อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 2 วันที่ 6 มิ.ย. 56
ผ่านไปไม่นานนัก นายสมขับรถมาจอดหน้าประตูรั้วคฤหาสน์โดมทอง วิรงรองถึงกับตกตะลึง สถานที่แห่งนี้ช่างเหมือนกับที่เธอฝันเห็นเมื่อคืนไม่มีผิดเพี้ยน แสงแขเห็นท่าทางตื่นเต้นของผู้มาใหม่ถึงกับยิ้มเยาะ ดักคอว่าอย่าได้คิดจะครอบครองที่นี่เด็ดขาด วิรงรองโต้ไม่ยอมแพ้ว่าไม่บังอาจขนาดนั้น...ภายในคฤหาสน์โดมทองดูมืดสลัว เพราะไม่มีไฟดวงไหนเปิด มีเพียงแสงจากเทียนไขที่อุษาพี่สาวของแสงแขถือไว้ในมือเท่านั้น เธอรับช่วงต่อจากน้องสาวพาวิรงรองไปยังห้องพัก อ้างว่าดึกมากแล้ว คนรับใช้นอนกันหมด ไม่มีใครตามปิดไฟก็เลยต้องใช้เทียนไขส่องทางแทน แม้จะเป็นข้ออ้างที่ฟังแปลกๆ ชอบกล แต่วิรงรองก็ไม่คิดจะถามอะไร เมื่อมาถึงห้องพัก อุษาเตือนเธอว่าที่นี่กินอาหารเช้ากันตอนแปดโมง
“คนที่นี่แปลกๆ...บ้านหลังนี้ก็แปลกอีกเหมือนกัน ทำไมฝันได้เหมือนเปี๊ยบ ทั้งๆที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วผู้ชายคนนั้นมีตัวตนจริงหรือเปล่านะ” วิรงรองนึกถึงชายในความฝันเมื่อคืน รู้สึกหนาวยะเยือกขึ้นมาทันที...
ดึกสงัดคืนเดียวกัน ในห้องนอนบนยอดโดม มีแสงจากเทียนไขส่องสว่างขึ้นพร้อมกับเสียงเพลงที่ชวนขนหัวลุกดังขึ้น วิรงรองค่อยๆ ลืมตาตื่น แปลกใจดึกป่านนี้แล้วใครกันยังมีแก่ใจมาร้องเพลง ทันใดนั้น เสียงร้องเพลงหายไป กลายเป็นเสียงบรรเลงเครื่องดนตรีไทยแทนที่ เสียงนั้นกลับยิ่งวังเวงกว่าเดิม วิรงรองขยับจะลุกขึ้นไปดูเสียงเพลงกลับเงียบไปเฉยๆ เธอจึงล้มตัวลงนอนอย่างเดิม
ooooooo
ไม่ได้มีแค่วิรงรองเท่านั้นที่ได้ยินเสียงเพลงโหยหวนเมื่อครู่ ท่านผู้หญิงสรรักษ์ก็ได้ยินเช่นกัน ร้องเรียกอุไรคนรับใช้ที่นอนเฝ้าอยู่ในห้องขึ้นมาถามว่า ได้ยินเสียงเพลงหรือเปล่า เธอส่ายหน้าแทนคำตอบ
“นังพลับพลึงมันเจตนาจะร้องให้ฉันฟังคนเดียว ดี...ร้องอีกสิ ร้องอีก ร้องเลย” ท่านผู้หญิงสรรักษ์ท้าทาย
ทุกอย่างเงียบสนิท ท่านผู้หญิงสรรักษ์หัวเราะสะใจ คิดเอาเองว่าเป็นเพราะพลับพลึงเกรงกลัวท่านจนไม่กล้าร้องเพลง อุไรมองท่านผู้หญิงด้วยสีหน้าหวาดๆ กลัวผีก็กลัว แต่ดูจะกลัวคนที่อยู่ด้วยมากกว่า...
ขณะวิรงรองกำลังหลับ มีเสียงเรียกชื่อ “พลับพลึง” ดังขึ้น เธอสะดุ้งตื่น คว้าเชิงเทียนออกไปดู บริเวณโถงบันไดยามต้องแสงเทียนยิ่งดูลึกลับน่ากลัว หญิงสาวข่มความกลัวลงไปดูให้เห็นกันชัดๆไปเลยว่าเสียงอะไรกันแน่ มีเสียงอดิศวร์ร้องถามว่า นั่นใครดังมาจากด้านหลัง หญิงสาวสะดุ้งโหยงเชิงเทียนแทบหลุดมือ หันขวับไปมอง
ไฟฟ้าสว่างจ้าขึ้น เห็นอดิศวร์ยืนอยู่หน้าห้องทำงานตัวเองสีหน้าเคร่งขรึม ว่าประชดว่ามาถึงวันแรกก็เที่ยวเดินเพ่นพ่านนี่มันตีสองเข้าไปแล้วและถ้ารักจะอยู่ที่นี่ต่อไป อย่าเที่ยวสอดรู้สอดเห็น เขาไม่ชอบ วิรงรองเถียงว่าไม่ได้ออกมาเดินเพ่นพ่านและไม่ใช่พวกสอดรู้สอดเห็น แต่ที่ต้องออกมาดูเพราะได้ยินเสียงใครบางคนเรียก อดิศวร์ยิ้มเหยียดราวกับไม่เชื่อคำพูดของเธอ วิรงรองไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วย ขยับจะกลับห้อง
“เดี๋ยว...ฉันยังพูดไม่จบ”
“ขอเปลี่ยนเป็นว่าหาเรื่องไม่จบได้ไหมค่ะ แล้วก็ไม่ใช่วิสัยของดิฉันที่จะต้องมายืนทนให้ใครมาด่าว่า เมื่อครู่นี่คุณบอกว่าตีสองแล้ว ดิฉันต้องไปนอนล่ะค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสายจะโดนด่าอีก”วิรงรองพูดจบก็เดินกลับห้อง อดิศวร์มองตามไม่พอใจ
ooooooo
ด้วยความที่นอนหลับๆตื่นๆ วิรงรองตื่นสายลงมากินมื้อเช้าเลยเวลาแปดโมงไปแล้ว อุษาเห็นใจว่าเมื่อคืนเธอนอนดึก กว่าจะมาถึงคฤหาสน์โดมทองเกือบตีหนึ่งจึงไม่ถือสาหาความ ผิดจากแสงแขโดยสิ้นเชิงที่ทั้งแดกดัน ว่ากระทบวิรงรองสารพัด ก่อนจะเดินเชิดหน้าคอตั้งออกไปโดยมีโอบคนสนิทตามไปด้วย
“อย่าถือสาอะไรเลยนะ คุณวิรงรอง...กินข้าวต้มเถอะเดี๋ยวเย็นจะไม่อร่อย”
วิรงรองตักข้าวต้มเข้าปากคำแรกแทบจะบ้วนทิ้งเพราะเค็มปี๋กินไม่ได้ อุษาแปลกใจเป็นไปได้อย่างไร อาสาจะทำมื้อเช้าให้ใหม่ แล้วเดินเข้าครัวโดยไม่ฟังคำทัดทานของอีกฝ่ายหนึ่ง...
นอกจากจะด่าว่าวิรงรองเสียๆหายๆแล้ว แสงแขยังนำเรื่องที่เธอตื่นสายไปฟ้องอดิศวร์ซึ่งไม่ชอบใจเธอเป็นทุนเดิมอยู่แล้วยิ่งไม่พอใจมากขึ้น...
หลังจากกินอาหารเช้าเรียบร้อย อุษาพาวิรงรองมาพบท่านผู้หญิงสรรักษ์เพื่อจะได้ฝากเนื้อฝากตัว ทันทีที่เห็นหน้าคนดูแลคนใหม่ ท่านผู้หญิงร้องลั่นด้วยความหวาดกลัวสุดขีด
“นังพลับพลึง...ไป ออกไปให้พ้น...อุษาเอามันออกไป”
ทั้งวิรงรอง อุษาและอุไรต่างตกใจระคนแปลกใจ ท่านผู้หญิงสรรักษ์ยังกรีดร้องไม่หยุด ไล่วิรงรองที่ท่านเห็นเป็นพลับพลึงให้ไปผุดไปเกิด อุษาเกรงท่านจะช็อก สั่งให้อุไรพาวิรงรองออกไปก่อน เสียงร้องของท่านผู้หญิงดังลั่นอย่างต่อเนื่อง อดิศวร์วิ่งนำแสงแขมาที่ห้องนอนของท่าน แล้วสั่งให้เธอพาวิรงรองไปรอที่ห้องทำงานของเขา ก่อนจะผลุนผลันเข้าไปดูคุณย่าซึ่งตัวสั่นหน้าตาตื่น ละลํ่าละลักบอกว่า
“เมื่อครู่นังพลับพลึงเข้ามาหลอกหลอนย่า ลบต้องไล่มันไปนะลูกนะ อย่าให้มันเข้ามาอีก”
“ไม่ใช่คุณย่าน้อยหรอกครับ เธอชื่อวิรงรอง ผมเป็นคนพามาช่วยพยาบาลคุณย่า”
ท่านผู้หญิงสรรักษ์ไม่ฟัง เถียงคอเป็นเอ็นว่านั่นคือนังพลับพลึงที่มาหลอกลวงตบตาเขาให้หลงเชื่อว่าเป็นคนอื่นและจะเสี้ยมให้เขาเกลียดเธอ อดิศวร์ไม่มีวันเกลียดคุณย่า และที่สำคัญถ้าคุณย่าน้อยยังอยู่ป่านนี้คงอายุมากแล้วผิดกับผู้หญิงคนเมื่อครู่ซึ่งอายุน้อยกว่าแสงแขเสียอีก
“ก็เพราะมันไปตอนอายุเท่านั้นน่ะสิ มันถึงไม่แก่”
อดิศวร์จะพาวิรงรองมาให้คุณย่าดูหน้าดูตาชัดๆ อีกครั้งจะได้มั่นใจว่าไม่ใช่คุณย่าน้อย ท่านผู้หญิงสรรักษ์ไม่ต้องการเห็นหน้านังนั่น สั่งให้หลานชายไล่ไปให้พ้นหน้า ถ้าเขายังรักคุณย่าคนนี้
“คุณย่าต้องรับปากกับผมก่อนว่า จะเลิกคิดถึงเรื่องคุณย่าน้อย คุณย่าจะได้ดีขึ้น”
ท่านผู้หญิงสรรักษ์ส่ายหน้าทั้งน้ำตา “ชีวิตของย่าไม่มีวันดีขึ้นอีกแล้ว นับตั้งแต่วันนั้น เจ้าคุณปู่ของลบเกลียดย่า...ไอ้พัน ไอ้คนทรยศ ไอ้พวกเนรคุณ...ทำไมถึงเป็นอย่างนี้” ท่านผู้หญิงสรรักษ์อาละวาดไม่หยุดหย่อน อดิศวร์ต้องให้อุษาหยิบยาระงับประสาทที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียงมาให้ท่านกิน ท่านผู้หญิงไม่วายต่อรองว่าถ้าตนยอมกินยา อดิศวร์ต้องไล่นังนั่นออกไปจากที่นี่ เขาไม่รับปากอะไรค่อยๆประคองท่านลงนอน...
หลังจากท่านผู้หญิงสรรักษ์หลับไปด้วยฤทธิ์ยา อดิศวร์ตรงไปพบวิรงรองที่ห้องทำงานตัวเอง ไม่ทันจะอ้าปากว่าอะไร เธอชิงลาออกเสียก่อน ถ้าเขาอยากรู้เหตุผลให้ไปถามแสงแข ภรรยาของเขาที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อครู่ดู เขาเอ็ดตะโรลั่นว่าแสงแขไม่ใช่ภรรยาของเขา วิรงรองเสียหน้าเล็กน้อยที่มั่วนิ่ม แต่ยังคงยืนกรานจะขอลาออกอ้างว่าไม่เหมาะกับที่นี่ อดิศวร์มองเธออย่างเย้ยหยัน
“แล้วเธอเหมาะกับที่ไหนล่ะ แม่วิรงรอง”
วิรงรองชักสีหน้าไม่พอใจ บอกตรงไปตรงมาว่าไม่ชอบให้ใครมาเรียกตนเองว่าแม่วิรงรอง อดิศวร์สวนทันทีหรือเธอชอบให้เรียกว่าพลับพลึง เหมือนที่พิชญ์ชอบเรียก วิรงรองแปลกใจและตกใจจนพูดอะไรไม่ออก เขายังหาเรื่องเธอไม่หยุดหย่อน กล่าวหาว่าเอาเรื่องคุณย่ามาบังหน้าเพราะอยากจะกลับไปหาพิชญ์ วิรงรองทนฟังต่อไปไม่ไหว ลุกขึ้นจะออกจากห้อง อดิศวร์คว้าแขนเธอไว้ เตือนว่าอย่าคิดตบตาคนอย่างเขา
“พิณทองเป็นหลานของฉัน...ฉันไม่ปล่อยให้เธอไปแย่งคู่หมั้นของหลานฉันแน่ แม่วิรงรอง”
หญิงสาวปฏิเสธลั่นว่า ไม่เคยคิดจะไปแย่งของของคนอื่น อดิศวร์ท้าพิสูจน์โดยเธอต้องอยู่ที่นี่ต่อไปจนกว่าสองคนนั่นจะแต่งงานกัน เธอตกลงใจรับคำท้า แต่มีข้อแม้ เขาต้องเลิกเรียกเธอว่าแม่วิรงรองอีก ไม่อย่างนั้นเธอจะกลับบ้านทันที แล้วขอร้องให้เขาปล่อยแขนเธอได้แล้ว อดิศวร์รับปากจะทำอย่างที่เธอต้องการ
“คุณพูดถูก พิชญ์เป็นคนเดียวในโลกนี้ที่เรียกดิฉันว่าพลับพลึง เพราะชื่อดิฉันแปลว่าอย่างนั้น” วิรงรองพูดจบออกจากห้อง อดิศวร์มองตามอย่างหงุดหงิดไม่พอใจ
ooooooo
อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 2 วันที่ 6 มิ.ย. 56
ละครเรื่อง โดมทอง บทประพันธ์โดย วราภาละครเรื่อง โดมทอง บทโทรทัศน์โดย : ภาวิต
ละครเรื่อง โดมทอง กำกับการแสดงโดย : นนทนันท์ ธัญญาสิริทรัพย์
ละครเรื่อง โดมทอง ควบคุมการผลิตโดย : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง โดมทอง แนวละคร : ชีวิต ลึกลับ ตื่นเต้น
ละครเรื่อง โดมทอง ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ