อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 11 วันที่ 5 ก.พ.61

อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 11 วันที่ 5 ก.พ.61

พอวลีรู้ว่าชยุติต้องการที่จะอยู่บ้านบัวห้าวันและกลับมาอยู่บ้านพ่อแม่สองวันก็หน้าเครียดพยายามระงับความไม่พอใจ ชยุติอ้างว่านี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดเพื่อความสบายใจของป๊า

ชยุติหาทางออกเพื่อความสบายใจของป๊ากับม้า ให้ทุกคนได้อยู่พร้อมหน้าในวันหยุด ส่วนโรงงานตนยินดีจะไปทำงานต่อถ้ายังวางใจตน

 วลีหลุดแว้ดออกมาว่า...ไม่ได้...ลูกชายจะออกไปอยู่บ้านคนอื่นได้อย่างไร ชยุติยืนกรานว่าตนอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีบัว วลีสวนด้วยความโกรธแล้วนึกได้กลับลำทัน


“ม้าก็อยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีติเหมือนกัน...เอาอย่างนี้ ม้ามีทางออกที่ดีกว่านั้น ถ้าติเชื่อม้า...”

ชยุติสบตากนกวิภาทำนองแม่จะมาไม้ไหนอีก...

เย็นวันนั้น ชยุติมาหาบัวที่บ้านเจียง บอกความประสงค์ของวลี อยากให้บัวกลับไปอยู่ด้วย ถ้าบัวไม่เชื่อ ยินดีจะมาขอโทษบัวกับเจียงที่นี่ ทั้งบัวและเจียงไม่เห็นด้วย ชยุติกับบัวต่างหากที่ต้องเข้าไปขอขมาวลี บัวสบตาชยุติบอกตนจะกลับไปอยู่ที่บ้านเขา ชายหนุ่มดีใจกุมมือแทนคำขอบคุณจากใจ

เย็นวันนั้น บัวกับชยุติเข้ามากราบวลีกับไชโย วลีปั้นหน้ายิ้มรับ จี๊ด จ๊าดและชูดวงเห็นแล้วไม่อยากเชื่อ วลีเอ่ยปากว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเพราะตนที่ผิด

“ผิดที่ตาบอด มองไม่เห็นความดีงามของดอกบัวดอกนี้ ต่อไปนี้เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะ ม้าสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายจิตใจหนูอีก ให้โอกาสม้าได้ไหม”

บัวอึ้งน้ำตารื้นรับคำ วลีขอให้บัวเรียกตนว่าอาม้า ไชโยงงที่ภรรยาจะเปลี่ยนไปขนาดนี้ วลียิ้มแย้มจับหน้าบัวอย่างเอ็นดู ดีใจที่ครอบครัวเราจะอยู่กันพร้อมหน้า...

บัวทำหน้าไม่ถูกไม่คิดว่าอะไรๆจะเปลี่ยนไปได้

สามคนรับใช้สุมหัวคุยกันในครัว ไม่มีใครอยากเชื่อว่าวลีจะเปลี่ยนไปในทางดีอย่างนั้น ทันใดชยุติก้าวเข้ามาถามหามาลัย ทั้งสามหน้าเจื่อนมองกันไปมาว่าใครจะตอบ

ในขณะที่มาลัยเห็นข่าวหน้าหนังสือพิมพ์แล้วกลุ้มใจ รู้ว่าวลีจะต้องมีแผนร้ายอีกแน่ ได้แต่พึมพำ...ป่วยกายกินยาก็หาย แต่ถ้าจิตใจป่วย มาลัยถอนใจ ทำอย่างไรวลีถึงจะหาย

ooooooo

วันต่อมา วลีเป็นคนบอกชยุติว่า มาลัยไปทัวร์ไหว้พระกับเพื่อนๆ เห็นว่าไปหลายวันหลายจังหวัด ชยุติแปลกใจว่าเพื่อนกลุ่มไหน วลีสบตาไชโยให้ช่วย เขาจึงบอกลูกว่า เพื่อนเก่าที่ชมรมไทเก๊ก ชยุติติงทำไมไม่ให้จี๊ดหรือวลัยตามไปดูแล วลัยรีบบอกว่าอยากไป วลีแทรก

“อาม่าน่ะสิไม่ยอม บอกอยากจะไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ไม่ชอบให้มีใครไปคุม แกก็รู้นี่ว่าอาม่าแกน่ะขี้รำคาญจะตายไป โดยเฉพาะกับม้าแล้วก็อาอี๊ของแก”

ระหว่างนั้นบัวยกอาหารมาวางแล้วจะกลับเข้าไปในครัว วลีทำทีเรียกให้บัวนั่งร่วมโต๊ะ ชยุติยิ้มพยักหน้าให้เธอนั่งข้างๆ จี๊ดยิ่งแปลกใจแต่ก็กุลีกุจอจัดจานช้อนส้อมมาวาง

เสร็จจากอาหารเช้า ชยุติอิดออดล่ำลาบัวจนวลีแอบหมั่นไส้ พยายามเก็บอาการไล่ให้เขารีบไป บัวขอตัวไปช่วยงานในครัว...ไชโยทนไม่ไหวถามวลีคิดจะทำอะไรถึงยอมรับบัวเป็นสะใภ้ วลียิ้มหยันเผยแผนหลอกให้ตายใจแล้วค่อยเชือดทีหลัง ไชโยตบเข่าฉาด

“ผมว่าแล้ว ว่าคุณไม่น่าจะเปลี่ยนใจ เปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อเมียไอ้ตี๋ได้ง่ายๆ”

“คุณรู้ใจฉันเสมอเลยคุณไชโย คนอย่างฉันจะไม่ลามือง่ายๆ ถ้ายังไม่ได้สิ่งที่ฉันต้องการ”

ไชโยเห็นแววตาภรรยาแล้วขยาด เริ่มรู้สึกสับสนว่าสิ่งที่ทำมันถูกหรือผิดกันแน่...บ่ายวันเดียวกัน ไชโยนั่งทานอาหารกับล้วน แสงเดือนและยิ่งจันทร์ที่ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง ยิ่งจันทร์รู้ว่าชยุติกลับมาก็แสร้งทำดีใจน้ำตาร่วง แสงเดือนได้ฟังว่าชยุติหนีไปอยู่กับบัวที่บ้านเก่าของมาลัยก็รู้ทันทีว่าโดนตรึงจิตหลอก แต่ข้องใจเรื่องที่วลียินดีต้อนรับบัวเข้ามาอยู่ในบ้านแบบนี้ หมายความว่าอย่างไร ไชโยรีบอธิบายว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนหลอกให้เหยื่อตายใจแล้วเชือดทีหลัง

สามพ่อแม่ลูกร้องอ๋อ...พร้อมกัน แสงเดือนถามย้ำว่ามั่นใจหรือว่าครั้งนี้จะสำเร็จ ไชโยย้ำให้ยิ่งจันทร์เตรียมตัวเป็นเจ้าสาวได้เลย พร้อมกันนี้ก็มอบเช็คเงินสดงวดที่สามให้ล้วนเป็นการเพิ่มทุนตามที่เขาขอ ทั้งสามตาโตยิ้มอย่างมีเลศนัย

พอแยกกับไชโย แสงเดือนก็คุยกับสามีและลูกว่าไม่อยากเชื่อขี้ปากไชโยอีก คราวนี้ตนจะจัดการกำจัดบัวเอง ยิ่งจันทร์อยากรู้ว่าแม่จะทำอะไร แสงเดือนไม่บอกแต่ยิ้มกับแผนของตน

ด้านบัวดูแลรดน้ำใส่ปุ๋ยผักที่มาลัยปลูกทิ้งไว้

จี๊ดคันปากยิบๆอยากจะบอกว่ามาลัยอยู่ไหน วลีรู้ทันเข้ามาขัด ไล่จี๊ดไปซื้อของที่ตลาด พูดเป็นนัยๆว่าให้ไปซื้อเข็มกับด้าย ตนจะเย็บปาก...กระเป๋าให้สนิท จี๊ดกลืนน้ำลายเอื๊อกรีบล่าถอย จากนั้นวลีก็ทำเป็นห่วงใยให้บัวพักผ่อนบ้าง ไม่ต้องทำงานอะไรในบ้านมาก จะได้มีหลานให้ตนไวๆ กนกวิภายืนมองอย่างไม่ไว้วางใจ

วลีก้าวเข้ามาในห้องนอน เจอกนกวิภานั่งรออยู่ก็ยิ้มบอกมีเรื่องอยากคุยด้วยพอดี หญิงสาวชิงถามก่อนว่า เรื่องบัวใช่ไหม มีแผนอะไร วลีชมว่าลูกช่างรู้ใจ ไม่ทันจะพูดต่อเธอก็สวน

“ไม่ว่าอาม้ากำลังจะคิดทำอะไร หนกว่าหยุดเถอะนะคะ”

“แกพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง”

“ม้าไม่เบื่อเหรอคะ ที่ครอบครัวเราไม่สงบสุขเลย พอเถอะค่ะม้า บัวเองก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ม้าเลิกคิดที่จะกำจัดบัวเถอะค่ะ”

“นี่แกบ้าไปแล้วหรือไงยัยหนก ถึงมาพูดกับม้าแบบนี้!”

กนกวิภาพยายามบอกวลีว่าตนตาสว่างเห็นผิดเห็นชอบแล้ว วลีโกรธมากหาว่าไปโดนใครล้างสมอง หรือพวกงิ้วชั้นต่ำขู่ทำร้าย หญิงสาวส่ายหน้าบอกทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะเป็นผลจากการกระทำที่ผ่านมาของพวกเรา วลีกราดเกรี้ยวไม่อยากฟัง และตนจะไม่ยอมหยุด ทุกอย่างที่ตนทำจะต้องไม่สูญเปล่า แล้วก็ไล่กนกวิภาออกไปจากห้อง เจ็บใจที่ใครๆหันไปเข้าข้างบัว...

ดำเกิงตั้งโต๊ะอาหารเย็นให้เจียงกับหลอเสร็จก็จะไปขายบะหมี่ ทั้งสองให้กินข้าวก่อนจะได้มีแรงทำงาน ไม่ทันไรกนกวิภาหน้าเศร้าเข้ามายกมือไหว้เจียงกับหลอ สองผู้เฒ่าประหลาดใจ

กนกวิภามาช่วยดำเกิงตั้งร้านขายบะหมี่และระบายความทุกข์ให้ฟัง ยอมรับว่าไม่ไว้ใจแม่ตัวเอง ดำเกิงก็คิดอย่างนั้น เพราะการที่ทะเลสงบหมายถึงจะมีพายุใหญ่ หญิงสาวถอนใจช่วยงานเสร็จจะกลับ ดำเกิงไม่อยากให้เธอกลับจึงอ้างว่าทำบะหมี่ให้กินฟรี ตอบแทนที่คาบข่าวมาบอก

“นี่! ฉันเป็นคนนะไม่ใช่หมา...”

“เธอเป็นยัยหมวยของฉันต่างหาก” ดำเกิงทำหน้าทะเล้น กนกวิภาหน้าแดงแอบเขิน

คืนนั้นดำเกิงมาแอบคุยกับบัวข้างรั้วบ้านหลังจากส่งกนกวิภา เตือนให้ระวังวลีไว้บ้าง แต่บัวไม่อยากเชื่อแต่ก็รับคำจะระวัง...ในคืนนั้น ชยุติในชุดนอนเข้ามาโอบกอดบัวที่นั่งหวีผมอยู่หน้ากระจก ถามอย่างห่วงใยว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง บัวย้อนถามตนต่างหากที่ต้องถามว่าเขาไปทำงานเหนื่อยไหม ต่างคนต่างห่วงใยกันและกัน ชยุติบอกว่าไม่เหนื่อยแค่งานเอกสาร

บัวบอกไม่เหมือนอยู่ที่บ้านริมทะเลต้องทำงานหนัก ชยุติรับว่าเหนื่อยแต่มีความสุขกว่าตอนนี้ บัวเองก็รู้สึกเช่นนั้น ชยุติคิดไปไกลว่าต่อไปตนจะพาลูกๆไปเที่ยวที่นั่นบ่อยๆ บัวเขิน เขายิ่งเย้าแหย่ว่าเธอเห็นความน่ารักของเขาแล้ว บัวเคลิ้มปล่อยตัวให้เขาจูบ แต่ไม่ทันจะได้จูบ วลีโผล่เข้ามาขัดจังหวะ เธอแกล้งมาขอยืมตัวบัวไปนวด อ้างว่าจ๊าดหลับไปก่อน ชยุติทำหน้าเซ็งๆ

วลีพึมพำกับตัวเอง “แกอย่าคิดว่าจะมีโอกาสได้อยู่กับตาติสองต่อสองอีกเลยนังบัว”

ooooooo

แสงเดือนกับล้วนพาชายฉกรรจ์มาสองคน ล็อกตัวตรึงจิตกับนกขมิ้นฐานหลอกเอาเงินโกหกว่าชยุติอยู่ขอนแก่น ทั้งสองหน้าซีดสัญญาจะหาเงินมาคืน แสงเดือนปัดเศษเงินแค่นั้นขนหน้าแข้งตนไม่ร่วง ทั้งสองต้องทำงานให้พวกตน แล้วยังจะได้เงินเพิ่มอีก ตรึงจิตตาโต

พอตรึงจิตกับนกขมิ้นรู้จุดประสงค์ก็กลับมานั่งปรึกษากัน นกขมิ้นไม่อยากทำแต่ตรึงจิตจะทำเพราะต้องการเงิน นกขมิ้นคิดว่าทำแบบนี้รุนแรงเกินไปที่จะให้ไปฉุดบัวมาให้คนข่มขืน ตรึงจิตปะเหลาะว่าถ้าไม่ทำพวกเราก็จะโดนซ้อมจนตาย

“แต่พี่ว่ามันเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางเกินไปนะ อีกอย่างถ้าป๊ารู้ ป๊าไม่ยอมให้อภัยพวกเราแน่”

“พี่จะไปอะไรกับป๊านักหนา ทำอย่างกับป๊าสนใจเรานักนี่ คนที่ป๊ารักน่ะอีไหมโน่น ส่วนเราน่ะก็แค่หมา ไม่มีราคาอะไรสำหรับป๊าหรอก”

“น้องตรึง พี่ไม่เคยขัดใจน้องตรึงเลยสักครั้ง แต่ครั้งนี้พี่นกขมิ้นคนนี้ขอค้านหัวชนฝา ยังไงพี่ก็ไม่เอาด้วย”

ตรึงจิตร้อนใจบอกเรารับปากเขาไปแล้ว นกขมิ้นเสนอว่ารับปากก็ไม่จำเป็นต้องทำ โยนให้คนอื่นทำแทน ตรึงจิตฉงนหมายถึงใคร...สุดท้ายตรึงจิตก็มากล่อมธานีให้ทำแทน เขาจะได้ได้ตัวบัวอย่างที่เคยหวัง ขวดยุแยงจนธานีฮึกเหิมตัดสินใจทำ

วันต่อมา ธานีกับขวดมาหาแสงจันทร์กับล้วนที่บ้าน สองสามีภรรยามองธานีเหยียดๆว่าแค่เดินไปตลาดก็เหนื่อยแล้วจะฉุดบัวไหวหรือ ขวดช่วยพูดจนทั้งสองยอมเชื่อว่าทำได้ ล้วนจึงจ่ายเงินมัดจำให้ครึ่งหนึ่งก่อน อ้างว่าผู้ว่าจ้างให้มาแค่นี้ ธานีแปลกใจถามใครเป็นคนจ้าง

“ยัยคุณนายวลีต่างหาก เขาอยากกำจัดลูกสะใภ้ตัวเองจะตาย พวกเราก็แค่ช่วยรับหน้าที่หาคนให้แค่นั้นแหละ” แสงเดือนโบ้ยความผิดให้วลีเต็มเปา

ระหว่างที่แผนร้ายดำเนินไป ชยุติตรวจเอกสารพบว่าเงินในบัญชีถูกถอนออกไปมากทำให้เพิ่มกำลังผลิตไม่ได้ ไชโยรับว่าเอาเงินไปลงทุนกับแสงเดือน ชยุติท้วงทำไมไม่ตรวจสอบให้แน่ใจหรือรอให้ธนาคารอนุมัติโครงการก่อน ไชโยหาว่าชยุติไม่ไว้ใจครอบครัวนั้น

“การตรวจสอบเพื่อความแน่ใจ ไม่ได้หมายความว่า เราไม่ไว้ใจเขานะครับ แล้วยิ่งถ้าเขาเครดิตดีอย่างที่ป๊าว่าจริง เขาก็ยิ่งต้องไม่กลัวการตรวจสอบ จริงไหมครับ”...ไชโยฉุกคิดตาม

อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 11 วันที่ 5 ก.พ.61

ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว บทประพันธ์โดย กราตร ศักตา
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว บทโทรทัศน์โดย ยิ่งยศ ปัญญา, สรรัตน์ จิรบวรวิสุทธิ์
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว กำกับการแสดงโดย ธนากร โปษยานนท์
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ผลิตโดย บริษัท ดู เอนเตอร์เทนเมนต์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ควบคุมการผลิตโดย ธัญญา-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ