อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 11 วันที่ 4 ก.พ.61

อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 11 วันที่ 4 ก.พ.61

ดำเกิงให้เธอใช้กาบมะพร้าวแทน กนกวิภาร้องลั่น ดำเกิงเสียงเข้มไม่ไปซื้อให้ ให้เธอไปซื้อเอง หญิงสาวยิ้มกริ่มเข้าทางรีบวิ่งไป

มีหญิงคนหนึ่งสวมแว่นดำใช้ผ้าคลุมหน้าเดินมาหยุดหน้าร้านบัว มองหน้าเธอที่กำลังขายของอย่างพอใจ เข้ามาเลียบเคียงชวนไปทำงานที่เบากว่าทอดปาท่องโก๋ขาย บัวบอกว่าไม่เหนื่อยเพราะมีคนช่วย ชยุติเดินเข้ามาบอกตนเป็นสามี เราช่วยกันขายของ หญิงสาวจึงล่าถอยออกมา...เธอเดินมาซื้อเหล้าที่ร้านขายของชำ นัยน์ตาครุ่นคิดถึงเรื่องที่เพิ่งผ่านมาที่โกดังหลังท่าเรือ หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงหากินที่โดนส่งลงเรือไปขึ้นงาน เธอทนไม่ไหวอยากเลิกก็โดนซ้อม แมงดาขู่ว่าถ้าคิดเลิกต้องหาตัวตายตัวแทนมาให้

ทันใดกนกวิภาเดินมาที่ร้าน อาแปะกำลังไล่ให้หญิงสาวคนนั้นไปไกลๆจากร้านเพราะรู้ว่าอาชีพอะไร กนกวิภาเข้าถามอาแปะว่า ทางไปท่ารถไปทางไหนตนอยากเข้าเมือง อาแปะทักว่าเธอเป็นเมียคนขายบ๊ะจ่าง ตนบอกอะไรไม่ได้ ผัวเธอสั่งห้ามเพราะเธอจะหนีไปหาชู้



กนกวิภาหน้าเสียไม่คิดว่าดำเกิงจะดักทางไว้หมด ยืนเก้กังหาทางหนี หญิงสาวเห็นกนกวิภาหน้าตาดี ก็คิดจะเอาไปเป็นตัวตายตัวแทน จึงเข้ามาบอกว่าจะพาไปท่ารถ กนกวิภาเชื่อสนิทใจตามเธอไปทันที อาแปะเห็นห้ามไม่ทัน ในขณะที่ดำเกิงเริ่มกังวลที่กนกวิภาหายไปนาน

เดินมาถึงทางเปลี่ยว กนกวิภาเริ่มแปลกใจ หญิงสาวอ้างว่าต้องหนีไปทางที่คนที่เธอหนีตามไม่เจอ ให้รอที่โกดังร้างแล้วตนจะไปหารถมารับ กนกวิภาคล้อยตาม ซาบซึ้งที่เธอช่วยขนาดนี้ หญิงสาวหลบตาเพราะรู้สึกผิดไม่น้อย แต่ด้วยความที่อยากเอาตัวรอดจึงต้องทำ

ดำเกิงมาตามหากนกวิภาที่ร้านขายของชำ อาแปะจำได้รีบบอกว่าเมียเขาหนีไปกับผู้หญิงหากิน ป่านนี้โดนจับลงเรือไปขึ้นงานแล้ว ดำเกิงใจหายเป็นห่วงกนกวิภาจับใจ เที่ยววิ่งหาทั่วตลาด จนมาเจอร้านบัวที่กำลังเก็บร้านเพราะขายของหมดแต่วัน...บัวตกใจเมื่อเห็นดำเกิง เขารีบบอกอย่าเพิ่งถามอะไรให้ไปช่วยตามหากนกวิภาก่อน ชยุติได้ยินตกใจมาก

ooooooo

หญิงหากินมาบอกแมงดาให้ไปเอาตัวกนกวิภา แมงดาสามคนรีบไปที่โกดังร้าง พอเห็นกนกวิภาก็พอใจมากคิดจะลองสินค้าก่อน กนกวิภาเริ่มรู้สึกไม่ดีจะหนีแต่ถูกทั้งสามฉุดกระชากเข้าไปในโกดัง เธอกรีดร้องให้ดำเกิงช่วยลั่น

ด้านดำเกิง ชยุติและบัววิ่งตามหากนกวิภาไปทั่ว ในใจดำเกิงว้าวุ่นร้อนใจมาก เขาวิ่งมาทางโกดัง ชนเข้ากับหญิงสาวที่พากนกวิภาไป ท่าทางเธอมีพิรุธจนดำเกิงเอะใจ นึกถึงลักษณะที่อาแปะบอกก็เค้นถามจนได้ความ

ดำเกิงรีบมาที่โกดังร้างเพื่อช่วยกนกวิภา เธอกำลังต่อสู้ดิ้นรนไม่ให้โดนปลุกปล้ำ ดำเกิงเห็นเลือดขึ้นหน้า ลืมนึกว่าตัวเองมาคนเดียว เข้าต่อสู้กับสามแมงดาอย่างไม่คิดถึงชีวิต ไล่ให้กนกวิภาหนีไปก่อน เธอลังเลสักพักก่อนจะฝ่าเหล่าแมงดาออกไป แต่แล้วก็ชะงักเป็นห่วงดำเกิงอย่างมาก ตัดสินใจวิ่งกลับมา เห็นดำเกิงกำลังจะโดนแทงพอดีก็รีบตะโกนเตือน แล้วคว้าไม้เข้าไปช่วยตีคนร้าย แต่พวกมันแข็งแรงกว่าจึงรวบตัวเธอไว้ได้ ดำเกิงเข้าช่วยโดนแทงกลางลำตัว

กนกวิภาสะบัดตัวออกวิ่งเข้าประคองดำเกิงที่เลือดอาบ ตะโกนให้คนช่วย สามแมงดาโมโหลากตัวเธอไปอีก ดำเกิงกระเสือกกระสนตาม...ชยุติกับบัววิ่งตามหาได้ยินเสียงกนกวิภา ก็ชะงักรีบตามชาวบ้านไปช่วย ดำเกิงกำลังจะโดนแทงซ้ำ ชาวบ้านยิงปืนลูกซองใส่มือแมงดา ทั้งสามแมงดาหันมองเห็นชยุติ บัวและชาวบ้านอาวุธครบมือยืนจังก้า ก็ตกใจกลัวพากันเตลิดหนี ชยุติปรี่เข้าหากนกวิภาด้วยความห่วงใย แต่เธอกลับบอกให้เขาช่วยพาดำเกิงส่งโรงพยาบาล

หลังจากเย็บแผลเสร็จ ดำเกิงนอนสลบอยู่บนเตียงคนไข้ในสถานีอนามัย หมอบอกไม่โดนจุดสำคัญ แต่ร่างกายฟกช้ำ ให้นอนดูอาการว่าแผลจะไม่ติดเชื้อ...

บัวบอกชยุติว่าจะนอนเฝ้าไข้ดำเกิง แต่กนกวิภาแทรกว่าเธอจะอยู่เอง เพราะเขาช่วยชีวิตเธอ ชยุติรู้สึกแปลกๆ ดึงกนกวิภาออกไปคุยส่วนตัว...เขาจ้องหน้าเธออย่างคาดคั้น

“บอกมาว่าเรามาอยู่ที่นี่กับเกิ่งได้ไง”

“เรื่องมันยาวน่ะพี่ติ...” ชยุติสวนว่ามีเวลาพอ “เอ่อ...ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะหนกเองพี่ติ หนกเป็นต้นเหตุของเรื่องทุกอย่าง จนเรื่องมันกลายเป็นแบบนี้” กนกวิภาโผกอดร้องไห้สะอึกสะอื้น “ทั้งเรื่องพี่ติกับบัว ทั้งเรื่องไอ้หมาบ้า...หนกรู้แล้ว หนกผิดเอง หนกหาเรื่องเอง

หนกทำให้ทุกคนเดือดร้อน หนกมันแย่ แย่ที่สุดเลยพี่ติ! หนกหลอกใช้เขา ทำลายความรู้สึกเขา แถมยังทำให้เขาโดนแทงอีก...”

ชยุติเริ่มเข้าใจเรื่องราว ปลอบน้องสาวให้หยุดร้อง แล้วถามเพื่อความแน่ใจว่า ดำเกิงพาเธอมาอยู่ที่นี่ใช่ไหม กนกวิภารีบบอกว่าอย่าเอาเรื่องดำเกิง เป็นความผิดตนเอง ชายหนุ่มยิ้มขำๆบอกน้องว่าจะเอาผิดเขาได้อย่างไร ในเมื่อเขาช่วยน้องไว้ กนกวิภายิ่งสะอื้นรำพัน

“ถ้าเกิ่งเป็นอะไรไป หนกจะทำไงพี่ติ”

“เกิ่งไม่เป็นอะไรหรอก ถ้าคืนนี้เขามีกำลังใจที่ดีอยู่ข้างๆ” ชยุติกอดปลอบน้องสาว

บัวยืนมองอยู่มุมหนึ่ง รู้สึกปลื้มใจกับภาพที่เห็น ...ในคืนนั้น กนกวิภาเฝ้าไข้ดำเกิงไม่ห่างจากเตียงพร่ำรำพันด้วยความเสียใจ

“เพราะฉัน...นายถึงเป็นอย่างนี้ ทำไมนายต้องช่วยฉันด้วยนะ ไอ้หมาบ้าโรงงิ้ว”

จู่ๆดำเกิงมีอาการสั่น พึมพำว่าหนาว กนกวิภาขยับผ้าห่มให้มิดอก แต่เขายังมีอาการหนาวสะท้าน เธอเอามืออังหน้าผากรู้ว่าไข้ขึ้น รีบออกมาตามพยาบาล แต่ไม่มีใครเลยนอกจากยามที่นั่งสัปหงกอยู่คนเดียวจึงกลับเข้ามาในห้องคนไข้

“ทำยังไงดีไม่มีใครอยู่เลย โทรศัพท์ก็ไม่มี เมื่อไหร่จะหยุดสั่นเนี่ย ฉันใจคอไม่ดีแล้วนะ” กนกวิภาร้อนใจที่เห็นอาการดำเกิง ตัดสินใจขึ้นไปบนเตียง ลงนอนกอดเขาเอาไว้ “ไอ้หมาบ้าโรงงิ้ว...นี่เห็นแก่ที่นายช่วยฉันไว้นะเนี่ย...ถือว่าแทนคำขอบคุณของฉันละกันนะ”

สายตากนกวิภาที่มองหน้าดำเกิงในระยะประชิด ทำให้เธอใจสั่นรัว สายใยความรักก่อตัวขึ้นอย่างชัดเจน

ในขณะที่ทางบ้านกนกวิภา วลัยคิดถึงมาลัยมากจึงชวนจี๊ดทำอาหารไปเยี่ยม วลีแกล้งขัดจังหวะว่ายังไปเยี่ยมตอนนี้ไม่ได้ เพราะตนมีงานให้ทำ ไม่อย่างนั้นจะไม่ทันหนังสือพิมพ์ฉบับวันพรุ่งนี้ วลัยแปลกใจว่าเรื่องอะไรอีก

ooooooo

เช้าวันใหม่ บัวต้มข้าวต้มเตรียมไปให้ดำเกิง ชยุติเข้ามาอ้อนว่าช่างเป็นลาภปากของดำเกิงจริงๆ บัวตีเขาเพียะที่แขวะคนป่วย เขายิ้มขำๆบอก ในเรื่องร้ายๆ บางทีก็มีเรื่องดีๆซ่อนอยู่

“เรื่องดีอะไรเหรอคะ เอ้อ...เมื่อคืนคุณคุยกับคุณหนก ได้ความว่ายังไงบ้าง”

“ไม่ได้ความอะไรเลย...”

“อ้าว...แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าเป็นเรื่องดี”

“ก็ดูจากสายตาของน้องสาวผมไง แววตาของยัยหนกเปลี่ยนไปมากรู้หรือเปล่า”

“พูดไปพูดมาบัวก็ไม่เข้าใจอยู่ดี”

“เอาน่า คอยจับตาดูยัยหนกกับดำเกิงไว้ให้ดี แล้วคุณจะเข้าใจเอง อิๆ” ชยุติยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จนบัวหมั่นไส้เพราะยังไม่เข้าใจ

ด้านกนกวิภายังนอนกอดดำเกิงแน่นอยู่บนเตียงคนไข้ ดำเกิงรู้สึกตัวขึ้นมาเห็นใบหน้าหญิงสาวอยู่ใกล้ก็ใจหวิวคิดว่าตัวเองฝันไป แต่พอพิจารณาสักพักก็ดีใจที่เธอปลอดภัย เขาเลื่อนมือมากุมมือเธอเบาๆ มองใบหน้าเธออย่างอ่อนโยน สับสนในใจว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรกับเธอกันแน่ ใจอยากจะหอมเธอสักฟอด แต่ตัดใจคิดแกล้งเธอสนุกกว่า เปลี่ยนเป็นตบหน้าเธอเพียะ

กนกวิภาสะดุ้งตื่นกุมหน้าถามเขาตบตนหรือ ตบทำไม เขาสวนขำๆ

“ก็ปลุกให้ตื่นไง นอนเบียดฉันน้ำลายยืดอยู่ได้”

“ใครอยากนอนเบียดนายกันเล่า ถ้าไม่ใช่เพราะ... นี่! นี่นายฟื้นแล้ว นายหายแล้วนี่ไอ้หมาบ้า นายหายแล้ว...” กนกวิภาดีใจจนลืมตัวโผเข้ากอดเขาแน่น

ดำเกิงรู้สึกดีสุดๆแต่อดกวนเธอไม่ได้ “ก็หายแล้วไง ไม่งั้นจะลุกขึ้นมากัดเธอได้เหรอ”

กนกวิภาเปลี่ยนมาร้องไห้ดีใจที่เขาไม่เป็นอะไร ดำเกิงแปลกใจแทนที่จะดีใจ หรือว่าเสียใจที่ตนไม่ตายกันแน่ หญิงสาวผลักเขาออกอย่างโกรธๆ หาว่าเขาพูดบ้าๆ ดำเกิงหน้าเหยด้วยเจ็บแผล เธอนึกได้รีบเข้าสำรวจบาดแผลอย่างห่วงใย

“อุ๊ย! ฉันขอโทษ เจ็บมากหรือเปล่า”

“ไกลหัวใจน่า...” ดำเกิงมองตากนกวิภาด้วยแววตาซึ้ง หญิงสาวใจสั่นนิ่งอึ้ง

ชยุติกับบัวถือปิ่นโตเข้ามา เขาแกล้งกระแอมเตือน ทั้งสองสะดุ้งหันมองแล้วรีบผละออกห่างกัน ชยุติบอกให้ทั้งคนไข้และคนเฝ้าไข้กินข้าวเช้าที่บัวทำมาให้ บัวเริ่มเข้าใจคำพูดของชยุติ

ooooooo

เมื่อดำเกิงกินข้าวต้มที่บัวทำมาเสร็จ บัวขอคุยด้วย กนกวิภาร้อนตัวให้คุยกันตรงนี้ ชยุติปรามน้องสาว ปล่อยพี่น้องคุยกันไม่ต้องกังวล

ดำเกิงสารภาพกับบัวว่าจับตัวกนกวิภามาแก้แค้น เพราะเธอใช้ตนเป็นเครื่องมือทำลายความรักและชื่อเสียงบัว บัวย้อนถามว่าทำสำเร็จไหม เขาชะงักเถียงไม่ออก

บัวจึงร่ายยาวว่า การที่เขาพากนกวิภามาลำบากแถมยังเสี่ยงอันตราย มันสมควรแล้วหรือ และยังทำให้ป๊ากับหลอเป็นห่วง เขาเคยคิดบ้างไหม ต่อไปเขาจะทำอย่างไรคิดไว้หรือยัง บัวย้ำว่าเขาควรมีความรับผิดชอบต่อ

การกระทำของตัวเอง ดำเกิงหน้าเจื่อนแก้ตัวไปว่าขอเวลาคิดสักนิด ตนมีความรับผิดชอบแน่

“แล้วบัวล่ะ มาอยู่ที่นี่กับไอ้ตี๋มีความสุขดีใช่ไหม” ดำเกิงชิงถามบ้าง

“อืม...เรามีความสุขตามสภาพ”

“ไม่หรอก บัวกับไอ้ตี๋มีความสุขมากต่างหาก ดูจากแววตา สีหน้าแล้วก็รอยยิ้มของบัว มันเป็นรอยยิ้มที่เกิ่งไม่เคยเห็นมาก่อน” บัวฉงน “ความจริงเกิ่งก็คอยแอบดูบัวกับไอ้ตี๋อยู่บ่อยๆ เกิ่งดีใจกับบัวด้วยนะ ที่ในที่สุดบัวกับไอ้ตี๋ก็เข้าใจกันได้ เกิ่งดีใจที่เห็นบัวมีความสุขซะที ดีใจที่การกระทำของคนโง่อย่างเกิ่งไม่ทำลายชีวิตบัวจนพังไปซะก่อน”

บัวสบตาดำเกิงที่ดูแน่วแน่ เขาจับมือเธอมากุม สัญญาจะไม่ทำให้เดือดร้อนอีก บัวยิ้มรู้สึกว่าเขาเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีมาก

กนกวิภาจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายและค่ายาในการรักษาดำเกิง ชยุติมองน้องสาวขำๆ เธอเสชะเง้อมองว่าทำไมบัวกับดำเกิงยังไม่กลับเข้ามา ขาดคำบัวเดินเข้ามากับดำเกิง กนกวิภารีบถามว่าคุยอะไรกันนานสองนาน ชยุติตัดบทให้กลับไปคุยต่อที่บ้าน กนกวิภาเข้าประคองดำเกิงให้เดิน ชยุติบุ้ยใบ้ให้บัวดูทำนองเห็นไหม บัวยิ้มอย่างเข้าใจแล้ว

มีชาวบ้านสองคนเดินสวนมา ทั้งสองมองหน้าชยุติแล้วก้มมองหนังสือพิมพ์ในมือ คุยกันว่าใช่แน่ ชยุติแปลกใจถามว่ามีอะไร ทั้งสองจึงส่งหนังสือพิมพ์ให้ดูกรอบข่าว พาดหัวตัวโต

“เศรษฐิณีเจ้าของโรงงานน้ำปลาตรอมใจหนัก ลูกชายคนเดียวหายตัวไป...นางวลี เกียรติกำจร เจ้าของโรงงานน้ำปลาชื่อดังตรอมใจ นายชยุติลูกชายหายไปจากบ้าน จนอาการทรุดหนัก วอนลูกชายกลับมาดูใจแม่เป็นครั้งสุดท้าย...หากผู้ใดพบเห็นบุคคลในรูปขอให้แจ้งข่าวมาที่บ้านเกียรติกำจรด่วน จะได้รับรางวัลเป็นเงินจำนวนหนึ่งหมื่นบาท” ชยุติกับบัวช็อกเมื่ออ่านข่าว... ทางบ้านเกียรติกำจร ไชโยเห็นข่าวแล้วทึ่งที่ภรรยาทำถึงขนาดนี้ เธออ้าง เขาบอกว่าการหาคนเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร ตนจึงใช้วิธีล่อเสือออกจากถ้ำ วลัยฟังแล้วพลั้งปาก

“แล้วตาติจะเชื่อเหรอคะคุณพี่ ตาติเป็นคนนะคะไม่ใช่โคกระบือ จะได้โดนคุณพี่หลอกได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า”

“วลัย! มือไม่พายอย่าเอาปากราน้ำได้มั้ย ฉันเป็นม้าตาติ เป็นคนอุ้มท้องแล้วก็เลี้ยงมาแต่อ้อนแต่ออก ยังไงซะตาติก็ต้องสำนึกบุญคุณฉันบ้าง ห่วงฉันบ้าง ไม่ใช่ในหัวจะมีแต่นังบัวเน่า”

ไชโยและวลัยมองวลีที่สายตาหมายมาดว่าลูกจะต้องกลับมา

ooooooo

กนกวิภาและชยุติไม่เชื่อข่าว ดำเกิงเสริมก็ไม่ต้องกลับ แต่บัวไม่เห็นด้วย คนเป็นแม่ ลูกหายไปครึ่งเดือนไม่รู้ข่าวก็ต้องเป็นห่วงเป็นธรรมดา ป๊ากับหลอก็คงกำลังเป็นห่วงตนกับดำเกิง

เมื่อบัวคิดแบบนี้ ทุกคนก็ยอมกลับ ดำเกิงกับกนกวิภามาเก็บของในบ้านเช่า ดำเกิงเก็บไปบ่นไปว่าบ้านเกียรติกำจรไม่ใช่บ้านคน บ้านผีชัดๆ กนกวิภาปรามให้เกรงใจบ้างเพราะนั่นคือครอบครัวตน เขาสวน เธอก็เป็นหนึ่งในฝูงผีที่นั่น หญิงสาวแทรกทันที

“เคยเป็นย่ะ...ตอนนี้ฉันคงไม่ทำอย่างนั้นอีกแล้ว” ดำเกิงแปลกใจถามทำไม หญิงสาวอึกอัก “เอ่อ...ก็... นายช่วยชีวิตฉันไว้ ฉันก็เลยจะทำดีกับคนที่นายรักเป็นการตอบแทน”

“เหรอ...คิดแค่นั้นจริงๆเหรอ”

“เห็นฉันเป็นคนกลับกลอกขนาดนั้นหรือ”

กนกวิภาเริ่มเคือง

“แน่นอน! ฉันยังจำได้ดีที่เธอหลอกใช้ฉันเป็นเครื่องมือทำร้ายบัวกับไอ้ตี๋”

กนกวิภาสลดลง ค่อยๆเงยหน้าสบตาดำเกิงน้ำตารื้น “ฉันขอโทษนะ ฉันขอโทษที่ทำอย่างนั้น ฉันเสียใจ”

ดำเกิงเห็นอย่างนั้นอึ้ง แต่ยังกวน “เสียใจ? ไม่น่าเชื่อว่าฉันจะได้ยินคำนี้จากเธอยัยหมวย ต่อมคนดีทำงานแล้วหรือไง”

กนกวิภาเสียงเศร้าบอกประชดไปเถอะไม่เป็นอะไร แล้วก้มหน้าเก็บเสื้อผ้าที่ดำเกิงซื้อให้ใส่กระเป๋า เขามองแล้วบอกให้เธอทิ้งไป แต่หญิงสาวอยากเก็บเป็นที่ระลึก ชายหนุ่มหลุดปากว่าตนก็คงคิดถึงที่นี่เหมือนกัน แต่พอรู้สึกตัวก็เสบอกว่า คิดถึงเพราะบ๊ะจ่างขายดี กนกวิภาเบ้หน้าพับผ้าต่อไป ดำเกิงแอบยิ้มมีความสุขในหัวใจ

ที่บ้านริมทะเล บัวกับชยุติช่วยกันเก็บบ้านให้เรียบร้อยเพื่อเตรียมตัวกลับ ชยุติลังเลว่าตนควรกลับจริงหรือ ไม่รู้ว่าอาม้าจะมาไม้ไหน และจะเกิดอะไรขึ้นอีก

บัวยิ้มเข้ามากุมมือ

“มันจะไม่เกิดอะไรขึ้นอีกแล้วค่ะ เพราะเราเข้าใจกันและจะจับมือผ่านทุกอย่างไปด้วยกัน เหมือนที่เราเคยผ่านมา ป๊าสอนว่า ชีวิตคู่ต้องร่วมทั้งทุกข์ร่วมทั้งสุข เราผ่านเรื่องร้ายๆด้วยกันมามากมาย บัวเชื่อว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ต่อให้จะหนักหนาอีกแค่ไหน เราก็จะผ่านมันไปได้ค่ะ ฉันจะอยู่ข้างคุณเหมือนที่คุณอยู่ข้างฉัน”

ชยุติกุมมือตอบ “ขอบคุณมากนะบัว คุณคือหัวใจของผม...ผมจะไม่มีวันปล่อยมือคุณ”

บัวซาบซึ้งโผกอดด้วยความรัก

ooooooo

วันต่อมา วลัยตั้งใจจะไปเยี่ยมมาลัย แต่วลีสั่งห้ามไปจนกว่าชยุติจะกลับมาก่อน วลัยถามเสียงอ่อยว่าถ้าหลานไม่กลับ เราต้องทิ้งอาม้าไม่ไปดูดำดูดีเลยหรืออย่างไร วลีสวนอย่างอัดอั้น

“อาม้าจะได้เข้าใจไงว่าการถูกลูกทอดทิ้งมันเป็นยังไงเหมือนที่อาม้าทำให้ตาติทิ้งฉันไป”

ทั้งวลัยและไชโยรู้สึกว่าวลีเหมือนคนจิตหลุดน่ากลัวขึ้นทุกที ทันใดชูดวงพรวดพราดเข้ามาด้วยความดีใจจนพูดไม่ออก ตามด้วยชยุติกับกนกวิภาเข้ามา วลีดีใจมากแต่พอนึกได้ก็แกล้งเป็นลมล้มพับ ทำให้ทุกคนตกใจรีบเข้าประคอง

ขณะที่เจียงกับหลอช่วยกันจัดเก็บชุดงิ้วเพราะไม่มีคนจ้างเล่นมานาน บัวกับดำเกิงเข้ามากราบ เจียงถึงกับน้ำตารินด้วยความดีใจ...พอได้นั่งคุยกัน เจียงกับหลอทึ่งที่โลกกลมจริงๆ ดำเกิงถึงหนีไปอยู่ที่เดียวกับชยุติและบัว บัวเป็นห่วงถามไถ่ถึงสุขภาพของเจียง หลอไม่อยากโกหกเพราะเจียงนอนไม่หลับเลยตั้งแต่สองคนหายกันไป ดำเกิงสัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน จะไม่ก่อเรื่องอีก เจียงไม่อยากเชื่อ บัวรับรองว่าครั้งนี้เชื่อได้เพราะเขาเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ

เจียงหันมองไปรอบๆก่อนจะถามหาชยุติ บัวบอกว่าเขากลับไปดูอาการวลี เจียงเห็นข่าวนึกเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน บัวคิดว่าอาการเธอน่าจะดีขึ้นเมื่อชยุติกลับไป แต่ดำเกิงเหน็บ

“หรืออาจจะทรุดหนักกว่าเดิมก็ได้ ถ้าได้ยินเรื่องที่ไอ้ตี๋มันจะคุยด้วย”

บัวส่งสายตาปราม เจียงกับหลอมองหน้ากันอย่างสงสัย...เวลาผ่านไป ในห้องนอนวลี ชยุติ กนกวิภาและไชโยนั่งอยู่ล้อมเตียง วลีลืมตาขึ้นมาทำทีน้ำตาไหลพรากดีใจที่เห็นหน้าลูกชาย โดยลืมสนใจลูกสาวสักนิด พร่ำรำพันว่าเขาอย่าทิ้งไปอีก ตนเป็นห่วงและคิดถึงมาก ชยุติแววตาเครียดลงเพราะมีเรื่องที่จะมาบอกพ่อและแม่

พอวลีรู้ว่าชยุติต้องการที่จะอยู่บ้านบัวห้าวันและกลับมาอยู่บ้านพ่อแม่สองวันก็หน้าเครียดพยายามระงับความไม่พอใจ ชยุติอ้างว่านี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดเพื่อความสบายใจของป๊า

อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 11 วันที่ 4 ก.พ.61

ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว บทประพันธ์โดย กราตร ศักตา
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว บทโทรทัศน์โดย ยิ่งยศ ปัญญา, สรรัตน์ จิรบวรวิสุทธิ์
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว กำกับการแสดงโดย ธนากร โปษยานนท์
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ผลิตโดย บริษัท ดู เอนเตอร์เทนเมนต์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ควบคุมการผลิตโดย ธัญญา-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ