อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 10 วันที่ 30 มิ.ย. 56
ไม่นานนัก อนิรุทธิ์ขับรถมาจอดหน้าประตูรั้วของคฤหาสน์โดมทอง วิรงรองไม่วายเชียร์ให้เขาจีบลานนาอีกครั้ง อนิรุทธิ์ทนไม่ไหวโพล่งขึ้นทันทีว่าเธอไม่รู้จริงๆ หรือว่าแกล้งทำไม่รู้ว่าเขาหลงรักเธอมาตั้งแต่แรกแล้ว วิรงรองถึงกับอึ้ง รอยยิ้มเมื่อครู่มลายไปสิ้น“ตอนนั้นคุณมีนายพิชญ์อยู่แล้ว ผมเลยต้องพยายามหักใจคิดว่าคุณเป็นแค่เพื่อน แต่เวลานี้คุณเป็นอิสระ นายพิชญ์แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว...ผม...”
“ผมจะรอจนกว่าคุณจะลืมนายพิชญ์” อนิรุทธิ์มองตามอย่างมีความหวัง แม้จะน้อยนิดก็ตาม...
ทางด้านวิรงรองมัวแต่เดินใจลอยมาตามทางจะเข้าคฤหาสน์ ไม่ทันสังเกตเห็นอดิศวร์จับจ้องลงมาจากหน้าต่างห้องทำงาน ทันทีที่วิรงรองเข้าไปข้างในตึกใหญ่ อุษาปรี่เข้ามาตำหนิกลายๆว่าหายป่วยแล้วหรือถึงได้ออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก วิรงรองตอบเสียงอ่อยว่าค่อยยังชั่วแล้ว เหลือแค่ปวดหัวนิดหน่อยเท่านั้น
“นั่นไง...เดี๋ยวพี่จะเอายาให้”
“ไม่ต้องค่ะ วิมีแล้ว เอ่อ...วิขอขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะคะ” วิรงรองว่าแล้ว จ้ำพรวดๆเข้าห้องตัวเอง เดินมาทรุดตัวลงนั่งบนเตียง นึกถึงคำสารภาพรักของอนิรุทธิ์เมื่อครู่แล้วถึงกับถอนใจ หนักใจ
“รุทธิ์เอ๊ยรุทธิ์...ไม่น่าคิดอะไรบ้าๆเลย” วิรงรองหยิบยาแก้ปวดหัวมากิน แล้วล้มตัวลงนอน
ooooooo
ถึงเวลาอาหารค่ำ อดิศวร์มาที่ห้องกินข้าวแต่ไม่เห็นวิรงรองอยู่แถวนั้นก็ถามหา ได้ความจากอุษาว่าเธอกินข้าวเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ตอนเย็น เห็นบ่นไม่ค่อยสบาย อดิศวร์หน้าตึงขึ้นมาทันที ตำหนิวิรงรองในใจว่าไม่ทันหายป่วย ยังจะหนีเที่ยวอีก แสงแขเหมือนจะอ่านใจเขาออก สาระแนทันที
“โถ...ก็ยังไม่ทันจะหายดีนี่นา แต่ก็นั่นแหละ เพื่อนสนิทอุตส่าห์มารับทั้งที...แกงจืดลูกรอกค่ะคุณลบ” แสงแขเลื่อนชามแกงเข้าไปใกล้เขาอย่างเอาอกเอาใจ
“ขอบใจไม่ต้องเลื่อนมาก็ได้พี่ตักถึง” อดิศวร์บอกปัดอย่างไม่มีเยื่อใย แสงแขน้อยใจ แต่ต้องข่มเอาไว้...
หลังจากกินข้าวเสร็จทุกคนต่างแยกย้ายกันเข้าห้องของตัวเพื่อพักผ่อน แสงแขเจ็บใจที่อดิศวร์ดูจะเอื้ออาทรวิรงรองออกนอกหน้า ต้องหาทางตัดไฟแต่ต้นลม จึงไปพบเธอที่ห้อง ชวนไปคุยกันที่ระเบียง วิรงรองทักว่าดึกแล้ว และฝนกำลังจะตกทำไมไม่คุยกันในห้อง แสงแขไม่สนใจเดินนำออกไป เธอจำต้องเดินตาม
แสงแขต่อว่าวิรงรองว่ามีเพื่อนผู้ชายเทียวรับเทียวส่งมากหน้าหลายตาทำไมต้องมาแย่งอดิศวร์ไปจากตนด้วย รู้ทั้งรู้ว่าเขากับเธอรักกัน วิรงรองตัดปัญหาไม่อยากให้แสงแขมายุ่งวุ่นวายอะไรอีก จึงโกหกว่ากำลังคบหาดูใจกับเพื่อนชายที่ออกไปด้วยกันวันนี้ แสงแขสงสัย แล้วเธอเอาพิชญ์ไปไว้ไหน เธอกับเขารักกันไม่ใช่หรือ
“เคยรักค่ะ พอเขาแต่งงานเรื่องของเราก็จบลง ฉันไม่แย่งของของใคร”
“แม้แต่คุณลบของฉัน”
“โดยเฉพาะคุณลบของคุณ ขอให้คุณแสงแขเชื่อฉันเถอะค่ะ ฉันพูดจริงทำจริง และที่สำคัญคุณแสงแขก็จะหมั้นจะแต่งงานกับคุณลบของคุณแล้วไม่ใช่หรือคะ”
“จำคำพูดของเธอไว้ให้ดี เธอมีคนรักแล้วและคุณลบก็มีเจ้าของแล้วซึ่งก็คือฉัน...ฉันรักเขามากและขอสาบานว่าฉันจะเอาชีวิตเป็นเดิมพันเพื่อให้เขาเป็นคนของฉันตลอดไป” แสงแขพูดจบออกจากห้อง วิรงรองมองตามอย่างเหนื่อยใจ ฝนเริ่มโปรยปรายลงมา ตามมาด้วยฟ้าแลบฟ้าร้อง เธอหันหลังจะกลับเข้าข้างใน ทันใดนั้นมีเสียงเรียก “พลับพลึง” ดังขึ้นซ้ำๆกันหลายครั้ง วิรงรองเหลียวหาที่มาของเสียง
“ใคร...ใครเรียกฉัน”
เสียงรถม้าบดกับถนนดังแว่วเข้ามา วิรงรองเหมือนต้องมนต์สะกด เดินกลับมายังราวกั้นระเบียง ชะเง้อมองลงไปข้างล่าง เห็นท่านเจ้าคุณขับรถม้าออกมาจากความมืดท่ามกลางสายฝน แล้วแล่นหยุดใต้ระเบียง ส่งเสียงเรียก “พลับพลึง” อีกครั้งพร้อมกับแหงนหน้าขึ้นมอง วิรงรองโน้มตัวออกไปนอกราวกั้นโดยไม่รู้สึกตัว ร่างโงนเงนจะร่วงลงจากระเบียง โชคดีที่อดิศวร์มารวบตัวไว้ทัน จับเธอหันมาเผชิญหน้าทั้งโกรธทั้งเป็นห่วงปนกัน
“จะบ้าหรือ ออกมาตากฝนไม่พอ ยังคิดจะกระโดดตึกตายอีก”
ขาดคำ วิรงรองเป็นลมหมดสติในอ้อมแขนอดิศวร์ซึ่งรับไว้ทัน เขาอุ้มร่างที่เปียกฝนของเธอไปวางไว้บนเตียง แล้ววิ่งไปทุบประตูห้องเรียกอุษาให้มาช่วย เสียงเอะอะทำให้แสงแขที่นอนอยู่ห้องติดกันกับอุษาเปิดประตูออกมาดูด้วยความสงสัย แล้วแอบสะกดรอยตาม
ooooooo
ครู่ต่อมา อุษาวิ่งตามอดิศวร์มาถึงห้องพักของวิรงรอง ต้องตกใจเมื่อเห็นร่างเปียกโชกของเธอนอนอยู่บนเตียง ถามว่าเกิดอะไรขึ้น
“รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอก่อน พี่ก็จะไปเปลี่ยนเหมือนกัน” อดิศวร์ก้าวฉับๆ ออกไป อุษารีบไปหยิบเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้ หลังจากเปลี่ยนชุดใหม่ให้วิรงรองเรียบร้อย อดิศวร์กลับเข้ามาพอดี
“เป็นอย่างไรบ้าง”
“คุณวิตัวร้อนจี๋เลยค่ะ คุณลบช่วยเช็ดตัวให้หน่อยได้ไหมคะ อุษาจะไปเอายาแก้ไข้ให้ ของคุณวิหมดแล้ว” อุษาลุกออกไป โดยที่อดิศวร์มานั่งแทนที่แล้วลงมือเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ ปากก็ต่อว่าว่าอยู่ดีๆ ทำไมถึงจะโดดลงไปหรือ ว่าเสียใจที่พิชญ์กับพิณทองจะมาฉลองแต่งงานที่นี่ วิรงรองเริ่มกระสับกระส่าย เนื่องจากถูกวิญญาณของคุณพลับพลึงเข้าสิง เพ้อพูดบางอย่างออกมาเบาๆ อดิศวร์ได้ยินไม่ถนัดต้องเอียงหน้าเข้าไปฟังใกล้ๆ
“รถม้ามาอีกแล้ว ขับเร็วเหลือเกิน เห็นไหมคะ...ม้าสีน้ำตาลตัวใหญ่ เขาตรงมานี่แล้ว” วิรงรองลุกพรวดทั้งๆ ที่ยังหลับตา อดิศวร์รวบตัวมากอดไว้ขณะที่เธอพยายามดิ้นหนีจะลงจากเตียงให้ได้ เพ้อว่าจะไปอยู่กับเขาคนนั้นในที่ที่ไม่มีใครมาพรากเราจากกันได้อีก แล้วสั่งอดิศวร์ให้ปล่อยตนไป
“ฉันไม่อนุญาตให้เธอไปไหนทั้งนั้น อยู่กับฉันเถอะนะ อยู่กับฉันที่โดมทองนี่ตลอดไป วิรงรอง”
“ใครน่ะ...ฉันไม่ใช่ ฉันไม่ได้ชื่อนั้น ฉันต้องไปแล้ว” ร่างที่ถูกสิงของวิรงรองดิ้นรนสุดฤทธิ์
“ไปไม่ได้ เธอชื่อวิรงรอง จำเอาไว้ว่าเธอชื่อวิรงรอง เธอคือวิรงรองของฉัน”
หญิงสาวคออ่อนคอพับสิ้นเรี่ยวแรงในอ้อมแขนอดิศวร์ซึ่งโอบกอดเอาไว้แน่น อุษาเปิดประตูเข้ามาถึงกับชะงักเมื่อเห็นภาพตรงหน้า รออยู่อึดใจก่อนจะเรียกเขาเบาๆ พร้อมกับส่งถาดใส่ยาแก้ไข้ให้ เขาหยิบยาใส่ปากวิรงรองแล้วเอาน้ำให้จิบตามหลัง ปรนนิบัติเธออย่างทะนุถนอม อุษารู้งานค่อยๆ ถอยออกมา
ooooooo
ขณะอุษากำลังเตรียมอาหารเช้าให้คุณย่าอยู่ในครัว แสงแขเข้ามาต่อว่าว่าเรื่องอะไรถึงต้องลงทุนไปนอนเฝ้านังวิรงรอง ทำตัวทุเรศไร้ศักดิ์ศรีสิ้นดี ตัวเองเป็นใครแล้วนังนั่นเป็นใคร อุษาย้อนถาม ถ้าตนไม่เฝ้าแล้วจะให้อดิศวร์ไปเฝ้าแทนใช่ไหม ยัยตัวแสบประจำบ้านถึงกับใบ้กิน
“จะบอกให้ว่าถ้าพี่ไม่เฝ้า คุณลบจะต้องนอนเฝ้าแน่”
“งั้นคุณลบก็ทรยศแข เหมือนที่คุณปู่ทรยศคุณย่า”
อุษาปรามว่าอดิศวร์ไม่ได้เป็นอะไรกับแสงแขสักหน่อยจะพูดจาอะไรให้ระวังด้วย เธอไม่สน อีกไม่นานเธอกับเขาก็จะหมั้นกันแล้ว อุษาทักท้วง แสงแขรู้แก่ใจดีว่าอดิศวร์ไม่ได้รู้เรื่องนี้ด้วย เธอโกรธเป็นฟืนเป็นไฟหาว่าอุษาเห็นคนอื่นดีกว่าน้องสาวในไส้ ดีกว่าคุณย่าซึ่งมีพระคุณล้นหัว อุษาขี้เกียจพูดกับคนที่เอาแต่ประโยชน์ตัวเองเป็นที่ตั้ง หันไปสนใจทำอาหารต่อไปไม่ยุ่งด้วยอีก...
ขณะที่แสงแขเล่นงานพี่สาวตัวเป็นการใหญ่ อดิศวร์แวะไปดูวิรงรองซึ่งยังคงหลับสนิทอยู่บนเตียง เอามือแตะหน้าผาก ถึงกับยิ้มออกที่เธอตัวไม่ร้อนแล้ว สัมผัสอ่อนโยนนั้นทำให้หญิงสาวค่อยๆ รู้สึกตัวลืมตาขึ้นมอง พอเห็นหน้าอดิศวร์เท่านั้น ถึงกับผงะจะลุกขึ้น
“นอนต่อเถอะ ฉันเข้ามาดูว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง”
วิรงรองตาสว่างไม่ง่วงอีกแล้ว อดิศวร์จึงไล่ให้ไปล้างหน้าล้างตาจะพาไปหาหมอ เธอทำท่าไม่ยอมไป เขายืนกรานจะพาไปให้ได้แล้วออกไปรอหน้าห้อง วิรงรองจำต้องลุกไปเข้าห้องน้ำอย่างขัดอกขัดใจ...
เมื่ออยู่ต่อหน้าอดิศวร์ แสงแขแสร้งทำดีกับวิรงรองเช่นเคย เข้าไปช่วยประคองพาเธอไปส่งที่รถ เมื่อรู้ว่าเขาจะพาไปหาหมอ แต่พอลับหลังก็นำเรื่องนี้ไปฟ้องท่านผู้หญิงสรรักษ์ กล่าวหาวิรงรองว่ามารยาออกไปยืนตากฝนเล่น ยอมทำให้ตัวเองป่วยเพื่อเรียกร้องความสงสารจนอดิศวร์ต้องพาไปหาหมอ อุษาทนไม่ไหวสั่งแสงแขหยุดใส่ความได้แล้ว กลับถูกคุณย่าตวาดใส่ให้เป็นฝ่ายหุบปากเสียเอง แสงแขได้ทีเหยียบซ้ำ
“พี่อุษาไม่เคยเข้าข้างแขเลยค่ะ มิหนำซ้ำยังรู้เห็น เป็นใจให้นังวิรงรองได้อยู่ใกล้ชิดกับคุณลบบ่อยๆ”
อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 10 วันที่ 30 มิ.ย. 56
ละครเรื่อง โดมทอง บทประพันธ์โดย วราภาละครเรื่อง โดมทอง บทโทรทัศน์โดย : ภาวิต
ละครเรื่อง โดมทอง กำกับการแสดงโดย : นนทนันท์ ธัญญาสิริทรัพย์
ละครเรื่อง โดมทอง ควบคุมการผลิตโดย : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง โดมทอง แนวละคร : ชีวิต ลึกลับ ตื่นเต้น
ละครเรื่อง โดมทอง ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ