อ่านละคร วันนี้ที่รอคอย ตอนที่ 7 วันที่ 25 มิ.ย. 56
ผิงอันแปลให้ฟัง บราลีก้มหน้าขนลุกซู่ เอ่ยอย่างตีบตื้นในลำคอ “ขอบ...ขอบพระคุณค่ะ”“เจ้าหญิงต้องประทับเคียงข้างองค์ชายเสมอ องค์ชายจะปลอดภัย เมื่อมีเจ้าหญิงอยู่ด้วย”
ผิงอันพึมพำกับตัวเองว่าแปลกจัง แล้วองค์ชายไหนอีกล่ะ แม่ใหญ่ก็ยังพูดต่อว่า...
“ต่อไป คนตระกูลจ้าวจะไม่เหลือใคร ขอให้เจ้าหญิงกับองค์ชาย ช่วยดูแลซายหมุยด้วย”
ผิงอันอุทานว่าน่ากลัวจัง แม่สี่ถามว่าทำไมแม่ใหญ่พูดแบบนี้ ส่วนบราลีฟังไม่ออกถามว่าอะไรหรือ ผิงอันจึงเล่าให้ฟังแล้วบอกว่าสงสัยท่านจะเพ้อไปแล้ว บราลีช้อนตามองจ้าวไทไท ท่านมองตอบด้วยดวงตากระจ่างแจ่มจ้าไม่มีเค้าว่าป่วยหรือเพ้อเลย...
“คุณไม่ใช่คนนอก จ้าวไทไทฝากพวกเราไว้กับคุณ” แม่สี่พูดจริงจัง ทั้งยังบอกว่า “จ้าวไทไทไม่ใช่คนธรรมดา” ผิงอันเข้าไปกระซิบกับบราลีว่า ใครๆก็รู้ว่าแม่ใหญ่เป็นแม่มด ทำเอาบราลีตกใจตาโต
ผิงอันกับแม่สี่ยังพูดอย่างวิตกกังวลว่า แม่ใหญ่บอกว่าตระกูลจ้าวจะไม่เหลือใคร พูดชัดๆจะจะเมื่อกี้นี้เอง!
“ถ้าแม่ใหญ่พูดอะไร มันจะต้องเป็นความจริงทุกๆ อย่าง อาม่าเห็นมามากแล้ว ฮือๆๆน่ากลัว...น่ากลัวเหลือเกิน จะเกิดอะไรขึ้นกับบ้านนี้หรือคะ...อาม่ากลัว...”
ทุกคนอึ้ง บราลีที่เพิ่งรับรู้ถึงกับซีดสนิท
ooooooo
อากงปล่อยให้เหม่ยอิงอยู่กับจ้าวซันจนเห็นสมควรแก่เวลา จึงเข้าไปเชิญเธอไปพักผ่อน ตนจะดูแลคุณชายเอง
พอเหม่ยอิงเดินหน้าง้ำออกไป อากงจึงบอกจ้าวซันว่า รถของซื่อฉวนถูกปล้นเมื่อคืน คนขับรถชื่อเจิ้นจงหายตัวไป จ้าวซันหน้าเครียด บอกว่าถ้าส่งของไม่ทันคราวนี้เราเสียหายหนักแน่ อากงถามว่า “คุณชายคิดว่าเป็นฝีมือใคร” แล้วหันมองหน้าเต๋อเป่าแบบคิดเหมือนกัน แล้วบอกว่า “อากงว่าคงไม่ใช่คนอื่นคนไกลแน่ๆ”
ครู่เดียวมือถือของจ้าวซันดังขึ้น เป็นสายจากผู้กองเหลียงแจ้งว่าพบศพที่ต้องสงสัยแล้ว อากงเอาเสื้อแจ็กเกตให้จ้าวซันรับแล้วรีบออกไปกันทันที
เมื่อไปถึงป่าละเมาะที่พบศพ อเล็กซ์แจ้งว่าคนร้ายทำลายหน้าศพเละจนจำไม่ได้ ทั้งยังไม่มีหลักฐานติดตัวด้วย แต่พอเต๋อเป่าเข้าไปดู ก็ยืนยันว่าเป็นศพของเจิ้นจง อาหลี่ยืนยันอีกคน แล้วเต๋อเป่าก็โพล่งออกมาว่า
“ผมรู้ว่าจะหาเบาะแสได้ที่ไหน...ตามผมมา”
เต๋อเป่านำจ้าวซันกับอาหลี่ไปที่โรงน้ำชาในตรอกแออัดเต็มไปด้วยขี้เมาและขี้ยา ทุกคนมองมาที่ทั้งสามเป็นตาเดียว
ระหว่างนั้นมีหัวขโมยย่องมากรีดกระเป๋าจ้าวซัน เขารู้ตัวแต่ไม่เอาเรื่องก็ยังถูกหัวขโมยคนนั้นมองอย่าง อาฆาต
เต๋อเป่าเล่าระหว่างเดินเข้าไปว่า เจิ้นจงมีพี่น้องร่วมสาบานชื่อเสี่ยวจู ทั้งคู่มาจากจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อสามสิบกว่าปีมาแล้ว เสี่ยวจูเป็นคนคุมคิวรถบรรทุกของสื้อฉวน แต่พอทั้งสามไปถึงบ้านเสี่ยวจู ปรากฏว่าเขาถูกฆ่าตายไปแล้ว!
ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนบอกกันว่า “หมาต๋า... หมาต๋า หมาต๋ามาโว้ย...” แล้วผู้คนก็วิ่งหนีกันอลหม่าน ทันใดนั้น หัวขโมยที่ถูกจ้าวซันจับได้ก็วิ่งมาชี้ตัวจ้าวซัน บอกผู้กองเหลียงที่นำตำรวจมาว่า ตนเห็นคนนี้ฆ่าเสี่ยวจู
แต่ตำรวจก็เอาผิดจ้าวซันไม่ได้เพราะเขาไปถึงที่นั่นหลังจากเสี่ยวจูถูกฆ่าแล้ว แต่ก็ยังมีประเด็นที่ทำให้ต้องพัวพันจนได้ เมื่ออเล็กซ์เชื่อว่าคนที่ฆ่าเสี่ยวจูคือคนที่ปล้นรถบริษัทสื้อฉวนและปักใจเชื่อว่าจ้าวซันปล้นบริษัทตัวเอง อเล็กซ์ถามดักคอว่าแล้วทำไมเสี่ยวจูต้องมาตายด้วย
จ้าวซันคาดว่าเสี่ยวจูอาจจะขายตารางเวลารถ ให้ใคร จนคนมาดักได้ตรงตามเวลาที่จุดนั้น อเล็กซ์ยิ้มเย้ยพูดเยาะว่า
“คุณชายดูเหมือนจะรู้ทุกอย่างก่อนตำรวจ 1 ก้าวเสมอ แต่ทำไม...คนระดับคุณชายถึงพลาดให้รถขนของของบริษัทสื้อฉวนโดนปล้นได้” แล้วอเล็กซ์ก็ขู่ว่าถ้าตนมีพยานหลักฐานครบเมื่อไรเขาจมธรณีแน่!
ooooooo
จ้าวซันกลับไปที่โรงงานสื้อฉวนในตอนดึก เขาพูดผ่านเสียงตามสาย เรียกพนักงานไปรวมตัวกันข้างล่าง
จ้าวซันแจ้งถึงสถานการณ์ของบริษัทที่ถูกปล้นของลอตที่จะส่งไปออสเตรเลีย ถ้าเราทำส่งไม่ทัน ชื่อเสียงบริษัทจะเสียหายมาก เขาปลุกระดมทุกคนให้ช่วยกันกู้สถานการณ์นี้ คนงานทุกคนพร้อมใจสู้
เพื่อให้ของไปถึงตามกำหนดจ้าวซันยอมส่งของทางเครื่องบิน
การปลุกระดมและตัดสินใจอย่างเด็ดขาดของ จ้าวซัน ได้รับเสียงตอบรับอย่างเข้มแข็งจากพนักงาน
เหม่ยอิงเข้ามาที่โรงงาน แสดงความเห็นใจจ้าวซันที่ยังไม่หายป่วยดีก็ต้องมาเจอกับเรื่องร้ายแรงนี้ อาสาจะช่วยเขาโดยขึ้นไปประกาศที่เสียงตามสายว่าตนจัดโจ๊กมาให้ทุกคนกินกัน แล้วเรียกทุกคนไปกิน เลยได้ใจจากคนงานไปมากมาย
คืนเดียวกัน เมื่อบราลีกลับถึงบ้านหลินจื้อเหม่ย ปรากฏว่ามีขโมยขึ้นบ้าน แต่น่าแปลกที่ขโมยรายนี้ไม่เอาของอะไรไปเลยนอกจากรื้อค้นข้าวของกระจุย กระจายเหมือนค้นหาอะไรบางอย่างเกี่ยวกับตัวบราลีโดยเฉพาะ
เมื่อจ้าวซันรู้ข่าวก็รีบมาทันที ถามหลินจื้อเหม่ยว่ามันเข้ามาทางไหน เธอบอกว่าเข้ามาทางดาดฟ้าเพราะประตูโดนงัด
“เขามาได้ยังไง เขาป่วย แต่เธอก็ไปจิกเขามางั้นเหรอ” บราลีถามหลินจื้อเหม่ยอย่างตำหนิ
“เขาให้ฉันรายงานเขาทุกอย่างนี่ บรี...เรื่องสำคัญแบบนี้ ไม่บอกไม่ได้”
เมื่อจ้าวซันขึ้นไปดูร่องรอยบนดาดฟ้าแล้ว เขาบอกบราลีว่าเธอไม่ควรอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว เพราะนอกจากผู้กองเหลียงแล้ว สงสัยจะมีผู้ร้ายคอยตามเธอด้วย บราลีถามว่าทำไมต้องตามตน
“อาจจะเป็นความผิดของผมก็ได้ ตอนนี้ทุกอย่างรอบตัวผมมันผิดพลาดไปหมด คุณเกือบตายเพราะนั่งรถไปกับผมแล้วมันจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก”
จ้าวซันยังไม่ให้หลินจื้อเหม่ยแจ้งตำรวจ เพราะรู้สึกว่าตำรวจจะมายุ่งกับตนมากไปแล้ว บอกว่าคงต้องให้ใครมารับบราลีกลับเมืองไทยเสียแล้ว บราลีถามว่าพ่อตนหรือเพราะพ่อทำงานกับเขาอยู่แต่ทำไมตนติดต่อพ่อไม่ได้ จ้าวซันพึมพำว่าแผนทุกอย่างคงจะต้องเปลี่ยน บราลีถามว่าแผนอะไร “แผน...งาน...รับเสด็จ...ผม...ผม...”
ทันใดนั้น จ้าวซันเกิดอาการเซจะล้ม ดีแต่หลินจื้อ–เหม่ยกับบราลีรับไว้ทัน
ooooooo
หลินจื้อเหม่ยกับบราลีช่วยกันประคองจ้าวซันลงมาชั้นล่าง บราลีเสนอให้เรียกรถพยาบาล จ้าวซันที่อ่อนเพลียมากพยายามห้าม
“อย่า...ไม่...อย่าเรียกรถพยาบาล อย่าบอกใคร ทั้งนั้น”
หลินจื้อเหม่ยบอกบราลีช่วยกันประคองจ้าวซันไปที่โซฟา ให้เขานอนลง บราลีนั่งที่โซฟา หลินจื้อเหม่ยจึงประคองจ้าวซันให้นอนหนุนตัก บราลีจะไปหาหมอน มาให้ จ้าวซันรั้งไว้บอกว่าไม่เป็นไรตนไหว ทำท่าจะลุก ถูกหลินจื้อเหม่ยกดลงไปอีก สั่งดุๆ ให้นอนลงก่อน แล้วตัวเองก็รีบไปหาน้ำดื่มมาให้
“อื้อ...จื้อเหม่ยนี่รอบคอบดีจริงๆ ถ้าให้นอนอย่างนี้ ผมก็ไม่ลุกไปไหนแล้วล่ะ” พูดแล้วทำท่านอนสบาย
บราลีทำเสียงดุว่ายังจะมาทำตลกอีก ตำหนิว่ายังไม่หายดีไม่ควรออกจากโรงพยาบาลด้วยซ้ำ ถามว่ามียาอะไรติดตัวมาบ้างหรือเปล่า จ้าวซันกุมมือบราลีทำหน้าตายบอกว่า
“ไม่มี...แต่ผมมียาใจแล้ว”
“ทำบ๊องไปได้” บราลีอยากจะทุบสักอั้กแต่ทำไม่ได้
“อย่าทิ้งผมไปอีกนะบรี เป็นเทพประจำตัวผม ช่วยพิทักษ์ปกป้องผมด้วย”
บราลีอึ้ง ขนลุก คิดถึงคำพูดของจ้าวไทไททันที ก้มมองหน้าจ้าวซันที่หลับตาลงอย่างอุ่นใจ มือยังกุมมือเธอไม่ปล่อย ส่วนหลินจื้อเหม่ยที่ทำทีเข้าครัว แอบโผล่มาดูเห็นภาพนั้นแล้วกลั้นหัวเราะคิกคัก รีบหลบเข้าครัว
บราลีปล่อยให้จ้าวซันนอนหนุนตักกุมมือไว้อย่างนั้น ด้วยความเต็มใจ...
ooooooo
เหม่ยอิงยังดำเนินแผนของตนต่อเนื่องอย่างลับๆ วันนี้ เธอนัดเกาเฟยไปพบที่หน้าผาริมทะเล เอาตัวอย่างผ้าให้ดูสั่งให้กว้านซื้อมาอย่างละ 5 พับ ห้ามผิดเพี้ยนจากตัวอย่างแม้แต่นิดเดียว
สั่งให้ซื้อผ้าแล้ว เหม่ยอิงถามว่าฉินเจียงได้เงินค่าอาวุธหรือยัง เกาเฟยบอกว่างวดแรกน่าจะโอนเข้า วันนี้ ส่วนงวดสุดท้ายน่าจะเป็นวันที่องค์ชายเสด็จกลับ
“และมันก็จะเป็นวันสุดท้ายของไท้เผ่งด้วยเหมือนกัน หึๆ! เสี้ยมให้เขาสองคนสู้กันเอง เราแค่นอนรอรับผลประโยชน์อย่างเดียว” เหม่ยอิงหัวเราะในลำคอจิกตาเหี้ยมจนเกาเฟยนึกขยาด
ระหว่างเกาเฟยขี่มอเตอร์ไซค์กลับนั่นเอง ถูก เต๋อเป่าติดตาม พอเกาเฟยรู้ตัวจึงเกิดการไล่ล่ากันด้วยมอเตอร์ไซค์ทั้งบนถนน จนลงไปริมหาด เต๋อเป่าพลาดท่าถูกเกาเฟยชักปืนจะยิง เขายอมแลกตายเป็นตายพุ่งเข้าหา ถูกเกาเฟยยิงทันที แต่กระสุนด้าน ครั้นคิดจะหนีรถเกิดสตาร์ตไม่ติดอีก
ทันใดนั้นมีเสียงปืนดังขึ้น ทั้งสองมองไปเห็นรถตู้คันหนึ่งมาจอดที่ถนน เกาเฟยจำได้วิ่งไปขึ้นรถ ตะโกนบอกเต๋อเป่าว่า “ฝากไว้ก่อน!” แล้วขึ้นรถหนีไป เต๋อเป่ามองตามงงๆ สงสัยว่าเกาเฟยแอบมาพบใครที่นี่
จ้าวซันยังอยู่ที่บ้านหลินจื้อเหม่ย กำลังคุยกับภูสินทรหรือเมืองเทพอยู่ ระหว่างนั้นเขาได้รับโทรศัพท์จากเทเรซ่า
“เทเรซ่า...มีอะไร...จริงเหรอ...งั้นเหรอ ดี...ตกลงๆๆ” พอวางสายจากเทเรซ่า จ้าวซันบอกภูสินทรว่า “ท่านนายพลราชิดประสานมาว่า พรุ่งนี้ศิขรนโรดมพร้อมที่จะทรงทำทุกกิจกรรมตามหมายกำหนดการเดิมทุกอย่างแล้ว”
“ว่าแล้ว! พวกมันไม่ยอมเสียเวลาที่จะเดินทาง กลับคีรีรัฐเกินกำหนดแน่ๆ”
ทันใดนั้น เต๋อเป่าเข้ามาในสภาพสะบักสะบอม จ้าวซันตกใจถามว่าไปโดนหมาที่ไหนฟัดมา
“ไอ้หมาเกาเฟยตัวเดิมนั่นแหละครับ ตกลงผมก็ยังไม่รู้ว่ามันไปพบใคร ผมได้แต่รอมันอยู่ห่างๆ เพราะตรงนั้นเป็นที่โล่ง ตามมันเข้าไปใกล้กว่านั้นไม่ได้ แต่ผมจะลองหาทางอีกที คุณชายไม่ต้องห่วง คราวหน้าผมจะรู้ให้ได้ว่า เกาเฟยไปพบใครนอกจากไท้เผ่งนายมันแล้ว มันรับใช้ใครอีก”
“เห็นไหม ว่าเราต้องรับศึกหลายทางเหลือเกิน” จ้าวซันหัวเราะสมเพชตัวเอง ภูสินทรกับเต๋อเป่า มองหน้ากันอย่างเป็นห่วงเจ้านาย แต่หลินจื้อเหม่ยกับบราลี ที่แอบดูจากในครัวเห็นจ้าวซันหัวเราะก็ส่ายหน้ากันแบบ ไม่รู้เขาขำอะไร
อ่านละคร วันนี้ที่รอคอย ตอนที่ 7 วันที่ 25 มิ.ย. 56
โดย บทประพันธ์โดย วราภา จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 7 โดย ปราณศักดิ์สวัสดิ์กำกับการแสดงโดย : สยาม น่วมเศรษฐี
ควบคุมการผลิตโดย : บริษัท พอดีคำ จำกัด
โดยผู้จัด : ธงชัย ประสงค์สันติ/มณีรัตน์ ประสงค์สันติ
ออกอากาศเริ่มตอนแรก วันพฤหัสบดีที่ 13 มิ.ย. 2556
ที่มา ไทยรัฐ