อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 11 วันที่ 6 ก.พ.61
ระหว่างที่แผนร้ายดำเนินไป ชยุติตรวจเอกสารพบว่าเงินในบัญชีถูกถอนออกไปมากทำให้เพิ่มกำลังผลิตไม่ได้ ไชโยรับว่าเอาเงินไปลงทุนกับแสงเดือน ชยุติท้วงทำไมไม่ตรวจสอบให้แน่ใจหรือรอให้ธนาคารอนุมัติโครงการก่อน ไชโยหาว่าชยุติไม่ไว้ใจครอบครัวนั้น“การตรวจสอบเพื่อความแน่ใจ ไม่ได้หมายความว่า เราไม่ไว้ใจเขานะครับ แล้วยิ่งถ้าเขาเครดิตดีอย่างที่ป๊าว่าจริง เขาก็ยิ่งต้องไม่กลัวการตรวจสอบ จริงไหมครับ”...ไชโยฉุกคิดตาม
ในขณะที่วลัยนั่งเศร้าคิดถึงมาลัยจับใจ กนกวิภากำลังจะออกไปข้างนอก วลีบ่นออกไปไหนได้ทุกวัน เธอประชดว่าไม่ต้องสนใจเพราะตนเป็นลูกสาวที่ไม่น่าห่วง วลีหน่ายใจหันมาเห็นน้องสาวนั่งซึมก็เอ่ยถามคิดว่าแปลกไหม วลัยบอกไม่มีความเห็น วลีหมั่นไส้รู้ว่าอยากไปเยี่ยมอาม้า จึงมีข้อแม้ต้องทำงานแลกเปลี่ยน
วลัยเดินบ่นมากับจี๊ด ทำไมวลีต้องให้ตามดูกนกวิภาด้วย หลานจะไปช็อปปิ้งหาเพื่อนก็เรื่องของหลาน ไม่ทันขาดคำ วลัยกับจี๊ดก็ตะลึงเมื่อเห็นกนกวิภาหัวร่อต่อกระซิกอยู่กับดำเกิง ช่วยกันจัดร้านขายบะหมี่ดูมีความสุขราวคู่รักกัน
ooooooo
วลัยกลับมารายงานวลีว่ากนกวิภาไปช่วยดำเกิงขายบะหมี่ วลีเข่นเขี้ยวเจ็บใจหาว่าพวกงิ้วคิดจองเวรลูกตนทั้งพี่ทั้งน้อง จะไม่มีวันยอม
บัวเห็นวลัยนั่งมองผักที่มาลัยปลูกเศร้าๆก็เข้ามาคุยด้วยอย่างห่วงใย จะจัดอาหารเย็นมาให้กลัวว่าเจ็บไข้ วลัยเริ่มเห็นความหวังดีของบัวก็หลุดคำว่าขอบใจออกมา...วลัยคิดถึงเมื่อกลางวันที่ไปเยี่ยมมาลัย ตัวเธอกอดแม่ร้องไห้อย่างรู้สึกผิด มาลัยกลับปลอบใจ
“สุขหรือทุกข์อยู่ที่ใจ ดีหรือชั่วอยู่ที่เราเลือกคนเราทุกคนรู้อยู่แล้วว่าอะไรดี อะไรไม่ดี เพราะฉะนั้นอะไรที่เราเลือกแล้วทำให้เราเป็นทุกข์ เราก็ควรจะปล่อยมันซะ”
วลัยทวนคำของมาลัยแล้วตัดสินใจ อะไรที่เราเลือกแล้วทุกข์ ก็ควรปล่อยมันเสีย...เช้าวันใหม่ บัวเดินออกมาส่งชยุติที่รถ เขาโอบกอดแล้วขโมยหอมแก้มเธอฟอดใหญ่ เธอตีแขนเขากลัวคนมาเห็น เขาโอดครวญว่า เรามีเวลาอยู่กันตามลำพังก็ตอนนี้ กลางคืนเธอก็ต้องไปนวดให้อาม้า วลียืนมองอยู่มุมหนึ่งด้วยความไม่พอใจ รีบเข้ามาขัดจังหวะ ทำทีเข้ามาบ่นว่า
“แหม ม้ายืมตัวหนูบัวมาแค่คืนสองคืน ทำเป็นน้อยใจนะตาติ...คืนนี้ม้ายอมเมื่อยก็ได้ หนูบัวไม่ต้องมาปรนนิบัติม้าแล้วดีไหมตาติ”
ชยุติรับว่าดี บัวขัดว่าไม่ดีเพราะตนมีหน้าที่ดูแลอาม้า เขาจำต้องยอมบอกวลีว่าให้ยืมตัวบัวได้จนกว่าจะพอใจ แล้วหันมากระซิบบัวว่าหาเวลานวดตนบ้าง บัวยิ้มขำ
วลีหมั่นไส้เร่งให้รีบไปทำงาน และบอกเมื่อคืนเห็นสีหน้าไชโยเครียดไม่รู้ว่าเป็นอะไร ชยุติรับคำขึ้นรถขับออกไป
วลีหันมาบอกบัวว่าวันนี้ไม่ต้องเตรียมอาหารกลางวัน เพราะตนจะออกไปข้างนอกกับกนกวิภา บัวจึงขอกลับไปเยี่ยมบ้าน วลีพยักหน้ายิ้มเหยียด ในใจคิดว่าจะสลัดเธอให้หลุดให้ได้
ชยุติมาถึงโรงงานเข้ามาในห้องทำงาน เห็นไชโยหน้าเครียดก็ถามว่าโรงงานมีปัญหาหรือ ไชโยส่ายหน้าบอกที่คุยกันเมื่อวาน ตนโทร.ไปถามธนาคาร เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่มีการขอสินเชื่อจากโครงการอะไรทั้งนั้นของล้วน และถ้ามีการยื่นขอก็ไม่อนุมัติ เพราะเครดิตล้วนแย่จนถูกขึ้นบัญชีดำไว้...ไชโยเครียดที่เสียเงินให้ล้วนไปสามก้อนเป็นเงินหลายล้าน ชยุติปลอบว่าตีโพยตีพายไปก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าเขาไหวตัวทันจะหนีไปเสียก่อน เราต้องสืบให้ได้หลักฐาน
ในขณะที่กนกวิภานั่งบ่นในร้านอาหารว่าวลีนัดไปช็อปปิ้งก็เบี้ยวแล้วยังนัดให้มารอที่ร้านอาหาร จะเบี้ยวอีกหรือไม่ จังหวะนั้น ฮั้ว...หนุ่มหน้าตี๋เข้ามานั่งตรงข้าม กนกวิภางงถามเขาเป็นใคร ฮั้วยิ้มตาหยีตอบเล่นลิ้นเป็นคนที่เธอก็รู้ว่าใคร ก่อนจะแนะนำตัวเป็นทางการ
“ผมฮั้ว หลีฮวด ลูกชายเจ้าของโรงงานเกลือสมุทรฮวดหลี...”
“คุณพูดอะไร ฉันว่า...ฉันไม่รู้จักคุณ เราไม่เคยรู้จักกัน”
ฮั้วอ้างว่ากนกวิภายอมมากินข้าวด้วย กนกวิภาสวนว่าตนนัดกับอาม้า ฮั้วเอ่ยชื่อวลีและย้ำ
“คุณอาวลีเป็นคนนัดผมให้มากินข้าวกับคุณวันนี้ ...หมายความให้ง่ายกว่านั้นก็คือ คุณอาวลีนัดให้ผมมาดูตัวคุณ นัดเรามาดูตัวกันไงครับ”
กนกวิภาอึ้ง พอจะเข้าใจอะไรบ้างแล้ว...ขณะเดียวกัน ชยุติพาบัวมาหาดำเกิง เห็นใจลอยจนทำน้ำซุปลวกมือตัวเอง บัวแซวใจลอยไปถึงไหน ดำเกิงเป่ามือแล้วถามมากันได้อย่างไร ชยุติบอกว่าอยากพาเมียมากินบะหมี่ที่อร่อยที่สุดในย่านนี้ ดำเกิงทำหน้าหมั่นไส้ประชด
“ทีหลังว่างๆก็วานแกมาช่วยฉันต้มน้ำซุปทีนะไอ้ตี๋...น้ำซุปจะได้หวานแบบไม่ต้องใส่กระดูกหมูลงไปต้มเลยไง หมั่นไส้”
บัวเอ็ดว่าพูดมากให้รีบทำบะหมี่มาให้กินเร็วๆ ดำเกิงชะเง้อมองไปรอบๆ บัวรู้ทันบอกตนมากันสองคน เสร็จแล้วจะซื้อไปฝากคนที่เขามองหา ดำเกิงยิ้มเขินที่บัวรู้ทัน ชยุติบอกกนกวิภาออกไปกับอาม้า คงไปช็อปปิ้งตามประสา บัวแอบยิ้มอย่างรู้ใจว่าดำเกิงชอบกนกวิภาแน่
ด้านกนกวิภากลับมาโวยวายต่อว่าวลีที่คิดจับคู่ตน วลีจึงบอกว่าต้องการให้ได้ผัวดีๆ ไม่ใช่พ่อค้าบะหมี่กระจอกๆ กนกวิภาสะอึกที่อาม้ารู้ แต่ก็ยืนกรานว่าตนจะแต่งงานกับผู้ชายที่ตนเลือกเท่านั้น วลีเจ็บใจเรียกวลัยไปสั่งการ วลัยแปลกใจมีอะไรจะให้ทำอีก
ชูดวงกำลังทำสวนอยู่ เห็นวลีกับวลัยเดินออกมาคุยกันที่ศาลา วลีเอ่ยปากบอกมีเรื่องให้ช่วย วลัยดักคอว่าถ้าเป็นเรื่องจับคู่กนกวิภา ตนไม่ขอยุ่งด้วย วลีกราดเกรี้ยวตนสั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำ วลัยพยายามเตือนสติพี่สาว
“น้องกำลังรู้สึกผิด น้องรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำมาทั้งหมดมันผิด ผิดมาก เราเลิกล้มยังทันนะคะคุณพี่ เราหยุดมันได้...”
“หุบปาก! ฉันไม่มีวันหยุด ถ้าฉันยังไม่ได้สิ่งที่ฉันต้องการ”
“แม้ว่ามันจะต้องทำร้ายความรู้สึกของลูกหลาน หรือแม้กระทั่งอาม้าของเราเหรอคะ...ตาติต้องระเห็จออกจากบ้าน อาม้าก็ถูกส่งไปอยู่บ้านพักคนชรา คุณพี่ยังมีสำนึกผิดชอบชั่วดีอยู่รึเปล่าคะ” ขาดคำวลัยก็หน้าชาจากการฟาดฝ่ามือผัวะลงมาของวลีพี่สาวฝาแฝด
“ถึงเราจะเป็นฝาแฝดกัน แต่ฉันเป็นพี่ แกเป็นน้อง แกไม่มีสิทธิ์มาด่าฉัน แกอย่าลืมสิวลัย ทุกวันนี้แกพึ่งพาฉันทุกอย่าง ทั้งกินทั้งอยู่ ทั้งเงินเดือน แกเคยทำอะไร สร้างอะไรให้เกียรติกำจรบ้าง เพราะฉะนั้น ฉันสั่งให้ทำอะไรแกก็ต้องทำ!”
วลัยถามอย่างเจ็บปวดว่าถ้าไม่ทำ วลีสวนทันควันว่าไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีก วลัยรวบรวมความกล้าพูดออกมาว่าตนจะทำตามคำสั่ง จะไม่อยู่ให้เห็นหน้าอีก วลีอึ้งไม่คิดว่าน้องสาวที่ไม่เอาไหนจะกล้าตัดสินใจแบบนี้...
ชูดวงหน้าเหวอเมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
ooooooo
เย็นวันนั้นวลัยหิ้วกระเป๋าออกจากบ้านอย่างเด็ดเดี่ยว จี๊ดกับจ๊าดพยายามห้ามก็ไม่เป็นผล วลัยมาหามาลัยที่บ้านพักคนชรา โผซบตักร้องไห้ มาลัยพอจะเดาออกว่าทะเลาะกับพี่สาวมา
ชยุติกับบัวถือถุงบะหมี่กลับเข้าบ้าน แปลกใจที่บ้านเงียบ วลียิ้มแย้มเข้ามาบอกว่าวลัยออกไปสมาคมกับเพื่อน กนกวิภาอิ่มข้าวกลางวันจึงไม่ลงมากินข้าวเย็น ชยุติบ่นเสียดายที่ไม่มีใครอยู่กินบะหมี่ที่อร่อยที่สุด
บัวจะเอาไปเก็บใส่ตู้เย็น ไว้อุ่นทานมื้ออื่น วลีเจ็บใจลืมตัวกระชากถุงบะหมี่จากมือบัวมาอย่างแรง พอรู้ตัวก็ทำทีบอกว่าให้จ๊าดเอาไปเก็บไม่ใช่หน้าที่บัว แล้วถามถึงไชโย ชยุติบอกว่าป๊าคุยอยู่กับลูกค้า น่าจะกำลังกลับ วลีฝืนยิ้ม
“ดีจ้ะ กลับกันมาพร้อมหน้าเมื่อไหร่ ม้าจะได้ปรึกษาเรื่องงานทีเดียว”
ชยุติสบตาบัวอย่างอยากรู้ว่างานอะไร...ผ่านการสนทนาแล้ว ชยุตินั่งมองบัวที่กำลังจัดที่นอน ไม่อยากเชื่อว่าวลีจะจัดงานเลี้ยงฉลองรับขวัญบัว บัวเองก็ไม่อยากให้สิ้นเปลือง ชยุติส่ายหน้าบอกตนคิดว่าอาม้าไม่เคยลงทุนอะไรโดยไม่หวังผล บัวติงอย่ามองแง่ร้าย ท่านอาจจะเห็นเป็นความสุขของเขาก็ได้ ชยุติฉวยโอกาสกอดบัวบอกความสุขของเราต่างหาก บัวเอ็ดว่าเขาฉวยโอกาสชยุติแกล้งเปรยว่าไม่ให้กอดเมียก็จะได้ไปกอดผู้หญิงอื่น บัวเผลอเหวี่ยงด้วยความหึง
“คุณกำลังหึงผม...” บัวปฏิเสธ เขาอ้อน “หึงหน่อยเถอะนะ ผมชอบ...”
บัวชะงักสบตาชยุติที่จ้องลึกเข้ามาในดวงตา เขากระซิบแปลกใจที่วันนี้วลีไม่มาตามบัว บัวนึกได้จะไปถาม ชยุติรีบดึงเธอมากอดไม่ให้ไป แล้วอาศัยทีเผลอจูบประกบปากเธอนิ่งนาน
บัวตีแขนเขาต่อว่า “คุณนี่มันเจ้าเล่ห์ คอยจะเอาเปรียบฉันอยู่เรื่อย ฉันไม่ยอมให้คุณนอนกอดฉันแล้วคืนนี้”
“ถ้าไม่ให้กอด ผมจะจูบคุณอีกนะ”
บัววิ่งหนี ชยุติวิ่งไล่ เสียงหัวเราะอย่างมีความสุข ทำให้วลีซึ่งแอบฟังอยู่ที่หน้าห้องเข่นเขี้ยว...คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่บัวจะได้เริงร่าอยู่ที่นี่
วลีกลับมาที่ห้อง เห็นไชโยนั่งหน้าเครียด เขาเอ่ยถามจะจัดฉลองทำไม มีอะไรแอบแฝง วลียอมรับว่ามีเซอร์ไพรส์รออยู่ แต่ไม่บอกว่าอะไร ไชโยจึงถามทำไมต้องเชิญครอบครัวยิ่งจันทร์ วลียิ้มกริ่ม ไชโยอึดอัดใจอยากจะบอกเรื่องราวแต่คิดว่ารอหลักฐานก่อน
อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 11 วันที่ 6 ก.พ.61
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว บทประพันธ์โดย กราตร ศักตาละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว บทโทรทัศน์โดย ยิ่งยศ ปัญญา, สรรัตน์ จิรบวรวิสุทธิ์
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว กำกับการแสดงโดย ธนากร โปษยานนท์
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ผลิตโดย บริษัท ดู เอนเตอร์เทนเมนต์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ควบคุมการผลิตโดย ธัญญา-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ