อ่านละคร วันนี้ที่รอคอย ตอนที่ 1 วันที่ 5 มิ.ย. 56


อ่านละคร วันนี้ที่รอคอย ตอนที่ 1 วันที่ 5 มิ.ย. 56

ณ ราตรีนี้...ภายใต้พระจันทร์สีขาวซีด มีแสง ประทีป โคมไฟวอมแวมจากปราสาทราชวัง และวัดทรงไทยใหญ่พม่า

ท่ามกลางบรรยากาศที่หม่นเศร้านี้...ในห้องบรรทมเจ้าหลวงพีริยเทพ แห่งพระราชวังคีรีรัฐ เสียงแก้วชั้นดีตกกระทบพื้นหินแตกเสียงบาดใจ! ที่พื้นมีน้ำสีแดงใสที่เหลืออยู่กระเซ็นกระจายที่พื้น...

แก้วตกจากมือพระเทวีศุลีมาน...มือที่ถือแก้วตกลงข้างตัว ร่างทรุดลง องค์เจ้าหลวงพีริยเทพรีบประคองรับไว้!


“เจ้าพ่อ...เจ้าแม่เป็นอะไรเจ้าข้า...” น่านปิงใน

วัย 8 ขวบถามอย่างตื่นตะลึง วิ่งเข้าไปเขย่าตัวมารดา อย่างตระหนก

เจ้าหลวงอุ้มพระเทวีนอนลงที่บรรทม หันมองน่านปิงด้วยสายตาที่ปวดร้าว

น่านปิงถามว่าเจ้าพ่อประทานสิ่งใดให้เจ้าแม่ดื่ม... เจ้าหลวงบอกว่าแม่เพียงแค่หลับไปเท่านั้น ไม่นานก็จะฟื้นตื่นขึ้น แล้วดึงน่านปิงออกจากตัว จับบ่าทั้งสองข้าง มองหน้าบอก

“เจ้าต้องเข้มแข็ง...ต่อไปเจ้าจะต้องเป็นคนดูแลแม่ของเจ้าแทนพ่อ...เข้าใจไหม...” น่านปิงพยักหน้าดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตา พยายามกลั้นไว้ไม่ให้ไหลออกมา เจ้าหลวงบอกน่านปิงอีกว่า “พาแม่เจ้าตามอินปง ราชองครักษ์ไป...ไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ออกไปจากคีรีรัฐ!!”

น่านปิงกางมือออกสุดแขนถลาเข้าไปจะกอดบิดา แต่เจ้าหลวงเบี่ยงตัวหลบไปอีกทาง เร่งรัดอย่างร้อนใจ

“อย่ามามัวเสียเวลา...รีบไปเลย...ไม่ต้องห่วงพ่อ”

ขณะนั้นเอง อินปงราชองครักษ์ร่างกำยำแต่งกายด้วยชุดดำมีผ้าคลุมหน้าที่ยังไม่ได้ปิดให้ดี วิ่งเข้ามาก้มกราบแทบเท้าเจ้าหลวง “ต้องรีบเสด็จแล้วพระเจ้าค่ะ พวกมันใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว” เจ้าหลวงหันไปที่พระเทวีบนที่บรรทมพยักหน้าให้อินปง อินปงจึงเข้าไปกราบเจ้าหลวงขอพระราชทานอภัยก่อนช้อนร่างพระเทวีที่ไม่ได้สติขึ้น

เจ้าหลวงเดินไปหยิบจอกน้ำจัณฑ์ในถาดทองที่วางอยู่ข้างที่บรรทม ยกจอกขึ้นมือสั่นเล็กน้อยจนน้ำสีดำในจอกกระเพื่อม เจ้าหลวงดื่มน้ำจัณฑ์รวดเดียวหมดด้วยสีหน้าที่กล้ำกลืนกับรสชาติแล้วทรุดนั่งบนเตียง พลันก็นึกอะไรได้รีบเอื้อมมือไปควานหาถุงไถ้ไหมที่เย็บอย่างแข็งแรงมีกล่องไม้ข้างใน ยื่นให้น่านปิง พูดอย่างลำบาก...

“ตรา...ประจำตัวเจ้าหลวงแห่งคีรีรัฐ...เก็บ...ไว้... ให้ดี...ไปได้...แล้...ว...”

น่านปิงรับไถ้มาคล้องกับตัว อินปงอุ้มร่างพระเทวีน้ำตาปริ่ม จ้องเจ้าหลวงพูดอย่างแน่วแน่

“แล้วกระหม่อมจะตามไปถวายการรับใช้ฝ่าบาทเหมือนดังเช่นในภพนี้”

เจ้าหลวงในสภาพจะสิ้นแรงแล้ว โบกมือให้น่านปิงรีบไป...รีบไป...อินปงจึงอุ้มพระเทวีออกไป น่านปิงวิ่งตามไป แต่ยังไม่ละสายตาจากเสด็จพ่อ...

เจ้าหลวงทุรนทุราย ในขณะที่เสียงฝีเท้าทหารกำลังย่ำมาตามบันไดตึกพระราชวัง!

ooooooo

ที่สวนป่าหลังวังคีรีรัฐ...อินปงอุ้มพระเทวีวิ่งมาที่มีดาบสะพายไขว้อยู่กลางหลัง ร้องบอกน่านปิงที่วิ่งตามมาว่าเราต้องไปให้พ้นชายแดนในคืนนี้ น่านปิงถามว่าทำไมไม่พาเจ้าพ่อไปด้วย อินปงหยุดชี้แจงแก่น่านปิงว่า

“เจ้าหลวงคีรีรัฐ จะต้องประทับใต้เศวตฉัตรของคีรีรัฐ ไม่ว่าจะยังทรงพระชนม์หรือสิ้นพระชนม์...เวลาเหลือน้อยแล้ว หากช้า พระเทวีรู้สึกพระองค์เราจะหมดหนทาง”

เสียงเอะอะดังใกล้เข้ามา อินปงเร่งฝีเท้าวิ่งเร็วขึ้น น่านปิงวิ่งตามไปไม่เหลียวหลังอีกเลย...

พากันวิ่งไปถึงอุทยานหลังวัง น่านปิงสะดุดล้มลงเท้าแพลง น่านปิงพยายามลุกยืนแต่เจ็บจนล้มลงอีก อินปงวางพระเทวีลงกลับมาดูน่านปิง ก็ถูกทหารสี่คนวิ่งตามมาทัน เงื้อดาบหมายฟันอินปง!

น่านปิงร้องบอกอินปงทำให้หลบทัน ทหารนายนั้นตะโกนบอกพรรคพวกว่า “พบแล้ว...ทางนี้...ทางนี้!!”

อินปงชักดาบออกประจันหน้า ฟาดฟันทหารที่วิ่งเข้ามาทีละคนจนตายไป 3 คน คนที่ 4 เงื้อดาบสุดแขนจะฟัน พลันก็มีลูกธนูพุ่งแหวกอากาศมาปักทะลุกลางอกตายคาที่!

ชายชุดดำเดินออกมาสะบัดชายผ้าคลุมหน้าไปข้างหลัง เผยให้เห็นใบหน้าดุดัน ผิวคลํ้าตาลึก อินปงร้องอย่างตกใจ

“ภูสินทร!”

“องครักษ์ตำหนักหน้า คนของเสด็จลุง” น่านปิงจำได้ ภูสินทรก้มหัวทำความเคารพน่านปิงแล้วหันพูดกับอินปง

“ข้าได้รับคำสั่งจากพระเทวีพี่นาง ให้มาคอยติดตามระวังหลังให้ท่าน จงเชื่อใจข้า เร็วเข้าเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทันการ”

“งั้นรีบไปที่ประตูหลังวัง เมียข้ารออยู่ที่นั่น” อินปงบอกแล้วช้อนร่างพระเทวีขึ้นมา ส่วนภูสินทรคุกเข่าช้อนตัวน่านปิงอุ้มวิ่งตามกันไปอย่างรวดเร็ว

แต่วิ่งไปได้ไม่นานก็มีทหารอีกคนโผล่พรวดจากพุ่มไม้เล็งธนูใส่! น่านปิงร้องตะโกนให้ระวัง ภูสินทรก้มตัวลงผลักน่านปิงกลิ้งไปในพงหญ้าใกล้ๆ ชักดาบออกมาพร้อมสู้ ตะโกนบอกอินปงที่หันมองว่ารีบไป ทางนี้ตนจัดการเอง

ภูสินทรเห็นว่าคือราชิดราชองครักษ์ของเจ้าชายมาทยาธรพี่ชายของเจ้าหลวงพีริยเทพกับโกศิณคนสนิท ราชิดสั่งฆ่าทันที แม้ภูสินทรจะเก่งกาจสามารถแต่เพราะฝ่ายนั้นมีคนมากกว่าจึงตะโกนบอกให้อินปงกับน่านปิงรีบหนีไป ส่วนตัวเองต่อสู้ต้านพวกนั้นเต็มกำลัง แม้จะได้รับบาดเจ็บหลายแผลแต่ก็สู้ไม่ถอย!

ooooooo

อินปงพาพระเทวีกับน่านปิงมาลงเรือติดประทุนที่จอดรออยู่ในพงหญ้า พระเทวีกอดน่านปิงร้องไห้เมื่อรู้ว่าเจ้าหลวงจากไปแล้ว ครํ่าครวญน่าเวทนา...

“เจ้าพี่...ทรงพระทัยดำนัก แล้วเราสองคน...จะอยู่ต่อไปอย่างไร...เมื่อไร้พระองค์...”

ที่ข้างเรือ คำฝายหญิงใบ้ที่เป็นคนดูแลราชบุตรและพระเทวีถือไต้คอยผลักเรืออยู่ อินปงถือดาบหันรีหันขวางอยู่บนฝั่งเร่งพระเทวีให้ทำตามพระประสงค์ของเจ้าหลวงเถิด ให้เร่งเสด็จโดยเร็ว ตนขอฝากลูกสาวให้ตามเสด็จไปด้วย พลางจันทร์แรมเมียอินปงส่งทารกหญิงให้พระเทวี

“พระเทวี...จันทร์แรมฝากม่านฟ้าด้วยเพคะ” จันทร์แรมเอ่ยนํ้าตาไหลพราก

พระเทวีตั้งสติ ค่อยๆ เข้าใจชัดเจนขึ้นว่า “จริงสินะ...หน้าที่ของเราคือปกปักรักษาและทำนุบำรุงน่านปิงนรเทพ จันทร์แรม...อินปง...ข้าให้สัญญาว่าจะดูแลม่านฟ้าของเจ้าให้เหมือนกับเลือดเนื้อของข้า เพื่อตอบแทนความภักดีของเจ้าทั้งสองคน เจ้ามอบชีวิตให้ข้ากับลูกชาย เพราะฉะนั้น ข้าขอสาบาน ชีวิตของข้ากับน่านปิงนรเทพ จะเป็นของม่านฟ้าด้วย”

จันทร์แรมเอื้อมมือจับที่เท้าน่านปิง เอ่ย “เจ้าอ้าย...หม่อมฉันฝากเมยให้เป็นข้ารองพระบาทเพคะ”

น่านปิงถามทั้งสองว่าทำไมไม่ไปด้วยกัน อินปงพูดอย่างระแวดระวังว่า ตนถวายเมยไปแทนแล้ว เร่งน่านปิงให้รีบเสด็จ พลางนั่งลงกราบลากับพื้นดิน จันทร์แรมรีบทำตาม อินปงเร่งให้คนเรือรีบเดินทาง บอกคำฝายให้ส่งไต้ให้ตน

เสียงฝีเท้าม้าเป็นหมู่ห้อตะบึงจนพื้นสะเทือนใกล้เข้ามา อินปงเร่ง “รีบไป!” คำฝายผลักเรือออกแล้วกระโดดขึ้นเรือ คนเรือสองคนรีบแจวออกไป

ooooooo

บนฝั่ง...จันทร์แรมเอาผ้าคลุมหัวย่อตัวลงเปิดสวิตช์ตะเกียงหลอดฟูลโอเรสเซนท์สว่างจ้า ส่วนอินปงกระชับดาบมั่น ทั้งสองพากันวิ่งแยกไปอีกทางเพื่อลวงทิศ

ราชิดและโกศิณถือไต้ควบม้านำทหารอีก 5 นายพร้อมธนูและดาบตรงมาถึงจุดลงเรือของพระเทวี ราชิดกับโกศิณลงมาส่องไต้ดูเห็นรอยหลายคนทั้งชายหญิง ราชิดก้าวไปริมธารมองไปในความมืด ไม่พบสิ่งใดนอกจากกระแสนํ้าที่ไหลแรง...

ทันใดนั้น ทหารที่อยู่บนหลังม้าร้องบอก “นั่น อยู่บนนั้น ท่านราชิด ท่านโกศิณดูครับ”

เมื่อทุกคนมองตามจึงเห็นแสงตะเกียงสว่างจ้าวูบวาบลอดออกมาจากแนวไม้

“ใช้ตะเกียงของในวังแบบนี้ไม่ใช่ชาวบ้าน นายพราน หรือทหารชายแดนแน่ๆ หน็อย! คิดจะหนีไปไหน นึกว่าจะพ้นข้าหรือ...” ราชิดกระโดดขึ้นหลังม้าสั่งเหี้ยม “ตามไป! ฆ่าให้หมด!!!”

ขบวนม้าของราชิดห้อตะบึงตามแสงไฟไป อินปงกับจันทร์แรมเห็นแสงไต้ตามขึ้นมาเป็นสายจึงยิ่งล่อเป้าพากันวิ่งสูงขึ้นไปอีก

อ่านละคร วันนี้ที่รอคอย ตอนที่ 1 วันที่ 5 มิ.ย. 56

โดย บทประพันธ์โดย วราภา จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 7 โดย ปราณศักดิ์สวัสดิ์
กำกับการแสดงโดย : สยาม น่วมเศรษฐี
ควบคุมการผลิตโดย : บริษัท พอดีคำ จำกัด
โดยผู้จัด : ธงชัย ประสงค์สันติ/มณีรัตน์ ประสงค์สันติ
ออกอากาศเริ่มตอนแรก วันพฤหัสบดีที่ 13 มิ.ย. 2556
ที่มา ไทยรัฐ