อ่านละคร วันนี้ที่รอคอย ตอนที่ 6-7 วันที่ 23 มิ.ย. 56

อ่านละคร วันนี้ที่รอคอย ตอนที่ 6

หลังจากส่งโกศินไปวางแผนที่ฮ่องกงแล้วราชิดอ้างแผนสับขาหลอกฝ่ายตรงข้ามที่เชื่อว่ามีน่านปิงนรเทพอยู่เบื้องหลังการก่อการร้าย เพื่อความปลอดภัยของพระองค์จึงจัดการเดินทางเป็นสองขบวน

ขบวนแรกราชิดนำศิขรนโรดมกับมิถิลาล่วงหน้าไปก่อนเงียบๆ

ที่ฮ่องกง เหม่ยอิงสั่งเกาเฟยให้หาทางถ่วงเวลาไม่ให้จ้าวซันไปรับศิขรนโรดมทัน เพื่อตนจะได้เป็นตัวแทนไปรับเมื่อเห็นจ้าวซันขับรถออกไปกับบราลี เหม่ยอิงโทร.บอกเกาเฟยให้ทำตามแผนทันที เกาเฟยให้ไอ้สือและอาเหาเป็นคนลงมือกำชับว่า “ทำตามแผน แล้วก็อย่าให้พลาด” แล้วตัวเองก็เอาหมวกกันน็อกสีดำใส่ กระโดดขี่มอเตอร์ไซค์ย้อนกลับไปอย่างรวดเร็ว


ไอ้สือกับอาเหาขับรถบรรทุกสีขาวแล่นสวนรถของจ้าวซันมาอย่างรวดเร็ว แล้วเร่งแซงรถที่ขับอยู่ข้างหน้า เป็นจังหวะที่จ้าวซันสังเกตเห็นรถมอเตอร์ไซค์ขี่ตามมาอย่างมีพิรุธจึง โทร.เรียกเต๋อเป่า พอเงยหน้าเห็นรถบรรทุกสีขาวแซงสวนมาในระยะกระชั้นชิด กำลังจะประสานงา!


วินาทีนั้นจ้าวซันตัดสินใจหักหลบแต่มาเจอรถ มอเตอร์ไซค์เบียดข้างอีก เขาตัดสินใจหักรถลงข้างทางรถตกกลิ้งไปหลายตลบ รถบรรทุกสีขาวขับผ่านไปอย่างเร็ว เกาเฟยที่ขับมอเตอร์ไซค์เบียดมา วนรถกลับมาดูผลงาน ยิ้มสะใจก่อนขับไป

รถจ้าวซันบุบบู้บี้มีควันลอยจากเครื่องยนต์ บราลี หัวแตกรีบลุกมาดูเห็นจ้าวซันคอพับฟุบอยู่กับพวงมาลัย! โชคดีที่เต๋อเป่ามาถึงพอดีจึงรีบพาจ้าวซันส่งโรงพยาบาล

ooooooo

ราชิดพาศิขรนโรดมกับมิถิลามาถึงสนามบินด้วยเครื่องบินส่วนตัวที่ฮ่องกง เหม่ยอิงมารับในนามตัวแทนบริษัทฉินเย่ว์กรุ๊ปและเป็นน้องสาวของจ้าวซัน
ศิขรนโรดมเอะใจถามถึงจ้าวซัน เหม่ยอิงอ้างว่าติดธุระด่วนไม่สามารถมารับเสด็จได้ อ้างสิทธิของตนที่จะจัดการทุกอย่างแทนพี่ชายได้ แล้วรีบเชิญออกจากสนามบินทันที

“เกิดอะไรขึ้นกับ...” ศิขรนโรดมพึมพำ...กังวล มิถิลา กระซิบเตือนให้ระวังพระองค์ไม่ให้มีพิรุธ แล้วพากันไป

เมื่อมาถึงสมาคมพ่อค้าฮ่องกง ศิขรนโรดมถามเหม่ยอิงว่าติดต่อจ้าวซันหรือยังว่าเขาติดอะไรทำไมจึงยังไม่มาอีก เหม่ยอิงอ้างธุระด่วนตามเคย ศิขรนโรดมจึงขอให้โทร.ตามให้มาตอนนี้เลยได้ไหม เพราะจ้าวซันเป็นคนเชิญมาแต่ไม่มารับด้วยตนเอง เป็นเรื่องแปลกมาก

ระหว่างนั้น ผิงอันโทร.เข้ามือถือของเหม่ยอิงแต่เธอไม่รับสายจนผิงอันโทร.มาไม่หยุดจึงกดรับอย่างหงุดหงิด ผิงอันเล่าไปร้องไห้ไปว่าจ้าวซันประสบอุบัติเหตุอยู่ในห้องฉุกเฉินนานแล้วยังไม่ออกมาเลย เหม่ยอิงตกใจมากรีบไปที่โรงพยาบาล เจอบราลีที่ทำแผลถลอกแล้วก็ตรงเข้าผลักจนล้มหาว่าเพราะเธอที่ทำให้จ้าวซันขับรถเองจนประสบอุบัติเหตุ

ที่มุมหนึ่ง เกาเฟยมาแอบดูสถานการณ์ เมื่อเหม่ยอิงเห็นจึงเลี่ยงไปหาเนียนๆ แต่พอเจอเกาเฟยก็ทั้งตบทุบชกต่อยไม่ยั้ง ด่าว่าจะฆ่าจ้าวซันหรือ ตนแค่สั่งให้สกัดไม่ให้จ้าวซันกับบราลีไปรับเสด็จ ไม่ได้ให้ทำร้ายกันปางตายแบบนี้ ขู่อาฆาตว่า

“ถ้าแกคิดหักหลังฉัน นอกจากแกจะไม่ได้เห็นหน้าครอบครัวแกแล้ว แกจะไม่มีชีวิตด้วย จำใส่หัวไว้ซะ คนสุดท้ายบนโลกที่ฉันอยากให้ตายคือ จ้าวซัน”
เกาเฟยขออภัย ขอโอกาสแก้ตัวอีกครั้ง เหม่ยอิงสั่งให้กราบเท้าตน เกาเฟยรับก้มกราบบอกว่ายิ่งกว่ากราบเท้าตนก็ทำได้ เหม่ยอิงยิ้มอย่างสะใจ ที่กดเกาเฟยจนหมอบราบคาบแก้วได้

จากนั้น เหม่ยอิงก็กลับไปเอากระเป๋าเสื้อผ้ามาเฝ้าจ้าวซัน ไล่บราลีให้ไปทำหน้าที่ลูกจ้างต้อนรับเจ้าชายจากคีรีรัฐ ตอกย้ำกับบราลีว่า “ท่องให้ขึ้นใจไว้ด้วยนะว่าหน้าที่ดูแลคุณชายจ้าวซัน มันเป็นของฉันไม่ใช่ของลูกจ้างอย่างเธอ!”

แต่บราลี ผิงอันและอาม่าเดินไม่ทันพ้นโรงพยาบาลก็เจอผู้กองเหลียงเปิดกระจกรถถามว่าจะไปไหนกัน ทั้งสามจึงได้ขึ้นรถตำรวจกลับบ้าน แต่พอถึงบ้าน ผิงอันกับอาม่าลงจากรถไป บราลีถามผู้กองว่า “คุณมีเรื่องจะคุยกับฉันใช่ไหม” ผู้กองพยักหน้าเบาๆ

ผู้กองสอบถามบราลีว่าจ้าวซันขัดแย้งอะไรกับใครบ้าง บราลีไม่รู้ เห็นแต่จ้าวซันขัดใจกับฉินเจียงเท่านั้นแต่ไม่คิดว่าพี่น้องจะฆ่ากันเองได้ ผู้กองไม่ได้ข้อมูลอะไรจึงให้จ่าหมงไปเฝ้าที่หน้าห้องจ้าวซัน

หลังจากศิขรนโรดมบรรยายเรื่องผ้าที่ห้องสัมมนาของโรงแรมเสร็จ เทเรซ่าก็เข้ามาคุกเข่ารายงานว่า จ้าวซันประสบอุบัติเหตุทำให้มาถวายการต้อนรับไม่ได้ เวลานี้อยู่ในห้องไอซียูยังไม่รู้สึกตัว ศิขรนโรดมตกใจมากจะไปเยี่ยมจ้าวซัน ถูกราชิดท้วงติงขัดขวางจนศิขรนโรดมเริ่มทนไม่ได้ ภูสินทรที่ปลอมตัวเป็นพนักงานอยู่แถวนั้นพยายามส่งสัญญาณให้นิ่งไว้ก่อน

มิถิลาแก้สถานการณ์ ทำทีแกล้งเอาถ้วยชาร้อนๆ ไปแตะมือศิขรนโรดม แล้วทำเป็นอุทานตกใจว่าศิขรน- โรดมตัวร้อนมาก ราชิดไม่เชื่อแต่เมื่อแตะมือศิขรนโรดมก็สะดุ้งเช่นกัน บรรยากาศจึงคลี่คลาย

เมื่อไม่ได้ข้อมูลอะไรจากบราลี ผู้กองเหลียงจึงสืบจากเหม่ยอิงที่ไปเฝ้าจ้าวซันที่โรงพยาบาล ผู้กองเกริ่นว่าคงเป็นฝีมือพวกที่เสียผลประโยชน์จากการทำธุรกิจแข่งกับบริษัทฉินเย่ว์กรุ๊ป

“ไม่ใช่ศัตรูทางธุรกิจหรอกค่ะ จ้าวฉินเจียงเขาเพิ่งมีเรื่องกับพี่ชาย ทั้งเรื่องงาน เรื่องแย่งผู้หญิง เรื่องความอิจฉาริษยาที่สะสมมาตลอดเวลา ล่าสุดถึงกับลงไม้ลงมือกัน คนทั้งบริษัทก็เห็น ฉัน...ฉันไม่นึกเลยว่า ไท้เผ่งจะใจทมิฬหินชาติขนาดคิดฆ่าพี่ชายใหญ่ค่ะ”

เหม่ยอิงดราม่าเสียจนผู้กองเหลียงฟังแล้วอึ้ง

ooooooo

หลังจากหมอทำแผลที่ศิขรนโรดมบาดเจ็บจากการช่วยมิถิลาที่ห้องย้อมไหมแล้ว หมอแนะนำให้ศิขรนโรดมงดภารกิจพรุ่งนี้เพื่อจะได้พักสักวัน ราชิดเร่งให้เดินทางกลับคีรีรัฐตามกำหนดเดิม มิถิลาไม่เห็นด้วย ทั้งสองโต้เถียงกันอย่างรุนแรงจนศิขรนโรดมถามว่า “นี่จะให้เรานอนหลับหรือเปล่า จะทะเลาะกันอีกนานไหม”

ทั้งคู่จึงเงียบทั้งใจยังไม่ยอมกัน...

เพราะได้อาวุธมาตามเป้าหมายแล้ว ถึงขั้นตอนที่ต้องขนขึ้นเครื่องบินส่วนพระองค์ พันหงปิงกับสมุนเป็นคนคุมรถขนอาวุธเข้ามา โกศินเป็นคนบอกยามที่เฝ้าอยู่ว่าเป็นของที่จ้าวซันทูลเกล้าฯถวายองค์รัชทายาทคีรีรัฐ ยามจึงขอตรวจ

ยามใช้ไฟฉายส่องพบแต่เฟอร์นิเจอร์จีนสลักผ้าไหม ตุ๊กตาจีน ฯลฯ ตรวจแล้วจึงให้ผ่าน พวกทหารคีรีรัฐจึงช่วยกันขนของเข้าใต้ท้องเครื่องบินท่ามกลางการควบคุมของราชิดและโกศิน แต่ที่เนินเหนือโรงซ่อมเครื่องบิน ฉินเจียงกับเกาเฟยส่องกล้องดูการเคลื่อนไหวอยู่อย่างพอใจ ยิ้มให้กันกับความสำเร็จครั้งนี้

เมื่อกลับไปถึงคอนโดฯฉินเจียงคุยอวดซูหลิงว่าต่อไปนี้ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป ตนกำลังจะเป็นคน สำคัญยิ่งใหญ่กว่าจ้าวซัน รวยกว่าจ้าวซัน เพราะตนพบอาชีพใหม่ที่ดีกว่าเป็นไท้เผ่งฉินเย่ว์กรุ๊ปมากนัก ซูหลิงซักถามจนรู้ว่าเขาค้าอาวุธข้ามชาติ แต่พอติติงเตือนสติ ฉินเจียงตอบอย่างผยองว่า ตราบใดที่มนุษย์ยังช่วงชิงอำนาจแก่งแย่งทรัพยากร โง่เง่ามัวเมาในลัทธิ ธุรกิจนี้ไม่มีวันเจ๊งแน่

ซูหลิงฟังแล้วซีดสลด มองฉินเจียงอย่างสยองในความอำมหิตของเขา

เมื่อจ้าวซันแข็งแรงขึ้นเขารีบออกจากโรงพยาบาลกลับไปอยู่บ้าน แต่พอรู้ว่าศิขรนโรดมประชวรก็ลุกพรวดถามว่า ศิขรนโรดมเป็นอะไร ใครทำอะไรองค์ชาย เหม่ยอิงบอกว่าคงเป็นเพราะสะดุ้งอากาศที่ฮ่องกงที่แตกต่างจากเมืองไทยเลยไข้ขึ้นเท่านั้นเอง พอหมอกับพยาบาลเข้ามาก็ทำแอ๊บแบ๊วฟ้องหมอว่าพอพี่ชายฟื้นก็จะไปทำงาน ให้หมอช่วยห้ามที

ooooooo

วันนี้ บราลีเข้าครัวต้มซุปจะเอาไปให้จ้าวซัน หลินจื้อเหมยชิมแล้วชมว่าอร่อยมาก พอดีผิงอันกับอาม่า พอรู้ว่าบราลีต้มซุปให้จ้าวซันก็ดีใจ ผิงอันบอกว่าพี่ชายต้องดีใจมากแน่ๆ เลย

พอเห็นหน้าบราลี จ้าวซันดีใจจนเรียกมั่วไปหมด “เมย...ม่านฟ้า...เอ้อ...บราลี” จนบราลีถามงงๆ ว่าทั้งหมดนั้นคือชื่อตนใช่ไหม จ้าวซันรู้ตัวว่าเผลออีกแล้ว เลยกลบเกลื่อนทำเป็นจับท้ายทอยตัวเองบ่นว่ายังมึนๆ อยู่ แล้วเปลี่ยนเรื่องถามว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง พอเห็นรอยช้ำที่ต้นแขนพูดอย่างห่วงใยว่าต้องเจ็บมากแน่ๆเลย

“น้อยกว่าคุณนะคะ” บราลีพูดอย่างซาบซึ้งความห่วงใยของเขา จ้าวซันดึงเธอเข้าไปกอดเบาๆ บอกว่านึกว่าตนคงตายไปแล้ว บราลีร้องไห้กอดตอบ พร่ำบอก “คุณต้องไม่ตาย คุณต้องไม่เป็นอะไร”

เวลาเดียวกัน มิถิลาหลบออกมาที่เคาน์เตอร์เพื่อโทรศัพท์กลับบ้าน พนักงานชี้ไปที่ห้องบริการทางอินเตอร์เน็ต มิถิลารีบไปติดต่อกลับไปหาพระนางสิริวารตี พระมารดาของศิขรนโรดม เพื่อรายงานสภาพขององค์รัชทายาทตาม ที่พระนางฝากให้ดูแล แต่ไม่ทันไรมิถิลาก็ต้องรีบทูลลาเมื่อได้ยินเสียงราชิดแว่วๆ มา

ราชิดเดินมาเจอศิขรนโรดมลงมาเดิน ถามว่าเสด็จลงมาทำไม ศิขรนโรดมบอกว่าแค่ลงมาสูดอากาศข้างนอกบ้างเท่านั้น ราชิดได้ที พาศิขรนโรดมไปเดินในสวน มิถิลาตามไปเห็นตกใจมากถามอย่างระแวงว่า ท่านราชิดจะพาเสด็จไปไหน

“ก็แค่...พาเสด็จมาชมสวนยามดึกให้สมกับที่ทรงพระประสงค์ ทำไมเจ้าต้องตกใจขนาดนั้น ไอ้เด็กหน้าโง่”

มิถิลามองหน้าราชิดอย่างเจ็บปวด ราชิดมองมิถิลาในคราบองครักษ์ถลึงตาใส่อย่างดุดัน

ooooooo

อ่านละคร วันนี้ที่รอคอย ตอนที่ 7

มิถิลาเลิกคุยกะทันหัน พระนางสิริวารตีเรียกมิถิลาเสียงดังบอกว่าอย่าเพิ่งเลิก อสุนีเดินผ่านมาได้ยินพระนางเรียกชื่อมิถิลา เอะใจเดินเข้าไป พระนางถามอย่างระแวงว่ามานานแล้วหรือ

อสุนีบอกว่าตนมาดูแลความเรียบร้อย แทนท่านพ่อ บอกว่าตนคิดถึงมิถิลาเพราะไม่ได้เจอกันหลายวันแล้ว ถามว่ามิถิลาตามเสด็จพระนางมาที่นี่หรือ ตนได้ยินพระกระแสรับสั่งเรียกมิถิลา

“เปล่านี่ มิถิลาก็ช่วยพระนมทำงานอยู่ที่ฝ่ายใน ข้าไม่ได้เรียก เจ้าเข้าใจผิดแล้ว” อสุนียืนยันว่าตนได้ยินจริงๆ พระนางทำเสียงเข้มนิดๆว่า “เจ้าจับผิดข้างั้นหรือบุตรจอมพลราชิด เอาสิ ถ้าไม่เชื่อก็เข้าไปดู ข้าคงซ่อนน้องสาวเจ้าไว้ที่ไหนกระมัง”

อยู่ๆนายพลจัตุรัสก็เข้ามาถามว่า อสุนีมาทำอะไรให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทหรือ อสุนีบอกว่าพระนางรับสั่งให้ตนมาทำความสะอาดห้องทรงงาน พระนางจึงกำหนดให้อสุนีมาเช็ดโต๊ะจัดของบนชั้นเสียเลย พระนางมองจัตุรัสอย่างท้าทาย ฝ่ายนั้นเลยได้แต่ก้มหน้าอย่างระวังตัว

ooooooo

ฝ่าย ราชิด พยายามที่จะให้ศิขรนโรดมเดินทางตามกำหนดการ มิถิลาพยายามถ่วงเวลา แต่สิขรนโรดมกลับบอกว่าตนไหว ราชิดจึงสั่งโกศินให้รีบดำเนินการเลย

บราลี ทำอาหารจีนมาให้จ้าวซันกิน เขาถามทึ่งว่าทำอาหารจีนเก่งขนาดนี้เชียวหรือ หลังจากกินอาหารแล้วบราลีเอายาให้กิน จ้าวซันยิ้มอ่อนโยนบอกว่าเธอทำให้ตนอยากจะป่วยไม่หาย ถ้าแลกกับเธอทำตัวน่ารักแบบนี้ตนยอมเจ็บแค่ไหนก็ได้

“แหม...ฉันไม่ใช่เป็นคนร้ายกาจน่าเกลียดอะไรมากขนาดนั้นนะคะ คุณสบายดี ปกติฉันก็ทำตัวดีๆกับ
คุณได้เหมือนกัน” จ้าวซันขอให้สัญญา เธอถามว่าสัญญาอะไร แต่วางมือตัวเองบนมือเขาที่ยื่นมา จ้าวซันพูดเป็นการเป็นงานว่า

“ผมหายป่วยคราวนี้ คุณต้องเชื่อฟังผม ผมบอกอะไรคุณก็ต้องทำตามทุกอย่าง ห้ามมีเงื่อนไข ห้ามบิดพลิ้ว ห้ามขี้โกง ห้ามปฏิเสธ”

“ไม่เห็นจะยุติธรรมเลย คุณเล่นร่างสัญญาแบบนี้ คู่สัญญาเสียเปรียบตาย” บราลีทำกระเง้ากระงอดแล้วหัวเราะขำๆกัน

แต่นอกห้อง บรรยากาศกำลังตึงเครียดเมื่อเหม่ยอิง จะเข้าห้องจ้าวซัน อากงไม่ให้เข้าบอกว่าคุณชายกำลังพักผ่อน เหม่ยอิงดันทุรังเข้าไปจนได้ เข้ามาเห็นจ้าวซันกับบราลีกำลังหัวเราะกัน ก็หันไปด่าอากง

“อากง ไอ้แก่จอมลวงโลก นี่หรือพักผ่อน!”

“เหม่ยอิง พี่ก็พักผ่อนอยู่จริงๆทำไมต้องดุผู้ใหญ่แบบนั้น”

เหม่ยอิงหันมาเล่นงานบราลีทันที หาว่าเวลาที่พี่ใหญ่ป่วยหนักก็ไม่เคยมาดูแล ตนต้องค้างคืนดูแลอยู่คนเดียว แต่พอพี่ใหญ่ได้สติ กลับมาบ้าน ก็รีบมาเอาหน้าแต่วัน ฉลาดจริงๆ

บราลีอึ้งอยากเถียงแต่ตัดสินใจเงียบ หันไปบอกจ้าวซันว่าตนกลับก่อนดีกว่าพลางเก็บหม้อลุกขึ้น

“ขอบใจนะบรี...แล้วผมโทร.หา”

“ฉันโทร.มาก็ได้ค่ะ ไม่เป็นไร ไปก่อนนะคะ คุณเหม่ยอิง” พูดแล้วรีบออกไปก่อนจะโดนด่าอีก

เหม่ยอิงจิกตามองตามแล้วหันมองจ้าวซัน สะบัดหน้าไปทางอื่นอย่างแค้นใจ แต่ยังยืนคุมเชิงอยู่ตรงนั้น

ooooooo

บราลีออกมาเจอผิงอัน พอดีคุณนายสี่มาบอกว่าจ้าวไทไทหรือแม่ใหญ่ให้พาบราลีไปพบ ผิงอันกระซิบถามแม่ว่าใครไปบอกแม่ใหญ่ว่าบราลีมา

“เปล่าเลย แม่กำลังนวดท่านอยู่ดีๆ ท่านก็พูดขึ้นมาเองว่าให้ไปตามผู้หญิงที่จ้าวซันรักคนนั้นมาพบท่านหน่อย”

“ว้าย...ขนลุก” ผิงอันตื่นเต้นมาก รีบพาบราลีขึ้นไปทันที

เมื่อเข้าไปในห้อง แม่ใหญ่บอกซายหมุยให้มาช่วยประคองนั่ง เพ่งมองบราลีแล้วชี้ตรงหน้า

“เจ้า หญิงแสนสวย เข้ามาตรงนี้...” บราลีเข้าไป คุกเข่าใกล้ๆ แม่ใหญ่บอกซายหมุยให้ช่วยพาไปใกล้ๆ เจ้าหญิงแล้วยกมือขึ้นวางบนหัวบราลี “อย่ากลัว...เจ้าหญิง จะไม่มีใคร หรืออะไรมาทำอันตรายเจ้าหญิงได้ เจ้าหญิงเป็นผู้มีบุญบารมี ศัตรูหมู่พาลจะพ่ายแพ้ไปเอง”

ผิงอันแปลให้ฟัง บราลีก้มหน้าขนลุกซู่ เอ่ยอย่างตีบตื้นในลำคอ “ขอบ...ขอบพระคุณค่ะ”

อ่านละคร วันนี้ที่รอคอย ตอนที่ 6-7 วันที่ 23 มิ.ย. 56

โดย บทประพันธ์โดย วราภา จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 7 โดย ปราณศักดิ์สวัสดิ์
กำกับการแสดงโดย : สยาม น่วมเศรษฐี
ควบคุมการผลิตโดย : บริษัท พอดีคำ จำกัด
โดยผู้จัด : ธงชัย ประสงค์สันติ/มณีรัตน์ ประสงค์สันติ
ออกอากาศเริ่มตอนแรก วันพฤหัสบดีที่ 13 มิ.ย. 2556
ที่มา ไทยรัฐ