อ่านละคร วันนี้ที่รอคอย ตอนที่ 4-5 วันที่ 19 มิ.ย. 56

อ่านละคร วันนี้ที่รอคอย ตอนที่ 4

“ขอบใจ...มิน...ข้าจะไม่มีวันยอมให้เจ้าตกลงไปเด็ดขาด!”

พริบตานั้น มิถิลามือลื่นร่างร่วงลง วินาทีนั้นจ้าวซันโหนผ้าไหมที่ตากระโยงระยางคล้องอยู่กับขื่อ จับสองชายม้วนกับแขนโหนทะยานไปตะครุบตัวมิถิลาไว้ได้ก่อนจะร่วงลงไปในกระทะที่กำลังเดือด ร่างทั้งสองตกกลิ้งไปกับพื้น

“เจ้าทหารน้อย ไม่เป็นอะไรใช่ไหม” จ้าวซันถามอย่างโล่งใจ ศิขรนโรดมดีใจมากที่มิถิลาปลอดภัย ดีใจจนลืมความเจ็บปวดของตัวเอง ส่วนราชิดกับโกศินเจ็บใจที่แผนพลิกความคาดหมาย ทำทีเข้าไปดูแลศิขรนโรดมอย่างห่วงใย ขณะเดียวกันก็จิกตามองคนงานที่โหนเส้นไหมขึ้นไปช่วยมิถิลา ตรงไปจะกระชากหน้ากากออกดูหน้า


“ไปดูทหารของคุณสิ เขาเกือบจะตาย มาสนใจอะไรผม” จ้าวซันปัดมือโกศินพลางถอยแล้วแหวกผู้คนหลบไป โกศินจะตาม ถูกสุริยะมาขวางถามว่าองค์ชายเป็นอย่างไรบ้าง ภูสินทรก็เร่งให้รีบพาไปห้องพยาบาล โกศินถูกกันและเร่งให้มาดูแลศิขรนโรดม เป็นโอกาสให้จ้าวซันหลบเข้าไปในห้องเก็บของ แต่โกศินยังไม่ยอมแพ้ ตามเข้าไปในห้องเก็บของข้างๆนั้นเห็นคนงานใส่หน้ากากเต็มไปหมด เข้าไปกระชากหน้ากากออกทีละคน...ทีละคนประกาศว่า “ใครที่ช่วยทหารคนนั้นไว้เมื่อกี๊ ข้าจะให้รางวัล” พลันก็มีคนงานร่างใหญ่คนหนึ่งยกมือขึ้นเอ๋อๆ

โกศินหุนหันผละไปด้วยใบหน้าที่เอ๋อยิ่งกว่า...

ooooooo

ฉินเจียงแค้นใจที่ถูกจ้าวซันขวางทางธุรกิจมืดของตน เกาเฟยกระทุ้งซ้ำว่าจ้าวซันมีอิทธิพลจริงๆ เราคงสู้เขายากแล้วส่งโทรศัพท์ให้กดดู บอกว่ามีคนส่งรูปนี้มาให้ตน

เป็นรูปสดๆ ที่บราลีอยู่กับผิงอันในบ้านจ้าวซัน ฉินเจียงพึมพำ “ผู้หญิงคนนี้...เพื่อนยัยผิง”

“ไม่ใช่แค่นั้นครับ เธอเป็นเพื่อนและเป็นครูสอนภาษาอังกฤษให้คุณหนูผิงอันด้วย แต่ที่ผมอยากจะบอกคุณชายรองก็คือ บราลีคนนี้น่าจะเป็นคนสำคัญมากๆ ของคุณชายใหญ่ครับ คุณชายใหญ่กำลังพยายามเอาใจแม่นี่อย่างสุดๆ เลยครับ ถึงกับซื้อรถให้ขับ”

ฉินเจียงถามว่าจ้าวซันกำลังจีบบราลีหรือ เกาเฟยยั่วยุว่า ไม่ใช่แค่จีบแต่หลงรักเอามากๆ อยากจะขอแต่งงานอะไรขนาดนั้นเลย แล้วหยอดท้ายให้ฉินเจียงน้ำลายสอว่า “แต่นังผู้หญิงก็ดูเหมือนจะเล่นตัวไม่น้อย”

เวลาเดียวกัน ผู้กองเหลียงก็ไปหาข่าวจ้าวซันเดินทางไปต่างประเทศจากเหม่ยอิง เล่าข่าวอ่อยก่อนว่า จ้าวซันเดินทางไปประเทศไทยด้วยเครื่องบินเล็ก ปรากฏว่าเหม่ยอิงเองก็ไม่รู้ ผู้กองจึงเล่าต่อว่า จ้าวซันส่งเทียบเชิญองค์ชายศิขรนโรดมแห่งคีรีรัฐมาเยือนฮ่องกงในไม่กี่วันนี้ เวลานี้องค์ชายคนนี้อยู่ที่กรุงเทพฯ การไปเมืองไทยแบบลับๆ มันเกี่ยวกับแผนการรับเสด็จหรือเปล่า? อ่อยขนาดนี้แล้วเหม่ยอิงยังบอกว่าจ้าวซันทำอะไรอยู่เขาไม่ยอมให้ตนรู้เลย ผู้กองทั้งยอและยุว่า

“แปลกจัง งานนี้ทำไมคุณชายไม่โชว์น้องสาวคนสวยและเก่งให้พวกประเทศหลังเขาได้ชมเป็นขวัญตา”

“พี่ชายเห็นคนอื่นสำคัญกว่าเหม่ยอิง ไม่เป็นไร สักวันเหม่ยอิงจะพิสูจน์ให้พี่ชายเห็นว่าเหม่ยอิงมีค่ามากกว่าผู้หญิงไทยคนนั้น” แต่พอผู้กองสนใจเรื่องผู้หญิงไทยคนนั้น เธอกลับตัดบทว่า “ช่างมันเถอะค่ะ แล้วผู้กองจะเลี้ยงอะไรเหม่ยอิงล่ะคะ อยากเมาจังเลยตอนนี้”

ผู้กองเหลียงมองตาปรอย รู้สึกผู้หญิงคนนี้จี๊ดโดนใจจริงๆ!

ฝ่ายบราลี หลังจากคุยกับเหม่ยอิงแล้ว เธอตัดสินใจจะไม่มาที่บ้านสี่ฤดูอีก บอกผิงอันว่าถ้าอยากเรียนภาษาอังกฤษกับตน ก็ให้ไปบ้านตน ฝากกุญแจรถคืนให้จ้าวซัน อาม่าจะให้คนขับรถไปส่งก็ปฏิเสธ

“ไม่...ไม่ต้องให้ใครมาบริการฉันอีก ฉันไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น อย่าตามตื๊อฉัน ถ้าอยากเรียนกับฉัน เราต้องปรับท่าทีของพวกเราทุกคนใหม่ ไม่มีการทำตัวสนิทสนมกันเองเป็นพิเศษอีกแล้ว” บราลีเดินเชิดออกไปอย่างทระนง

“พี่เหม่ยอิงทำอะไร ทำไมพี่บรีเปลี่ยนไป” ผิงอันร้องไห้จนอาม่าต้องกอดปลอบ

แต่พอบราลีเดินออกไปถึงหน้าบ้าน ก็เจอฉินเจียงมาดักพบบอกว่ามีเรื่องอยากให้เธอช่วย แต่ไม่ยอมคุยที่บ้านชวนขึ้นรถไปด้วยกัน ครั้นบราลีไม่ไปก็คุยอวดความเป็นไท้เผ่งเป็นสุภาพบุรุษสาบานว่าเรื่องที่จะให้เธอช่วยไม่ใช่เรื่องเลวร้าย ขอให้ไว้ใจตน ให้โอกาสตนสักครั้ง ทั้งหว่านล้อม ปรามาสว่าไม่กล้า ทำตัวเป็นเบบี๋ จนบราลีฮึดขึ้นมายอมขึ้นรถไปกับเขา

ooooooo

ศิขรนโรดมกลับห้องพักโดยไม่ยอมไปทำแผล มิถิลาจึงทำแผลให้อย่างคล่องแคล่ว

“เจ้าช่วยชีวิตเรา...มิน...เจ้าคือเพื่อน...เจ้ารู้ตัวไหม มิน ว่าเจ้าทำลายแผนการของพวกเขา”

“พวกเขา?”

“ราชิด...เขาวางแผนจะฆ่าเราในโอกาสมาต่างบ้านต่างเมืองคราวนี้แน่ๆ เขากันลูกชายเขาไว้ ไม่เช่นนั้นอสุนีต้องมารับเคราะห์นี้แทนเจ้า ราชิดเขาจัดการทุกอย่างไว้รัดกุมแล้ว น้องสาวของอสุนีเป็นนางกำนัลควบคุมตัวแม่เราอยู่ ถ้าเขาฆ่าเราสำเร็จ ครอบครัวเขาขึ้นเถลิงอำนาจแน่นอน อสุนีอาจเสียใจบ้างในทีแรก แต่สักพักเขาก็ต้องยอมรับสิ่งที่พ่อเขามอบให้ น่าอนาถจริงๆ ความโลภไม่เคยปรานีคนเลว ได้คืบจะเอาศอก อยากได้อำนาจจนถึงกับคิดฆ่าคน แล้วจะต้องฆ่าอีกกี่คน แล้วตัวเขาจะอยู่ค้ำฟ้าหรือก็เปล่า”

มิถิลาร้องไห้ออกมา ศิขรนโรดมถามว่าร้องไห้ทำไม เธอบอกว่า เสียใจที่พลเอกราชิดเป็นเช่นนี้...ไม่น่าเลย...ศิขรนโรดมนั่งลงข้างๆ มิถิลาโอบไหล่เธอไว้ตบเบาๆ พูดปลอบทั้งที่ตัวเองก็เจ็บปวด...“ เราร้องไห้มามากแล้ว ตั้งแต่เล็กจนโต ตอนนี้เราจะไม่ร้องไห้อีกแล้ว มันไม่มีประโยชน์ มิน...เราต้องสู้ ไม่สู้ก็ตาย หรือไม่ก็ยอมแพ้ มีแค่นั้นเอง ไม่มีทางที่ 3 ให้เลือก!”

มิถิลาลอบมองหน้าศิขรนโรดม คิดในใจว่า ถ้ารู้ว่าตนเป็นใครจะทำอย่างไร? แต่อยู่ๆศิขรนโรดมก็มองหน้ามิถิลาอย่างใกล้ชิด เธอตกใจผงะ แต่แล้วศิขรนโรดมกลับ ดึงตัวเข้าไปกอดไว้ มิถิลาช็อกอยู่ในอ้อมกอดนั้น

ooooooo

อ่านละคร วันนี้ที่รอคอย ตอนที่ 5

หลังเหตุการณ์...

ภูสินทรรู้สึกผิดจนสมควรตาย สุริยะบอกว่าราชิดให้ลูกน้องเข้ามาเคลียร์พื้นที่ในโรงงาน อ้างว่าไม่มั่นใจว่าเราจะรักษาความปลอดภัยดีพอหรือไม่ ที่แท้เป็นแผนการของมัน

“เราเคยบอกแล้วว่าอย่าให้มีช่องโหว่” จ้าวซันขัดขึ้นอย่างทนไม่ไหว “ถ้าพวกมันไม่แน่จริง ตัวเราคงไม่ต้องออกมาร่อนเร่เป็นเจ้าไม่มีศาลอย่างนี้” ภูสินทรยอมรับผิดอีก จ้าวซันตัดบท “พอเถอะ! ขอให้ทุกคนเอาบทเรียนครั้งนี้จำใส่สมองไว้ว่า พวกมันมีแผนฆ่าองค์รัชทายาทแน่ๆ และที่สำคัญ ถ้าเราไม่มาเจอเหตุการณ์กับตัวเอง เราก็จะเพ้อไปว่า เราวางใจทุกคนได้ แต่ในความ เป็นจริง เราไว้ใจใครไม่ได้เลยจริงๆ”

ทุกคนซีดสนิท ทั้งรู้สึกผิดและละอายอย่างยิ่ง

ฝ่าย ราชิดกับโกศินคุยกันอย่างเจ็บใจที่ระเบียงกว้างบนโรงแรมสูง ที่อุตส่าห์วางแผนไว้อย่างแยบยลแต่กลับพลาด ต่างโทษว่าเพราะ “ไอ้ตัวเล็กนั่นตัวเดียว”

“แต่ไอ้คนงานย้อมไหมที่มาช่วยไอ้ทหารน้อย...คน นั้นท่าทางมันประหลาดๆ...หรือว่ามีคนที่โรงงานล่วงรู้แผนเรา” ราชิดตั้งข้อสังเกต แต่โกศินไม่เชื่อว่ามี ถ้ามีพวกนั้นก็ต้องหาทางป้องกันไว้ก่อนแล้ว เพราะถ้าพระองค์เป็นอะไรไป ความผิดจะตกอยู่กับโรงงาน

“ขนาดที่เมืองไทยเรายังทำไม่สำเร็จ แล้วที่ฮ่องกงล่ะ ทางการจีนมิเข้มงวดกว่านี้อีกหรือ” ราชิดยังกังวล

“ข้า จะย้ำกับคนที่นั่น ให้มันใช้วิธีที่หมดจดโหด-เหี้ยมกว่านี้ ต้องทำให้พระองค์สลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย ประดุจควันในอากาศ” โกศินจิกตาร้าย

พลันราชิดก็ยกมือไม่ให้พูดเพราะรู้สึกมีการเคลื่อนไหว หลังพุ่มไม้ แต่พอเดินไปดูเห็นแต่ใบไม้ไหวทั้งที่ไม่มีลมแต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ ทั้งสองจึงพากันเดินกลับเข้าข้างใน

ที่หลังพุ่มไม้ในเงามืด...ภูสินทรซุ่มเงียบกริบ มองตามราชิดกับโกศินไปอย่างแค้นใจ

ooooooo

ส่วน บราลีที่ยอมไปกับฉินเจียง ถูกฉินเจียงหลอก ล่อหว่านล้อมให้กินดื่มชวนคุยอย่างสนุกสนาน ระหว่างนั้นเกาเฟยก็แอบถ่ายคลิปส่งไปให้จ้าวซันดู

จ้าวซันถึงกับผงะ เมื่อเห็นภาพบราลีกับฉินเจียงที่พูดคุยชนแก้วกันอย่างยิ้มแย้ม ภาพเรียงรายเป็นอัลบั้มเลยทีเดียว ซ้ำเมื่อเจอกับผิงอัน เธอบอกว่าบราลีไม่มาสอนที่นี่อีกแล้ว ถ้าอยากเรียนก็ให้ไปที่บ้าน ทั้งยังฝากกุญแจรถคืนให้ด้วย จ้าวซันไปหาบราลีที่บ้านหลินจื้อเหม่ยทันที แล้วเขาก็ต้องอึ้ง เมื่อหลินจื้อเหม่ยบอกว่าบราลีเพิ่งออกไปกับฉินเจียงเมื่อครู่นี้เอง!

“แล้วทำไมเธอไม่ดูแลบรีให้ดี เธอไม่ใช่เพื่อนที่สนิทที่สุดของเขาเหรอ” จ้าวซันถามอย่างหัวเสีย

“แต่...บรีเขา...เหมือนหวาดระแวงจื้อเหม่ยน่ะค่ะถามอะไรก็ไม่ค่อยตอบ คุณชายใหญ่ลองโทร. ไปถามเขาเองสิคะ”

“ทำไม ฉันต้องโทร.!” จ้าวซันย้อนถามเสียงแข็ง เมื่อไปถึงห้องทำงาน เทเรซ่าเอาเอกสารมาให้เซ็นก็ไม่สนใจ สั่งให้โทร.ถามไท้เผ่งว่าอยู่ที่ไหน กำลังทำอะไร เทเรซ่าติงว่างานพวกนี้ไม่ต้องใช้ลายเซ็นไท้เผ่ง

“ฉันให้ตามไท้เผ่ง ไม่ใช่เรื่องงาน” จ้าวซันเสียงขุ่นตาขวาง จนเทเรซ่าไม่กล้าวอแวอีก รับคำแล้วรีบออกไป

ooooooo

ฉิน เจียงพาบราลีไปนั่งดื่มชาและกินขนมเค้กในร้าน บราลีบอกว่าถ้าเขาหมดธุระแล้วตนอยากกลับ แต่สุดท้ายก็แพ้ลูกตื๊อของฉินเจียงยอมนั่งกินเค้กดื่มชากับเขา

เทเรซ่ามา โทร.หาฉินเจียงครู่หนึ่งก็กลับไปรายงานจ้าวซันว่า ไท้เผ่งไม่ยอมรับสาย อึดใจเดียวฉินเจียงก็โทร.เข้ามือถือจ้าวซัน พูดกวนประสาทว่า เขาชอบแส่เรื่องของตนนัก วันนี้ตนเลยอยากตอบแทนแสดงความรักและเป็นห่วงเขาบ้าง

“แกหมายความว่าไง”

“บราลี ภีมะมนตรี เป็นผู้หญิงที่สวยน่ารักมีชีวิตชีวามากๆ สมแล้วที่เป็นผู้หญิงของจ้าวซัน ตั้งแต่ผมรู้จักพี่มา ผมไม่เห็นพี่สนใจผู้หญิงคนไหนเลย จนนึกว่าเป็นคู่เกย์กะไอ้เต๋อเป่าไปแล้วซะอีก ฮ่ะๆๆ ที่ไหนได้...พอพี่เปิดตัวผู้หญิงในสเปกออกมา เล่นเอาทุกคนตะลึงเลยนะครับ จ้าวซัน สมเป็นจ้าวซันจริง”

ฉินเจียงพูดยั่วหัวเราะเยาะแล้วกดวางสายทันที จ้าวซันทั้งเจ็บใจฉินเจียงและโมโหบราลีมาก พึมพำเครียด

“ทำตัวแบบนี้...มันใช่เหรอ ม่านฟ้า!!”
เทเรซ่าร้อนใจมาก กลัวจ้าวซันจะไม่เข้าประชุมบริษัทเพราะเลื่อนมาหลายครั้งแล้ว เห็นเต๋อเป่าเข้ามาก็ถามว่าเจอไท้เผ่งแล้วใช่ไหม เต๋อเป่าบอกว่ากำลังตามหาด้วยการแกะรอยมือถืออยู่

ที่ประตูไปลานจอดรถใน ห้างสรรพสินค้า ฉินเจียงเดินเคียงคู่บราลีออกมา ซูหลิงคู่ขาเขาเห็นเข้าพอดี เธอ แกล้งโทร.เข้ามือถือเขา ถามว่าตอนนี้อยู่ไหนอ้อนว่า อยากดูหนัง ฉินเจียงให้บราลีขึ้นไปนั่งรอในรถตัวเองเลี่ยงไปคุยโทรศัพท์

“เอิ่ม...คือ ตอนนี้คงไปดูไม่ได้หรอกนะที่รัก ผมอยู่ที่ออฟฟิศจ้า กำลังจะเข้าประชุมเดี๋ยวนี้ ประชุมใหญ่เสียด้วย คงยาวไปถึงค่ำนั่นแหละ”

ซู หลิงซักไซ้จับโกหกและก็จับได้คาตา เมื่อฉินเจียงบอกว่า ตนกำลังจะเข้าประชุม เดี๋ยวจะปิดเครื่องแล้ว มีเวลาจะโทร.หาแล้วเราค่อยไปดินเนอร์กัน ทำเสียงจุ๊บๆแล้วรีบขึ้นรถ เกาเฟยขับรถออกไปทันที ซูหลิงจิกตามองตาม อย่างแค้นใจ

ooooooo

สุริยะแปลกใจที่จู่ๆจ้าวซันก็โทรศัพท์สั่งให้ไป ฮ่องกงด่วน มาดูแลลูกสาวตัวเองเพราะตนคุยกับเธอไม่รู้เรื่องแล้ว สุริยะถามว่าทำไมไม่บอกความจริงกับบราลีเสียที จ้าวซันพูดอย่างเหนื่อยใจว่า

“ความจริงไม่ใช่สิ่งที่จะพูดกันง่ายๆนะคุณ คุณมาได้วันนี้เลยหรือเปล่า ก่อนออกเดินทางก็ช่วยบอกผมด้วย”

สั่งสุริยะแล้ว จ้าวซันเซ็นเอกสารที่เทเรซ่าเอามาให้เซ็นจนหมด ก็พอดีเต๋อเป่าเข้ามารายงานว่า

“ผลจากการแกะรอยมือถือคุณชายรอง ตอนนี้คุณชายรองอยู่ที่หน้าบริษัทครับ”

จ้าวซันลุกพรวดเดินอ้าวผ่านเทเรซ่ากับเต๋อเป่าไปเหมือนไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น

ที่ โถงชั้นล่างบริษัท ฉินเจียงกำลังพาบราลีเข้ามา เธอถามว่าทำไมไม่พาไปส่งบ้าน ฉินเจียงหลอกล่อถ่วงเวลาจนเห็นจ้าวซันเดินอ้าวมาก็แกล้งทำเป็นหยิบอะไรออก จากผมบราลี เธอปัดป้องอย่างถือตัว จ้าวซันอยู่ในมุมที่เห็นเหมือนฉินเจียงกำลังลวนลามบราลี เขาพุ่งเข้ากระชากฉินเจียงออกมาต่อยเปรี้ยง!

ฉินเจียงทำเป็นเจ็บเจียนตาย ร้องเสียงดังจนพนักงานพากันหันมอง เทเรซ่ากับเต๋อเป่าที่ตามมาต่างชะงักอึ้ง

“แก พาบราลีไปไหนมา! ถ้าแกไม่พอใจอะไรฉันแกก็มาเคลียร์กับฉันสิ ไปลงกับคนที่ไม่รู้เรื่องทำไม” แล้วหันไปถามบราลีว่า “คุณเป็นอะไรรึเปล่า” บราลีไม่สนใจกลับรีบเข้าประคองฉินเจียง หันมาถามจ้าวซันอย่างไม่พอใจว่าทำร้ายฉินเจียงทำไม เขาทำผิดอะไร จ้าวซัน
บอกว่า “มันหลอกลวงคุณ ลักพาตัวคุณ!”

“ลักพา ตัวอะไร หลอกลวงอะไร เขาแค่มาปรึกษา เรื่องจะจัดงานวันเกิดผิงอัน แล้ววันนี้ก็ขอร้องให้ฉันไปช่วยเลือกซื้อของขวัญวันเกิดให้ผิงอัน”

“โอย...” ฉินเจียงกุมหน้าสำออย “อีกสองวันจะถึงวันเกิดซายหมุยแล้ว พี่ชายใหญ่จำไม่ได้เหรอ อูยยย”

“ไม่ใช่ ตอนที่แกโทรศัพท์หาฉัน เจตนาไม่ใช่อย่างนี้ แกจงใจจะเอาคืน แกล้งปั่นหัวฉัน!”

ฉิน เจียงเค้นอารมณ์เล่นละครจนดูน่าสงสาร พูดดังๆให้คนแถวนั้นได้ยินกันทั่วว่า “พี่ชายใหญ่ ผมเคยบอกพี่แล้วไง ถ้าพี่อยากได้อะไร ผมยินดีจะยกให้พี่หมดทุกอย่าง พี่อยากเป็นไท้เผ่ง อยากได้ทรัพย์สมบัติของเต้ใช่ไหม เอาไปเลย ผมไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ผมขออย่างเดียว พี่อย่าทำเหมือนกับว่าผมเป็นศัตรูคู่แค้นของพี่ได้ไหม...อูยยยย”

“ฉินเจียง แกพูดเพ้ออะไร”

“พี่จำคำสั่งเสียของเต้ไม่ได้เหรอ ถึงเราจะต่างที่มาแต่เราทุกคนเป็นพี่น้องกัน”

“แก หยุดเสแสร้งเล่นละครได้แล้ว!!” จ้าวซันรู้ทัน กระชากฉินเจียงขึ้นมา บราลีสั่งให้ปล่อยฉินเจียงเดี๋ยวนี้ ประฌามเขาว่าชอบใช้กำลัง ไร้เหตุผลที่สุด ตนผิดหวังจริงๆ แล้วเดินไปประคองฉินเจียง ฝ่ายนั้นยิ่งอ้อนว่าตนโดนแบบนี้ประจำ

“เดี๋ยว...บราลี” จ้าวซันจะจับตัวมาคุยกันให้รู้เรื่อง บราลีเบี่ยงตัวหลบอย่างรังเกียจ พูดเกือบเป็นตวาด...

“หยุดนะ คุณควรอยู่ให้ไกลๆฉันไว้นะคะ จ้าวซันผู้ยิ่งใหญ่”

บราลีเดินฉับๆออกจากบริษัทไป ฉินเจียงสะใจนัก รีบตามไป จ้าวซันกลับเป็นฝ่ายยืนอึ้ง

ooooooo

ที่ มุมหนึ่งในบริษัทฉินเย่ว์กรุ๊ป เกาเฟยกับเหม่ยอิง แอบคุยกัน เกาเฟยสะใจที่ทำให้จ้าวซันโกรธจนเสียศูนย์ได้ แต่เหม่ยอิงกลับพึมพำเครียดว่า พี่ชายใหญ่รักมันจริง เกาเฟยดักคอว่าเธอหึงเขาหรือ?

“ไม่สำคัญหรอก ถ้าเอามันมาเป็นเครื่องมือให้ไอ้ฉินเจียงกระเด็นไปได้”

“คุณจะได้เป็นไท้เผ่ง?”

“จ้าวซันต่างหาก” เหม่ยอิงสวนไปทันที แล้วไล่ให้ไปจัดการทำให้ไท้เผ่งของเขาเหิมมากขึ้น ประมาทมากขึ้น มันจะได้ถึงจุดจบเร็วขึ้น
ที่ ถนนหน้าบริษัทนั่นเอง ผู้กองเหลียงมาดักพบบราลีขอคุยด้วย บอกว่าคุยกันสบายๆ อย่าคิดว่ามาสืบมาสอบอะไรเลย บราลีเคลียร์ตัวเองทุกแง่ทุกมุม ผู้กองฟังเธอพูดจนจบ จึงบอกว่า

“ผมแค่...อยากทราบว่า คุณรู้จักคุณชายจ้าวซันมากแค่ไหน รู้จักมานานหรือยัง อะไรทำนองนี้ แค่นั่นเอง”

บราลีใจหายวาบ ถามเสียงแผ่ว “จ้าวซัน...ตกลงเขาเป็น...พวกอาชญากร...จริงๆหรือคะ”

ผู้กองยิ้มกริ่มไม่ตอบ พากันไปนั่งที่สวนสาธารณะ บราลีจึงเล่าความสัมพันธ์ระหว่างตนกับจ้าวซันให้ฟังอย่างตรงไปตรงมาว่า เขาเป็นเพื่อนของพ่อ พ่อฝากให้เขามาช่วยดูแลขณะตนมาหาเพื่อนที่ฮ่องกงเท่านั้น นอกนั้นไม่ทราบอะไร

“เท่าที่คุณมองเห็นในตอนนี้ คุณคิดว่าจ้าวซันทำอะไรแปลกๆผิดปกติบ้างไหมครับ”

บราลีถึงกับหัวเราะออกมาถามว่าผู้กองถามจริงหรือถามเล่น แล้วเล่าขำๆว่า

“พฤติกรรม ผิดปกติของจ้าวซัน ดิฉันคงต้องขอบอกเลยค่ะว่าเพียบ...เขาเป็นคนแปลก...แปลกมาก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำ มันดูมีอะไรแอบแฝง มันเหลือเชื่อ เขาเหมือนจะรู้เรื่องทุกเรื่องของตัวคุณได้ ถ้าเขาอยากจะรู้ แต่อย่าถามว่าเขารู้ได้ยังไง เขาเหมือนคนเลว แต่เขาก็เหมือนคนที่ดีมาก บางทีก็มีลับลมคมในเหมือนกำลังทำอะไรผิดๆอยู่”

ผู้กองสนใจจี๋ถามว่าผิด กฎหมายหรือเปล่า บราลี บอกว่าตนไม่ทราบ แต่ตอนนี้ตนจะเลิกคบเขาแล้ว เพราะไม่ชอบแย่งผู้ชายกับใคร ผู้กองถามว่าเธอชอบเขาหรือ เพราะพูดเหมือนคนอกหัก บราลีมองขวับถามประชดว่า

“นี่คุณเป็นตำรวจ หรือที่ปรึกษาปัญหาชีวิตกันแน่”

ooooooo

เหม่ยอิงยังหาโอกาสอ่อยจ้าวซัน วันนี้เห็นเขาขรึมๆจึงเข้าไปนั่งคุย ถึงกับลูบไล้แขนถามว่าฉินเจียงทำอะไรให้หนักใจหรือเปล่า หรือกลุ้มเรื่องรับเสด็จเจ้าชายคีรีรัฐ ถามว่าตนช่วยอะไรได้ไหม

อ่านละคร วันนี้ที่รอคอย ตอนที่ 4-5 วันที่ 19 มิ.ย. 56

โดย บทประพันธ์โดย วราภา จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 7 โดย ปราณศักดิ์สวัสดิ์
กำกับการแสดงโดย : สยาม น่วมเศรษฐี
ควบคุมการผลิตโดย : บริษัท พอดีคำ จำกัด
โดยผู้จัด : ธงชัย ประสงค์สันติ/มณีรัตน์ ประสงค์สันติ
ออกอากาศเริ่มตอนแรก วันพฤหัสบดีที่ 13 มิ.ย. 2556
ที่มา ไทยรัฐ