อ่านละคร ไฟหวน ตอนที่ 9 วันที่ 5 มิ.ย. 56
“แต่คนอย่างเขาถ้าจะแต่งงานก็คงเลือกแต่งกับผู้หญิงมีชาติตระกูล ส่วนผู้หญิงอย่างเราน่ะก็เป็นได้แค่เมียเก็บเท่านั้นละ ไม่ใช่เมียออกหน้าออกตาหรอก”“ไม่แน่หรอกบุปผา คุณกำพลหลงเธอมากเลยนะ ถึงขั้นจะให้รางวัลพี่มุกตั้ง 500 เชียวนะ ถ้าพี่มุกบอกเขาได้ว่าเธอไปอยู่ที่ไหน แต่พี่มุกก็ไม่รู้ว่าเธออยู่ไหน พี่มุกก็เลยยังไม่ได้เงิน 500 ของคุณกำพล...ฉันถามจริงๆ ตอนนี้เธอไปอยู่ที่ไหน ฉันจะได้ไปบอกคุณกำพล ฉันอยากได้เงิน 500 บาทนั่น เพราะตอนนี้ฉันกำลังต้องใช้เงิน”
“ฉันบอกเธอไม่ได้หรอก ฉันอยากจะลืมชีวิตในอดีตให้หมด แล้วก็เริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่เอาเถอะ เพื่อเห็นแก่เธอที่ช่วยฉัน...” บุปผาปลดสร้อยที่คอซึ่งได้มาจากมัทนาส่งให้เดือน แล้วรวบรัดตัดบทบอกลาก่อนเดินจากไปอย่างเร่งรีบ ทิ้งเดือนยืนมองสร้อยในมือพลางพึมพำด้วยความสงสัย
เพชรควบคุมตัวตาเถามาสอบสวนที่โรงพัก พร้อมกันนั้นก็ส่งลูกน้องไปค้นบ้านของแกจนได้หลักฐานเพิ่มเติมคือไม้เปื้อนเลือดที่แกใช้ขว้างศีรษะน้องชาย และไอ้หลงที่ยังอยู่ในสภาพเมายาถูกมัดไว้หลังบ้าน ซึ่งเพชรจำได้ว่าเป็นคนเดียวกับที่เขาเคยช่วยเหลือพาส่งโรงพยาบาลมาแล้วครั้งหนึ่ง
เพชรคาดคั้นอย่างหนักทั้งเรื่องสาเหตุที่นายถิ่นตายและเรื่องไอ้หลงถูกมอมยา แต่ตาเถาเอาแต่นิ่งไม่ตอบสักคำถามและพยายามหาทางหลบหนีตลอดเวลา จนกระทั่งได้โอกาสตอนไอ้หลงอาละวาดและพวกเพชรต้องไล่จับกันชุลมุน ตาเถาก็วิ่งหนีหลุดรอดไปได้
กว่าพวกเพชรจะสยบไอ้หลงได้ก็เล่นเอาหอบไปตามกัน หลังจากนั้นเพชรพามันส่งโรงพยาบาลให้ไอศูรย์ตรวจอาการและรอฟังผลอย่างใกล้ชิด
“พี่มั่นใจว่าเด็กนี่คงถูกให้ยามาเป็นเวลานานพอสมควรทีเดียว จนสมองบางส่วนเสียหายไปแล้ว ถึงได้มีอาการเลอะเลือนพูดไม่รู้เรื่องและควบคุมตัวเองไม่ได้อย่างนี้ นี่พี่ก็เลยต้องมัดมือเขาไว้ทั้งสองข้าง ป้องกันเขาทำร้ายตัวเอง เพชรบอกพี่ได้ไหมว่าใครเป็นคนทำกับเด็กอย่างนี้”
“ชื่อตาเถาครับพี่ต้น เป็นหมอคุณไสย อยู่หลังวัดวิเวกโน่น ตอนที่ผมตามไปที่บ้านมันก็หนีไปแล้ว แต่ผมตั้งใจว่าจะต้องจับตัวมันมารับโทษให้ได้”
“พี่ไม่เข้าใจเลย ทำไมคนเราถึงใจคอโหดเหี้ยม กันได้ถึงขนาดนี้ แต่พี่ก็เชื่อว่าถึงจะเอาตัวเขามารับโทษทางกฎหมายไม่ได้ แต่กฎแห่งกรรมก็ไม่เคยละเว้นใคร”
แน่นอนว่ากรรมกำลังตามทันตาเถาอยู่ในเวลานี้... เขาหลบหนีตำรวจกระเซอะกระเซิงไม่รู้ทิศ ยังไม่รู้จะไปซุกหัวนอนอยู่ที่ไหน เลยยิ่งอาฆาตแค้นบุปผาที่เป็นต้นเหตุ
“น้องกูต้องตาย ตัวกูก็ต้องหนีกฎหมายหัวซุกหัวซุนอย่างนี้ก็เพราะมึงคนเดียว อีนังผู้หญิงหยำฉ่า”
ooooooo
เดือนกระหยิ่มยิ้มย่องหลังจากแอบตามบุปผา
ไปจนรู้แหล่งที่อยู่ชัดเจนว่าเป็นบ้านเทพบริบาล เดือนไม่กระโตกกระตากบอกใครในหอโคมแดง แต่จะเก็บไว้บอกกำพลคนเดียวเพราะหวังเงินห้าร้อยบาทเป็นรางวัล
ด้านคุณหญิงมณีเมื่อรู้ว่าคนของสร้อยทำงานไม่สำเร็จก็ตำหนิสร้อยอย่างอารมณ์เสีย
“ทำไมเรื่องง่ายๆแค่นี้คนของแกก็ทำไม่สำเร็จ”
“สร้อยโทร.ไปถามไอ้เพิ่มมันแล้วค่ะคุณหญิง มันบอกว่ากำลังจะทำสำเร็จอยู่แล้ว พอดีมีคนมาเห็นเข้า แล้วดันร้องเรียกตำรวจ ไอ้เพิ่มกับลูกน้องมันก็เลยต้องหนีเอาตัวรอดก่อนน่ะสิคะคุณหญิง แต่ไอ้เพิ่มมันกำลังรอจังหวะจะลงมือใหม่แล้วค่ะ”
“คงสำเร็จหรอกนะนังสร้อย ตอนนี้นังบุปผามันคงระวังตัวแจแล้ว ถ้ามันโดนลากไปอีกทีมันต้องสงสัยแน่...สร้อย บอกคนของแกอย่าเพิ่งทำอะไรมัน ปล่อยมันไว้ก่อน รอให้มันตายใจก่อนค่อยลงมือใหม่”
“ค่ะคุณหญิง” สร้อยรับคำแข็งขัน พลางชำเลืองมองเจ้านายที่ดูเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
ค่ำนั้น นายพลเทพกลับเข้าบ้านด้วยความอ่อนล้า หนักใจไม่รู้จะทำอย่างไรให้ผกายอมรับความจริงเสียที สักครู่ต่อมามัทนาตามเข้ามาในห้องร้องเรียกพ่อ ปรากฏว่าเขากำลังอาบน้ำ มัทนาจะมาหยิบหนังสือเล่มหนึ่งให้แม่ นายพลเทพจึงร้องบอกให้ค้นหาดูเอง
กลายเป็นว่ามัทนายังหาหนังสือเล่มนั้นไม่เจอ แต่เจอรูปถ่ายผู้หญิงสวยจัดคนหนึ่งซึ่งก็คือผกานั่นเอง นายพลเทพเพิ่งเอาซุกไว้ในกองหนังสือก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ
ทันใดนั้น คุณหญิงมณีเปิดประตูห้องเข้ามาเห็นรูปถ่ายในมือมัทนา คราวนี้เลยเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นมาทันที... คุณหญิงมณีคาดคั้นสามีต่อหน้าลูกสาวด้วยความโมโห
“นี่รูปใครคะคุณ”
“คุณอย่ารู้เลย”
“แต่ฉันอยากรู้ และต้องรู้ให้ได้ด้วย ตอบฉันมาค่ะว่าอีนังผู้หญิงคนนี้เป็นใคร บอกฉันมานะว่ามันเป็นใคร นี่คุณคิดจะมีเมียน้อยอีกแล้วใช่มั้ย”
“คุณหญิง! จะพูดอะไรก็ระวังบ้าง ยายมัทอยู่ที่นี่ด้วย”
“อยู่ก็ดีสิคะ ยายมัทจะได้รู้เสียบ้างว่าคุณมันไม่ใช่พ่อพระอย่างที่แกคิด อีนังนี่มันเป็นใครคะ บอกฉันมา”
คุณหญิงมณีเห็นนายพลเทพนิ่งไม่ตอบก็ยิ่งโกรธเกรี้ยว ทุบตีเขาไม่ยั้ง...สองคนยื้อยุดกันไปมา มัทนาเห็นท่าไม่ดีเข้าห้ามพ่อกับแม่แต่ไม่เป็นผล แถมตัวเธอเองยังได้รับบาดเจ็บจากแรงเหวี่ยงของพ่อจนเซไปกระแทกโต๊ะแล้วโคมไฟหล่นใส่
สองสามีภรรยาชะงักงันกันไปทันทีเมื่อเห็นลูกสาวบาดเจ็บ สร้อยรู้เรื่องก็รีบนำอุปกรณ์ปฐมพยาบาลมาให้คุณหญิงอย่างเร่งด่วน
“เจ็บมากไหมลูก”
“นิดหน่อยค่ะแม่ มัทไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ”
“แต่ลูกไม่ควรต้องมาเจ็บตัวอย่างนี้ ถ้า...” คุณหญิงปรายตาไปทางสามีอย่างเจ็บช้ำใจ
“ถ้าคุณหญิงมีสติสักหน่อย ยายมัทก็คงไม่เจ็บตัว”
“ค่ะ ฉันไม่มีสติ ก็เพราะมีสามีไม่ซื่อสัตย์”
“คุณหญิง!”
“ก็หรือไม่จริงล่ะค่ะ”
“ผมกับผู้หญิงในรูปนั่นไม่ได้มีอะไรกัน”
“แล้วคุณเอารูปมันมาเก็บไว้ในบ้านทำไมล่ะค่ะ”
นายพลเทพจำใจโกหกเมื่อเห็นมัทนามองมา“มันเป็นเรื่องราชการลับ ซึ่งผมเปิดเผยกับคุณหรือใครไม่ได้ ความจริงผมไม่ควรเอารูปนั่นติดกลับมาบ้านเลยด้วยซ้ำ”
คุณหญิงมณีสีหน้าอ่อนลง รีบขอโทษลูกสาว ที่ตัวเองวู่วาม
“ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่ ถ้าคุณพ่อกับคุณแม่หายโกรธกันแล้ว มัทก็สบายใจแล้วล่ะค่ะ”
มัทนายิ้มดีใจ ในขณะที่นายพลเทพกับคุณหญิงมณีแอบถอนใจเครียด รอยร้าวระหว่างกันเริ่มลึกมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว....
ค่ำคืนเดียวกันที่โรงพยาบาล ไอศูรย์ถูกตามตัวมาอย่างเร่งด่วนเพราะไอ้หลงมีอาการหลอนอาละวาดจนผ้าที่มัดมือไว้กับเตียงขาดกระจุย แล้วใครก็ไม่กล้าเข้าใกล้เพราะเกรงจะโดนทำร้าย
หมอไอศูรย์เกลี้ยกล่อมอย่างใจเย็นทำให้ไอ้หลงสงบลง แต่แล้วไม่กี่อึดใจต่อมา ไอ้หลงก็มีอาการหวาดผวาขึ้นมาอีกเมื่อเห็นบุรุษพยาบาลเป็นตาเถา...เขาสติแตกกรีดร้องโวยวายผลักทุกคนล้มระเนระนาดแล้ววิ่งเตลิดออกไปจากโรงพยาบาล...
ooooooo
เช้าวันรุ่งขึ้น ไอศูรย์ไม่ได้มาใส่บาตรกับมัทนาแต่โทร.มาแจ้งไว้ล่วงหน้าแล้วว่าติดงานที่โรงพยาบาล มัทนาจึงชวนบุปผาใส่บาตรด้วยกัน คุณหญิงมณีมอง
มาจากในบ้าน ชักสีหน้าไม่พอใจก่อนเรียกสร้อยมาซักถาม
“ทำไมยายมัทใส่บาตรกับนังบุปผามันล่ะสร้อย พ่อต้นไปไหน”
“คุณต้นติดงานด่วนที่โรงพยาบาลค่ะคุณหญิง”
คุณหญิงมณีทำท่าจะเดินไปไล่บุปผา แต่นายพลเทพซึ่งสังเกตอยู่ตลอดรีบเดินเข้ามาดักคอ
“ไปขัดขวางคนที่เขากำลังทำบุญทำกุศลกันอยู่ บาปก็จะตกแก่ตัวคุณนะคุณหญิง”
คุณหญิงชะงักไปด้วยความขุ่นมัว ตัดใจไม่ออกไปจัดการบุปผา ส่วนสองสาวพอใส่บาตรพระเสร็จก็จัดแจงเก็บของเข้าบ้าน
อ่านละคร ไฟหวน ตอนที่ 9 วันที่ 5 มิ.ย. 56
ละครเรื่อง ไฟหวน บทประพันธ์โดย ฐา-นวดี สถิตยุทธการละครเรื่อง ไฟหวน บทโทรทัศน์โดย ฐา-นวดี สถิตยุทธการ
ละครเรื่อง ไฟหวน กำกับการแสดงโดย มารุต สาโรวาท
ละครเรื่อง ไฟหวน ผลิตโดย บริษัท มาสเคอเรด จำกัด โดย มารุต สาโรวาท
ละครเรื่อง ไฟหวน เป็นละครแนว ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง ไฟหวน ออกอากาศทุกวันศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ