว่า
“ฉันไม่รู้จะสงสารใครดี ทั้งคุณธีมาแล้วก็ไผ่ คนหนึ่งมีเวลาอยู่ในมือ มีคนที่รักอยู่กับตัว แต่กลับไม่สนใจ ในขณะที่อีกคนพยายามทำทุกทางเพื่อยื้อเวลาให้ได้อยู่กับคนที่ตัวเองรัก”
“สงสารฉันสิ พวกเขายังมีโอกาสได้อยู่กับคนที่รัก ยังมีโอกาสได้แก้ไขตัวเอง แต่ฉันสิกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว” บุญสิตามองอย่างสงสาร “ไม่ต้องมองฉันด้วยความสงสารเลย ฉันทำใจได้แล้ว ฉันจะพยายามเป็นผีโลกสวย...ตอนนี้สิ่งที่ฉันทำได้คือ ช่วยคนเหล่านี้ไม่ให้เขาต้องมานั่งเสียใจทีหลังแบบฉัน”
อ่านละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ตอนที่ 13 วันที่ 26 ก.พ.61
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ บทประพันธ์โดย : ติณณาละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ บทโทรทัศน์โดย : ตฤณณา
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ กำกับการแสดงโดย : กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ที่มา ไทยรัฐ