อ่านละคร ไฟหวน ตอนที่ 13 วันที่ 15 มิ.ย. 56

อ่านละคร ไฟหวน ตอนที่ 13 วันที่ 15 มิ.ย. 56

คุณหญิงมณีวางแผนกำจัดบุปผาด้วยการใช้ชื่อไอศูรย์เป็นเหยื่อล่อเธอออกจากบ้านแล้วให้สร้อยจ้างวานเพิ่มกับขจรมาดักฆ่าระหว่างทาง โดยกำชับว่าต้องจับมันแขวนคอเพื่อให้ตายอย่างทรมาน!

ขณะที่บุปผากำลังเผชิญกับความตาย...มัทนากับไอศูรย์อยู่ที่ร้านอาหาร พูดคุยกันอย่างมีความสุขด้วยเรื่องหมั้นที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายตกลงใช้ฤกษ์สะดวกคือสิ้นเดือนนี้
ซึ่งตรงกันข้ามกับเพชรที่ยังหมายปองมัทนาอยู่จึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อจะแย่งหญิงสาวมาให้ได้ และเมื่อเพชรรู้ความลับอันเลวร้ายของคุณหญิงมณีที่แอบวางยาสามีให้เป็นหมัน เลยคิดจะใช้เรื่องนี้ให้เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครั้นมาปรึกษาน้องสาว ปรากฏว่าพลอยสนับสนุนเพราะเธอเองก็ยังหวังในตัวหมอไอศูรย์


ทางด้านบุปผาที่ถูกเพิ่มกับขจรจับตัวไปแขวนคอที่กระท่อมร้าง เธอกลัวสุดขีดดิ้นทุรนทุรายจนเชือกหลุดจากคอ แล้วคว้าไม้ฟาดกระหน่ำทั้งคู่ตกน้ำก่อนจะหนีมาได้ด้วยความเจ็บแค้นคุณหญิงมณีอย่างที่สุด!

บุปผารู้ชื่อคนร้ายและคนจ้างวานเพราะได้ยินมันคุยกันก่อนหน้าที่จะจับเธอแขวนคอ แต่บุปผากลับเข้าบ้านโดยไม่กระโตกกระตากเรื่องนี้กับใคร จนกระทั่งเช้าวันใหม่คุณหญิงมณีลงมาเห็นบุปผานั่งร่วมโต๊ะอาหารกับนายพลเทพและมัทนาก็ตกตะลึง หน้าถอดสี

บุปผาจงใจใช้ผ้าพันคอสวยเก๋ปกปิดรอยช้ำที่คอจากเหตุการณ์เมื่อคืน เธอจิกตามองคุณหญิงมณีที่ยืนอึ้งไม่ต่างไปจากสร้อย

“ทำไมคุณหญิงมองบุปผาแล้วทำท่าอย่างกับเห็นผีอย่างนั้นล่ะคะ”

คำพูดประโยคนั้นของบุปผาทำเอาคุณหญิงมณีรีบระงับกิริยาอย่างรวดเร็วแล้วลงนั่งข้างมัทนา

“วันนี้ป้าทับทิมทำอาหารเช้าแบบฝรั่งนะคะคุณแม่” มัทนาพูดพร้อมกับตักอาหารใส่จานให้แม่อย่างเอาใจ แต่มือไปโดนมือแม่เข้าโดยบังเอิญ “อุ๊ย...ทำไมคุณแม่มือเย็นอย่างนี้ล่ะคะ คุณแม่จะเป็นลมหรือเปล่า”

“ไม่สบายรึเปล่าคุณ หน้าซีดอยู่นะ” นายพลเทพท่าทีเป็นห่วง

“ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ ฉันสบายดี” ตอบสามีแล้วคุณหญิงมณีก็มองหน้าบุปผาที่อมยิ้มน้อยๆ สุดจะเดาใจได้ว่าหล่อนคิดอะไร?

หลังอาหารมื้อนั้น คุณหญิงมณีก็จิกสร้อยไปคุยกันเป็นการส่วนตัวโดยไม่รู้ว่าบุปผาติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด

“นังบุปผามันยังมาเสนอหน้าอยู่ในบ้านอย่างงี้ได้ยังไงกันนังสร้อย ไหนแกว่าคนของแกมือดีนักหนายังไงล่ะ แล้วทำไมเรื่องแค่นี้ก็ทำพลาดได้ ทำไมอีนั่นมันยังไม่ตาย”

“สร้อยไม่รู้ค่ะคุณหญิง ก็เห็นมันสองคนเงียบไป สร้อยก็คิดว่ามันจัดการเรียบร้อยแล้ว สร้อยไม่นึกว่า...” สร้อยอึกอักอย่างกลัวๆ

“รอดมาได้อย่างนี้มันก็เหมือนงูที่ถูกตีจนหลังหักแต่ไม่ตาย มันต้องอาฆาตพยาบาทเราแน่ ฉันหวั่นใจจริงๆว่ามันจะทำอะไรลูกมัทของฉัน”

คุณหญิงมณีสีหน้าวิตกกังวลอย่างยิ่ง บุปผาเห็นแล้วสะใจเป็นบ้า พึมพำกับตัวเอง

“แกคอยดูก็แล้วกันว่าฉันจะทำอะไรลูกสาวคนเดียวของแก ที่แกรักเหมือนดวงใจ ฉันจะทำให้ดวงใจดวงนี้ของแกแตกยับเยินไม่มีชิ้นดีเลย อีคุณหญิงมณี”

แล้วแผนการแก้แค้นเอาคืนก็เริ่มขึ้น...บุปผาแกล้งมาดักรอมัทนาแล้ววิ่งหนีเข้าห้องตัวเองเพื่อให้เธอสงสัยและตามเข้ามา จากนั้นบุปผาก็ทำทีเก็บเสื้อผ้าข้าวของลงกระเป๋า

“นั่นบุปผาจะไปไหนเหรอจ๊ะ”

“บุปผาตัดสินใจแล้วค่ะ ว่าบุปผาจะไปจากบ้านนี้ บุปผาจะกลับบ้านนอก บุปผาอยู่บ้านนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้วค่ะพี่มัท”

“กลับทำไม เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอบุปผา”

บุปผาไม่ตอบแต่เอาผ้าพันคอออก เผยให้เห็นรอยเขียวช้ำอย่างชัดเจน

“บุปผาไปโดนอะไรมาเนี่ย” มัทนาตกใจมาก

“บุปผาถูกคนทำร้ายมาค่ะ”

“ใครทำร้ายบุปผา แล้วทำไมบุปผาไม่บอกใคร นี่ถ้าคุณพ่อรู้ต้องเอาเรื่องแน่ๆ”

“บุปผาไม่กล้าบอกใครหรอกค่ะพี่มัท โดยเฉพาะคุณพ่อ เพราะคนที่ทำร้ายบุปผามันขู่ว่าถ้าบุปผาบอกใคร มันจะฆ่าบุปผา”

“ฆ่า! ใครกันจะอยากฆ่าบุปผา”

บุปผาแสร้งก้มหน้าน้ำตาริน มัทนาเขยิบเข้ามาใกล้ ตะล่อมให้น้องสาวต่างมารดาพูดชื่อฆาตกรออกมา แต่พอได้ยินชัดๆ ก็ตะลึงงันไปทันที

“คุณแม่น่ะเหรอส่งคนไปฆ่าบุปผา เป็นไปไม่ได้”

“แต่มันก็เป็นไปแล้ว บุปผาคงไม่ได้ทำร้ายตัวเองจนมีรอยช้ำที่คออย่างนี้หรอกค่ะ”

“แล้วคุณแม่จะฆ่าบุปผาทำไม”

“พี่มัทไม่น่าถาม คุณหญิงท่านมองหน้าบุปผาเมื่อไหร่ท่านก็ต้องช้ำใจเมื่อนั้นว่าครั้งหนึ่งคุณพ่อเคยนอกใจท่าน ถ้าพี่มัทไม่เชื่อที่บุปผาพูด พี่มัทก็ลองไปถามท่านถึงคนที่ชื่อเพิ่มกับขจรสิคะ”

บุปผาทิ้งไม้ตาย มั่นใจว่ามัทนาต้องไปเอาคำตอบจากคุณหญิงมณีแน่...แล้วก็จริงอย่างที่คิด มัทนามาถามแม่ว่ารู้จักเพิ่มกับขจรหรือเปล่า คุณหญิงมณีอึ้งไปนิดก่อนตอบลูกสาวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

“แม่ไม่รู้จักจ้ะลูกมัท เขาเป็นใคร แล้วลูกมัทไปเอาชื่อสองคนนี้มาจากไหนเหรอจ๊ะ”

“มีคนบอกว่าคุณแม่รู้จักกับสองคนนี้ แต่ถ้าคุณแม่บอกว่าไม่รู้จักก็ช่างมันเถอะค่ะ คงจะเข้าใจผิดกันน่ะค่ะ งั้นมัทขอตัวก่อนนะคะ”

คุณหญิงมณีพยักหน้า พอมัทนาคล้อยหลังก็แจ้นไปหาสร้อย โดยไม่รู้ว่ามัทนาที่ยังคลางแคลงใจแอบตามมาซุ่มฟังอยู่เงียบๆ

“นังสร้อย เมื่อกี้ยายมัทมาถามฉันเรื่องคนชื่อเพิ่มกับขจร ยายมัทจะไปรู้จักกับสองคนนั้นได้ยังไง ถ้าไม่ใช่นังบุปผามันบอก”

“แล้วนังบุปผามันจะรู้ชื่อไอ้สองคนนั้นได้ยังไงล่ะคะคุณหญิง แล้วยิ่งมันหายหัวไปทั้งสองคนอย่างนี้ด้วย จะเกิดอะไรขึ้นกับมันรึเปล่าก็ไม่รู้นะคะ”

“ฉันไม่สนใจหรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับมันสองคน ฉันสนใจแต่ว่านังบุปผามันรู้อะไรแค่ไหนจากไอ้สองคนนั่น และมันเอาเรื่องไอ้สองคนนั่นมาบอกยายมัททำไม”

มัทนาได้ยินทุกคำชัดเจน ไม่คิดไม่ฝันว่าสิ่งที่บุปผาพูดจะเป็นจริง เธอค่อยๆถอยออกจากตรงนั้นอย่างหมดเรี่ยวแรง

“คุณแม่รู้จักนายเพิ่มกับนายขจรจริงๆด้วย แล้วคุณแม่จะโกหกเราว่าไม่รู้จักทำไม ทำไมคุณแม่ทำอย่างนี้”

มัทนาเสียใจถึงกับร้องไห้ออกมา พลันเหลือบเห็นบุปผาก็ลุกพรวดไปคว้ามือเธอไว้

“บุปผา...พี่ไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณแม่จะกล้าทำเรื่องเลวร้ายอย่างนั้น มันไม่เหมือนคุณแม่ที่พี่เคยรู้จักมาตลอดชีวิตเลย”

“แต่รอยที่คอนี่คงจะยืนยันได้มั้งคะพี่มัท ว่าท่านทำเรื่องเลวร้ายอย่างนั้นจริงๆ นี่ถ้าบุปผาไม่เกลี้ยกล่อมไอ้สองคนนั้นจนมันใจอ่อนยอมปล่อยบุปผามา ป่านนี้บุปผาก็คงตายไปแล้วล่ะค่ะ”

“พี่ขอร้องนะบุปผา อย่าเอาเรื่องคุณแม่เลยนะ ถ้ามีคนอื่นรู้เรื่องนี้มันต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ บุปผาบอกมาสิว่าจะให้พี่ทำอะไรเพื่อชดใช้ความผิดให้คุณแม่ได้บ้าง”

“ยกเลิกการหมั้นกับคุณหมอไอศูรย์ซะ”

“อะไรนะ!”

“ถ้าพี่มัทไม่ยอมยกเลิกการหมั้นกับคุณหมอไอศูรย์ บุปผาจะเอาเรื่องนี้ไปบอกคุณพ่อ แล้วเรามาคอยดูกันสิว่าถ้าคุณพ่อรู้เรื่องนี้แล้วอะไรจะเกิดขึ้น”

พูดจบบุปผาก็เดินจากไปอย่างลำพอง ปล่อยให้มัทนายังนั่งอึ้งตะลึงงันอยู่ที่เดิม แต่สักครู่ก็ต้องลุกออกมารับโทรศัพท์เมื่อสวิงมาบอกว่าคุณเพชรโทร.มา
เพชรโทร.มานัดพบมัทนานอกบ้านแล้วเปิดฉากด้วย การเอ่ยถึงนายเถาก่อนโยงเข้าเรื่องยาที่กินแล้วเป็นหมัน

“พี่ขอพูดตรงๆเลยนะ คุณแม่น้องมัทให้ป้าสร้อยไปซื้อยาจากนายเถาเอามาให้คุณพ่อน้องมัทกิน”

“ก็อาจจะใช่ค่ะ มัทเห็นคุณแม่ให้คุณพ่อกินยาสมุนไพรทุกคืน คุณแม่บอกว่ามันเป็นยาบำรุงค่ะ”

“มันไม่ใช่ยาบำรุง แต่เป็นยาที่กินแล้วจะทำให้เป็นหมัน เพราะคุณแม่น้องมัทไม่อยากให้ท่านนายพลไปมีลูกกับใครได้อีก นายเถาสารภาพเรื่องนี้กับพี่เองก่อนสิ้นใจ แล้วพี่ก็ยังพบกระดาษจดเบอร์โทรศัพท์ของบ้านเทพบริบาลในย่ามของนายเถาด้วย ซึ่งทำให้ยืนยันได้ว่านายเถามีการติดต่อกับคนที่บ้านเทพบริบาลจริงๆ”

มัทนาฟังแล้วขาแข้งอ่อนแทบยืนไม่อยู่ พึมพำว่าตนไม่อยากเชื่อ...เพชรได้ทีเดินเกมตามแผนที่ตนวางไว้

“พี่ก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่าคุณแม่น้องมัทจะทำเรื่องแบบนี้ นี่พี่ก็คงต้องไปเรียนถามเอาความจริงเรื่องนี้กับคุณพ่อคุณแม่ของน้องมัทด้วย”

“อย่านะคะ ถ้าคุณพ่อรู้เรื่องนี้เข้ามีหวังได้มีเรื่องกับคุณแม่แน่ๆเลยค่ะ”

“ใช่...และเรื่องแบบนี้รู้ถึงไหนก็อายเขาถึงนั่น”

“แล้วคุณแม่ก็ต้องอับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”

“แต่พี่อาจจะทำไม่รู้ไม่เห็นเรื่องนี้ก็ได้ ถ้าน้องมัทจะเลิกคบกับพี่ต้น แล้วยอมหมั้นกับพี่แทน”

“อะไรนะคะ” มัทนาตะลึงแทบไม่เชื่อหูตัวเอง

“หรือว่าน้องมัทอยากให้เรื่องของคุณแม่กลายเป็นที่โจษจันของผู้คนในสังคมล่ะครับ”

มัทนาพูดอะไรไม่ออก นึกถึงข้อต่อรองของบุปผาก่อนหน้านี้ที่บอกให้เธอยกเลิกหมั้นกับไอศูรย์แล้วยิ่งเสียใจต่อการกระทำของคุณหญิงมณี...เธอกลับมาร้องไห้คร่ำครวญแทบขาดใจ

“ทำไม...ทำไมคุณแม่ทำแบบนี้”

บุปผาแอบสังเกตการณ์อยู่ไม่ไกล สีหน้าเต็มไปด้วยความสะใจ แม้ไม่รู้ว่ามัทนาถูกเพชรขู่มาเหมือนกัน แต่ก็มั่นใจว่าคนอย่างมัทนาไม่มีทางปล่อยให้เกิดเรื่องน่าอับอายกับคุณหญิงมณีและครอบครัวของเธออย่างแน่นอน...

อ่านละคร ไฟหวน ตอนที่ 13 วันที่ 15 มิ.ย. 56

ละครเรื่อง ไฟหวน บทประพันธ์โดย ฐา-นวดี สถิตยุทธการ
ละครเรื่อง ไฟหวน บทโทรทัศน์โดย ฐา-นวดี สถิตยุทธการ
ละครเรื่อง ไฟหวน กำกับการแสดงโดย มารุต สาโรวาท
ละครเรื่อง ไฟหวน ผลิตโดย บริษัท มาสเคอเรด จำกัด โดย มารุต สาโรวาท
ละครเรื่อง ไฟหวน เป็นละครแนว ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง ไฟหวน ออกอากาศทุกวันศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ