อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 1 วันที่ 12 ก.พ.61

อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 1 วันที่ 12 ก.พ.61

“ใช่...ฝีมือคนโบราณหลายร้อยปีมาแล้วนะ ไม่มีเทคโนโลยีใดๆ ฉันนับถืออัจฉริยะของมนุษย์จริงๆว่ะ” เกศสุรางค์นึกได้ แววตาอ่อนโยนลงทันที

กลับมาอีกยุคสมัย คุณหญิงจำปาไหว้พระเรียบร้อยก็ชวนปริกกลับเพราะคิดว่าป่านนี้หมื่นสุนทรเทวาคงชำระความการะเกดแล้วเสร็จ...แต่พอกลับมาถึงเรือน เห็นทุกคนยังรอการะเกดอยู่

“อะไรกันนี่! นี่แม่การะเกดยังไม่ออกมารึ จะต้องให้เข้าไปลากตัวออกมารึไง คุณพี่คะทนนิ่งอยู่ได้ฤาคะ”



ไม่ทันที่ออกญาจะตอบ การะเกดเดินเข้ามา อ้างว่าต้องอาบน้ำแต่งตัว จำปาทนไม่ไหว

“จะให้ข้าพูดอย่างไรดีถึงความน่าชังของออเจ้า... ยังไม่รู้ตัวอีก”

การะเกดกระฟัดกระเฟียดถามว่ามีเรื่องอะไรถึงให้คนปลุกแต่เช้า ท่านหมื่นแดกดันว่าไก่ขันออกสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน ออกญาตัดบทบอกว่าเมื่อคืนมีเรื่อง บ่าวของจันทร์วาดจมน้ำตาย การะเกดทำทีตกใจ ท่านหมื่นจ้องมองอย่างจับผิด แต่เธอก็แถไปเรื่อย

พอเข้ามาอยู่ในห้องลำพังสามคนพ่อแม่ลูก หมื่นสุนทรเทวาเชื่อว่าการะเกดเป็นคนทำร้ายจันทร์วาด ออกญาผู้บิดาบอกว่านางปฏิเสธจะกล่าวโทษนางได้อย่างไร ท่านหมื่นเสียงเข้มขึ้น

“คุณพ่อขอรับ แม่การะเกดนางโหดร้ายมาก ข้าเกลียดนาง นางรู้ได้ยังไงขอรับว่าเรือแม่จันทร์วาดถูกล่ม ยังไม่มีใครเอ่ยคำใดสักคำ อีแดงอีก นางรู้ได้อย่างไรว่าอยู่ในเรือด้วย”

“นางว่างั้นรึพ่อเดช”

 หมื่นสุนทรเทวาเล่าเรื่องเมื่อคืนที่การะเกดลงจากเรือนอ้างว่าไปเว็จให้ฟัง จำปาฟังแล้วมีมูล ท่านหมื่นย้ำอีกครั้งว่าเกลียดการะเกด ชังน้ำหน้ายิ่งกว่าอะไร ให้มูลสัตว์แปดเปื้อนยังไม่รังเกียจเท่า ผู้เป็นพ่ออ่อนใจ

 จำปาต้องการให้เอาผิดการะเกดให้ได้ โดยให้ใช้มนต์กฤษณะกาลี ออกญาหน้าเสียเพราะมนต์นี้ ถ้าใครโกหกจะมีอันถึงตาย

หมื่นสุนทรเทวาใช้บ่าวไปเอาเศษผ้านุ่งของอีแดงที่บ้านออกญาโกษาธิบดี แย้มแอบได้ยินก็ตกใจรีบมารายงานเจ้านาย การะเกดไม่หวั่นเพราะคนที่ลงมือคือผินไม่ใช่ตน ผินกลัวตัวสั่น

ในห้องพระ ออกญาโหราธิบดีกับหมื่นสุนทรเทวากำลังเตรียมพิธีอยู่ ทั้งสองอยู่ในชุดขาว ออกญาบอกลูกชายว่า ตนไม่ผิดที่เห็นแก่ลูกสาวเพื่อนสนิท หากการะเกดไม่เป็นผู้ผิดจริง มนต์กฤษณะกาลีก็ไม่อาจทำลายเธอได้ แต่ถ้านางผิดจริง มนต์นี้จะทำหน้าที่ของมัน

เสียงสวดดังกระหึ่มขึ้น การะเกดปลอบใจตัวเองว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะตนไม่ผิด คนผิดคือผิน ในขณะที่ผินกลัวจนนอนฟุบสั่นสะเทิ้นไปทั้งตัว...จำปาให้ปริกคอยเงี่ยหูฟังการะเกดว่ามีปฏิกิริยาอย่างไร ปริกเผลอสวนว่า ฟังจนหูจะยานแล้ว จึงโดนจำปาเงื้อมือขู่ ปริกยิ้มแหยๆ ก้มหน้าสำนึกได้ รีบคลานไปฟังที่หน้าห้องการะเกด

ในห้อง การะเกดเริ่มมีอาการรุ่มร้อนหายใจไม่ออก ตาค้างดิ้นไปมาร้องว่า มันมาแล้วๆ แย้มกับผินใจเสียช่วยกันจับตัวแม่นายผู้เป็นที่รักไว้ บอกให้สวดมนต์ ผินเป็นห่วงเจ้านายมากถึงกับออกปากให้ตนเป็นแทนก็ได้เจ้าประคุณเอ๋ย...การะเกดหอบจนตัวโยน พยายามพนมมือหันไปทางพระปรางค์วัดไชยวัฒนาราม...

ooooooo

ขณะเดียวกัน เกศสุรางค์กับเรืองฤทธิ์ ยืนมองแสงสปอตไลต์ที่ทางการจัดส่องแสงตามจุดต่างๆ เกิดเงาที่สวยงามแปลกตา ดูขลังขึ้นมาปนน่ากลัว เกศสุรางค์รู้สึกขนลุกซู่เหมือนมีลมหนาวมากระทบ เรืองฤทธิ์แขวะอ้วนจนไขมันหุ้มขนาดนี้ หนาวได้อย่างไร หญิงสาวมองตาขุ่น

ไม่ทันจะตอบโต้เพื่อน เกศสุรางค์ก็ตกตะลึงเมื่อเห็นการะเกดใบหน้าขาวซีด ผมยาวประบ่ามีจะงอยสองข้าง ปีกตกลงมาเคลียหน้าผาก แต่งกายจีบหน้านางพร้อมสไบปลิวตามลม แหงนมององค์พระปรางค์ สองมือพนม แต่ไม่มีขาเดิน...นางลอยมา

“เรือง! แกเห็นเหมือนที่ฉันเห็นไหม”

เรืองฤทธิ์ตอบเสียงสั่นว่าเห็น สิ้นคำก็วิ่งแน่บออกไป ปล่อยเพื่อนสาวก้าวขาไม่ออกอยู่ตรงนั้น จนกระทั่งการะเกดลอยใกล้เข้ามาประจันหน้ากัน แต่สายตาเธอมองผ่านเกศสุรางค์ไปยังพระปรางค์ เกศสุรางค์อ้าปากค้าง ร้องไม่ออก กลัวจับจิต และแล้วร่างการะเกดก็ลอยผ่านหายเข้าไปในเจดีย์ เมื่อนั้นเกศสุรางค์จึงขยับตัววิ่งตามเรืองฤทธิ์ไปได้ เธอกระโจนเข้าตบตีเขายกใหญ่

ค่ำวันนั้น รถตู้ของนักขุดค้นทางโบราณคดีกรมศิลปากรพากลุ่มเกศสุรางค์กลับ มีเพื่อนๆสี่คนและคนขับ เกศสุรางค์บ่นว่าเรืองฤทธิ์ตลอดทางที่ทิ้งตนวิ่งหนีไปก่อน ชายหนุ่มแก้ตัว

“น่าแกก็...ขามันวิ่งมาเอง ไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งแกซักกะหน่อย มันเหนือการควบคุมว่ะ น่า...ดีกันนะ” เกศสุรางค์ไม่ดีด้วยแถมอาฆาตให้จำไว้ “จำอะไร ฉันจะลืมเดี๋ยวนี้แหละ”

เพื่อนๆขำบอกถ้าเป็นพวกเขาเห็นแบบนั้นก็วิ่งก่อนเหมือนกัน เรืองฤทธิ์ให้เพื่อนๆช่วยพูดทีว่า ด่าตนตั้งแต่ขึ้นรถจนออกจากอยุธยาแล้วยังไม่หยุด จะด่าถึงกรุงเทพฯเลยหรือ

“โอเค...ฉันจะหลับล่ะ พอฉันตื่นถึงจะเลิกโกรธแก โอมั้ย” เกศสุรางค์กระฟัดกระเฟียด

เรืองฤทธิ์ยิ้มโยกหัวเพื่อนสาวอย่างพอใจ เกศสุรางค์แอบมองหน้าเพื่อนหนุ่มด้วยแววตาหมอง พึมพำกับตัวเองว่า “ไม่รู้เหรอว่าฉันไม่เคยโกรธแก เหมือนที่ฉันไม่เคยเลิกรักแก”

ทันใดนั้นเองก็เกิดเสียงรถเบรกดังลั่น รถตู้หมุนคว้าง คนในรถหน้าทิ่มก่อนจะสงบนิ่ง เกศสุรางค์มองไปเห็นท้ายรถบรรทุกจอดอยู่ข้างหน้า ไม่ทันไรก็มีรถบรรทุกอีกคันพุ่งเข้ามาชน เสียงกรีดร้องดังขึ้นระคนเสียงเหล็กครูดไปกับพื้นถนน พร้อมสติของเกศสุรางค์ที่หลุดลอยไป

ooooooo

ที่บ้านเกศสุรางค์ ยายนวลกับแม่สิปางร้องไห้เสียใจกับการจากไปของเธอ ยายนวลคิดถึงวันที่เกศสุรางค์ถามว่าจะไปดูงานอยุธยาสามวัน อยากได้อะไรจะซื้อมาฝาก ตนบอกไม่ต้องการอะไร แค่หลานรีบกลับก็พอ

ในขณะที่วิญญาณเกศสุรางค์ล่องลอยไปท่ามกลางทุ่งหญ้าเขียวชะอุ่ม มีเมฆลอยเคว้งคว้าง เสียงผู้หญิงดังไล่หลัง “ออเจ้าช่วยข้าด้วย...ช่วยด้วย...”

 เกศสุรางค์หันไปมอง วิญญาณการะเกดลอยมาปะทะตรงหน้า เธอสะดุ้งสุดตัวล้มหงาย พอตั้งสติได้คิดว่าเป็นความฝัน พยายามปลุกตัวเองให้ตื่นจากฝัน แต่วิญญาณการะเกดยังลอยอยู่ตรงหน้าพร่ำขอให้ช่วยด้วยเขาจะเอาตัวไป ว่าแล้วก็จับมือ

เกศสุรางค์กระชากไป เธอร้องลั่น

“ยัง...ยังไม่ไป โอ๊ย ฝันบ้านี่สมจริงเกินไปแล้ว ทั้งเหนื่อยทั้งหิวได้ไงเนี่ย ฝันนะเว้ย”

ฉับพลัน ตั่งสีทองพร้อมข้าวปลาอาหาร ขนมนมเนย ปรากฏขึ้น เกศสุรางค์เบรกตัวเองคว้าของขึ้นมากิน...ขณะเดียวกันที่บ้านเกศสุรางค์ เรืองฤทธิ์บาดเจ็บไม่น้อย แต่ก็บวชพระอุทิศส่วนกุศลให้เธอ ยายนวลกับสิปางกราบพระร้องไห้อย่างสุดกลั้น

พระเรืองฤทธิ์เสียใจเช่นกัน

เกศสุรางค์กินอาหารหมดไปหลายอย่าง เห็นการะเกดจ้องมอง จึงชวนให้กินด้วยกัน การะเกดบอกว่าตนกินไม่ได้ เกศสุรางค์แปลกใจ ไม่ทันลองจะรู้ได้อย่างไร คะยั้นคะยอส่งให้กิน การะเกดรับมากินแล้วต้องถ่มถุยออกมาเป็นเถ้าธุลีสีดำ เกศสุรางค์อ้าปากค้างอย่างตกใจ

การะเกดจับมือเกศสุรางค์ถามว่าชื่ออะไร และบอกชื่อตัวเอง “ข้าชื่อการะเกด เป็นลูกสาวของพระยารามณรงค์แห่งเมืองสองแคว”

“เมืองสองแคว พิษณุโลกน่ะเหรอ” การะเกดรับว่าใช่ “อ๋อ...ตอนนี้เธอเป็นผีใช่ไหม ฉันเห็นเธอลอยอยู่ที่วัดไชย ลอยเหมือนวันนี้แหละ ให้ฉันช่วยไหม ฉันจะทำบุญไปให้”

การะเกดกำลังจะตอบ ก็มีเสียงคำรามน่ากลัวขึ้นเสียก่อน ชายกำยำสองนาย ผิวกายแดง นุ่งโจงกระเบนแดง เดินฝีเท้าดังก้องกังวานเข้ามา การะเกดร้องลั่นว่า

“มันมาแล้ว ออเจ้าช่วยข้าด้วย ร่างของข้า ข้ายกให้ออเจ้า ใช้ร่างของข้าทำความดีแบ่งเบากรรมชั่วของข้า ทำบุญให้ข้า แสดงให้คนประจักษ์ว่า แม่หญิงการะเกดก็มีความดีเหมือนกัน”

สิ้นคำการะเกด เธอก็โดนชายกำยำทั้งสองลากตัวลงหลุมที่มีไฟเดือดพล่าน เกศสุรางค์ตกใจร้องเสียงหลง ปลุกตัวเองให้ตื่นจากฝันเสียที...ช่วงเวลานั้น ร่างการะเกดที่เรือนออกญาโหราธิบดี ตาเหลือกหายใจเฮือกสิ้นลม ภาพความร้ายกาจของเธอปรากฏขึ้นในจิตสำนึก เสียงร่ายมนต์กฤษณะกาลียังดังก้อง ฟ้าร้อง ฟ้าผ่าน่ากลัว ผินกับแย้มหน้าตาตื่นกลัว ร้องไห้โฮ

อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 1 วันที่ 12 ก.พ.61

ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทประพันธ์โดย รอมแพง
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทโทรทัศน์โดย ศัลยา
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส กำกับการแสดงโดย ภวัต พนังคศิริ
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ออกอากาศเร็ว ๆ นี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ