อ่านละคร ไฟหวน ตอนที่ 11 วันที่ 10 มิ.ย. 56


อ่านละคร ไฟหวน ตอนที่ 11 วันที่ 10 มิ.ย. 56

“ทำไมคะ หรือว่าคุณหลงมันจนไม่ลืมหูลืมตา คิดจะเก็บมันเอาไว้ในบ้านให้เป็นเมียบ่าวอย่างคนก่อน...ฉันไม่ยอม!”

“เหลวไหลน่าคุณหญิง ผมไม่เคยคิดกับบุปผาในทางนั้นเลย”

“ไม่เคยคิด แต่ฉันเห็นกับตาตัวเองว่าคุณกอดมัน นี่ถ้าฉันไม่ลืมกระเป๋าสตางค์ไว้จนต้องย้อนกลับมาเอา ฉันก็คงจะถูกคุณสวมเขาให้เป็นอีโง่เง่าไปอีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้”

“มันก็คงเหมือนที่ผมโง่เง่ามานาน ที่คิดว่าแม่อุ่นถูกไฟคลอกตายนั่นแหละ บุปผาไม่ต้องออกไปไหนทั้งนั้น บุปผาต้องอยู่ที่นี่ในฐานะลูกสาวอีกคนหนึ่งของผม... บุปผาคือลูกสาวของผมที่เกิดกับแม่อุ่น”


คุณหญิงมณีตะลึงตะไล ไม่กล้าแย้งว่าอุ่นตายแล้วทั้งแม่ทั้งลูกเพราะกลัวความลับแตก ได้แต่มองหน้าบุปผากับนายพลเทพอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเป็นลมล้มตึง!

ooooooo

ด้านตาเถาที่วิ่งหนีตำรวจจนเสียหลักล้มไปโดนน้ำมันร้อนๆลวกตัวรับกรรมที่ตัวเองเคยทำไว้กับไอ้หลง...เวลานี้เขานอนดิ้นทุรนทุรายร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดอยู่ในโรงพยาบาล

ไอศูรย์ตรวจรักษาแล้วบอกเพชรว่าตาเถาอาการสาหัส ต้องให้พยาบาลเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนนายหลงก็ต้องยังรักษาตัวที่นี่ไปก่อน เพชรรับรู้และไม่วายพูดจาแดกดันไอศูรย์ว่าคงไม่ปล่อยให้นายหลงหนีไปได้อีก ไอศูรย์ได้ยินแล้วเหนื่อยใจแต่ก็ไม่ท้อที่จะทำดีกับเพชรต่อไป หวังว่าสักวันเขาจะเข้าใจและกลับมาเป็นมิตรกันเหมือนเดิม

เมื่อเพชรกลับไปที่โรงพักและทราบจากลูกน้องว่าค้นพบกระดาษจดเบอร์โทรศัพท์ในย่ามของตาเถา จึงลองโทร.ไปตามเบอร์นั้น ปรากฏว่าเสียงปลายสายบอกว่าบ้านเทพบริบาล นายตำรวจหนุ่มประหลาดใจและรีบวางสายทันที ทำเอาสวิงถือโทรศัพท์ค้างอย่างงงงวย

ฝ่ายสร้อยที่มุ่งหน้าไปบ้านตาเถาแล้วไม่พบใครแม้แต่คนเดียว ก็หงุดหงิดผิดหวังเพราะไม่ได้ยาตามที่คุณหญิงมณีต้องการ และเมื่อสร้อยจะกลับบ้านเดินผ่านตลาดได้ยินแม่ค้าคุยกันเรื่องตาเถาโดนน้ำมันลวกและตำรวจพาส่งโรงพยาบาล เธอจึงแวะไปดูให้เห็นกับตา

สภาพร่างกายของตาเถาผุพองน่าเกลียดน่ากลัวจนสร้อยสยองและอเนจอนาถใจ ดูได้ไม่นานก็ต้องถอยออกมา แล้วบ่นอย่างกลุ้มใจว่า

“ไอ้เถามันจะตายไหมเนี่ย ถ้ามันตาย ต่อไปเราจะไปเอายาจากที่ไหนไปให้ท่านนายพลกินกันล่ะ แต่ถ้ามันไม่ตาย...มันจะถูกตำรวจสอบเค้นเอาความแล้วพาเรากับคุณหญิงลำบากไหมเนี่ย”

สร้อยว้าวุ่นใจ พอกลับไปถึงบ้านเทพบริบาลรู้ เรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนตนเองไม่อยู่ก็แตกตื่นรีบวิ่งขึ้นไปบนตึก เห็นมัทนากำลังพัดวีคุณหญิงมณีที่เป็นลม โดยมีนายพลเทพกับบุปผาอยู่ด้วย

“คุณพ่อขา...เล่าเรื่องแม่อุ่นให้มัทฟังหน่อยสิคะ”

“ไหนๆเรื่องมันก็มาถึงตรงนี้แล้ว ลูกก็ควรจะรู้ ความจริงบางอย่างเสียที แม่อุ่นเป็นเมียอีกคนหนึ่งของพ่อ”

คุณหญิงมณีลืมตาโพลง ลุกพรวดพุ่งไปตบตีสามีด้วยความแค้นใจ พร้อมกับโวยวายต่อว่าต่อขานยกใหญ่ มัทนาห้ามก็ไม่ฟัง แถมยังถูกผลักกระเด็นออกมา สร้อยจึงเข้ามาแทน ส่วนบุปผาเอาแต่นั่งมองอย่างเดียว

สร้อยแยกตัวคุณหญิงออกจากนายพลเทพ แต่กระนั้นทั้งคู่ก็ยังทุ่มเถียงกันต่อไปด้วยเรื่องของอุ่นที่ นายพลเทพเล่าว่าอุ่นท้องทีหลังคุณหญิง

“แต่แม่นั่นมันตายทั้งกลมไปแล้ว แล้วนังบุปผามันจะเป็นลูกของคุณอีกคนได้ยังไง”

“แม่อุ่นไม่ได้ตายทั้งกลม แต่คลอดลูกก่อนกำหนด เด็กจึงไม่ร้องอย่างปกติ เลยมีคนพาเด็กไปหาหมอ ลูกของผมกับแม่อุ่นจึงรอดตายจากกองไฟมาได้ก็เพราะเหตุนี้แหละ”

คุณหญิงมณีหันขวับไปจ้องสร้อยที่บัดนี้หน้าซีดหน้าเสีย...พลันคุณหญิงมณีก็นึกถึงคำพูดของคุณชไมที่เคยบอกไว้ว่าให้เธอระวังลูกของท่านนายพลที่เกิดกับหญิงอื่น เพราะเขาจะย้อนกลับมาทำร้ายลูกของเธอจนถึงแก่ชีวิตในภายหลัง...คิดแล้วก็หวาดหวั่นกลัวคำทำนายของคุณชไมจะเป็นจริง คุณหญิงมณีถึงกับตะเบ็งเสียงคัดค้านสามี

“ไม่จริง! ฉันไม่เชื่อ เด็กนั่นมันตายไปแล้ว ตายไปพร้อมกับแม่ของมันตั้งแต่วันที่มันเกิดนั่นแหละ”

“ใช่ค่ะ แล้วถ้ามันเป็นลูกของท่านนายพลจริงๆ มันจะเป็นพี่น้องกับไอ้สินได้ยังไงกันล่ะคะท่าน ก็ไอ้สินมันเพิ่งไปรับตัวมาจากบ้านนอกมาอยู่ที่นี่” สร้อยเสริมขึ้น

“แต่ฉันมีคนที่จะยืนยันได้ว่าทุกอย่างที่ฉันพูดไปเป็นความจริง”

“ใครคะ ใครจะยืนยันได้” คุณหญิงมณีจ้องหน้านายพลเทพอย่างสงสัย นายพลเทพไม่ตอบแต่หันไปบอกมัทนาให้โทร.หาไอศูรย์ ส่วนตัวเขาเองก็สั่งการไปทางดำเกิงให้พาผกามาที่นี่

ผกามาถึงก่อน สร้อยเห็นแล้วพูดโพล่งอย่างจำได้ว่าหญิงคนนี้คือแม่เล้าจากซ่องหอโคมแดง คุณหญิงมณีแทบกรี๊ด โกรธจนหน้าดำหน้าแดง

“คุณกล้าเอาผู้หญิงพรรค์นี้เข้ามาเหยียบบ้านเราได้ยังไงกันคะ เสนียดจัญไร”

“คุณหญิง! มารยาททางสังคมสวยหรูของคุณมันหายไปไหนหมด”

“มารยาททางสังคมของฉันมันมีไว้ใช้เฉพาะกับคนดีๆเท่านั้นล่ะค่ะ แล้วนี่คุณเอามันมาทำไม”

“เดี๋ยวคุณก็รู้ รอพ่อต้นก่อน”

ไอศูรย์ออกจากโรงพยาบาลแล้วกลับไปรับอิ่มที่บ้านเพื่อพาตัวมาบ้านเทพบริบาลตามความต้องการของ นายพลเทพ อิ่มนึกรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ยังไม่ปริปากบอกไอศูรย์ที่พยายามซักถามมาตลอดทาง กระทั่งทุกคนมาเผชิญ หน้ากัน และท่านนายพลก็ให้ไอศูรย์ร่วมรับฟังอยู่ด้วย เพราะอีกไม่นานเขาก็จะเกี่ยวดองกับครอบครัวของตน

“อิ่มเป็นพี่สาวแท้ๆของอุ่น และเป็นคนที่พาลูกที่เกิดก่อนกำหนดของอุ่นไปหาหมอ ทำให้ลูกของฉันรอดตายจากกองไฟ” นายพลเทพเปิดฉากจนทุกคนในที่นั้นตะลึงงัน “แต่อิ่มถูกรถของผกาชนเข้า ก็เลยทำให้อิ่ม ฟั่นเฟือนไป ฉันจึงให้คนออกสืบตามหาอิ่มกับลูกของฉันที่เกิดจากอุ่น จนในที่สุดฉันก็ได้รู้ว่าผการับอุปการะลูกของฉันไป และลูกของฉันคนนั้นก็คือบุปผา”

“เจริญละ! นังบุปผามีแม่เล้ารับอุปการะ” คุณหญิง มณีเค้นเสียงอย่างดูถูกเหยียดหยาม ขณะที่สร้อยปะติด ปะต่อเรื่องได้อย่างรวดเร็ว

“สร้อยนึกออกแล้วค่ะคุณหญิง ไอ้แสงมันเคยบอกว่านังบุปผามันเป็นผู้หญิงหยำฉ่า”

“ไม่จริงค่ะ” ผกาสวนทันควัน “ดิฉันรับอุปการะบุปผามาก็เพราะตอนนั้นเห็นว่าเด็กไม่มีใครแล้ว แต่ดิฉันก็รู้ว่าไม่ควรให้เด็กผู้หญิงเติบโตในที่ที่ดิฉันอยู่ ดิฉันก็เลยส่งเขาไปให้คนรู้จักที่ต่างจังหวัดเลี้ยงดูแทน ซึ่งคนรู้จักของดิฉันที่ว่าก็คือพ่อแม่ของนายสิน”

คุณหญิงมณีเริ่มหน้าเสีย ส่วนสร้อยก้มหน้างุด เพิ่งรู้ตัวว่าตนทำพลาดไปแล้ว ไม่สามารถกำจัดอุ่นและลูกได้เรียบร้อยตามคำสั่งคุณหญิงมณี

“นายสินเป็นอัมพาต พูดไม่ได้ ไม่งั้นมันคงจะยืนยันได้ว่าความจริงคืออะไร”

เมื่อคุณหญิงมณียังไม่เชื่อ นายพลเทพจึงให้อิ่ม ยืนยันเรื่องปานแดงที่ต้นขาบุปผา ผกาเองก็รู้เรื่องนี้ ดังนั้นสองเสียงจึงมีน้ำหนักยิ่งขึ้น

“และวันนี้ฉันก็ได้เห็นปานแดงที่ขาของบุปผาด้วยตาของตัวเอง ฉันถึงได้แน่ใจว่าบุปผาคือลูกสาวของฉันที่เกิดกับแม่อุ่นจริงๆ และบุปผาคือน้องสาวของยายมัท”

มัทนาสีหน้ายินดี ต่างจากคุณหญิงมณีลิบลับ เธอ รับไม่ได้ ตบหน้านายพลเทพสุดแรง ท่ามกลางความตกใจของทุกคน

“คุณเลวมาก! ฉันผิดหวังในตัวคุณจริงๆ คุณรู้ไหมว่าสิ่งที่คุณทำมันจะทำลายครอบครัวเรา”

“ไม่ว่าคุณจะยอมรับหรือไม่ แต่ต่อจากนี้ไป บุปผาจะอยู่ที่นี่ในฐานะลูกสาวของผม และเป็นคนหนึ่งในตระกูลเทพบริบาล”

คุณหญิงมณีทนไม่ไหวเดินปึงปังออกไปหยุดยืนหายใจแรง ทั้งแค้นใจและกลัวว่าคำทำนายของคุณชไมจะเป็นจริง ถึงกับกรีดร้องออกมาอย่างสุดกลั้น...ส่วนคนอื่นๆ ยังอยู่ที่เดิม มัทนายินดีที่มีน้องสาว บุปผารู้งานรีบยกมือ ไหว้มัทนาและเรียกพี่อย่างที่เธอต้องการ นายพลเทพยิ้มพอใจก่อนหันไปขอบใจผกาที่เลี้ยงบุปผาไว้

“ไม่ต้องขอบใจอะไรดิฉันหรอกค่ะ มันเป็นบุญวาสนาของบุปผาเองมากกว่า ถึงแม้ว่าจะเคราะห์ร้าย แม่ที่แท้จริงตายเสียตั้งแต่วันที่เขาเกิด แต่บุญวาสนาก็ทำให้เขาได้พบกับท่าน ซึ่งเป็นพ่อที่แท้จริงของเขาจนได้ในที่สุด”

“พ่อต้นจะว่ายังไงถ้าลุงจะขอตัวแม่อิ่มให้ย้ายมาอยู่เสียที่บ้านนี้ เพราะถึงอย่างไรอิ่มก็เป็นป้าที่แท้จริงของบุปผา”

“ผมไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ ผมแล้วแต่ป้าอิ่มจะตัดสินใจครับ”

เมื่อไอศูรย์เปิดทางขนาดนี้มีหรืออิ่มจะปฏิเสธ ฝ่ายบุปผาก็ดีใจจนยิ้มไม่หุบ ที่บุญหล่นทับโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว...

อ่านละคร ไฟหวน ตอนที่ 11 วันที่ 10 มิ.ย. 56

ละครเรื่อง ไฟหวน บทประพันธ์โดย ฐา-นวดี สถิตยุทธการ
ละครเรื่อง ไฟหวน บทโทรทัศน์โดย ฐา-นวดี สถิตยุทธการ
ละครเรื่อง ไฟหวน กำกับการแสดงโดย มารุต สาโรวาท
ละครเรื่อง ไฟหวน ผลิตโดย บริษัท มาสเคอเรด จำกัด โดย มารุต สาโรวาท
ละครเรื่อง ไฟหวน เป็นละครแนว ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง ไฟหวน ออกอากาศทุกวันศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ