อ่านละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ตอนที่ 3 วันที่ 4 ก.พ.61

อ่านละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ตอนที่ 3 วันที่ 4 ก.พ.61

“ฉันว่าฉันเห็นวิญญาณเขา ฉันไม่สบายใจ ฉันอยากไปขออโหสิกรรมน่ะ”

ค่ำนี้พอบุญสิตาไปที่ศาลาวัด วรรณนาเห็นชี้ให้พุฒิเมธดูว่านั่นเด็กผู้หญิงที่ช่วยพ่อเขาไว้วันนั้น สงสัยจะมาลามาร์ค พุฒิเมธบอกว่ามาก็ดีแล้ว ตนมีอะไรอยากจะถามเขาอยู่เหมือนกัน

วิญญาณณฤทธิ์เห็นบุญสิตาก็ดีใจมาก คิดหาทางที่จะสิงร่างเธอยังไงดี แล้วพยายามเอาตัวแนบตัวบุญสิตา เธอรู้สึกแปลกๆ กลัวจนขนลุกหันไปดูก็ไม่เห็นอะไร นึกถึงคำทำนายของแนนซี่ที่ว่าปีชงนี้เธอจะถูกวิญญาณอาฆาตติดตามตัวไปทุกที่และจะเอาร่างของเธอ ต้องระวังตัวให้ดี คิดแล้วก็ยิ่งกลัว



ขณะเดียวกัน วิญญาณณฤทธิ์ก็หาวิธีที่จะเข้าร่างเธอ บุญสิตารู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง พลันก็สะดุ้งสุดตัวเมื่อมีมือมาจับไหล่จากด้านหลัง ขอร้องอย่ามาหลอกตนเลย ที่แท้คือพุฒิเมธ เห็นเธอตกใจมากก็หัวเราะร่าอย่าบอกนะว่าเธอกลัวผี บุญสิตาบอกว่าไม่ได้กลัวแต่ไม่อยากเจอ

พักใหญ่ต่อมาพระสวดเสร็จ สมบัติกับวรรณนามายืนส่งแขก บุญสิตาเดินออกมา วรรณนาขอบใจที่วันนั้นช่วยสมบัติรอดจากถูกรถชน สมบัติสบายใจที่บุญสิตาไปโรงพยาบาลแล้วไม่เป็นอะไร บอกว่าจะขอโอกาสเลี้ยงขอบคุณสักมื้อ ให้วรรณนาขอเบอร์โทรศัพท์ไว้ วรรณนาบอกว่าเมธน่าจะมี และขอบคุณที่เธอมางาน

พุฒิเมธแจกของไปถ่ายรูปไปและแอบมองบุญสิตาไป บุญสิตารับกล่องของว่างแล้วเดินออกไป พุฒิเมธมองเธออย่างรู้สึกอยากค้นหาเรื่องราวของผู้หญิงคนนี้ จึงเดินตามไปเพื่อจับผิด

ooooooo

บุญสิตาไปรอรถที่ป้ายรถเมล์ รู้สึกหิวจึงแกะกล่องของว่างจะกิน มีหมาจรจัดตัวหนึ่งมานั่งแหงนมองรอเศษอาหารอย่างหิวเช่นกัน เธอจึงแบ่งส่วนหนึ่งให้ พุฒิเมธมองขำๆ และประทับใจในความมีเมตตาของเธอ

พุฒิเมธตัดสินใจเลื่อนรถเข้าไปจอดตรงหน้าเธอพูดอย่างไว้ฟอร์มว่าขึ้นรถมาสิเดี๋ยวไปส่ง

บุญสิตาบอกว่าตนไปเองได้ บอกให้เขารีบไปเสียเป็นดาราเดี๋ยวนักข่าวมาเห็นไม่ดี พุฒิเมธบอกว่าแถวนี้ไม่มีนักข่าว คงมีแต่โจร ขู่ว่าเลือกเอาว่าอยากขึ้นหน้าหนึ่งเพราะโดนโจรฉุดหรือจะขึ้นรถกับตน พูดไว้ฟอร์มว่า

“ผมก็ไม่ได้อยากไปส่งคุณหรอก แต่คุณพ่อกับคุณน้าสั่งให้ส่งคุณให้ถึงบ้าน ถ้าทิ้งคุณไว้ที่นี่คงโดนพ่อว่าแย่” บุญสิตาทั้งกลัวโจรและเห็นว่าผู้ใหญ่สั่งจึงยอมขึ้นรถไป

ooooooo

พุฒิเมธไปส่งถึงหน้าบ้าน อยากรู้อะไรมากกว่านั้นก็ลูกไม้ว่าหิวน้ำ บุญสิตารู้ทันบอกว่าใกล้ๆนี้มีร้านกาแฟ เขาก็อ้างว่าอยากเข้าห้องน้ำ เธอบอกว่าร้านกาแฟมีห้องน้ำ

พุฒิเมธตัดพ้อว่าจะเลี่ยงอะไรตนนักหนา ทีกับหมาจรจัดเธอยังใจดีกับมัน แต่กับตนไม่เห็นใจดีเลย

วิญญาณณฤทธิ์บ่นว่า “แล้วแกจะไปยุ่งอะไรกับเขา” พอเห็นบุญสิตาเข้าบ้านก็ตามไปทันที

ทรายแอบดูอยู่ในบ้านเห็นพุฒิเมธก็จำได้ว่าเป็นนายแบบ พอบุญสิตาเข้าบ้านก็ถามว่าใครมาส่ง นายแบบชื่อพุฒิเมธหรือเปล่า ดูถูกว่าน้ำหน้าอย่างเธอไม่น่าจะรู้จักคนดังอย่างนั้น

สมศรีกลับมาพอดี ทรายถามว่าทำไมกลับมาเร็วจัง สมศรีบ่นว่าวันนี้มือไม่ขึ้น ชักสีหน้าถามบุญสิตาว่าหายไปไหนแต่เช้า ทรายถล่มทันทีว่าเห็นออกไปกับผู้ชาย งานบ้านก็ยังไม่ได้ทำเลย

“พี่ซินเขาจะออกไปกับใครก็เรื่องของเขา พี่จะไปยุ่งเรื่องคนอื่นทำไม แย่งแฟนเขาไปยังไม่พออีกเหรอ หรืออิจฉาอยากจะแย่งไปอีก” ซันเข้ามาพูดแทรกขึ้น

วิญญาณณฤทธิ์ดูเหตุการณ์ตลอด เขาเดาว่าสมศรีคงเป็นแม่เลี้ยง ส่วนซันเข้าข้างบุญสิตาคงเป็นพ่อเดียวกันแน่ คิดสนุกๆว่า บุญสิตาเป็นนางซินสมชื่อจริงๆ

ทั้งสมศรีและทรายต่างใช้งานบุญสิตาทั้งทำความสะอาดห้องน้ำ เย็บผ้าที่สั่งไว้ ถามว่าเย็บหรือยัง พอรู้ว่ายังก็สั่งให้ไปแก้เดี๋ยวนี้เลย บุญสิตาขอเป็นพรุ่งนี้ได้ไหมเพราะตนต้องออกไปทำงานแล้ว

“ไม่ได้ ฉันจะใส่คืนนี้เหมือนกัน”

“ค่ะ ได้ค่ะ”

วิญญาณณฤทธิ์เห็นแล้วอึ้ง “ยอมง่ายๆงี้เหรอ เป็นฉันหน่อยไม่ได้ ฉันไม่ยอมหรอก” บ่นสมเพชว่า “ฉันตายไปแล้วยังมีชีวิตชีวากว่าเธออีก ทำไมเธอถึงใช้ชีวิตซังกะตายยิ่งกว่าคนตายแบบนี้”

วิญญาณณฤทธิ์ส่ายหน้า อยากให้บุญสิตามีชีวิตที่ดีกว่านี้ คิดถึงอดีตที่เห็นบุญสิตาทำงานเสิร์ฟในผับ ถูกเพื่อนร่วมงานจิกหัวใช้เอาเปรียบสารพัด เธอก็ยอมทุกอย่าง ซ้ำยังถูกหนุ่มกลัดมันลวนลามอีก แต่วิญญาณณฤทธิ์ตามไปสิงร่างบุญสิตาสั่งสอนหนุ่มกลัดมันจับแก้ผ้าใช้ลิปสติกเขียนประจานว่า

“ขยะสังคม”

คืนนั้นบุญสิตาถูกวิญญาณณฤทธิ์เข้าสิง บุคลิกเธอกลายเป็นสาวเปรี้ยว มั่นใจตัวเองจนเพื่อนพนักงานแปลกใจ และเธอก็ประกาศลาออกจากงาน

รุ่งขึ้นเมื่อเธอกลับมาเป็นตัวเอง เธอตกใจหากระเป๋าไม่เจอ เสื้อผ้าที่ใส่ก็กลายเป็นถูกฉีกจนเซ็กซี่ พยายามหาแว่นตาก็ไม่เจอ แปลกใจว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น โทรศัพท์ไปที่ร้าน พอมีคนรับสายก็ถาม

“สวัสดีค่ะ นี่ซินเองนะคะพี่ ซินลืมกระเป๋าไว้ที่ร้านเมื่อคืนรึเปล่าคะ...อะไรนะคะ ซินอาละวาดทำลายของที่ร้านเหรอคะ...ซินเนี่ยนะมีเรื่องกับลูกค้า แล้วทำร้ายร่างกายลูกค้า...ซินลาออกจากงานเหรอคะ...”

บุญสิตาเครียด ไม่รู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น? ลงมาเห็นสภาพบ้านเละเทะไปหมดก็ถามซันว่าเกิดอะไรขึ้นพี่ทรายโมโหอะไรทำไมบ้านถึงเป็นแบบนี้

“ใช่ฝีมือพี่ทรายที่ไหน ฝีมือพี่ซินนั่นแหละ”

“ฝีมือพี่เหรอ...พี่ทำอะไร??”

ซันจึงเล่าเหตุการณ์เมื่อคืนให้ฟังว่า พอเธอกลับมาถูกทรายจิกหัวใช้แทนที่จะตอบ ค่ะ...ค่ะ เหมือนเคย เธอกลับต่อต้านเอาผ้าในมือไปคลุมหัวทราย เลยดิ้นสู้กัน ทรายบอกว่าจะฟ้องแม่

“ฟ้องเลย...แล้วบ้านนี้อยากให้สะอาดนักใช่ไหม” พูดแล้วไปล้มข้าวของกระจัดกระจายไปทั้งบ้าน ทรายสั่งให้เก็บ “ไม่เก็บ! แล้วก็จำไว้ว่าต่อไปนี้ ร่างนี้เป็นของฉัน แกห้ามยุ่งห้ามแตะต้องเด็ดขาด ชัดนะ!”

บุญสิตาพูดแล้วเดินเชิดออกไปเลย ทั้งทรายและซันต่างมองอึ้ง

ฟังซันเล่าแล้ว บุญสิตาถามว่าตนทำอย่างนั้นจริงหรือ ซันถามว่าเมื่อคืนเมายากลับมาหรือไง

“ผมว่าพี่ท่าทางแปลกๆ คงเก็บกดที่โดนพี่ทรายกดขี่มาตลอดใช่ไหม มันคงเป็นจิตใต้สำนึกของพี่สินะ” บุญสิตาบอกว่าตนก็ไม่รู้เหมือนกัน ซันชมว่า “แต่พี่เป็นแบบเมื่อคืนก็ดีนะ ผมชอบ”

“แล้วพี่ทรายอยู่ไหนเหรอ”

“ไม่ออกจากห้องตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว” ซันพูดขำๆ บุญสิตาเครียดนึกไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้น

สายวันนี้ บุญสิตาไปหาแนนซี่ที่มุมดูดวงประจำ เล่าให้แนนซี่ฟังว่าเรื่องทั้งหมดเป็นแบบนี้ ตนจำอะไรไม่ได้แบบนี้มาสองครั้งแล้ว หรือมันจะเป็นฝีมือวิญญาณที่เธอเคยบอก

“ก็เป็นไปได้นะ วิญญาณอาจจะตามมาจากงานศพที่เธอไปมาเมื่อวานก็ได้”

“ต้องเป็นวิญญาณคุณมาร์คแน่ๆ ฉันเห็นเขา”

“พื้นดวงของเธอมีดวงที่สามารถสื่อสารกับพวกวิญญาณได้ พอจิตของเธอเปิดอยากสื่อสาร เธอก็เลยเห็นไง ฉันขอถามเธอนะ ตอนที่เธอเห็นวิญญาณคุณมาร์ค เธอกล้าๆกลัวๆ อยากจะเห็น อยากสื่อสาร อยากรู้อยากถามใช่ไหม ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแปลกๆกับเธอ”

บุญสิตาพยักหน้า แนนซี่บอกว่านั่นแหละเธอถึงเห็นเขา บุญสิตาถามว่างั้นก็แปลว่าขึ้นอยู่กับตนว่าอยากเห็นเขาหรือเปล่าหรือ บ่นว่าทำไมต้องเป็นตนด้วย

“เธอคงมีอะไรบางอย่างที่จูนตรงกันกับเขา และเขาก็คงมีอะไรอยากให้เธอช่วย” บุญสิตาคาดว่าคงเป็นเพราะตนกำลังดวงตก โชคร้ายถึงได้โดนวิญญาณตามขนาดนี้ “ไม่หรอก เคยได้ยินไหมที่เขาว่า การที่เรามาเจอกับใครสักคนมันไม่ใช่ความบังเอิญหรอก อยู่ที่บุญวาสนาที่ทำร่วมกันมา ถ้ามีวาสนาไม่อยากเจอก็ต้องเจอ เมื่อสิ้นวาสนาอยากเจอก็ต้องจาก...”

“บุญวาสนาหรือ ถามฉันสักคำไหม ว่าฉันอยากเจอรึเปล่า”

“การที่เธอมาเจอเรื่องแบบนี้ ฉันว่ามันต้องมีสาเหตุที่มาที่ไปซักอย่างแหละ”

บุญสิตาคิดตามที่แนนซี่พูด สงสัยว่าทำไมตนถึงสามารถเห็นณฤทธิ์ได้

ooooooo

เย็นนี้ เมื่อกลับมาห้องนอน บุญสิตาครุ่นคิดคำพูดของแนนซี่ ก็ฉุกคิดว่าหรือเขาจะมีเรื่องเดือดร้อนอยากให้เราช่วยเหลือ แต่คิดแล้วก็กลัวรีบปฏิเสธ

“ไม่เอา ต่างคนต่างอยู่ไปแหละดีแล้ว”

แต่เมื่อคิดถึงที่แนนซี่บอกว่า แค่คลื่นที่ตรงกันอยากสื่อสารกัน เธอก็อาจจะเห็นเขาได้ ก็คิดแย้งว่ามันจะง่ายแบบนี้หรือ แล้วก็ลองหลับตาตั้งสมาธิอย่างอยากลองของ แต่พอลืมตาขึ้นมาก็ไม่เห็นใคร พึมพำโล่งใจว่า

“คลื่นเราคงจูนกันไม่ได้สินะ” แต่พอจะไปหยิบผ้าเช็ดตัวก็เห็นร่างณฤทธิ์ยืนอยู่เต็มตา เธอช็อกตาค้างยืนเกร็งขยับตัวไม่ได้เลย

“เธอเห็นฉันแล้วใช่ไหม” ณฤทธิ์ยิ้มดีใจ บุญสิตาพูดไม่ออก “ฉันว่าเธอเห็นฉัน”

บุญสิตากระโดดขึ้นเตียงเอาผ้าห่มคลุมตัวสวดมนต์เบา ณฤทธิ์เดินไปนั่งข้างเตียงจนเตียงยวบ

บุญสิตากลัวสุดขีดหลับตาบอกว่า

“ฉันจะทำบุญไปให้ ไปที่ชอบที่ชอบเถอะนะ”

ooooooo

ณฤทธิ์ได้ยินบุญสิตาบอกจะทำบุญไปให้ไปที่ชอบที่ชอบเถอะ ก็แกล้งทำเสียงน่ากลัวใส่ว่า

“แต่ฉันชอบที่นี่...ลุกขึ้นมาคุยดีๆเถอะ ฉันมาดี” บุญสิตาหลับตาปี๋บอกว่าดียังไงตนก็ไม่คุย “ไม่เป็นไร งั้นแค่ฟังฉันก็พอ” ณฤทธิ์โอนอ่อน แล้วขอร้องว่า

“พ่อฉันกำลังป่วยหนัก โทษตัวเองว่าเขาเป็นต้นเหตุทำให้ฉันตาย ฉันอยากเจอพ่อเป็นครั้งสุดท้าย อยากปรับความเข้าใจกับพ่อ ให้ฉันยืมร่างเธอเพื่อปรับความเข้าใจกับเขาเถอะนะ ฉันขอร้อง เธอเป็นคนเดียวที่สามารถช่วยฉันได้”

บุญสิตาสงสาร เกือบจะใจอ่อน แต่ตัดใจบอกว่า “ฉันอยากช่วยนะ แต่อย่ามายุ่งกับฉันเลย แค่นี้ชีวิตฉันก็แย่จะตายอยู่แล้ว คุณอย่าห่วงอะไรเลย รีบไปเกิดใหม่เถอะ ฉันจะทำบุญแผ่เมตตาไปให้แทนนะ”

“ฉันไม่อยากได้บุญ ฉันอยากได้ร่างเธอ” ณฤทธิ์เสียงเคืองนิดๆ ทำให้บุญสิตายิ่งกลัวสวดมนต์ไม่หยุดไม่ได้สนใจเขาอีกเลย ณฤทธิ์กลอกตาเซ็งที่พูดไม่ได้ผล

เวลาเดียวกัน ที่โถงบ้านณฤทธิ์ สมบัตินั่งใจลอยอยู่ แก้วตาเห็นวรรณนาเดินมารีบรายงานว่านั่งใจลอยอยู่ตั้งหลายชั่วโมงแล้ว เรียกไปไหนก็ไม่ไป

วรรณนาเข้าไปบอกว่าดึกแล้วขึ้นนอนเถอะ สมบัติว่าจะรอมาร์คกลับมา พลันก็ตื่นเต้นดีใจเมื่อเห็นมาร์คเดินแกว่งกุญแจรถเข้ามา รีบเดินไปทักจะสัมผัสร่าง “กลับมาแล้วเหรอมาร์ค” แต่ร่างมาร์คกลับหายไปในพริบตา วรรณนาบอกว่ามาร์คไม่กลับมาแล้ว สมบัติน้ำตาร่วงรับความจริงไม่ได้

ณฤทธิ์ไปที่คอนโดกันต์ มองกันต์ที่กำลังเล่นโทรศัพท์อยู่หน้าจอทีวี คำรามในคอ

“ฉันจะเฝ้าแกแบบนี้แหละ ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าใครสวมเขาให้ฉัน”

โทรศัพท์กันต์ดังขึ้น เขารับทักเสียงหวาน “ว่ายังไงที่รัก” ณฤทธิ์รีบขยับเข้าไปฟัง “จะให้ออกไปหาตอนนี้เนี่ยนะ...ก็ดีนะ เลี้ยงข้าวเอาใจเด็กๆซะหน่อย เขาจะได้ เชื่อฟังผม ตอนนี้ไอ้มาร์คก็ไม่อยู่แล้วด้วย ต้องหาพวกไว้ใช้งาน” กันต์วางโทรศัพท์ลุกไปแต่งตัวทันที

“ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าแกออกไปหาใคร” ณฤทธิ์จิกตาพึมพำ

ที่ร้านอาหารกึ่งผับหรู...เจนนี่ ซาร่า จัสตินและดนุดล นั่งกินข้าวฟังเพลงกันอยู่

ครู่หนึ่งกันต์เดินเข้ามา ดนุดลพูดไม่พอใจว่าพี่กันต์มาด้วยเหรอ มาได้ยังไง กันต์บอกว่ามีสายสืบบอกให้ตนมาเป็นเจ้ามือ บอกทุกคนว่าวันนี้จะดื่มอะไรเต็มที่เลยเพราะเจอเรื่องเครียดมาเยอะ เดี๋ยวตนเลี้ยงเอง

ณฤทธิ์ตามกันต์มาแล้วก็งง ไม่รู้ว่าใครเป็นคนนัดกันต์มาเพราะอยู่กันหลายคน

ooooooo

บุญสิตาคลุมโปงอยู่จนเช้า โผล่จากโปงไม่เห็นณฤทธิ์แล้วก็โล่งใจ แต่หารู้ไม่ว่าณฤทธิ์มายืนแอบดูแต่เช้า พึมพำว่ายังไงฉันก็ไม่ไปง่ายๆหรอก

บุญสิตาตักบาตรเสร็จก็กรวดน้ำ ขณะนั้นเองแนนซี่โทร.มาชวนไปดูตนคุยกับลูกค้าประกันชีวิตว่าทำงานยังไง เผื่อจะเป็นงานที่สร้างรายได้ให้เธออีกทาง

เมื่อไปเจอกันที่บริษัทประกันชีวิต แนนซี่ให้บุญสิตารอที่นี่ ตนจะไปรับลูกค้าก่อน

ระหว่างนั้น บุญสิตาเดินดูไปรอบๆ เห็นป้ายโฆษณารูปคนเท่าตัวจริง เธอตกใจเมื่อเห็นว่าเป็นพุฒิเมธ มีรอยปากกาวาดรูปหัวใจที่หน้า เติมหนวดแมวและรอยจูบที่คอดูตลก เห็นแล้วอดขำไม่ได้ พลันก็เดินเตะถูกปากกา เมจิกที่พื้น คิดว่าใครทำตกจึงก้มเก็บ

แม่บ้านมาเห็นพอดีหาว่าเธอเป็นคนเติมรอยต่างๆ บนหน้าพุฒิเมธ เธอปฏิเสธก็ไม่เชื่อเพราะมีหลักฐานปากกายังคามืออยู่ สั่งให้ลบออก บุญสิตาจึงเอากระดาษทิชชูจากกระเป๋าออกมาเช็ดแต่ก็ไม่ค่อยออก พอออกแรงถู ดูจากข้างหลังจึงเหมือนกำลังกอดรูปพุฒิเมธอยู่

พุฒิเมธเข้าบริษัทเห็นพอดีนึกสนุกเดินเข้าไปแซวว่า

“คิดถึงอยากสัมผัสตัวผมมากขนาดนี้เลยหรือ?” เห็นเธอตกใจเขินก็ยิ่งแซว “ที่แท้ก็ชอบผม ไม่เห็นต้องแอ๊บทำเป็นไม่สนใจเลย”

บุญสิตาบอกว่าตนไม่ได้เป็นคนทำ ตนแค่จะลบออก แต่ถูกพุฒิเมธแกล้งแซวจนอายมากผลักเขาออกแล้วเดินหนี เขาจะตามพอดีศรันย์เดินเข้ามาเร่งว่าทำอะไรอยู่ตนไม่อยากให้ลูกค้ารอนานแล้วพาเดินเข้าไปเลย

เมื่อเข้าไปในห้องรับรองบริษัท เจอเจนนี่นั่งยิ้มอยู่ก่อนแล้ว ทั้งสองงงว่าเจนนี่มาได้ยังไง

ลูกค้าเข้ามาบอกว่าที่เรียกเจนนี่เข้ามาวันนี้เพราะอยากให้ทั้งสองมาเป็นพรีเซ็นเตอร์กับแคมเปญต่อไปของบริษัท ที่ไม่บอกล่วงหน้าเพราะเจนนี่บอกว่าอยากเซอร์ไพรส์แฟน

เจนนี่ตามตื๊อพุฒิเมธจนเขาถามว่าจะตื๊อไปถึงไหนตนบอกแล้วว่าเรื่องของเรามันจบแล้ว ไม่รู้ว่าเธอกลับมาหาตนด้วยเหตุผลอะไร

เจนนี่บอกว่าจะเหตุผลอะไรก็ตาม แต่ตอนนี้ตนกลับมาแล้ว ตนเป็นผู้หญิงที่เขาเคยหลงนะ

“ผมเคยหลง หลงผิดได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ พูดแค่นี้คงชัดแล้วนะ”

พูดจบเขาส่ายหน้าเซ็งๆผละไป ระหว่างนั้นวรรณนาโทรศัพท์มาบอกว่าสมบัติเข้าโรงพยาบาล ถ้าเสร็จงานแล้วให้รีบตามไป พุฒิเมธตกใจบอกว่าเสร็จงานแล้ว จะไปเดี๋ยวนี้เลย

ooooooo

หมอโอบเล่าอาการของสมบัติให้แก้วตากับวรรณนาฟังว่าสมบัติพักผ่อนน้อยร่างกายอ่อนเพลียเลยวูบไปแต่ตนจัดยาบำรุงให้แล้ว แก้วตาเปรยว่าหมอโอบจัดแต่ยาบำรุงให้ ไม่มีทางอื่นรักษาแล้วหรือ

“โรคแบบนี้อยู่ที่ใจพี่บัติเท่านั้นแหละ ทำใจได้เมื่อไหร่อาการก็ดีขึ้นเมื่อนั้น ยาหมอก็แค่เป็นตัวช่วย”

วรรณนาบ่นว่าครั้งนี้วูบไปที่สนามหน้าบ้าน สงสัยจะไปเล่นกับเด็กข้างบ้านอีกแน่ๆ เล่นซนกันจนได้แผล เห็นบอกว่าเด็กจากไหนมาเล่นด้วยไม่รู้เลยทำให้ไม่เหงา

แก้วตาฟังแล้วสีหน้าไม่ดี หมอโอบถามว่ามีอะไรหรือเปล่า แก้วตาจึงเล่าเรื่องที่ผ่านมาให้ฟังว่า สมบัติเดินอยู่หน้าบ้าน เห็นเด็กชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาและจูงมือสมบัติไปวิ่งไล่จับกัน แต่สมบัติวิ่งตามเด็กไม่ทันจึงชวนเข้ามาเล่นในบ้านบอกว่าลุงมีของเล่นเยอะเลย

เล่าแล้วแก้วตาบอกว่าตนไม่อยากคิดมากเลยไม่เล่าให้ใครฟัง วรรณนาถามหมอโอบว่าหรือภาพหลอนเด็กคนนี้เลยทำให้พี่บัติได้รับบาดเจ็บ

“ก็เป็นไปได้นะ นี่คงจะเป็นภาพหลอนจากสภาวะช็อก เพื่อความแน่ใจเดี๋ยวฉันจะส่งให้หมอเฉพาะทางเช็กอีกทีนะ ว่าเป็นอาการของโรคอะไร...เพราะถ้าเริ่มมีอาการอย่างที่ว่าจริง ก็น่าเป็นห่วงนะ คนไข้บางรายได้รับบาดเจ็บถึงชีวิต เพราะภาพหลอนพวกนี้ก็มีเหมือนกัน...ภาพนั้นคือภาพจากจิตใต้สำนึกของตัวเองว่าเป็นคนจริงๆ...ภาพหลอนนั้นอาจทำให้คนไข้ได้รับอันตรายไปด้วยได้”

ณฤทธิ์ดูอยู่เห็นพ่อดึงสายน้ำเกลือรีบไปที่ระเบียง เขาตกใจมากร้องตะโกน

“ใครก็ได้ มาดูพ่อที” ณฤทธิ์ร้อนใจทำอะไรไม่ถูก นึกถึงบุญสิตาพึมพำ “ยัยซิน!” แล้วหายตัวไปทันที

ไปเจอบุญสิตากำลังเดินออกจากบริษัทประกันชีวิตกับแนนซี่ ก็ปรากฏตัวเบื้องหน้าเธอขอยืมร่างเธอไปหาพ่อหน่อย บุญสิตาถูกวิญญาณณฤทธิ์รบกวนทนไม่ไหวบอกแนนซี่ว่าขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บแล้วเดินแยกไป

ณฤทธิ์ตามเข้าไปยืนข้างหลังเธอเอ่ย “ขอโทษนะ” แล้วเข้าสิงร่างทันที

อ่านละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ตอนที่ 3 วันที่ 4 ก.พ.61

ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ บทประพันธ์โดย : ติณณา
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ บทโทรทัศน์โดย : ตฤณณา
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ กำกับการแสดงโดย : กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ออกอากาศเร็ว ๆ นี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ