อ่านละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ตอนที่ 7 วันที่ 13 ก.พ.61
“โชคดีจังเลยค่ะ ลุงดูเข้มแข็งมากเลยนะคะ” บุญสิตาให้กำลังใจ“เราก็ต้องสู้น่ะ เพื่อคนที่เรารัก คุณโชคดีแล้ว มีแขน มีขา ทำมาหากินได้ตั้งเยอะ ไม่เหมือนลุงไปที่ไหนเขาก็ไม่รับ โชคดีนะ มีลอตเตอรี่ให้ขาย ไม่ต้องไปเป็นภาระของคนอื่น ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้หรอก ปาฏิหาริย์มีจริง ลองเลือกดูสักเบอร์สิ”
ณฤทธิ์แอบแซวว่าเปิดการขายได้สวยมาก ส่วนบุญสิตาก็ช่วยเลือกเอาเบอร์เก้าให้ ลุงบุญลือบอกว่า
“หนูให้ค่ะ ขอให้ลุงก้าวต่อไปเหมือนเลขเก้านี้นะคะ ณฤทธิ์มองบุญสิตาอย่างประทับใจในความน่ารักของเธอ เมื่อพากันเดินมาส่งลุงบุญลือที่หน้าบ้าน ณฤทธิ์เอ่ยขอยืมร่างเธอหน่อยได้ไหม เธออนุญาต ณฤทธิ์จึงเข้าร่างเธอแล้วจับมือลุงบุญลือขอโทษที่ดูแลลุงไม่ดีไม่เคยรู้ปัญหาลุงเลย ขอโทษที่ทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้
พอดีพุฒิเมธเดินมาเห็นรู้สึกแปลกใจ บุญสิตาบอกว่าตนมาเยี่ยมลุงบุญลือ เขาบอกว่าตนก็ตั้งใจมาเยี่ยมและเอาบัตรที่พักฟรีที่พัทยามาให้ลุงไปพักผ่อนกับครอบครัว ลุงบอกว่าไม่มีอารมณ์ไปเที่ยวไหนหรอก
บุญสิตาลุ้นว่าถ้ามาร์คยังอยู่เขาคงอยากให้ลุงไปพักผ่อนให้ดีขึ้นค่อยกลับมาทำงาน บอกว่า...
“ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายอื่นๆ เงินชดเชยระหว่างที่หยุดงานด้วย เดี๋ยวบริษัทจะออกให้” พูดแล้วถามพุฒิเมธว่า “ใช่ไหมคะคุณ บริษัทจะออกให้”
พุฒิเมธเออออว่าใช่ พักให้เต็มที่เลย ค่าใช้จ่ายทั้งหมดบริษัทจะดูแลให้เอง ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ค่อยกลับมาทำงาน บริษัทเรารอลุงเสมอ
ลุงบุญลือซาบซึ้งจนน้ำตาคลอ แต่พอออกจากบ้านลุงบุญลือ พุฒิเมธก็เหน็บบุญสิตาว่าทำเนียนใหญ่เลยนะ ตนจะหักเงินเธอไปให้ลุง บุญสิตาแอบด่าว่าอย่างกไปหน่อยเลย เป็นมาร์คก็ต้องทำอย่างนี้ เขายอมรับว่าจริง ขณะนั้นเองมือถือของพุฒิเมธดังขึ้น เขารับสายแล้วตกใจบอกว่าจะรีบกลับไปเดี๋ยวนี้เลย
“ที่บริษัทมีเรื่องอะไรอีก” ณฤทธิ์ที่สิงร่างบุญสิตาถามแล้วก็ถอนใจเบื่อๆ ที่มีปัญหาไม่เว้นแต่ละวัน
เมื่อพุฒิเมธกลับถึงบริษัท ศรันย์เล่าว่า เจนนี่ไม่ยอมไปทำงานถ้าไม่ได้ออกงานคู่กับเขาแถมยังปฏิเสธไม่รับงานอะไรเลย บุญสิตาโมโหถามว่าตอนนี้นางอยู่ที่ไหนเดี๋ยวตนจัดการเอง พอศรันย์บอกว่าอยู่ห้องออกกำลังกาย บุญสิตาก็ลิ่วไปเลย สองหนุ่มมองตามงงว่านางจะไปทำอะไร
ไปถึงห้องออกกำลังกาย เห็นเจนนี่อยู่บนลู่วิ่งก็บอกให้ลงมา เจนนี่ทำหูทวนลม บุญสิตาจึงไปกดเร่งความเร็วสูงสุดจนเจนนี่วิ่งไม่ทันสะดุดหกล้ม ซาร่ารีบเข้าไปช่วยเอ็ดบุญสิตาว่าทำอะไรเพื่อนตน ไปเลยนะ
“ก็จะปรับทัศนคติให้เธอไง ทิ้งโอกาสเพราะเรื่องผู้ชายเนี่ยนะ” เอานิ้วจิ้มที่หัวเจนนี่ถามว่า “ที่อยู่ในหัวนี่มันสมองหรือซิลิโคน ถึงได้คิดไม่เป็นว่าอะไรควรไม่ควร”
พอดีพุฒิเมธเข้ามาเจนนี่ฟ้องว่านางบ้าไปแล้ว มาถึงก็ใส่ตนเป็นชุด บุญสิตาด่าต่อแรงกว่าเก่าว่า งานเข้าตั้งเยอะแต่ไม่รับสักงาน เจนนี่อ้างว่าเป็นงานโลว์ๆร้อนๆ ค่าตัวน้อยรับทำไมให้เปลืองตัว ตนจะรองานบิ๊กๆเท่านั้น บุญสิตาก็เลยทั้งด่าทั้งอบรมว่า
“เคยได้ยินไหมมัวแต่รอๆๆ สุดท้ายเธอจะไม่ได้อะไรเลย ถึงเธอจะดัง แต่อย่าลืมนะว่าเด็กใหม่ๆสดๆ
เกิดขึ้นทุกวัน และพร้อมจะเสียบงานเธอ ถ้าเธอคิดแบบนี้ สักวันเด็กพวกนั้นก็จะเข้ามายึดพื้นที่ของเธอไป”
เจนนี่อวดดีว่าไม่มีทาง ศรันย์บอกว่านางพูดถูก บุญสิตาอบรมอีกว่า
“ฉันเตือนด้วยความหวังดี ตอนนี้เธอกำลังฮอตและกำลังโกอินเตอร์ แต่ถ้าเธอไม่รักษาโอกาสทั้งหมดที่มี ทิ้งโอกาส ไม่ทำตัวดีๆ สักวันเธอจะไม่เหลืออะไรเลย”
แม้จะรู้สึกตัวแต่เจนนี่พูดอย่างอวดดีว่ามันเรื่องของตน พุฒิเมธสวนไปทันทีว่าแต่ที่เธอทำมันกระทบคนในบริษัท
“ถูก...ลองใช้สมองคิดดูหน่อย ฉันพูดขนาดนี้ถ้าเธอยังไม่เข้าใจอีก ฉันจะให้รันพาเธอไปเติมฟิลเลอร์ใส่สมอง สมองจะได้ไม่กลวง”
“นี่นางองค์ลงอีกใช่ไหม” ศรันย์กระซิบถามพุฒิเมธอย่างสะใจ
“จบเรื่องที่ฉันจะเสวนากับเธอแล้ว” บุญสิตาบอกเจนนี่แล้วหันบอกศรันย์ “ส่วนงานเกาหลีให้เมธกับเจนนี่ออกงานอีเวนต์คู่ แล้วให้ข่าวเรื่องโปรเจกต์ยักษ์ของเรา จะได้กระหน่ำสร้างกระแสให้บริษัทไปเลย”
ขณะที่บุญสิตาพูดนั้นเสียงนาฬิกาดังขึ้น เธอเหลือบมองนาฬิกาเห็นว่าหมดเวลาแล้ว พอพูดจบก็วิ่งออกจากห้องไป ทุกคนมองตามงงๆ
เพราะไม่อยากให้ทุกคนเห็นเวลาเป็นลมเมื่อวิญญาณณฤทธิ์ออกจากร่างอีก บุญสิตาจึงวิ่งเข้าไปในห้องแต่งตัว ชนกับดนุดลที่กำลังถอดเสื้ออยู่ใส่แค่บ็อกเซอร์กับกล้ามเป็นมัดบนแผงอก บุญสิตาช็อกก่อนจะเป็นลมไป ดนุดลรับร่างไว้บ่นขำๆ “เห็นแค่นี้ถึงกับเป็นลมเลยเหรอ?” โดยไม่รู้ว่าวิญญาณณฤทธิ์ที่ออกจากร่างบุญสิตายืนอยู่ข้างๆ ยังมองหุ่นล่ำเปลือยของดนุดลตาค้างใจเต้นแรง
เมื่อบุญสิตารู้สึกตัวดนุดลถามว่าไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าอยู่ๆก็เป็นลม บุญสิตาเฉไฉว่าสงสัยไม่ได้กินข้าวมั้ง เลยหน้ามืด
เมื่อออกจากห้องแต่งตัว บุญสิตาใจยังเต้นแรง เธอถามณฤทธิ์ว่าเอาร่างตนไปทำอะไรทำไมใจเต้นแบบนี้ เขาบอกว่าเพิ่งเห็นวิวัฒนาการความสามารถแบบก้าวกระโดดของเด็กมาเลยตื่นเต้นนิดหน่อย บุญสิตาพยักหน้าอย่างไม่สนใจ ถามว่าวันนี้เป็นยังไงบ้าง
“ฉันจัดการเรื่องบริษัทไปได้เรื่องหนึ่ง”
“เรื่องบริษัทหายห่วง แล้วเรื่องลุงบุญล่ะ ถ้าคุณยังเข้าร่างฉันได้ แปลว่าลุงยังไม่หายดี ฉันเป็นห่วงกลัวลุงจะคิดสั้น”
ณฤทธิ์เชื่อว่าลุงไม่คิดสั้น ถึงตอนนี้ลุงยังไม่เต็มร้อย แต่การได้อยู่กับครอบครัวจะทำให้ค่อยๆ ดีขึ้น บุญสิตาภาวนาขอให้เป็นแบบนั้นเถอะ แล้วก็หันมาถลึงตาใส่ณฤทธิ์เมื่อเขายิ้มเจ้าเล่ห์บอกว่า
“แต่ลุงไม่หายขาดก็ดีนะ ฉันจะได้เข้าร่างเธอต่อได้”
ooooooo
เมื่อกลับถึงออฟฟิศ บุญสิตาเห็นศรันย์นั่งอยู่ ศรันย์บอกให้เธอเข้าไปหาพุฒิเมธ เขารออยู่ในห้อง
บุญสิตารีบเข้าถามว่ามีอะไรหรือเปล่า เขาลีลาไม่ตอบแต่กดโทรศัพท์บอกให้ดูข้อความในโทรศัพท์
พอกดโทรศัพท์ดู บุญสิตาดีใจมากเมื่อเห็นข้อความจากธนาคารแจ้งว่ามีเงินโอนเข้าบัญชีมาแล้ว พุฒิเมธอธิบายว่าเพราะยังเข้าระบบไม่ได้จึงต้องจ่ายเงินเดือนเป็นค่าแรงให้แบบนี้ไปก่อน
“ส่วนเรื่องงาน พวกเราลงความเห็นกันว่า ให้เธอมาเป็นผู้จัดการทั่วไปอย่างที่เธอตั้งใจมาสมัครแต่แรก”
“จริงเหรอคะ” บุญสิตายิ้มมีความสุขมากที่ได้ทั้งซองทั้งกล่อง พุฒิเมธเองก็ดีใจที่ทำให้เธอมีความสุข
ณฤทธิ์บอกว่าได้เงินแล้วก็อย่าลืมซื้อความสุขให้ตัวเองด้วย ชวนเธอไปช็อปปิ้งกัน ตนไม่ได้เที่ยวมานานแล้ว บุญสิตาบอกว่าดี ตนจะได้ซื้อของให้ทุกคนในบริษัทเพื่อเป็นการขอบคุณ เขาก็จะได้ช่วยเลือกด้วย
ooooooo
เมื่อเข้าไปในห้าง บุญสิตาเห็นป้ายโฆษณาสินค้าที่เจนนี่ พุฒิเมธและจัสตินเป็นพรีเซ็นเตอร์มากมายก็มองอึ้งว่าไม่เคยรู้มาก่อนว่าคนที่ตนเจอทุกวันจะดังขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเขาเป็นคนปั้นขึ้นมา ชมว่าเก่งจัง
“แน่นอน ฉันเป็นมืออันดับหนึ่ง เด็กพวกนี้ถึงจะเพี้ยนๆ เอาแต่ใจ แต่พวกเขาก็มีความสามารถ ฉันก็ดึงศักยภาพของพวกเขาออกมา ดูแล คุมเขาให้อยู่ก็เท่านั้นแหละ”
“พวกเขาทำบุญด้วยอะไรนะถึงได้เกิดมาหน้าตาดี รวย เก่ง มีความสามารถมาก...ฉันนี่สิไม่มีอะไรเลย”
“ไม่หรอก เธอเห็นแค่ด้านเดียวของพวกเขา จริงๆ พวกนี้ก็มีด้านจิตๆแปลกๆ น่าสงสารที่คนทั่วไปไม่รู้เหมือนกัน อย่างจัสติน นางมีชื่อเสียง แต่ก็แลกกับการไม่เป็นตัวเอง นางต้องเล่นละครแอ๊บแมนตลอดเวลา หรืออย่างเจนนี่นางโดนสปอยเพราะอยู่ในวงการมายาตั้งแต่เด็ก...”
ณฤทธิ์เล่าว่า เจนนี่เข้าวงการมาตั้งแต่อายุ 12 ความน่ารักน่าเอ็นดูของเธอทำให้ทุกคนชมและเอาอกเอาใจอย่างมาก และแม่ก็คอยเตือนเรื่องกินขนมหวานว่ากินไม่ได้ เดี๋ยวอ้วน ณฤทธิ์สรุปว่า
อ่านละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ตอนที่ 7 วันที่ 13 ก.พ.61
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ บทประพันธ์โดย : ติณณาละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ บทโทรทัศน์โดย : ตฤณณา
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ กำกับการแสดงโดย : กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ที่มา ไทยรัฐ