อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 9 วันที่ 27 มิ.ย. 56

อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 9 วันที่ 27 มิ.ย. 56

“วิรงรอง...คุณแสงแขจริงใจหรือไม่คุณไม่รู้ แต่สำหรับคุณอดิศวร์ คุณเชื่อว่าเขาจริงใจและในเมื่อเขาดีกับเราๆก็ควรจะดีกับเขาเป็นการตอบแทน” ปรางปราม...

ดึกสงัดคืนเดียวกัน ท่านผู้หญิงสรรักษ์ฝันร้ายว่าไปที่โรงเก็บรถม้าแล้วเจอผีท่านเจ้าคุณในสภาพใบหน้าเหลือเพียงหัวกะโหลกเดินเข้ามาหาอย่างปองร้าย
ท่านผู้หญิงกรีดร้องลั่นด้วยความหวาดกลัว อุไรซึ่งนอนเฝ้าอยู่ทะลึ่งพรวดลุกขึ้นเปิดโคมไฟบนโต๊ะหัวเตียง ถามว่าเป็นอะไรไป ท่านละล่ำละลักว่าท่านเจ้าคุณมา อุไรถึงกับตาเหลือกเหลียวมองเลิ่กลั่ก แต่แล้วสีหน้าหวาดกลัวของท่านผู้หญิงเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียม

“นังพิศมาแล้ว...นังอุไรแกออกไปได้แล้ว นังพิศมัน มาอยู่เป็นเพื่อนฉันแล้ว”


อุไรขวัญกระเจิงโดดผลุงเดียวถึงประตูห้อง แล้วรีบร้อนเปิดออกไป ต้องตกใจจนหมดสติลงไปกองกับพื้น เมื่อเจอผีพิศยืนอยู่ตรงหน้า พิศค่อยๆลอยผ่านอุไรมาหาท่านผู้หญิงซึ่งมองมาอย่างไม่สบอารมณ์

“พิศ...ทำไมแกไม่ช่วยฉัน แกปล่อยให้ไอ้คนทรยศสองคนนั่นมันตามมาหลอกหลอนฉัน”

พิศเองก็จนปัญญาจะช่วยเหลืออะไรได้ ท่านผู้หญิงโกรธจัดลุกขึ้นชี้หน้าในเมื่อทำอะไรไม่ได้ก็ไปให้พ้น

ooooooo

ขณะอุษากำลังเตรียมอาหารเช้าให้ท่านผู้หญิงสรรักษ์อยู่ในครัว เห็นอุไรเดินเข้ามาในสภาพอิดโรยหน้าซีดเซียว ร้องทักว่าไม่สบายหรือเปล่า เธอไม่ได้เป็นอะไรนอกจากเมื่อคืนถูกผีผู้หญิงสวมชุดแบบโบราณหลอก

“เอาอีกคนหนึ่งแล้ว” อุษาส่ายหน้า ระอาใจ

“โธ่ อุไรไม่ได้ตาฝาด ไม่ได้ฝันด้วยนะคะ เห็นเต็มสองตาเลย เธอมาหาท่านผู้หญิง”

อุษายังไม่ทันจะว่าอะไร แสงแขเดินนวยนาดเข้ามาเสียก่อน แดกดันว่าเช้านี้พี่สาวแสนดีของตนเตรียมทำอะไรเลี้ยงแขก เธอไม่ได้ทำอะไรเลี้ยงเพราะแม่ของวิรงรองกลับไปแล้ว อดิศวร์กับวิรงรองไปส่งที่สนามบิน เห็นว่าจะพากันไปกินมื้อเช้าก่อนขึ้นเครื่อง แสงแขไม่พอใจตบโต๊ะเปรี้ยง

“จะพูดให้มันเป็นอะไรขึ้นมาฮึ...พี่อุษา”

อุไรเห็นท่าไม่ดีขอตัวไปดูท่านผู้หญิงสรรักษ์ก่อน แสงแขห้ามไว้ตนจะไปดูให้เอง อยู่ตรงนี้เหม็นขี้หน้าคนแล้วเดินกระแทกเท้าออกไป อุไรอยากรู้เรื่องผีที่เห็นเมื่อคืน ขอร้องอุษาช่วยถามท่านผู้หญิงสรรักษ์ให้ที

“ฉันไปดูคุณย่าตั้งแต่เช้าแล้ว ไม่เห็นท่านพูดอะไร” อุษาว่าแล้วหันไปเตรียมอาหารต่อไป อุไรถึงกับเซ็ง...

ท่านผู้หญิงสรรักษ์หงุดหงิดขึ้นมาทันทีเมื่อแสงแขเสนอหน้าเข้ามารายงานว่าแม่ของวิรงรองกลับไปแล้ว

“ก็ช่างแม่มันสิ ยังไงมันก็ต้องกลับอยู่แล้ว ไอ้คนที่ฉันอยากให้กลับน่ะมันนังพลับพลึง นังหน้าโง่” ท่านผู้หญิงสรรักษ์ด่าอย่างไม่ไว้หน้า แสงแขทั้งโกรธทั้งอายที่ถูกด่าต่อหน้าโอบ ได้แต่นั่งก้มหน้าข่มความแค้นไว้ ท่านถามอีกว่าเสื้อผ้าที่สั่งให้ไปตัดสำหรับใส่ในงานเลี้ยงไปถึงไหนแล้ว

“ยังไม่ได้ไปตัดเลยค่ะ แขยังไม่ทราบว่าจะมีงานวันไหน ก็เลย...”

ท่านผู้หญิงสรรักษ์ไม่รอให้พูดจบ สั่งให้ไปตามหลานชายมาพบ แสงแขรายงานว่าอดิศวร์ไม่อยู่ พาสองแม่ลูกไปกินข้าวเช้าแล้วก็เลยไปส่งที่สนามบิน

“เชอะ...ถ่อมาเองแล้วทำไมไม่กลับเอง ตาลบก็ตาลบเถอะ เจ้ากี้เจ้าการดีนัก ไป ออกไปให้หมด ตาลบกลับมาเมื่อไหร่ให้มาหาฉัน” ท่านผู้หญิงสรรักษ์พาลใส่แสงแขกับโอบจนเปิดเปิงออกจากห้องแทบไม่ทัน

ooooooo

ระหว่างทางกลับโดมทอง อดิศวร์สบโอกาสที่ได้อยู่ลำพังกับวิรงรอง สอบถามอีกครั้งว่าคืนนั้นเธอไปทำอะไรที่ชายหาดกันแน่ วิรงรองประชดว่ากราบเรียนเขาไปหมดแล้วทำไมจะยังมาเซ้าซี้ถามอยู่ได้ อดิศวร์ไม่พอใจเบนรถจอดข้างทางทันที วิรงรองจะเปิดประตูรถออกไป เขากดปิดเซ็นทรัลล็อกแล้วคว้าแขนเธอไว้

“ฉันคิดว่ายังไงรู้ไหม ฉันคิดว่าเธอสร้างเรื่องทั้งหมดนี้ขึ้นมาเพื่อเรียกร้องความสนใจจากฉัน”

“อย่าว่าแต่จะเรียกร้องความสนใจเลย คุณเป็นคนสุดท้ายในโลกที่ฉันจะนึกถึงด้วยซ้ำ...นี่พูดอย่างรักษาน้ำใจนะ เพราะความจริงแล้ว ฉันอยากจะบอกว่าคุณไม่เคยเข้ามาอยู่ในหัวฉันด้วยซ้ำ”

อดิศวร์กระชากวิรงรองมาจูบฐานปากดี เธอผลักเขาออกแล้วตบซ้ำ ลงจากรถวิ่งหนีไปทั้งน้ำตา เขาวิ่งตามจนทันคว้าแขนเธอไว้ ขอโทษกับสิ่งที่ทำเมื่อครู่ จะขอรับผิดชอบทุกอย่าง วิรงรองตวาดลั่น ไม่ง่ายไปหรือ

“แล้วทำไมไม่แต่งงานกับฉันเสียล่ะ”

วิรงรองยังไม่สิ้นคิดขนาดนั้น แล้วพยายามสะบัดมือเขาออก อดิศวร์ยื้อไว้ไม่ยอมปล่อย รถผ่านไปผ่านมาเริ่มชะลอดูอย่างสนใจ เขาเตือนเธอว่าถ้าไม่อยากอับอายไปมากกว่านี้ก็ให้รีบกลับขึ้นรถ วิรงรองมองตามสายตาอดิศวร์เห็นรถที่ชะลอดูบางคันมีโห่ฮาเป่าปากล้อเลียน เธอทั้งอายทั้งโกรธจ้ำอ้าวกลับขึ้นรถ...

อดิศวร์รีบมาพบคุณย่าทันทีที่มาถึงโดมทอง ถามว่ามีธุระอะไรกับเขาหรือ ท่านผู้หญิงสรรักษ์อยากรู้ว่าทำไมถึงไม่กำหนดวันจัดงานเสียที เขาอ้างว่าพิณทองกับครอบครัวเพิ่งกลับไปเมื่อไม่นานนี้เอง

“กลับไปแล้วก็มาใหม่ได้ ไปจัดการตามที่ย่าสั่งเดี๋ยวนี้”

“ถ้าเขาไม่ว่างมาล่ะครับ”

“ในเมื่อฉันสั่งให้มา ทุกคนต้องมา” ท่านผู้หญิงสรรักษ์เสียงเข้ม อดิศวร์ลอบถอนใจ หนักใจ...

ขณะที่อดิศวร์ถูกท่านผู้หญิงสรรักษ์เร่งรัดเรื่องจัดงานเลี้ยง แสงแขมาดักตบวิรงรองที่หน้าห้องพัก โทษฐานเตือนแล้วไม่จำว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกับอดิศวร์ของตน วิรงรองไม่ยอมเจ็บฟรี ตบกลับ ยัยตัวแสบประจำบ้านถึงกับเซถลาพอตั้งหลักได้ เงื้อมือปรี่เข้าหาอีกครั้ง วิรงรองตั้งท่าเตรียมรับมือ เตือนว่าถ้าขืนทำร้ายกันอีก เธอจะตอบโต้เป็นเท่าทวีคูณ แล้วขยับจะเข้าห้อง แสงแขไม่กล้าแหยมได้แต่ตะโกนไล่หลัง

“ฉันขอเตือนเป็นครั้งสุดท้ายว่าอย่ามายุ่งกับคุณลบ ไม่อย่างนั้น...”

วิรงรองสวนทันทีไม่รอให้พูดจบว่าแสงแขจะหลอกเธอไปฆ่าเหมือนเมื่อคืนก่อนอีกใช่ไหม ยัยตัวแสบถึงกับอึ้ง พอตั้งสติได้ทำไก๋ไม่รู้เรื่อง คุยโม้ว่าจะทำอย่างนั้นทำไมในเมื่อที่สุดแล้ว อดิศวร์ก็ต้องแต่งงานกับเธอ

“ก็เพราะคุณไม่แน่ใจว่าจะเป็นอย่างนั้นน่ะสิ” วิรงรองพูดจบเดินเข้าห้อง แสงแขมองตามแค้นใจ

“รอให้ฉันประกาศหมั้นกับคุณลบเร็วๆ นี้ก่อนเถอะ ฉันจะเฉดหัวแกออกไปทันที”

ooooooo

อดิศวร์บินด่วนไปหาคุณหญิงแก้วในเช้าวันถัดมา เพื่อแจ้งข่าวการจัดงานเลี้ยงฉลองให้พิณทองกับพิชญ์ด้วยตัวเอง คุณหญิงแก้วขอปรึกษาสามีกับลูกสาวและลูกเขยก่อนว่าจะไปได้วันไหน อดิศวร์ไม่เร่งรัดเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ขอให้ไปก็แล้วกัน และอย่าลืมเชิญแขกทางกรุงเทพฯ ไปร่วมงานด้วย

“จ้ะ...พี่ฝากขอบคุณคุณย่าด้วย จะโทร.ไปเองท่านก็คงไม่รับ...เอ่อ แล้วนี่คุณลบจะกลับโดมทองเมื่อไหร่”

“คงจะเป็นพรุ่งนี้ค่ำๆ”

“งั้นเย็นนี้มากินข้าวกัน พี่จะชวนพิชญ์กับพิณทองแล้วก็คุณพี่วัชรีมาด้วย”

ชายหนุ่มรับคำเชิญ แล้วขอตัวกลับก่อน มีนัดประชุมตอน 10 โมงที่ออฟฟิศ...

ฝ่ายพิชญ์ปฏิเสธทันทีว่าไม่อยากกลับไปโดมทองอีกเมื่อพิณทองโทร.มาแจ้งเรื่องงานเลี้ยง เธอน้อยใจที่เขาหงุดหงิดใส่ ตอกกลับว่าเธอเองก็ไม่ได้อยากไป เขาต่างหากน่าจะอยากไปมากกว่าเธอด้วยซ้ำ

“งั้นบอกญาติคุณไปเลยว่าผมไม่ไป แค่นี้ใช่ไหม”

“ค่ะ” พิณทองกระแทกเสียงแล้ววางสายอย่างอารมณ์เสียไม่แพ้กัน จากนั้นเธอโทร.หาอดิศวร์มีเรื่องจะขอปรึกษาด้วย เขานัดเธอมาเจอกันที่ร้านอาหารหรูกลางกรุงแห่งหนึ่งจะได้กินมื้อเที่ยงกันไปคุยกันไป...

หลังจากนั่งกันเงียบๆ มาพักหนึ่ง อดิศวร์ถามหลานรักว่ามีเรื่องอะไรจะปรึกษา พิณทองเล่าทั้งน้ำตาว่า พิชญ์ไม่ยอมกลับไปโดมทองเพราะไม่อยากเจอวิรงรองให้สะเทือนใจ รบกวนน้าชายช่วยไปกราบเรียนคุณทวดด้วยว่าขอบพระคุณมาก แต่เธอคงไปไม่ได้ อดิศวร์อยากรู้ว่าถ้าพิชญ์ไปเธอถึงจะไปใช่ไหม หญิงสาวไม่ตอบ หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตา เขาสงสารและเห็นใจเธอมาก อาสาจะจัดการเรื่องนี้ให้เอง

“ไม่ต้องกังวลใจอะไรทั้งนั้น คุณพิณเตรียมตัวให้สวยที่สุดและสนุกที่สุดเท่านั้นก็พอ น้าลบรับรองว่าวิรงรองจะออกไปจากชีวิตของคุณพิณและสามีตลอดกาล” อดิศวร์สีหน้ามั่นใจ...

ตกค่ำ อดิศวร์มากินอาหารบ้านคุณหญิงแก้วตามนัด พอสบโอกาสเหมาะขอคุยกับพิชญ์ตามลำพังสักครู่ เขายังไม่ทันจะพูดอะไร ชายหนุ่มผู้อ่อนวัยกว่าชิงพูดขึ้นก่อนว่าจะไม่ไปงานที่เขาจะจัดให้ อดิศวร์ทักท้วงว่าเขาไม่ใช่เป็นคนจัดงาน คุณย่าต่างหากที่เป็นตัวตั้งตัวตีเรื่องนี้ พิชญ์ไม่เชื่อ เพราะมั่นใจว่านี่เป็นแผนของเขา

“ก็ตามใจ...คุณไม่ไปก็ไม่มีใครบังคับ” อดิศวร์ยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ แล้วตามไปสมทบกับคนอื่นที่ห้องนั่งเล่นโดยมีพิชญ์ตามมาอีกทอดหนึ่ง คุณหญิงวัชรีร้องทักว่าสองหนุ่มไปคุยอะไรกันมา พิชญ์ชิงตอบก่อน

“ผมบอกน้าลบแล้วว่า ผมไม่ไปโดมทอง ผมมีงานค้างมากครับ”

“ไปแค่ 2-3 วันจะเป็นอะไรไป” คุณหญิงวัชรีเสียงเขียว พิชญ์ยืนกรานว่าไปไม่ได้จริงๆ ให้แม่กับพิณทองไปกันเอง คุณหญิงวัชรีฮึดฮัดจะเอาเรื่อง รัฐมนตรีพจน์ต้องขอร้องว่าอย่าไปบังคับเขาเลย

“พิณก็ว่าอย่างนั้นแหละค่ะ ใครจะไปก็ไป ใครไม่เต็มใจก็ไม่ต้องไป โตๆ กันแล้ว รู้กันหมดแล้วว่าอะไรควรอะไรไม่ควร” พิณทองว่ากระทบ ขณะที่พิชญ์หันมองเธออย่างไม่ค่อยพอใจ...

ตั้งแต่กลับจากบ้านคุณหญิงแก้ว พิชญ์เอาแต่นั่งทอดถอนใจอยู่ที่โต๊ะสนามหน้าบ้านไม่ยอมขึ้นห้อง พิณทองมองลงมาเห็นท่าทางของสามีตัวเองแล้ว รู้ดีว่าเขายังตัดใจจากวิรงรองไม่ขาด ปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มทิ้ง สูดลมหายใจเข้าเพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเอง แล้วไปหาคุณหญิงวัชรีที่ห้องของท่าน

“คุณป้าขา คุณป้าอย่าโกรธพิณเลยนะคะ ถ้าพิณจะขอหย่ากับพิชญ์ พิณคิดมาหลายวันแล้วค่ะ พิณไม่อยากทรมานทั้งตัวเองแล้วก็เขา...พิชญ์ไม่ได้รักพิณ

ไม่ว่าพิณจะพยายามทำดีกับเขาอย่างไร เขาก็ไม่มีวันรักพิณได้ ยิ่งเขาได้พบกับคุณวิรงรอง...”

“ยังไงป้าก็ไม่มีวันรับผู้หญิงคนนั้นมาเป็นลูกสะใภ้ หากตาพิชญ์ยังขืนจะแต่งให้ได้ เขากับป้าก็ต้องตัดแม่ตัดลูกกัน ป้าพูดจริงทำจริง หนูทำเฉยๆ ป้าจะจัดการทุกอย่างเอง ขอให้ไว้ใจป้า”

“แต่พิณไม่อยากให้คุณป้ากับพิชญ์ต้องขัดใจกันเพราะพิณ”

“ไม่ใช่เพราะหนู แต่เป็นเพราะตัวของพิชญ์เอง”

ooooooo

คืนนี้เป็นคืนเดือนเพ็ญ แสงจันทร์ส่องสว่างไปทั่วอาณาจักรโดมทอง ทุกคนต่างหลับใหลกันหมดยกเว้นวิรงรองที่รู้แก่ใจดีว่าคืนนี้จะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น ค่อยๆ ย่องออกจากบ้านพร้อมกับไฟฉายเดินลัดเลาะไปแอบอยู่หลังพุ่มไม้ ในจุดที่มองเห็นห้องใต้ยอดโดม ท่างกลางเสียงแมลงกลางคืนที่ดังไปทั่วบริเวณ

ทันทีที่มีเสียงรถม้าบดกับถนนแว่วเข้ามา เสียงแมลงต่างๆ เงียบกริบราวกับนัดกันไว้ วิรงรองมองลอดพุ่มไม้ สายตาจับจ้องไปยังทิศทางของเสียงรถม้า สักพัก ท่านเจ้าคุณสรรักษ์ควบรถม้าฝ่าหมอกจางๆ ที่ลอยเรี่ยพื้น

มาหยุดตรงห้องใต้โดมแล้วแหงนหน้าขึ้นไปมอง ความเงียบสงัดทำให้วิรงรองแทบจะหยุดหายใจด้วยเกรงจะทำให้เกิดเสียงดัง หน้าต่างห้องใต้โดมค่อยๆเปิดออกพร้อมกับเสียงเพลงนางครวญที่ชวนขนลุกดังขึ้น

คุณพลับพลึงปรากฏตัวขึ้นที่หน้าต่างห้องนั้น มองลงมาที่ท่านเจ้าคุณ วิรงรองต้องรีบเอามือปิดปากตัวเองด้วยความตกตะลึง วิญญาณสองร่างมองกันนิ่งงันราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน พลันมีเมฆดำทะมึนลอยมาบดบังดวงจันทร์ ทุกอย่างตกอยู่ในความมืดชั่วขณะ

เมื่อเมฆดำกลุ่มนั้นก็เคลื่อนผ่านดวงจันทร์ไปแล้ว รอบๆบริเวณก็สว่างขึ้นอีกครั้ง ทั้งท่านเจ้าคุณ รถม้า และคุณพลับพลึงหายไปราวกับเคยไม่มีอะไรเกิดขึ้น วิรงรองมองอย่างประหลาดใจ

“เป็นไปไม่ได้” เธอพึมพำจบออกจากที่ซ่อนตัวเดินสำรวจรอบๆแล้วแหงนดูห้องใต้โดม หน้าต่างปิดสนิทตามเดิม พร้อมกับเสียงแมลงกลางคืนดังขึ้นตามปกติ รออยู่สักพักจนแน่ใจว่าไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีก วิรงรองตัดสินใจกลับห้อง ค่อยๆ เปิดประตูเข้าตัวตึกอย่างเงียบกริบ แต่ต้องตกใจร้องกรี๊ดลั่นเมื่อเห็นผีพิศในสภาพใบหน้าบวมปูดเขียวช้ำน่ากลัวยืนแสยะยิ้มอยู่ วิรงรองหมดสติทรุดฮวบลงไปตรงนั้น

ooooooo

เหมือนเช้าของทุกวัน อุษายกอาหารมาให้ท่าน ผู้หญิงสรรักษ์ที่ห้อง แต่ต้องประหลาดใจถึงกับออกปากทัก ทำไมเช้านี้คุณย่าถึงดูสดชื่นผิดจากทุกวัน ท่านอดแดกดันไม่ได้ว่าผิดหวังใช่ไหม ท่านรู้ดีว่าอุษากับพวกแช่งท่านให้ตายวันละหลายเวลา อุษาไม่ตอบโต้ ได้แต่ทำหน้าที่ของตัวเองยกอาหารมาวางตรงหน้าให้

“นังพลับพลึงมันคงตกนรกหมกไหม้ไปแล้ว เมื่อคืนมันเงียบไปเลยทั้งๆที่เป็นวันพระจันทร์เต็มดวง เป็นคืนแรกตั้งแต่...มันตาย ที่ฉันนอนหลับสนิททั้งคืน...ตาลบ กลับมาหรือยัง”

“เห็นว่าจะมาถึงประมาณ 9 โมงค่ะ”

“ฉันกำลังจะเป็นผู้ชนะ ในที่สุดฉันก็คือผู้ชนะ ได้ยินไหมนังอุษาว่าฉันชนะแล้ว” ท่านผู้หญิงสรรักษ์ประกาศกร้าว ขณะที่อุษามองงงๆไม่เข้าใจที่ท่านพูดแม้แต่น้อย...

ทางด้านอุไรยกถาดใส่ข้าวต้มร้อนๆหอมกรุ่นขึ้นไปให้วิรงรองที่ห้องพัก ยังไม่ทันจะเคาะประตูเรียกเจ้าของห้องเปิดประตูออกมาเสียก่อน อุไรร้องทักว่าหายดีแล้วหรือ เมื่อคืนนี้อยู่ดีๆเธอก็ร้องกรี๊ดๆลั่นบ้าน

“แต่ป้าอุไรก็ยังแปลกใจว่าคุณวิลงไปข้างล่างทำไมกลางดึกกลางดื่น” อุไรว่าพลางยกถาดใส่ข้าวต้มเข้ามาวางให้ในห้อง คิดว่าวิรงรองจะตามเข้ามา พอหันไปมองอีกทีเธอหายไปแล้ว...

แสงแขไม่รอช้า ทันทีที่นายสมขับรถพาอดิศวร์มาจอดหน้าคฤหาสน์โดมทอง รีบแจ้นเข้าไปฟ้องว่าวิรงรองแอบลงมาข้างล่างดึกๆดื่นๆ แล้วร้องเอะอะโวยวายจนเป็นลม เมื่อฟื้นขึ้นมาก็ไม่ยอมเล่าว่าเกิดอะไรขึ้น ชายหนุ่มนิ่วหน้าแล้วก้าวฉับๆขึ้นไปที่ห้องพักของวิรงรอง พบแต่ความว่างเปล่า มีเพียงถาดใส่ข้าวต้มที่ถูกทิ้งไว้โดยไม่ มีใครแตะต้อง อดิศวร์นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะผลุนผลัน ออกไป...

ฝ่ายวิรงรองต้องการจะสืบรู้ให้ได้ว่าเมื่อคืนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ รีบตรงไปยังโรงเก็บรถม้า เนื่องจากประตูใหญ่ถูกล็อกกุญแจไว้ เธอจึงเดินดูรอบๆเพื่อหาทางเข้าทางอื่น ลองเขย่าหน้าต่างบานหนึ่งดูปรากฏว่ามันหลุดออกมาทั้งบานเพราะความเก่า วิรงรองรีบเอาวางแอบไว้แล้วปีนเข้าไป

สภาพภายในโรงเก็บรถม้าทั้งเก่าทั้งผุเหมือนรถม้าที่อยู่ตรงหน้า วิรงรองถอนใจเซ็งๆมองอย่างไรก็ไม่น่าจะใช้การได้ แล้วเดินสำรวจไปรอบๆ พลันมีเสียงเหมือนคนถอนใจดังแผ่วเบามาจากด้านหลัง เธอหันขวับไปมองต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นรถม้าผุๆคันเมื่อครู่ กลับกลายเป็นรถม้าคันใหม่เอี่ยมเหมือนที่เธอเห็นเมื่อคืน

วิรงรองเข้าไปดูใกล้ๆยกมือลูบไล้มันเบาๆถึงกับเพ้อว่าตัวเองฝันไปหรือเปล่า มีเสียงอดิศวร์ดังขึ้นด้านหลังว่ายังสำรวจความประหลาดในบ้านของเขาไม่พออีกหรือ หญิงสาวหันขวับ

“ค่ะ...แล้วในที่สุดดิฉันก็พบรถม้าคันนี้”

แต่พอเธอหันกลับมามองอีกทีต้องตกใจที่รถม้ากลายสภาพเป็นผุพังเหมือนเดิม ถึงกับบ่นอุบว่าเมื่อครู่นี้มันยังดีๆอยู่เลย อดิศวร์เห็นสภาพรถม้าแล้ว แดกดันว่าใครที่เห็นรถคันนี้ยังสภาพดีอยู่คนนั้นคงจะใกล้บ้า

“ดิฉันไม่ได้บ้า เมื่อคืนดิฉันเห็นคนที่เหมือนคุณขับรถม้าคันนี้ไปที่ใต้หน้าต่างโดม แล้วหน้าต่างนั้นก็เปิดออก มีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ หน้าตาเหมือน...”

วิรงรองพูดยังไม่ทันจบ อดิศวร์สวนขึ้นอย่างขันๆ

“อย่าบอกนะว่าเหมือนเธอ”

“ไม่ต้องมาหัวเราะดิฉัน...ดิฉันขอยืนยันว่าดิฉันไม่ใช่คนโกหก บ้านของคุณมันประหลาดๆอย่างที่คุณพูดแดกดันฉันจริงๆ มีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ที่นั่นและรอวันที่จะเปิดเผย”

อดิศวร์หาว่าวิรงรองดูหนังสยองขวัญมากไป ที่นี่ไม่มีความลับอะไรทั้งสิ้น เรื่องบ้าๆเหล่านี้เธอฝันเอาเองทั้งนั้น วิรงรองท้าให้รอดูกันต่อไปว่าจะเป็นอย่างที่ตนว่าหรือเปล่า แล้วก้าวฉับๆออกไป อดิศวร์ตะโกนไล่หลังอย่างเย้ยหยันว่าเถียงสู้ไม่ได้ใช่ไหมถึงต้องใช้วิธีเดินหนีเหมือนที่เคยทำ หญิงสาวหันขวับ

“คุณเข้าใจผิด ดิฉันไม่อยากให้คนอื่นมาว่าได้ต่างหากว่าดิฉันพยายามหาโอกาสอยู่กับคุณตามลำพัง” วิรงรองพูดจบเดินต่อไป อดิศวร์ตะโกนถามว่าพูดถึงใคร เธอไม่ตอบ เร่งฝีเท้าขึ้นอีก

ooooooo

อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 9 วันที่ 27 มิ.ย. 56

ละครเรื่อง โดมทอง บทประพันธ์โดย วราภา
ละครเรื่อง โดมทอง บทโทรทัศน์โดย : ภาวิต
ละครเรื่อง โดมทอง กำกับการแสดงโดย : นนทนันท์ ธัญญาสิริทรัพย์
ละครเรื่อง โดมทอง ควบคุมการผลิตโดย : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง โดมทอง แนวละคร : ชีวิต ลึกลับ ตื่นเต้น
ละครเรื่อง โดมทอง ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ