อ่านละคร นักสู้มหากาฬ ตอนที่ 1 วันที่ 18 มิ.ย. 56

อ่านละคร นักสู้มหากาฬ ตอนที่ 1 วันที่ 18 มิ.ย. 56

ฤทธิ์ ราวี...นายทหารผู้ชำนาญการต่อสู้ทุกรูปแบบได้วางมือจากการเข่นฆ่าและมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับใจทิพย์แฟนสาว ซึ่งทั้งคู่มีโครงการจะแต่งงานหลังจากคบหาดูใจกันไม่นาน...

ฤทธิ์ยุติบทบาททหารแล้วมาเปิดโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ซึ่งเป็นสิ่งที่ตัวเองถนัด ต่อมาฤทธิ์ได้รับการติดต่อจากกรณ์เพื่อนทหารที่ต้องการให้เขาร่วมปฏิบัติภารกิจลับในการบุกทลายโรงงานของขบวนการค้ายาเสพติดที่ตั้งอยู่นอกเขตชายแดนไทย ฤทธิ์ยอมรับงานนี้เพราะอยากรับใช้ชาติ และคิดว่าจะนำเงินค่าจ้างส่วนหนึ่งมาพัฒนาโรงเรียนสอนศิลปะของตน


แต่ภารกิจลับของกรณ์กลับมีเงื่อนงำซ่อนอยู่ เมื่อฤทธิ์พบว่าโรงงานที่เขากับพวกกรณ์บุกจู่โจมนั้นแท้จริงกลับเป็นห้องทดลองวิทยาศาสตร์ที่ค้นคว้าเกี่ยวกับอาวุธชีวภาพ หนำซ้ำผู้ว่าจ้างของกรณ์ก็ไม่ได้เป็นหน่วยงานของรัฐบาลไทยอย่างที่อ้างไว้ หากแต่เป็นผู้นำองค์กรโฉดที่มีสมญาว่า “พรายพิฆาต” ซึ่งมีเป้าหมายจะปล้น “น้ำตามัจจุราช” มหาอาวุธชีวภาพไปจากห้องทดลอง

ฤทธิ์พยายามขัดขวางกรณ์กับพวกนักรบรับจ้างจนถูกรุมทำร้ายบาดเจ็บสาหัส และถูกกรณ์ใช้ดาบปลายปืนสองเล่มปักตรึงร่างไว้เพื่อให้ตายอย่างทรมาน แต่ขณะที่กรณ์มัวแต่หลงลำพองที่สามารถโค่นเพื่อนรักได้สำเร็จนั้น ฤทธิ์ที่อยู่ในสภาพปางตายก็ตัดสินใจกดสวิตช์ระเบิดที่ซ่อนอยู่เพื่อทำลายคลังเก็บสารเคมีทั้งหมดก่อนที่เขาจะสิ้นลม พวกของกรณ์จึงต้องหนีตายและได้น้ำตามัจจุราชไปแค่นิดเดียว

ไม่มีใครคาดคิดว่าน้ำตามัจจุราชที่ระเหยจากในคลังจะซึมเข้าสู่ร่างกายของฤทธิ์ผ่านทางบาดแผล มันทำให้ฤทธิ์คืนชีพขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับพลังอำนาจในการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วรุนแรงยิ่งกว่ามนุษย์ทั่วไป แต่ขณะนั้นฤทธิ์ไม่มีเวลาสนใจถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น เขารีบเดินทางกลับเพราะเป็นห่วงคนรัก แต่ทุกอย่างก็สายเกินไป เมื่อกรณ์ได้จ้างพวกมาเฟียคู่ปรับเก่าของฤทธิ์ให้ปล้นฆ่าใจทิพย์แฟนสาวของเขาเพื่ออำพรางคดี

ในยามคับขัน...มาดามหลิว มหาเศรษฐีพันล้านผู้ร่ำรวยจากการเป็นหุ้นส่วนในบริษัทขุดเจาะน้ำมันได้ส่งคนมาช่วยฤทธิ์เอาไว้ เนื่องจากเธอเองก็มีความแค้นต่อองค์กรพรายพิฆาตที่สังหารหมู่ครอบครัวของเธอ และทำให้เธอกลายเป็นคนพิการต้องนั่งรถเข็นตลอดชีวิตเพียงเพราะไม่ยอมร่วมมือกับพวกมัน



ฤทธิ์กลับมาช่วยใจทิพย์ไม่ทันแถมตัวเองยังถูกตามล่าและได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดจนตกทะเลหายไป ผู้ล่าคิดว่าเขาตายแน่จึงไม่ใส่ใจ แต่หารู้ไม่ว่าคนของมาดามหลิวใช้เรือเร็วมาช่วยชีวิตเขาไว้แล้วพากลับไปรักษาตัวที่บริษัทมาดามหลิว

ชาญกับโซเฟียลูกน้องของมาดามหลิวพากันแปลกใจที่บาดแผลตามร่างกายฤทธิ์หายอย่างรวดเร็ว

“แค่สามชั่วโมงบาดแผลตามร่างกายของเขาก็หายจนเกือบหมด เหลือแค่อาการบอบช้ำอย่างเดียวเท่านั้น”

“เขาทำได้ยังไง”

“เปล่าหรอกชาญ เขาไม่ได้ทำ น้ำตามัจจุราชต่างหากที่ช่วยเขาเอาไว้”

ฟังคำพูดประโยคนั้นของมาดามหลิวแล้ว ทั้งชาญและโซเฟียต่างก็อึ้งไปอย่างเหลือเชื่อ!

ooooooo

หลายวันต่อมา ฤทธิ์ฟื้นขึ้นมาพบตัวเองอยู่ในห้องพักหรูหราแต่ไม่รู้ว่าเป็นที่ไหน และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าภายในห้องติดกล้องวงจรปิดเอาไว้ ที่สำคัญเขากำลังถูกจับตามองจากมาดามหลิว ชาญ และโซเฟียที่อยู่อีกห้อง

ฤทธิ์นึกถึงใจทิพย์จึงรีบแต่งตัวออกจากห้องเดินดุ่มผ่านยามในบริษัทเพื่อจะออกจากสถานที่แห่งนี้ให้ได้ แต่ไม่ง่ายอย่างที่คิด ยามหลายคนกรูมาสกัดพร้อมกันนั้นชาญกับโซเฟียก็พามาดามหลิวออกมาเผชิญหน้า ก่อนที่ฤทธิ์จะยอมกลับเข้าไปคุยกับพวกเขาในห้องสมุดของบริษัท

โซเฟียรินน้ำดื่มให้ฤทธิ์ที่นั่งสนทนากับมาดามหลิว เธอมองเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเท่าไหร่นัก แต่ในเวลานั้นฤทธิ์ไม่มีอารมณ์จะสนใจ

โซเฟียเป็นผู้หญิงห้าวและชอบบู๊ เมื่อสักครู่เธอประมือกับฤทธิ์ไปสองสามยกก่อนที่มาดามหลิวจะห้ามปรามและชี้แจงกับฤทธิ์ว่า

“โซเฟียเกิดมาจากการโคลนนิ่งในห้องทดลอง ดีเอ็นเอของเธอถูกออกแบบให้มีแต่คำว่าเข้มแข็ง คุณอย่าถือเลยนะ”

“ผมอยากรู้เรื่องวันนั้น ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น”

“ทีมกู้ภัยของเราช่วยคุณขึ้นมาได้ แต่กระแสน้ำพัดแรงมากพวกเขาไม่เจอศพของใจทิพย์”

คำว่า “ศพ” ทำให้ฤทธิ์ชะงัก ชาญซึ่งนั่งอยู่ห่างๆ กำลังค้นหาข้อมูลบางอย่างจากแท็บเล็ต ที่สุดก็เจอสิ่งที่ต้องการและเอามาส่งให้ฤทธิ์ดู

“บางทีข่าวนี้อาจจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น”

ฤทธิ์เห็นข่าวแก๊งเฮียปาร์กมาเฟียคู่ปรับเก่าถูกสังหารหมู่ก็อึ้งไปเหมือนกัน

“พวกมาเฟียที่ทำร้ายคุณโดนฆ่าตัดตอนยกแก๊ง”

“แต่คนที่บงการยังลอยนวลอยู่ พวกเพื่อนคุณกับพรายพิฆาต”

ได้ยินชื่อพรายพิฆาต ฤทธิ์บันดาลโทสะผุดลุกจะออกไปจากห้อง พร้อมเปล่งเสียงอย่างสุดแค้น

“ผมจะฆ่าพวกมัน!”

“ผู้หมวด...ฉันเข้าใจความรู้สึกของคุณ แต่คุณต้องวางแผน”


“ไม่! คุณไม่เข้าใจ คุณไม่มีทางรู้สึกแบบผม ในเมื่อคุณไม่เคยสูญเสีย”

โซเฟียกับชาญอึ้งไปเพราะคำพูดนั้นจี้ใจดำมาดามหลิวอย่างแรง...เธอเค้นเสียงออกมาอย่างสะเทือนใจ

“ขาฉัน ญาติพี่น้อง สามีและลูกสาวของฉัน แค่นั้นยังสูญเสียไม่พออีกเหรอ ผู้หมวด...พวกเราในที่นี้ทุกคนมีศัตรูร่วมกัน”

ฤทธิ์ชะงัก ชาญเสริมคำพูดมาดามหลิวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า

“ถ้าจะล้างแค้นเราต้องเล่นเป็นทีมนะผู้หมวด เล่นแบบเดียวกับพวกมัน!”

ooooooo

ไอริณและณัฐชาเป็นเพื่อนกับใจทิพย์ตั้งแต่เด็ก เมื่อทั้งคู่ทราบข่าวของเพื่อนรักก็ใจเสีย รุดไปดูยังตึกทำงานของเธอก็ทราบข้อมูลคร่าวๆจากเพื่อนร่วมงานว่า

“มีคนบอกว่าเห็นใจทิพย์ถูกอุ้มตัวไปพร้อมกับเพื่อนชายจนป่านนี้ยังไม่ได้ข่าวเลยค่ะ”

“พวกเราเคยเตือนแล้วเตือนอีกว่าอย่าไปคบกับหมอนี่ แต่ใจทิพย์ก็ไม่ยอมเชื่อ”

ฟังข้อมูลนั้นแล้วสองสาวยิ่งร้อนใจ แม้ไม่แน่ใจว่าใจทิพย์เป็นตายร้ายดียังไง แต่ก็เชื่อกันว่าแฟนหนุ่มของใจทิพย์น่าจะไม่ใช่คนดี

“ณัฐชา...เธอเป็นตำรวจ เธอเดารูปคดีออกใช่ไหม เธอว่าใจทิพย์ยังจะปลอดภัยรึเปล่า”

“ถ้าไม่มีโทรศัพท์เรียกค่าไถ่ก็แปลว่า...”

ณัฐชานิ่งไปอย่างไม่อยากคาดเดาต่อ ไอริณหน้าเสียทำท่าจะร้องไห้เสียให้ได้ แต่ยังพยายามปลอบตัวเองว่าใจทิพย์เป็นคนดี เธอต้องไม่ตาย...

ไอริณเป็นลูกสาวของนายนำชัยนักการเมืองใหญ่พรรคหนึ่ง นักข่าวกำลังให้ความสนใจเขาเป็นพิเศษเกี่ยวกับข่าวโรงงานผลิตอาวุธเคมีถูกทลายเมื่อหลายวันก่อน ซึ่งองค์กรพรายพิฆาตน่าจะมีเอี่ยวกับเรื่องนี้ แต่นำชัยตอบข้อซักถามของนักข่าวว่า

“เรื่องเหลวไหลทั้งเพ องค์กรลึกลับปัญญาอ่อนแบบนั้นไม่มีอยู่จริงหรอกครับ ผมยืนยันได้”

นักข่าวท่าทีไม่เชื่อแล้วก็ยังไม่หยุดซักถามจนนำชัยเริ่มหงุดหงิด สุชาติจึงตัดบทช่วยเจ้านายอย่างรู้ใจ

“ถ้ายังไงคงต้องยุติการสัมภาษณ์แค่นี้ก่อนนะครับ พอดีท่านนำชัยติดประชุม ถ้ามีความคืบหน้ายังไงแล้วเราจะแถลงข่าวภายหลัง”

เมื่อหลบหลีกขึ้นรถได้แล้ว นำชัยสบถกับสุชาติอย่างหัวเสีย

“ไอ้พวกบ้า ผมอยากรู้จริงว่าใครเป็นคนให้ข่าว วุ่นวายไม่เข้าเรื่อง”

“แหล่งข่าวคงมาจากประเทศเพื่อนบ้านของเราครับท่าน บางทีโรงงานอาวุธเคมีนั่นกับเรื่องพรายพิฆาตอาจจะเกี่ยวพันกันจริงๆก็ได้”

“นายพอจะรู้รึเปล่าว่าใครรับผิดชอบคดีพรายพิฆาต”

“รู้สึกจะเป็นผู้กองราเมศ เจ้านายของหมวดณัฐชาครับท่าน”

อ่านละคร นักสู้มหากาฬ ตอนที่ 1 วันที่ 18 มิ.ย. 56

บทประพันธ์โดย : ณพุทธ สุศรีฯ
บทโทรทัศน์โดย : ณพุทธ สุศรีฯ
กำกับการแสดงโดย : ธีระศักดิ์ พรหมเงิน
ผลิตโดย : บริษัท มุมใหม่ จำกัด
วันเวลาออกอากาศ : ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ